Chereads / ONMYOJI องเมียวจิ / Chapter 11 - 10 - ยูกิอนนะ

Chapter 11 - 10 - ยูกิอนนะ

- ยูกิอนนะ -

"ฉันไม่ได้นอนกับโนบุจังอะ"

เสียงบ่นที่ดังงุ๊งงิ๊งอยู่ข้างหูทำให้ชิโนบุที่กำลังเพลิดเพลินกับการดูวิวสวย ๆ ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ดวงตาละจากภาพหิมะสีขาวโพลนตรงหน้ากลับมาหาคนที่ยืนงอแงอยู่ข้างกัน

ตั้งแต่มีประกาศรายชื่อว่าใครจะได้พักอยู่ที่ไหนกับใครออกมา แบล็กก็เอาแต่บ่นไม่หยุดแบบนี้มาเป็นสิบ ๆ รอบแล้ว

"นายจะบ่นอะไรนักหนา"

"ก็ฉันอยากนอนกับโนบุจังด้วยนี่"

"อย่าเว่อร์ได้ไหม ที่พักก็ไม่ได้ไกลกันขนาดนั้น"

พูดแล้วชิโนบุก็ใช้ศอกกระทุ้งใส่ไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้กับสีหน้าหงอย ๆ ที่เห็น ก่อนจะตัดสินใจหันกลับไปมองวิวเหมือนเดิม โดยไม่ลืมขยับออกห่างจากแบล็กแล้วไปยืนเบียดอยู่กับอัลฟ่าแทนด้วย

ตอนนี้พวกเขามาถึงที่ฮอกไกโดกันแล้ว ที่พักที่ทางโรงเรียนจัดไว้ค่อนข้างน่าอยู่เลยทีเดียว เป็นเรียวกังขนาดใหญ่ที่มีบ่อน้ำพุร้อนให้ด้วย แต่เนื่องจากจำนวนคนที่ค่อนข้างมากจึงต้องแบ่งบ้านพักรวมกันเป็นสามหลัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยู่ในบริเวณเดียวกัน สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้ เพียงแค่แยกอยู่กันคนละมุมเท่านั้นเอง

"ก็ฉันอยากนอนกับโนบุจังนี่"

"นายจะเลิกบ่นได้หรือยัง หัดอยู่เงียบ ๆ เหมือนอัลฟ่าบ้างเป็นไหม"

"ถ้าฉันได้นอนกับโนบุจังเหมือนอัลฟ่า ฉันก็จะอยู่เงียบ ๆ เหมือนกันนั่นแหละ"

เจ้าของชื่อที่ถูกลากไปมีส่วนเกี่ยวข้องได้แต่อมยิ้มขำกับการเถียงกันของทั้งคู่ จริง ๆ แล้วตั้งแต่มาถึงเมื่อช่วงเช้าเหตุการณ์ก็ยังปกติดีอยู่ ระหว่างทำกิจกรรมที่อาจารย์เตรียมไว้ให้ตลอดทั้งวันก็ยังสงบสุขดี จนกระทั่งพอถึงช่วงเย็นที่มีประกาศเรื่องที่พักออกมานี่แหละ แบล็กถึงได้เริ่มงอแงเพราะถูกแยกไปอยู่ที่บ้านพักอีกหลัง

"ต่อให้ได้พักด้วยกันนายก็ไม่เงียบหรอก ฉันรู้"

"โนบุจัง--"

"พวกนาย!"

เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ทั้งสามต้องหยุดเถียงกันเรื่องที่พักแล้วหันกลับไปมอง ก่อนที่จะพากันแปลกใจเมื่อเห็นว่าคิระชิมะ ฮารุอิ และโอคาว่า กำลังเดินมาทางนี้ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

"มีอะไรกันหรือเปล่า"

"เราหามิยานะกันไม่เจอน่ะ ไม่รู้ว่าหายไปไหน"

เป็นฮารุอิที่หันมาตอบคำถามของแบล็กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งคิระชิมะและโอคาว่าเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกันนัก คิ้วของแต่ละคนขมวดแน่นจนแทบจะเป็นปมอยู่แล้ว

