- มากุระ งาเอชิ -
"แบล็กยังไม่กลับมาอีกเหรอ"
"เห็นว่าจะกลับเย็นนี้นะ"
ระหว่างที่ตอบชิโนบุก็คีบข้าวเข้าปากไปด้วย ดวงตากลมโตเหลือบมองคนข้าง ๆ เล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาสนใจข้าวกล่องในมือของตัวเองต่อ
เมื่อคืนเขาลองถามพ่อกับแม่ดู เห็นพวกท่านบอกว่าตอนนี้ภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ต้องเก็บกวาดอะไรกันอีกนิดหน่อย เพราะฉะนั้นเย็นนี้ก็คงจะส่งตัวแบล็กกลับมา แต่ว่าพ่อกับแม่คงจะตามมาทีหลังเพราะต้องอยู่จัดการธุระต่ออีก
"ไปหลายวันเลยนะคราวนี้"
"อือ งานมันค่อนข้างยาก"
บทสนทนาสั้น ๆ จบลงแค่ตรงนั้นเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรออกมาอีก ทั้งคู่ทำเพียงนั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันเงียบ ๆ บนดาดฟ้าของตึกเรียนอันเป็นสถานที่ประจำอย่างทุกที จะมีที่ต่างออกไปหน่อยก็คือปกติพวกเขามักจะไปนั่งหลบแดดกันอยู่ที่ข้างประตู แต่วันนี้เปลี่ยนมานั่งอยู่กลางแดดเพราะชิโนบุบ่นว่าอากาศมันเย็นชื้นกว่าทุกวันที่ผ่านมา
"จริงสิ เดี๋ยววันนี้ฉันมีที่ต้องแวะก่อนนะ"
ประโยคที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นหลังจากนั่งเงียบกันมาได้สักพัก ทำให้ชิโนบุต้องเงยหน้าขึ้นจากข้าวกล่องในมือ ดวงตากลม ๆ มองสบกลับไปก่อนจะถามขึ้นอย่างสงสัย
"จะแวะไหน"
"บ้านฮาวากามะ"
"ฮาวากามะเหรอ คุ้นจังแหะ"
ขณะที่พูดไปเจ้าตัวก็คีบข้าวเข้าปากไปด้วย เสียงครางฮึมฮัมในลำคอดังขึ้นพร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดเข้าอย่างใช้ความคิด ชิโนบุใช้ปลายตะเกียบจิ้มริมฝีปากตัวเองเบา ๆ อย่างพยายามนึกว่าไปเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน
มันคุ้นมากนะ คุ้นมาก ๆ เลย
"ไปเคยได้ยินมาจากไหนนะ"
"รู้จักเหรอ"
"ไม่แน่ใจ ฉันแค่รู้สึกคุ้น ๆ...อ๋อ นึกออกแล้ว หมอนั่นเอง"
"สรุปว่ารู้จัก?"
"ก็ไม่เชิงหรอก"
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะชื่อ ฮาวากามะ ทาเคชิ ล่ะมั้ง เป็นผู้ชายที่ตัวสูงพอ ๆ กัน แต่ว่าสายตาออกจะเลื่อนลอยไร้ประกายไปสักหน่อย ในงานโรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว เขาเคยได้จับคู่ทำกิจกรรมกับเจ้าตัวอยู่ครั้งหนึ่ง
"ว่าแต่นายเถอะ จะไปบ้านหมอนั่นทำไม"
"ฮาวากามะขาดเรียนมาสามวันแล้ว"
"ป่วยเหรอ"
"ไม่รู้สิ"
"หือ?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เพราะบ้านฮาวากามะอยู่ทางเดียวกับบ้านนาย ฉันก็เลยถูกวานให้ไปดู"
พอได้ยินแบบนั้นชิโนบุก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ในหัวขบคิดถึงเรื่องที่แบล็กสั่งไว้ว่าห้ามไปเถลไถลที่ไหนกับเรื่องที่อัลฟ่าบอกว่าจะต้องแวะบ้านเพื่อนก่อน เอิ่ม...
