"(สุดท้ายก็กลับมาอีหรอบเดิม)" จินคิดในใจ
"ดูจากที่พูดแล้วเหมือนว่านายจะไม่ได้ล้อเล่น ถึงแม้ท่าทางของนายมันจะดูเหมือนพวกโรคจิตก็เถอะ" แจ็คพูดจาด้วยถ้อยคำรุนแรงด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยใส่ดีลเลอร์
ตอนนั้นเองไมร่าก็ถามคำถามกับดีเลอร์ว่า..."ช่วยอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พวกเรารู้ที่...ต้องให้มาเข่นฆ่ากันโดยที่ไม่รู้สาเหตุ มันดูโหดร้ายเกินไปหน่อย"
"โลกมันบางทีก็โหดร้ายโดยที่ไม่มีเหตุผลเหมือนกันนะครับ" ดีลเลอร์ตอบกลับ
"หนูก็เห็นด้วยกับพี่สาวคนนั้นค่ะ อย่างน้อยก็ขอฟังเหตุผลกับเรื่องราวที่คุณรู้ทั้งหมดด้วย"
ฮินะเห็นด้วยกับไมร่าและอยากที่จะให้ดีลเลอร์นั้นตอบในสิ่งที่พวกเธอต้องการ
"เอ่อ...ผมเองก็เห็นด้วยครับ" ฮันโซ เด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อเเขนยาว ผมดูยาวและรกรุงรังที่นั่งเงียบอยู่เฉยโดยตลอด
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มอยากรู้เหตุผลว่าทำไมพวกเขาต้องมาเข่นฆ่ากันเองด้วย ต่างก็พากันกดดันดีลเลอร์
"ได้ครับ ถ้าทุกคนอยากจะรู้เรื่องราวทั้งหมดแหละก็...คือว่าตอนนี้ประเทศของเรากำลังวิกฤติ ไม่มีราชาคอยปกครองครับ"
หลังจากที่ได้ยินดังนั้น เรด ชายหนุ่ยวัยกลางคน ใส่ชุดสูทสีน้ำตาล สีหน้าดูสะอาดสะอ้าน แต่งตัวเรียบร้อย ทรงผมเสยแสกข้าง ใส่แว่นทรงเหลี่ยมพูดขึ้นว่า "งั้นก็แสดงว่าตอนนี้ราชาองค์ปัจจุบันก็ตายแล้วสิ?"
"ใช่ครับ! ทุกครั้งที่ราชาของประเทศนี้ได้จากโลกนี้ไป จะเกิดหมายเลขขึ้นกับคนในประเทศนี้แบบสุ่ม 01-13 และนี่เองก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้..."
"แล้วมันเกี่ยวกับพวกเราอย่างไร? ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดสักหน่อย" โรโบโต้ ชายหนุ่มไว้ผมทรงหนาม เขาถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"ผมจะบอกเรื่องราวที่แม้แต่ลิงก็ยังเข้าใจเลย "คุณโรโบโต้"
1.คนที่มีหมายเลขเหล่านั้นพวกเราจะเรียกกันว่า "นัมเบอร์" เขาคือผู้ที่มีสิทธ์ที่จะขึ้นเป็นราชา
2.จากข้อที่ 1 คือ ฝ่าบาทก็มีสิ่งนั้นเหมือนกัน ไม่สิ! จะเรียกได้ว่าเคยมีมากกว่า
3.ถึงประเทศนี้จะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุข แม้ที่ตัวกษัตริย์จะไม่เข้าไปยุ่งกับการเมือง แต่ยังมีหน้าที่หนึ่งอย่างที่ต้องทำก็คือปกป้องประเทศนี้จากภัยภายนอก"
"ปกป้องจากภายนอกหมายถึงอะไรกันหรือครับ?" เฮนรี่ถาม...