"หมอนั่นอาจจะแค่ไปเดินเล่นหรือเปล่า"

ขณะที่ชิโนบุถามกลับไป อัลฟ่าก็กำลังพยายามนึกว่ามิยานะที่ทุกคนพูดถึงคือใคร ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องที่ชิโนบุคุยด้วยบ่อย ๆ ที่ออกจะตัวเล็ก ๆ หน่อย เหมือนเคยแนะนำตัวกันอยู่ว่าชื่อมิยานะอะไรสักอย่างนี่แหละ

"พวกเราลองไปหากันทุกที่ที่พอจะไปได้แล้ว แต่หายังไงก็หาไม่เจอ"

ความกังวลที่ออกมาจากสีหน้าและน้ำเสียงของคิระชิมะทำให้ชิโนบุอดขมวดคิ้วตามไปด้วยไม่ได้ เจ้าตัวหันมาสบตากับแบล็กและอัลฟ่า ก่อนจะหันกลับไปหาสามคนตรงหน้าอีกครั้ง

"งั้นพวกเราจะช่วยหาด้วยแล้วกัน"

ถึงยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกันคงจะปล่อยไว้เฉย ๆ ไม่ได้ ที่สำคัญมิยานะยังเป็นหนึ่งในสี่คนที่ชิโนบุสนิทด้วยมากที่สุดในห้องอีกด้วย

ทั้งหกคนตกลงกันว่าจะแบ่งเป็นสองทีมแล้วแยกกันหาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเจอให้มากขึ้น แน่นอนว่าอัลฟ่าและแบล็กต้องเลือกที่จะอยู่กับชิโนบุอยู่แล้ว อีกทีมจึงต้องเป็นคิระชิมะ ฮารุอิ และโอคาว่า

กลุ่มของคิระชิมะเลือกแยกไปหาทางด้านขวา เพราะฉะนั้นกลุ่มของชิโนบุจึงต้องแยกมาทางด้านซ้าย

ทั้งสามเดินกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพ้นออกมาจากอาณาเขตของที่พัก ดวงตาสามคู่กวาดมองไปโดยรอบ ก่อนที่ชิโนบุจะเงยหน้าขึ้นมองละอองหิมะที่จู่ ๆ ก็ตกลงมาเสียอย่างนั้น หัวคิ้วเหนือดวงตาคู่สวยขมวดมุ่น ก่อนจะพึมพำออกมาเบา ๆ เมื่อเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับบรรยากาศที่เกิดขึ้นในตอนนี้

"รู้สึกไม่ดีเลยแหะ"

ถ้าแม้แต่ชิโนบุยังรู้สึกได้คงไม่ต้องพูดถึงแบล็กและอัลฟ่าที่หันมามองหน้ากันก่อนหิมะจะเริ่มตกลงมาเสียอีก ดวงตาสองคู่สบกัน และโดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด แบล็กก็ขยับขึ้นมาเดินนำอยู่ด้านหน้า ในขณะที่อัลฟ่าถอยกลับไปเดินประกบอยู่ด้านหลัง

ชิโนบุมองดูทั้งคู่สลับกันคนละที ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองละอองหิมะที่ยังคงโปรยปรายลงมา ลองถ้าเป็นแบบนี้ก็มั่นใจได้แล้วว่าจะต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นแน่ ๆ

"คิดว่าจะใช่ยูกิอนนะไหม"

"ฮอกไกโดเป็นถิ่นเธอใคร ๆ ก็รู้"

คำยืนยันที่ได้รับจากแบล็กทำให้ชิโนบุได้แต่ลอบถอนหายใจเบา ๆ ขนาดหนีจากเกียวโตมาฮอกไกโดแบบนี้ ก็ยังไม่แคล้วต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภูตผีอยู่ดี แถมคราวนี้ยังไม่ใช่พวกภูตผีที่จะจัดการได้ง่าย ๆ ด้วย แม้ยูกิอนนะจะไม่ได้ถือว่าเก่งกาจมากนัก แต่การที่เราต้องอยู่ท่ามกลางหิมะซึ่งถือว่าเป็นอาณาเขตของเธอก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ล่ะ

มีเรื่องกับภูตหิมะท่ามกลางหิมะ

แค่คิดก็อยากจะเป็นลมหนีความจริงแล้ว เฮ้อ...