"งั้นเย็นนี้เราไปแวะบ้านฮาวากามะก่อนแล้วค่อยกลับละกัน"
ก็แค่แวะไปแป๊บเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก...มั้ง
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
"ขอรบกวนด้วยครับ"
เสียงสองเสียงดังขึ้นพร้อมกันหลังจากเดินพ้นประตูเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน หลังจากถอดรองเท้าเก็บกันอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งอัลฟ่าและชิโนบุก็รีบเดินตามคุณนายฮาวากามะหรือคุณแม่ของทาเคชิเข้าไปข้างในทันที
บ้านฮาวากามะเป็นบ้านแบบร่วมสมัยสองชั้น ขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็พอให้ครอบครัวเล็ก ๆ พ่อ แม่ ลูกอยู่กันได้สบาย ชิโนบุคิดว่าในเวลาปกติบ้านหลังนี้คงจะมีบรรยากาศที่อบอุ่นมาก หากแต่ในตอนนี้มันกลับอึมครึมและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
"พวกเราก็ไม่รู้ว่าทาเคชิเป็นอะไร แต่เขานอนไม่ตื่นมาสามวันแล้ว"
น้ำเสียงเศร้า ๆ ของคนเป็นแม่ยามพูดถึงลูกชายทำให้อัลฟ่าและชิโนบุสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงและกังวล ยิ่งเห็นว่าสีหน้าเธอดูเหนื่อยมากก็ยิ่งรู้สึกสงสารว่าที่ผ่านมาคงเอาแต่เฝ้าลูกชายจนแทบไม่ได้พักผ่อน
"ได้ลองพาไปหาหมอมาหรือยังครับ"
"คุณพ่อของเขานั่นแหละจ้ะที่เป็นหมอ แต่ตรวจดูยังไงก็ไม่พบความผิดปกติอะไรเลย เหมือนเขาแค่นอนหลับไปเฉย ๆ"
ขณะที่พูดประโยคนั้นทั้งสามก็เดินขึ้นมาถึงห้องนอนของทาเคชิพอดี อัลฟ่าและชิโนบุขยับหลบมาอยู่ใกล้ ๆ กันเพื่อหลีกทางให้เจ้าของบ้านเป็นคนเปิดประตูเดินนำเข้าไปก่อน
ภายในห้องนอนถูกจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบ หน้าต่างถูกเปิดไว้เพื่อให้อากาศในห้องถ่ายเทได้สะดวก ตรงมุมห้องมีเตียงหลังหนึ่งตั้งอยู่ ซึ่งตอนนี้มีร่างของทาเคชิที่กำลังนอนหลับสนิท พอลองเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็จะเห็นว่าแผ่นอกของเจ้าตัวกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เหมือนกับแค่นอนหลับไปเฉย ๆ อย่างที่ว่าไว้จริง ๆ
ถ้าไม่ติดว่า...มีกลิ่นอายแปลก ๆ แผ่กระจายออกมา
"รู้สึกแปลก ๆ ไหม"
เสียงกระซิบที่ได้ยินกันเพียงสองคนทำให้ชิโนบุพยักหน้ากลับไป เพราะว่าเขาเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแปลก ๆ บางอย่างเหมือนกัน เพียงแต่ระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไร
"นายว่าอะไรที่แปลก"
ในเมื่ออัลฟ่าเปิดประเด็นขึ้นมาแล้วชิโนบุเลยกระซิบถามกลับไป ระหว่างนั้นก็ไล่สายตาสำรวจดูทั้งตัวของทาเคชิเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติไปด้วย
"หมอน"
Rrrrrr
ทันทีที่สิ้นเสียงของอัลฟ่า เสียงโทรศัพท์จากชั้นล่างก็ดังตามขึ้นมา ทั้งสองคนจึงหันไปมองทางคุณนายฮาวากามะ ซึ่งเธอเองก็กำลังมองกลับมาด้วยเหมือนกัน
"ใครโทรมานะ...งั้นเดี๋ยวฉันขอลงไปรับโทรศัพท์ก่อนแล้วกันนะจ๊ะ แล้วจะรีบขึ้นมาใหม่"
"ครับ"
ดวงตาสองคู่มองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่รีบร้อนเดินออกจากห้องไป จนกระทั่งประตูถูกปิดลงทั้งคู่ก็ย้ายสายตากลับมาที่ตัวของทาเคชิเหมือนเดิม
"ถ้าจุดกำเนิดของกลิ่นอายแปลก ๆ นี่มาจากหมอนอย่างที่นายว่า ก็เป็นไปได้ว่าสิ่งที่ทำให้ฮาวากามะนอนไม่ยอมตื่นแบบนี้คือ มากุระ งาเอชิ"
"คิดเหมือนกัน"
ยิ่งได้ยินแบบนั้นชิโนบุก็ยิ่งแน่ใจว่าที่คิดไว้ไม่ผิด เจ้าตัวจึงขยับเข้าไปยืนอยู่ใกล้ ๆ เตียงยิ่งขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือออกไปจับหมอนเพื่อตรวจดู...