ตอนนั้นเองที่ดีลเลอร์ก็เอาสิ่งที่เหมือนผลึกหินใสเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา มันถูกห่อด้วยกล่องแก้วอย่างดีรองด้วยผ้านุ่มเพื่อรองรับแรงกระแทก
"นี่คือสิ่งที่ห้ามให้ทั่วโลกรู้การมีอยู่ของมันอย่างเด็ดขาด" เขาชูหินขึ้น
"กะอีแค่ก้อนหินสวยๆแบบนี้มันจะไปมีอะไร?" โรโบโต้พูด...
"และถ้าผมบอกว่า ก้อนหินก้อนนี้สามารถให้พลังงานไปทั่วทั้งเกาะได้ล่ะ! คุณจะว่าไงครับ?"
โรโบโต้ถึงกับตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน "พลังงานทั้งเกาะอย่างนั้นหรอ? อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลยไอ้ของที่เหมือนหินก้อนเล็กๆแค่นี้มันจะไปมีอะไรแบบนั้นได้อย่างไร?"
"ไม่ได้ล่อเล่นครับ...จะเรียกได้ว่าพลังงานทั้งเกาะมาจากหินก้อนนี้ก็ไม่ใช่...แต่มันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยว หรือจะให้พูดก็คือเป็นเพียงสิ่งที่ได้รับจากการสะสมจากแหล่งให้พลังงานหลักเท่านั้นเอง"
"หา~ นายว่าไงนะ? แค่เศษเสี้ยวหรอ?" ตอนนี้โรโบโต้เริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"ใช่ครับ! พวกคุณคิดว่าจากเกาะร้างทั่วๆไป ต่อมาได้มีการอพยพของคนหลายคนจากทั่วโลก จนได้รับการรับรองให้เป็นประเทศได้ในเวลาไม่นาน ไม่คิดกันเลยหรือครับ? ว่าพลังงานหลักที่ใช้ในทั่วประเทศนี้มาจากแหล่งๆเดียว สิ่งที่หลงเหลือจากการค้นพบเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ดอกไม้เพียงดอกเดียว พวกเราเรียกมันว่า "ลิลลี่แห่งวัลฮัลล่า"
ทันทีหน้าจอที่แสดงรายชื่อนั้นก็กลายเป็นรูปดอกไม้สีขาวดอกหนึ่ง มันก็เหมือนดอกลิลลี่แห่งหุบเขาทั่วไป แต่ที่ไม่เหมือนคือมันมีแสงสว่างออกมารอบๆดอกนั้น
"ไม่ใช่ว่าแกแต่งเรื่องขึ้นมาเองแล้วมาอำพวกฉันเล่นหรอกหรอ? ลิลลี่แห่งวัลฮัลล่า บ้าอะไร!มันไม่มีจริงหรอกเว้ย!" โรโบโต้เริ่มโมโหแล้วโวยวายออกมา เพราะเรื่องที่ดีลเลอร์พูดมานั้นเหมือนนิยายาขายฝัน
"ถ้าเรื่องราวทั้งหมดนี้แต่งขึ้นมา แล้วทำไมพวกผมต้องเชิญพวกคุณมายังที่แห่งนี้เพื่อแกล้งด้วยละครับ มันไม่มีเหตุจำเป็นถึงขนาดนั้นสักหน่อย?"
ตอนนั้นเฮนรี่ที่เกิดสงสัยบางอย่างเลยถามกับดีลเลอร์ไปว่า..."ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดมาจริงๆ แล้วทำไมถึงห้ามให้ทั่วทั้งโลกรู้ด้วย มันเป็นอีกก้าวของพลังงาน น่าจะทำการเพาะพันธุ์แล้แจกจ่ายแทนการห้ามใช่ไหม?"
"ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ มันติดอยู่หนึ่งอย่างนี่สิ!...พวกก้อนเล็กๆพวกนี้มันมีพลังมหาศาลเลยจากการกักเก็บรังสีที่ได้จากดอกไม้ แต่! ถ้าพวกนี้มันเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงละก็ จะเกิดแก็สจำนวนมากโพยพุ่งออกมา นั่นแหละคือฝันร้าย!...สิ่งมีชีวิตทุอย่างถ้าเกิดโดนสิ่งนั้นเข้าไปแม้จะเพียงเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ร่างกายจะค่อยๆหลอมเหลวจนไปถึงกระดูก
เรียกได้ว่าเป็นอาวุธเคมีก็ได้หรือจะเป็นพลังงานก็ได้ ที่นี้คำถามครับ ถ้าเกิดทั่วทั้งโลกเกิดรู้ตัวตนของดอกไม้ขึ้นมาจะเป็นอย่างไร? ในยุคที่มีพวกผู้นำบ้าอำนาจเละต้องการเป็นที่ยำเกรงต่อทั่วทั้งโลกนี่"
ไม่ต้องตอบคำถามนั้นทุกคนก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว การแย่งชิง สงคราม และอื่นอีกมากมายที่เกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการออก
" ถึงแม้ตอนนี้จะมีเพียงผู้นำไม่กี่คนในโลกนี้ที่รู้เนื่องจากว่านี่เป็นความลับสุดยอด เพราะว่าไม่สามารถจะเปิดเผยให้สาธารณะล่วงรู้การมีตัวตนของสิ่งนี้ มันอาจจะกระทบถึงความมั่นคงของโลกได้ แต่ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ยังถูกจับตามองในฐานะประเทศที่มีสิ่งที่อันตรายอยู่ในครอบครอง"
"แสดงว่าหน้าที่ของราชาก็คือไม่ใช่การปกครองบ้านเมืองเพียงอย่างเดียว แค่เป็นเหมือนไพ่ตายสินะ? แต่เดี๋ยวสิแล้วคนธรรมดาแค่มียศราชาจะไปสู้อะไรกับพวกอาวุธสมัยใหม่หรือปืนได้?"ไมร่าถามด้วยความสงสัย
"ก็บอกไปแล้วไงครับ พวกท่านตอนนี้ได้ข้ามเกินในขอบเขตที่เรียกว่ามนุษย์แล้วครับ ลองคิดดูสิว่าทำไมถึงไม่มีการแย่งชิงสิ่งที่สามารถเป็นได้ทั้งพลังงานกับอาวุธนี้ ถ้าราชาของเราเป็นแค่คนเดินดินธรรมดาก็คงไม่ลำบากมาทำการคัดเลอืกบ้าบอนี้กันหรอก นอกจากจะมอบพลังงานให้แล้วยังสามารถมอบพลังที่เหลือกว่าคนธรรมดา2อย่างได้อีกด้วย นั่นคือพวกคุณไง!! "นัมเบอร์" ดีลเลอร์ชึ้นิ้วออกไปหาทุกคนที่นั่งอยู่
"พวกคุณทุกคนคือผู้ที่ได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นราชา แต่ราชามีได้เพียงคนเดียวเท่านั้นเลยจึงต้องแข่งขันกันหน่อยว่าใครจะเป็นคนนั้น"
หลังจากที่ทุกคนรู้แล้วว่าราชาจะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นทันทีบรรยากาศในห้องก็เริ่มค่อยๆน่ากลัวขึ้น หลายคนต่างเริ่มระแวงซึ่งกันและกัน
"แล้วพลังที่คุณว่ามันคืออะไรหรือคะ?" ฮินะที่นั่งอยู่อย่างกลัวๆนั้นค่อยๆยกมือขึ้นถาม
"อย่างแรกพวกคุณจะไม่ตายจากทุกสิ่ง ต่อให้จะถูกมีดเสียบเข้าที่หัวใจ หรือทุบหัวให้แตกระเอียดด้วยค้อน มันจะกลับมาเป็นเหมือนดังเดิมตามระยะเวลา แต่ยกเว้นคนที่เป็น "นัมเบอร์" เหมือนกันเท่านั้นจะสามารถฆ่า "นัมเบอร์"