หลังจากเดินกันมาได้สักพักทั้งสามก็มาเจอเข้ากับลานโล่งกว้างขนาดใหญ่ หิมะที่เริ่มตกลงมาหนาขึ้นทำให้ทัศนวิสัยไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมองเห็นว่าที่กลางลานนั้นมีร่างของมิยานะกำลังนอนนิ่งไม่ได้สติ...

โดยมีร่างของหญิงสาวในชุดกิโมโนสีขาวอยู่ข้าง ๆ

"มิยานะ!"

เสียงตะโกนเรียกที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดกิโมโนที่กำลังใช้มือลูบไล้ไปตามใบหน้าของมิยานะสะบัดหน้าหันมามอง ใบหน้าขาวซีดดูงดงามเกินกว่ามนุษย์ธรรมดา หากแต่ดวงตากลับวาวโรจน์ราวกับปีศาจร้าย

ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรให้มากมาย ชิโนบุก็หยิบชิคิงามิออกมาแล้วเปลี่ยนร่างให้มันกลายเป็นเหยี่ยวสีแดงขนาดใหญ่ถลาเข้าใส่หญิงสาวในชุดกิโมโนทันที

ภูตหิมะรีบถอยห่างออกจากร่างของมิยานะ ดวงตาวาวโรจน์ถลึงมองมาทางทั้งสามอย่างดุร้ายพร้อมทั้งกรีดร้องลั่นอย่างโมโหที่โดนขัดขวาง ฝ่ามือขาวซีดคว้าจับชิคิงามิไว้แล้วฉีกกระชากจนมันสลายไปในทันที หิมะที่ตกโปรยปรายอยู่จนถึงเมื่อครู่พลันตกหนักขึ้นมาอย่างฉับพลัน

'กรี๊ดดดดดดด'

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพายุหิมะที่เริ่มก่อตัว ชิโนบุรีบส่งชิคิงามิในรูปลักษณ์ของสุนัขขนาดใหญ่อีกสองตัวเข้าไปถ่วงเวลาไว้ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

"ดูโนบุจังด้วย"

แบล็กหันไปบอกกับอัลฟ่าที่พยักหน้ารับอย่างไม่มีข้อคัดค้าน แต่ยังไม่ทันที่แบล็กจะได้ตามออกไปจัดการกับยูกิอนนะ ก็ถูกชิโนบุดึงแขนไว้ก่อน

"ให้อัลฟ่าไปกับนาย"

"แต่--"

"ถ้าพวกนายจัดการเธอได้ ฉันก็ไม่เป็นไรหรอก"

แววตาจริงจังที่มองสบกลับมาทำให้แบล็กขมวดคิ้วแน่น นึกอยากจะเถียงอะไรออกไปสักอย่างแต่ก็พูดไม่ออก เลยได้แต่หันไปมองหน้าอัลฟ่าเหมือนจะบอกให้ช่วยพูดที เพราะเขามักจะแพ้สายตาแบบนี้ของเจ้าตัวเสมอ

"ฝากด้วยนะ"

แต่ยังไม่ทันที่อัลฟ่าจะได้พูดอะไร เพียงแค่หันมาสบตาแล้วได้ยินชิโนบุพูดขึ้นมาแบบนั้น เขาเองก็นึกคำที่จะเอาไปเถียงต่อไม่ออกแล้ว

ทั้งสองหนุ่มได้แต่หันมามองหน้ากัน ก่อนจะลอบถอนหายใจเพราะไม่รู้จะค้านยังไง สุดท้ายเลยได้แต่พุ่งตัวเข้าไปหายูกิอนนะ แล้วเลือนหายไปในม่านหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก

"ตัวเย็นมากเลยแหะ"

หลังจากที่อัลฟ่าและแบล็กจากไปแล้ว ชิโนบุก็หันกลับมาให้ความสนใจกับมิยานะที่จนตอนนี้ก็ยังคงนอนหลับไม่ได้สติ

เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมาห่มให้มิยานะอีกชั้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ก่อนจะใช้ฝ่ามือค่อย ๆ แตะไปตามใบหน้าของอีกฝ่าย แล้วไล่เรื่อยลงมาจนกระทั่งถึงหน้าท้องเพื่อตรวจหาความผิดปกติ เมื่อไม่พบว่ามีไอปีศาจแฝงอยู่ที่ตรงไหนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมาได้ทันเวลาพอดี

แต่อารามดีใจของเจ้าตัวก็อยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อมีสายลมหอบใหญ่พัดพาเอาความหนาวเย็นมาทำร้ายผิวกาย องเมียวน้อยครางฮึมฮัมในลำคอเพราะความหนาว ก่อนจะรีบกวาดตามองหาที่ที่พอจะใช้บังลมได้และน่าจะปลอดภัยกว่าที่โล่ง ๆ ตรงนี้

หินขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล กลายเป็นตัวเลือกอย่างดีของชิโนบุ เจ้าตัวสอดมือเข้าไปล็อคแขนทั้งสองข้างของมิยานะไว้ ก่อนจะออกแรงลากให้เพื่อนร่วมห้องที่ยังไม่ได้สติ เข้าไปหลบอยู่ที่หลังก้อนหินด้วยกัน

"ทนหน่อยนะ"

ชิโนบุเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าเมื่อกี้เขาพูดกับเพื่อนหรือพูดกับตัวเองกันแน่ เมื่อมีลมหนาวหอบใหญ่พัดผ่านมาอีกครั้งจนต้องยกมือขึ้นมาลูบแขนทั้งสองข้างไปมาเพื่อบรรเทาความหนาว แต่แล้วก็ต้องเผลอสะดุ้งตัวอย่างตกใจ เมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ถูกคลุมลงมาบนไหล่

ชิโนบุมองดูเสื้อที่คุ้นตาดีบนร่างกายของตัวเอง แล้วค่อยหันกลับไปมองคนเป็นเจ้าของที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความแปลกใจ

"อัลฟ่า?"

เจ้าของเสื้อทำเพียงพยักหน้ากลับมาครั้งหนึ่ง แล้วเหลือบตาเล็กน้อยไปมองทางมิยานะที่มีเสื้อกันหนาวของชิโนบุคลุมตัวอยู่

อัลฟ่าถอดถุงมือของตัวเองออกแล้วยื่นมือไปแตะลงบนแก้มของชิโนบุเบา ๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นที่มากกว่าปกติก็ขมวดคิ้วเข้านิด ๆ ก่อนจะดึงผ้าพันคอของตัวเองออกมาคลุมให้เจ้าตัวเพิ่มอีกชั้น ทางด้านชิโนบุเองก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากไพล่ถามไปถึงใครอีกคนที่ไม่ได้กลับมาด้วยกัน

"แบล็กล่ะ"

"กำลังจัดการยูกิอนนะอยู่"

"แล้วทำไมนายมาอยู่ตรงนี้"

"แบล็กบอกให้ฉันกลับมาอยู่กับนาย"

"แล้วนาย--"

"แล้วฉันก็เห็นด้วย"

ถ้อยคำที่สวนกลับมาทำให้ชิโนบุที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่างต้องหยุดเสียงของตัวเองไว้ ก่อนที่สุดท้ายจะถอนหายใจออกมาอย่างปลง ๆ แล้วบ่นขึ้นมาอย่างไม่ค่อยจริงจังนัก

"พวกนายนี่มันเว่อร์กันจริง ๆ"

คนโดนบ่นไม่ได้เถียงอะไรกลับไป เขาทำเพียงยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ ชิโนบุโดยไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านกับอากาศที่ชักจะหนาวเย็นขึ้นเลยสักนิด

หิมะที่ยิ่งตกลงมาหนักขึ้นพร้อมสายลมที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ชิโนบุชักเริ่มกังวล หัวคิ้วของเจ้าตัวขมวดมุ่น ขณะพยายามเพ่งสายตาฝ่าม่านหิมะเพื่อมองหาแบล็ก แต่สุดท้ายก็ต้องถอดใจเมื่อไม่ว่าจะพยายามเท่าไรก็มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง

"แบบนี้ไม่ได้การแน่"