"เดี๋ยว"
แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิด ก็ถูกอัลฟ่าที่เดินตามมาคว้าข้อมือเอาไว้ก่อน
"ฉันเอง"
ชิโนบุไม่ได้ว่าอะไรนอกจากถอยออกมาเล็กน้อยแล้วปล่อยให้อัลฟ่าเป็นคนจัดการแทน ดวงตากลม ๆ คอยมองสังเกตอยู่ตลอดเวลา จึงทันเห็นว่าหัวคิ้วของเจ้าตัวขมวดเข้าทันทีที่มือสัมผัสกับหมอน
"หมอนนี่มีภูตผีสิงอยู่จริง ๆ"
คำยืนยันจากอัลฟ่าทำให้เรื่องราวทุกอย่างกระจ่างชัดทันที แสดงว่าย้อนไปเมื่อสามวันก่อน ระหว่างกำลังนอนหลับทาเคชิคงโดนเจ้าปีศาจกลับหมอนตนนี้มาป่วนเข้าแน่ ๆ
มากุระ งาเอชิ เป็นภูตผีที่ส่วนตัวพวกมันไม่ได้มีพลังอะไรมากมาย แต่กลับเป็นอันตรายต่อคนธรรมดาอย่างมาก เพราะพวกมันจะชอบแอบเข้ามากลับหมอนแล้วขังเจ้าของหมอนไว้ในความฝัน ซึ่งแท้จริงแล้วมันก็คือห้วงมิติอื่นหรือเรียกว่าโลกอื่นนั่นแหละ ถึงแม้มันอาจจะฟังดูไม่อันตรายอะไร แต่ผู้ที่ถูกกักไว้จะเจอกับฝันร้ายสารพัดรูปแบบ ถ้าบังเอิญหาทางออกมาจากฝันร้ายนั้นได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าหากว่าหาทางออกไม่ได้แล้วติดอยู่ในนั้นไปเรื่อย ๆ พวกเขาก็จะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย
สรุปก็คือ การที่ทาเคชิหลับมาตลอดสามวันไม่ยอมตื่น ก็เป็นเพราะเจ้าปีศาจกลับหมอนตนนี้นี่เอง
"หืม?"
"อะไร"
"นายถอยออกไปหน่อย"
อัลฟ่าไม่ได้ตอบที่โดนถามแต่เลือกจะบอกให้ชิโนบุถอยออกไปอีกหน่อยเพื่อความปลอดภัย ในเมื่อตอนนี้เขาลองดึงด้วยแรงปกติดูแล้วแต่หมอนกลับไม่ขยับเลยสักนิด เพราะฉะนั้นก็คงต้องใส่แรงทั้งหมดเพื่อกระชากออกมาทีเดียว ซึ่งเขาเองก็ไม่มั่นใจว่ามันจะมีแรงสะท้อนกลับอะไรหรือเปล่า เลยกลัวว่าจะเป็นอันตรายเข้าถ้าชิโนบุยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ
ฟู่...
เสียงเป่าปากเบา ๆ จากอัลฟ่าทำให้ชิโนบุเผลอเกร็งตัวตามไปด้วย ก่อนจะรีบหยิบแผ่นยันต์ออกมาเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
หากแต่...
"ไม่นะ..."
เสียงพึมพำดังขึ้นเบา ๆ พร้อมกับความสนใจที่มีต่อหมอนใบนั้นของชิโนบุพลันหมดสิ้นลงทันทีเมื่อสังเกตเห็นสิ่งปกติที่กำลังเกิดขึ้น ดวงตาคู่สวยหรี่ลงจ้องเขม็งไปยังผิวใต้ดวงตาของอัลฟ่าที่ตอนนี้เริ่มมีริ้วสีแดงปรากฎขึ้นมา
"อัลฟ่า"
"ไม่เป็นไร ฉันยังมีสติอยู่"
แม้จะได้ยินแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชิโนบุใจชื้นขึ้นเลยสักนิด หัวคิ้วทั้งสองข้างยิ่งขมวดแน่นจนแทบจะรวมเป็นเส้นเดียว ก่อนที่เจ้าตัวจะเผลอกลั้นหายใจเมื่อเห็นไอพลังสีแดงจาง ๆ แผ่ออกมาจากมือของอัลฟ่า โดยไม่ทันสนใจเลยว่าตอนนี้ทาเคชิเริ่มมีปฏิกิริยาแปลก ๆ เมื่อหมอนที่หนุนอยู่เริ่มสั่นเบา ๆ
ใบหน้าของคนหลับแสดงออกถึงความทรมาน หยาดเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก หากแต่ชิโนบุก็ยังไม่สังเกตเห็น ในเมื่อตอนนี้สิ่งที่ดึงความสนใจทั้งหมดของเขาไปก็คือเสียงคำรามในลำคอที่ดังขึ้นเบา ๆ ของอัลฟ่า
"อัลฟ่า..."
เมื่อเห็นท่าไม่ดีชิโนบุก็ทำท่าจะออกปากห้าม พูดตามตรงตอนนี้เขากลัวว่าอัลฟ่าจะหลุดมากกว่าฮาวากามะจะไม่ตื่นซะอีก เพราะถึงแม้ว่าวันนี้จะจัดการกับมากุระ งาเอชิไม่ได้ แต่ถ้าแบล็กกลับมาก็ยังให้เจ้าตัวมาทำต่อได้ แต่กับอัลฟ่านี่สิ ถ้าหลุดขึ้นมาตอนนี้...
"หยุดก่อน--"
อ๊ากกกกกก
จังหวะที่ชิโนบุส่งเสียงเรียกออกไปอัลฟ่าก็ออกแรงกระชากหมอนออกมาได้สำเร็จพอดี เสียงของชิโนบุถูกกลบด้วยเสียงของมากุระ งาเอชิที่กรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ไอประหลาดลอยออกมาจากหมอน ก่อนมันจะไปรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนแปลกประหลาดที่ระบุรูปร่างไม่ได้
อัลฟ่ารีบถอยกลับมายืนขวางหน้าชิโนบุไว้ตามสัญชาตญาณ ในขณะที่ชิโนบุเองก็รีบตั้งสติ ซัดยันต์ในมือของตัวเองออกไปแล้วท่องคาถาสลายวิญญาณทันที
อ๊ากกกกกกกกกก
เสียงกรีดร้องดังขึ้นกว่าเดิมจนชิโนบุต้องยกมือขึ้นมาปิดหูไว้ ทางด้านอัลฟ่าเองก็รีบพลิกตัวกลับมาแล้วใช้มือช่วยปิดหูให้กับเจ้าตัวอีกที ดวงตาคู่คมตวัดกลับไปมองไอประหลาดนั่นอีกครั้ง รอดูอยู่จนกระทั่งมันค่อย ๆ กลายเป็นละอองแสงแล้วสลายไปทั้งหมด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ริ้วแดงใต้ดวงตาทั้งสองข้างจางหายไปพอดี
เฮือก!
แล้วก็ยังพอดีกับที่ทาเคชิสะดุ้งตื่น ผุดลุกขึ้นมานั่งด้วยสภาพเหงื่อโทรมไปทั้งตัว
".....!?"
"....."