ถึงแบล็กจะเก่งมากก็จริง แต่จะให้สู้กับภูตหิมะท่ามกลางหิมะแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก คิดยังไงก็กำลังเสียเปรียบอยู่เห็น ๆ

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ ๆ

ยิ่งคิดหัวคิ้วทั้งสองข้างก็ยิ่งกดเข้า ริมฝีปากถูกฟันขบเบา ๆ อย่างเป็นกังวล ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปหาอัลฟ่าที่ยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

"นายโอเคไหม เอาเสื้อคืนไปไหม"

"ไม่เป็นไร นายใส่ไปเถอะ"

คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ชิโนบุพยักหน้ารับโดยไม่เถียงอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดึงผ้าพันคอของอีกฝ่ายออกมาพันให้เจ้าตัวตามเดิม ก่อนจะชี้มือไปทางมิยานะที่กำลังนอนหลับอยู่

"นายไปรอตรงนั้นก่อน"

"แล้วนายจะไปไหน"

"ไปทำพิธี"

"ไปทำที่ไหน"

"ใกล้ ๆ นี่แหละ"

"งั้นฉันไปด้วย"

ไม่ว่าเปล่า อัลฟ่ายังขยับเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ เหมือนจะยืนยันคำพูดของตัวเอง ในขณะที่ชิโนบุเริ่มขมวดคิ้วแน่น แล้วสวนกลับไปเพราะความเป็นห่วง

"แล้วนายจะไปตากลมทำไมล่ะ ไปนั่งหลบก่อน"

"ฉันไม่หนาว"

ชิโนบุนึกอยากจะเถียงต่อ แต่พอเห็นสายตาที่มองกลับมาอย่างค่อนข้างดื้อในครั้งนี้ สุดท้ายเลยได้แต่ยอมตกลงให้เจ้าตัวตามไปด้วยอย่างเสียไม่ได้

"งั้นมาอยู่ใกล้ ๆ ฉันแล้วกัน จะได้อุ่น ๆ หน่อย"

พูดจบก็ดึงตัวอีกฝ่ายมาอยู่ชิดกับตัวเองยิ่งขึ้นให้พอสัมผัสได้ถึงไออุ่นของกันและกัน ก่อนจะเริ่มหันซ้ายหันขวามองหากิ่งไม้ที่พอจะใช้การได้

"นายจะทำพิธีอะไร"

"พิธีชำระล้าง"

อัลฟ่าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะเขาเคยได้ยินแบล็กอธิบายถึงพิธีนี้ให้ฟังบ้างแล้ว ดูเหมือนว่าพิธีชำระล้างจะช่วยชำระล้างพลังชั่วร้ายให้กลับมาบริสุทธิ์ได้อีกครั้ง หากพวกภูตชั้นต่ำโดนไปก็คงต้านทานไม่ได้ต้องสลายไปในทันที แต่กับพวกที่อยู่ระดับสูงกว่านั้น แม้จะไม่ถึงกับสลายไปแต่พลังก็จะถูกลดลงไปพอสมควร

ชิโนบุคงคิดจะชำระล้างยูกิอนนะให้พลังอ่อนแอลง เพื่อให้แบล็กจัดการได้ง่ายขึ้น

"ได้ล่ะ"

ดวงตาคู่คมมองดูคนข้าง ๆ ที่กำลังใช้กิ่งไม้ขีดเขียนลงบนพื้นหิมะไปมาอย่างคล่องแคล่ว โดยที่เขาไม่อาจช่วยอะไรได้ วงแหวนชั้นแล้วชั้นเล่าถูกวาดซ้อนกันไปมาหลายชั้น ก่อนที่อักขระต่าง ๆ จะเริ่มถูกเขียนลงไป

อัลฟ่าพอจะรู้ว่าอักขระแต่ละตัวมีพลังสถิตไม่เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็แยกไม่ออกอยู่ดีว่าตัวไหนเป็นพลังอะไรบ้าง เหมือนมันยากเกินขอบเขตที่จะทำความเข้าใจได้ เพราะอย่างนั้นเขาเลยค่อนข้างทึ่งและชื่นชมในความสามารถของชิโนบุที่เจ้าตัวจดจำเรื่องพวกนี้ได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะเป็นอักขระหรือคาถาต่าง ๆ

"เรียบร้อย"

ใช้เวลาไม่นานชิโนบุก็วาดวงเวทย์ลงบนพื้นหิมะได้เป็นผลสำเร็จ เจ้าตัวรีบวิ่งกลับไปหาอัลฟ่าที่ยืนรออยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะตะโกนเรียกแบล็กที่อยู่ไกลออกไปเสียงดังลั่น

"แบล็ก!"

เพียงครู่เดียวเจ้าของชื่อก็กระโจนมาอยู่ข้าง ๆ ทั้งสองคนในทันที และโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แค่ชิโนบุพยักเพยิดหน้าไปทางวงเวทย์ที่เตรียมรอไว้แบล็กก็พยักหน้ารับอย่างรู้กัน

เวลาผ่านไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ทั้งคู่ใช้ในการทำความเข้าใจแผนที่ถูกเตรียมขึ้นอย่างกะทันหัน ชิโนบุรีบหันกลับมาดึงมืออัลฟ่าแล้ววิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังหินก้อนใหญ่ ในขณะที่แบล็กเองก็กระโจนหลบยูกิอนนะที่พุ่งตัวตามมา

ลิ่มน้ำแข็งจำนวนไม่น้อยถูกซัดเข้าใส่แบล็กให้เจ้าตัวต้องรีบขยับหลบ ดวงตาเหลือบมองไปทางวงเวทย์เล็กน้อยเพื่อกะระยะทาง ก่อนจะดีดตัวข้ามมาที่ด้านหลังของภูตหิมะ

ยูกิอนนะรีบหันตามมาซัดลิ่มน้ำแข็งใส่อีกครั้ง แต่ก็ยังช้ากว่าแบล็กที่ผลักจนร่างของนางเซถอยไปเหยียบลงบนวงเวทย์ที่ถูกเตรียมไว้พอดี

ชิโนบุที่รอโอกาสอยู่แล้วรีบผุดลุกขึ้นประสานมือไว้ระดับอกพร้อมกับท่องคาถาเพื่อทำพิธีชำระล้าง ขณะที่ยูกิอนนะกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น วงแหวนเวทย์ก็เริ่มเรืองแสงขึ้นมา ภูตหิมะถูกตรึงอยู่ตรงนั้นจนขยับไปไหนไม่ได้ จึงได้แต่กรีดร้องออกมาด้วยความอาฆาต

ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองไปทางแบล็กอย่างเคียดแค้น ก่อนจะเบนกลับมาทางชิโนบุที่กำลังเร่งท่องอาคมให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว

จิตสังหารรุนแรงจากยูกิอนนะถูกส่งมาทางชิโนบุโดยตรง แต่ก่อนที่มันจะกระทบถูกเจ้าตัวจนเกิดอันตราย อัลฟ่าก็ขยับมายืนขวางอยู่ด้านหน้า หัวคิ้วกดเข้าก่อนจะแผ่จิตสังหารกลับไปหักล้างกับของยูกิอนนะจนหมดสิ้น

แบล็กที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลกระตุกยิ้มเล็กน้อยอย่างค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งสอนเรื่องควบคุมจิตสังหารให้กับอัลฟ่าไป ซึ่งเจ้าตัวก็ถือว่าเป็นคนที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมากคนหนึ่งเลย

"...ขอชำระล้าง!"

ทันทีที่ถ้อยคำสุดท้ายถูกเอ่ยขึ้น วงแหวนเวทย์ก็ส่องสว่างจนทุกคนต้องยกมือขึ้นมาบดบังดวงตาตัวเองไว้

ท่ามกลางแสงสว่างที่ค่อย ๆ จางลง ยูกิอนนะยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม ใบหน้าขาวซีดก้มลงมองมือตัวเอง ก่อนจะกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เมื่อรู้สึกได้ถึงระดับพลังที่ลดลงเพราะถูกชำระล้างจากพิธีกรรมเมื่อครู่

ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองมาทางชิโนบุอย่างโกรธแค้น ก่อนพุ่งตัวเข้าหาหมายปลิดชีวิตให้สิ้นคามือ หากแต่ยังช้าไปกว่าแบล็กและอัลฟ่าที่พุ่งตัวเข้าขวางจากคนละทาง

ดวงตาสองคู่วาวโรจน์ขึ้นไม่ต่างจากสัตว์ร้าย...