สถานการณ์ชวนให้อึดอัดเกิดขึ้นในชั่วอึดใจเมื่อทาเคชิตื่นขึ้นมาแล้วเจอคนสองคนอยู่ในห้องนอนตัวเอง หนึ่งในนั้นคือเพื่อนร่วมห้องที่เจอกันทุกวัน กับอีกหนึ่งคือคนที่รู้สึกคุ้นหน้ากันแต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
ดวงตาสามคู่ได้แต่จ้องมองกันไปมา แต่ก่อนที่อะไรมันจะน่าอึดอัดไปกว่านั้น ก็มีเสียงคนเดินขึ้นบันไดดังมาซะก่อน
อัลฟ่ารีบเปลี่ยนจากที่ยืนหันหน้าเข้าหาชิโนบุเป็นมายืนอยู่ข้าง ๆ เจ้าตัวแทน ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงเปิดประตูดังขึ้น แล้วคุณนายฮาวากามะก็เดินเข้ามาในห้องพอดี
"ทาเคชิ..."
ทันทีที่เข้ามาแล้วเห็นลูกชายที่หลับไปตลอดสามวันกำลังนั่งอยู่บนเตียง ร่างเล็ก ๆ ก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยความดีใจจนลืมไปแล้วว่าตอนนี้มีแขกอยู่ในห้องด้วย
ฝ่ามือที่เริ่มมีริ้วรอยขึ้นตามกาลเวลาค่อย ๆ จับสำรวจไปตามตัวของทาเคชิด้วยความเป็นห่วง รอบดวงตาทั้งสองข้างมีหยาดน้ำเอ่อคลอออกมาอยู่ตลอดเวลา
"ทาเคชิ เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า รู้ไหมว่าลูกหลับไม่ยอมตื่นไปตั้งสามวันเลยนะ"
"ผมก็ไม่รู้ แต่พอตื่นขึ้นมาก็เจอพวกเขา"
ประโยคนั้นทำให้คุณนายฮาวากามะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีใครอยู่ในห้องด้วย เธอรีบหันไปหาทั้งสองหนุ่มที่พากันไปยืนหลบอยู่ตรงมุมห้องแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย
"เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ ทำไมอยู่ ๆ ทาเคชิถึงตื่นขึ้นมา"
"เอ่อ...ไม่รู้เหมือนกันครับ พวกผมยืนอยู่เฉย ๆ เขาก็ตื่นขึ้นมาเอง"
เป็นชิโนบุที่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มโดยมีอัลฟ่าที่ยืนพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ ซึ่งท่าทางแบบนั้นก็ดูน่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อยคุณนายฮาวากามะจึงไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก ที่สำคัญคือตอนนี้เธอดีใจที่ลูกชายตื่นขึ้นมาจนไม่อยากจะสนใจเรื่องอื่น ๆ แล้ว
หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไป อัลฟ่าและชิโนบุอยู่ถามอาการของทาเคชิอีกนิดหน่อยก็ขอตัวกลับ ซึ่งคุณนายฮาวากามะก็ออกมาส่งทั้งคู่ที่หน้าประตู โดยฝากอัลฟ่าไปบอกกับอาจารย์ด้วยว่า ถ้าพรุ่งนี้อาการดีขึ้นก็จะให้ทาเคชิไปโรงเรียนตามปกติ
"ค่อยยังชั่วนะที่จัดการกับมากุระ งาเอชิได้"
"นั่นสิ"
น้ำเสียงเรียบเรื่อยไร้อารมณ์ที่ตอบกลับมาทำให้ชิโนบุหันหน้าไปมอง ก่อนที่เหตุการณ์ในห้องนอนของทาเคชิจะย้อนกลับมาให้เขาเผลอขมวดคิ้วเข้านิด ๆ เมื่อนึกไปถึงตอนที่พลังภูตแผ่ออกมาจากตัวของอัลฟ่า แต่มันเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในตอนที่กระชากหมอนออกมาก็เลยจับสัมผัสไม่ทันว่าเป็นพลังของอะไร
"อัลฟ่า"
"อะไร"
"เมื่อกี้นาย...เอ๋?"