ที่ดูท่าจะร้ายกว่ายูกิอนนะหลายเท่า

แบล็กใช้มือจับหัวเธอแล้วออกแรงกดลงพื้นในขณะที่อัลฟ่าเองก็ใช้เข่าทับขาเธอไว้พร้อมล็อคมือแน่นไม่ให้ขยับ เวลาเพียงเสี้ยววินาทีทั้งคู่ก็ทำให้ภูตหิมะขยับตัวหนีไม่ได้อีก ความคับแค้นทำให้ยูกิอนนะกรีดร้องออกมา แต่ก็ไม่มีผลอะไรเมื่อพลังถูกลดลงด้วยพิธีกรรมของชิโนบุไปมากกว่าครึ่ง

แบล็กยกมืออีกข้างขึ้นวางทาบลงบนหน้าผากของภูตสาว ปล่อยให้ละอองแสงสีดำไหลจากฝ่ามือเข้าสู่หน้าผาก แล้วกระจายตัวครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างของนาง

แล้วหลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียว...

ร่างงดงามภายใต้กิโมโนสีขาว ก็ค่อย ๆ กลายเป็นละอองหิมะแล้วสลายไปในที่สุด

"เฮ้อ..."

เสียงถอนหายใจดังมาจากชิโนบุที่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรงทันทีที่จบเรื่อง ถึงแม้จะใช้เวลาไม่นานแต่อาคมที่ต้องท่องในพิธีชำระล้างก็ค่อนข้างจะกินพลังงานไปเยอะพอสมควร

"เหนื่อย"

เสียงบ่นจากคนที่นั่งอยู่บนพื้นทำให้แบล็กกับอัลฟ่าหันไปมองก่อนจะพากันอมยิ้มขำ ทั้งคู่เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าตัวก่อนจะส่งมือไปให้จับไว้ ซึ่งชิโนบุก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือกแล้วคว้ามือทั้งคู่ไว้เพื่อดึงตัวเองลุกขึ้น

"พิธีนี้มันค่อนข้างกินพลังนี่เนาะ"

"ก็ใช่น่ะสิ"

แบล็กทำเพียงอมยิ้มอย่างเอ็นดูกับถ้อยคำที่ตอบกลับมา ก่อนจะเดินตามเจ้าตัวไปดูมิยานะที่จนตอนนี้ก็ยังคงนอนหลับไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิม

"ฉันดูคร่าว ๆ แล้ว เหมือนจะยังไม่โดนยูกิอนนะทำอะไรถ้าพากลับไปอยู่ที่อุ่น ๆ เดี๋ยวก็คงดีขึ้น"

ชิโนบุหันไปพูดกับแบล็กที่กำลังถอดเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมให้กับมิยานะอีกชั้น ก่อนเจ้าตัวจะประคองเพื่อนร่วมห้องขึ้นมาแล้วแบกขึ้นหลังโดยได้รับการช่วยเหลือจากอัลฟ่าอีกที

"มิยานะพักอยู่กับฉัน เดี๋ยวฉันจัดการที่เหลือเอง"

"ก็ต้องเป็นงั้นแหละ ตอนนี้ฉันอยากกลับไปพักจะแย่แล้ว"

ได้ยินแบบนั้นแบล็กก็พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปหาอัลฟ่าที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กัน

"ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน ฝากโนบุจังด้วย"

"ได้"

พอได้รับคำตอบแบล็กก็ล่วงหน้าไปก่อนอย่างที่พูดไว้ เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวก็มองไม่เห็นแผ่นหลังของเจ้าตัวแล้ว ที่ตรงนี้จึงเหลือเพียงแค่อัลฟ่าและชิโนบุอยู่สองคนเท่านั้น

"ยังเร็วเหมือนเดิมเลยเนาะ"