ไอเย็นจากเม็ดฝนที่ตกลงมาโดนตัวทำให้ชิโนบุลืมเรื่องที่จะพูดไปชั่วขณะ ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมองฟ้าด้วยความแปลกใจ ซึ่งอัลฟ่าเองก็กำลังทำแบบเดียวกัน
"ทำไมอยู่ ๆ ฝนก็ตกเนี่ย"
"รีบกลับกันดีกว่า ไม่ได้เอาร่มมาด้วย"
พูดจบอัลฟ่าก็คว้ามือชิโนบุให้รีบวิ่งกลับบ้าน เพราะพยากรณ์อากาศไม่ได้บอกว่าวันนี้หิมะจะตกพวกเขาก็เลยไม่มีใครเอาร่มมาเลยสักคน ยิ่งเรื่องฝนตกหลงฤดูยิ่งแล้วใหญ่...
ใครจะไปคิดว่าจะมีฝนตกในฤดูนี้กัน
เปรี้ยง!
"อ๊ะ!"
เสียงฟ้าผ่าที่ดังลั่นทำเอาทั้งคู่สะดุ้งเฮือกแล้วชะงักฝีเท้าทันที ชิโนบุเผลอขยับเข้าไปยืนใกล้อัลฟ่าแล้วกำชายเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่น ในขณะที่อัลฟ่าเองก็เผลอยกมือขึ้นมาโอบไหล่เจ้าตัวไว้ตามสัญชาตญาณ สภาพการณ์ตอนนี้ดูเหมือนฉากในนิยายรักโรแมนติกสักเรื่อง แต่ติดที่ว่าบนใบหน้าของทั้งคู่ไม่มีความเขินอายใด ๆ แต่กลับปรากฏเป็นร่องรอยของความวิตกกังวลแทน
ทั้งอัลฟ่าและชิโนบุมองไปยังทิศทางเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย กลิ่นอายแปลก ๆ ที่สัมผัสได้ทำให้ทั้งคู่เผลอขมวดคิ้วแน่นพร้อมกัน
กลิ่นอายแบบนี้อันตรายยิ่งกว่าเนโกะมาตะซะอีก
"อะไรกันเนี่ย"
เสียงพึมพำเบา ๆ ของชิโนบุทำให้อัลฟ่าได้สติกลับมา ดวงตาคู่คมมองคนที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้าง ๆ แม้จะไม่ต้องพูดอะไรกันแต่อัลฟ่าก็เข้าใจว่าตอนนี้เจ้าตัวคงรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ และแน่นอนว่าเขาเองก็เหมือนกัน
"เรารีบกลับกันเถอะ"
ว่าจบอัลฟ่าก็รีบใช้มือดันหลังให้ชิโนบุออกเดินทันที แต่กลับโดนขืนแรงไว้พร้อมกับสองมือของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนจากกำชายเสื้อมาเป็นจับแขนเขาไว้แทน
"เราจะปล่อยไว้แบบนี้เหรอ"
"จำที่แบล็กบอกไว้ได้ไหมว่าให้รีบกลับ"
"แต่...!!"
ชิโนบุยังพูดไม่ทันจบประโยคดี ก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงคำรามของตัวอะไรบางอย่างดังขึ้นไม่ไกล ซึ่งมันมาจากทิศทางเดียวกับต้นกำเนิดกลิ่นอายแปลก ๆ ที่พวกเขารู้สึก
"เราปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ถ้ามันเป็นอันตรายต่อคนอื่นจะทำยังไง"
แม้จะไม่อยากขัดคำสั่งแบล็กแต่ชิโนบุก็จำใจปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้จริง ๆ ตั้งแต่เด็กเขาถูกสอนอยู่เสมอว่าองเมียวจิมีหน้าที่กำจัดภูตผีปีศาจที่จะเป็นอันตรายต่อผู้คน เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาเลยไม่อาจทำเฉยได้เมื่อรู้ดีว่ามีตัวอะไรสักอย่างที่น่าจะอันตรายอยู่แถวนี้ เพราะกลิ่นอายของมันไม่มีความเป็นมิตรอยู่เลย
"อัลฟ่า--"
"งั้นนายกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันไปดูเอง"
"ไม่เอา"
"อย่าดื้อ"
"ไม่ได้ดื้อ แต่ฉันจะปล่อยนายไปคนเดียวได้ยังไงเล่า"
ชิโนบุหมายมาดไว้ในใจแล้วว่าถ้าแบล็กกลับมาเขาจะไม่ปล่อยให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันตามลำพังอีกเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวนี้อัลฟ่าชักจะติดนิสัยมาจากแบล็กมากเกินไปแล้ว
กล้าดุเขาแล้วด้วยนะเดี๋ยวนี้!
ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งโดยไม่มีใครพูดอะไร แต่ที่แน่ ๆ คือไม่มีใครคิดจะยอมให้ใครเลย จนกระทั่ง...
"นั่นมัน..."
ก่อนที่ทั้งคู่จะได้เล่นจ้องตากันนานกว่านั้น หางตาของชิโนบุก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนที่มาทางนี้
"อะไร"
อัลฟ่าหันไปมองตามก่อนจะมุ่นหัวคิ้วเข้านิด ๆ ด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นว่ามันคือนกกระดาษสีขาวตัวหนึ่งที่กำลังบินฝ่าฝนมาทางนี้
นกกระดาษตัวน้อยบินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชิโนบุให้เจ้าตัวรีบหยิบมาคลี่ออกดู ข้อความที่เขียนอยู่ในนั้นทำให้ชิโนบุขมวดคิ้วแน่นจนแทบเป็นปม ก่อนจะส่งกระดาษแผ่นนั้นต่อให้อัลฟ่าแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
"เราต้องรีบไปช่วยเขานะ"
เนื้อความในนั้นส่งมาขอความช่วยเหลือ คนที่ส่งมาเป็นคนของอาคาวะที่ประจำอยู่ในสาขาใกล้ ๆ เห็นบอกว่าออกมาตรวจดูความเรียบร้อยแล้วบังเอิญเจอว่ามีผนึกหนึ่งถูกทำลาย แม้จะยังไม่เห็นว่าเป็นตัวอะไรแต่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่ากลัวก็เลยส่งข้อความมาขอกำลังเสริมก่อน
แต่รู้ไหมว่าตรงนั้นน่ะไม่สำคัญ เพราะไอ้ที่สำคัญน่ะมันคือ...
เจ้าตัวเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งออกภาคสนามครั้งแรก!
ใครปล่อยมาเนี่ย?!
"แต่แบล็กสั่งไว้--"
"แค่ไปช่วยเขาออกมา"
อัลฟ่ายังพูดไม่ทันจบชิโนบุก็ชิงขัดขึ้นมาซะก่อน แล้วพอเห็นว่าหัวคิ้วเหนือดวงตาคม ๆ คู่นั้นเริ่มขมวดแน่น องเมียวน้อยก็รีบพูดเสริมขึ้นอีก
"เราปล่อยเขาไว้ไม่ได้นะ เขาเป็นคนของอาคาวะ ฉันต้องปกป้องคนของฉัน"
ยิ่งได้ยินแบบนั้นอัลฟ่าก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น แต่พอเห็นสายตาติดจะอ้อนวอนคู่นั้น ที่อุตส่าห์ทำเป็นใจแข็งมาตลอดก็เหมือนจะทำต่อไปไม่ไหว สุดท้ายเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างจำยอม
"เอางั้นก็ได้ แต่แค่ไปช่วยออกมานะ"
"อือ แค่ช่วยออกมาแล้วก็เผ่นกันเลย หลังจากนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกกำลังเสริมมาจัดการกันต่อเอง"
เมื่อประโยคที่ได้ยินค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจอัลฟ่าจึงพยักหน้ารับโดยไม่ค้านอะไรอีก เจ้าตัวทำเพียงขยำกระดาษในมือทิ้ง ก่อนจะออกวิ่งนำไปทางที่เป็นต้นกำเนิดของกลิ่นอายแปลก ๆ โดยมีชิโนบุวิ่งตามหลังไปติด ๆ
tbc...