ความรู้สึกชื่นชมที่สัมผัสได้จากประโยคนั้นทำให้ชิโนบุหันมามองหน้าคนพูดนิด ๆ

"พวกนายนี่ชื่นชมกันเองดีนะ"

รูปประโยคแปลก ๆ ที่ได้ยินทำให้อัลฟ่ามุ่นหัวคิ้วเข้าเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาทำเพียงจัดเสื้อคลุมบนตัวของชิโนบุให้ดีขึ้นเพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะหนาว ดวงตามองสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงสายลมเย็นที่พัดมา ก่อนหัวคิ้วทั้งสองข้างจะขมวดแน่น เมื่อเห็นว่าริมฝีปากที่เคยเป็นสีแดงอมชมพู ในตอนนี้กลับซีดลงจนแทบจะไม่มีสีเลือดหลงเหลืออยู่แล้ว

"พอแล้ว"

ชิโนบุรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าจะดึงผ้าพันคอของตัวเองมาให้เขาอีกแล้ว

"ให้ฉันมาหมดเดี๋ยวนายก็หนาวตายกันพอดี"

"ฉันไม่หนาว"

"ไม่หนาวก็ต้องใส่ ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้เลย"

ไม่ว่าเปล่าชิโนบุยังเอื้อมมือไปจัดผ้าพันคอให้ด้วย พอเสร็จแล้วก็ถอยออกมาเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างค่อนข้างพอใจกับผลงานของตัวเอง

"โอเคแล้ว"

"หึ"

เห็นแบบนั้นอัลฟ่าเลยได้แต่อมยิ้มตามไปโดยไม่ขัดอะไรอีก มือหนึ่งแตะลงบนปลายผ้าพันคอเบา ๆ ขณะที่อีกมือก็เอื้อมไปดึงตัวอีกฝ่ายให้มาอยู่ใกล้ ๆ แล้วค่อยออกเดินไปพร้อมกัน

ระหว่างนั้นทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันอีก พวกเขาทำเพียงเดินไปด้วยกันเงียบ ๆ ท่ามกลางละอองหิมะที่ตกลงมาอย่างเบาบาง สายลมที่พัดผ่านมาในบางครั้งไม่ได้หนาวเย็นจนทำร้ายผิวกายเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ทั้งคู่ขยับเข้ามาเดินอยู่ใกล้กันยิ่งขึ้น

ไหล่ที่เผลอชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ทั้งคู่หันมาสบตากัน รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าก่อนต่างฝ่ายจะต่างหันกลับไปมองทางเหมือนเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครขยับถอยห่างออกไป

บรรยากาศเงียบ ๆ แต่ไร้ซึ่งความอึดอัด ยังคงดำเนินต่อไปอย่างนั้นอีกสักพัก จนกระทั่งพวกเขาเดินมาจนใกล้ถึงที่พัก จู่ ๆ อัลฟ่าก็ชะงักฝีเท้าแล้วหันไปมองยังทิศทางหนึ่งด้วยสีหน้าแปลก ๆ

".....?!"

"เป็นอะไร--"

ชิโนบุยังถามไม่ทันจบว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เจ้าตัวก็ต้องหยุดเสียงตัวเองไว้แล้วหันหน้าไปมองทางเดียวกันกับอีกฝ่าย

ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นจนต้องขมวดคิ้วแน่น กลิ่นอายแปลก ๆ ที่สัมผัสได้ทำให้ขนคอลุกชัน สังหรณ์ร้ายกำลังทำงานจนความเย็นไหลพล่านไปตามไขสันหลัง

ดวงตาสองคู่หันกลับมาสบกันอย่างเคร่งเครียด แม้จะยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่สัมผัสได้คืออะไร แต่สัญชาตญาณของทั้งคู่ก็ร้องเตือนว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

"ไปกันเถอะ"

"แล้วแบล็กล่ะ"

"เดี๋ยวคงตามไป"

คำตอบนั้นทำให้อัลฟ่าพยักหน้ารับ ก่อนทั้งคู่จะรีบมุ่งหน้าไปยังจุดกำเนิดกลิ่นอายแปลก ๆ ที่ทำให้พวกเขารู้สึกได้ในทันที

tbc...