Chereads / ONMYOJI องเมียวจิ / Chapter 18 - 16 - จิ้งจอกเก้าหาง

Chapter 18 - 16 - จิ้งจอกเก้าหาง

"นายน้อย"

"พอลุกไหวไหม"

"เข้ามาทำไมครับ มันอันตรายนะ"

"เงียบน่า!"

ชิโนบุใช้น้ำเสียงดุ ๆ กับคนที่บาดเจ็บหนักขนาดนี้แต่ยังจะมัวมาห่วงความปลอดภัยของเขาอยู่อีก ดวงตากลมโตกวาดมองสำรวจเพื่อประเมินอาการของอีกฝ่ายคร่าว ๆ ก่อนจะช่วยพยุงให้เจ้าตัวลุกขึ้นแล้วพาออกไปจากจุดอันตรายตรงนี้ซะก่อน

เปรี้ยง!

"อ๊ะ!"

เสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ชิโนบุเผลอชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับไปมอง หัวคิ้วทั้งสองข้างขมวดแน่นอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นภาพการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าอัลฟ่าจะหลบการโจมตีของโรคุบิได้และยังไม่เพลี่ยงพล้ำ แต่สถานการณ์ของเจ้าตัวเองก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไร ที่ชายเสื้อและปลายแขนเสื้อปรากฎเป็นรอยไหม้หลายจุด แสดงให้เห็นว่าการหลบแต่ละครั้งก็ไม่ได้ทำได้อย่างง่ายดายนัก

"วุ่นวายจริงแหะ"

เสียงบ่นดังขึ้นเบา ๆ พร้อมหัวคิ้วที่ขมวดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนอัลฟ่าจะรีบกระโดดหลบไปอีกทางเมื่อเห็นว่าปลายหางนั่นกำลังจะฟาดลงมา

เปรี้ยง!

สายฟ้าจากปลายหางของโรคุบิถูกฟาดเข้าใส่อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มันใกล้เกินกว่าจะหลบให้พ้นได้ ดวงตาคู่คมเผลอเบิกกว้างขึ้น ชั่วขณะที่รู้สึกเหมือนสติจะดับวูบไป ไอพลังสีแดงก็แผ่กระจายออกมาครอบคลุมตัวไว้แล้วผลักให้โรคุบิถอยห่างออกไปไกลพอสมควร

"....."

ภาพที่เห็นทำให้ชิโนบุชะงักฝีเท้าตัวเองไว้อย่างตกใจ เผลอปล่อยมือที่ช่วยพยุงไซกะจนอีกฝ่ายทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะไม่ทันตั้งตัว

ตอนนี้ที่ใต้ดวงตาทั้งสองข้างของอัลฟ่าปรากฏเป็นริ้วสีแดงขึ้นมาอย่างชัดเจน ทั้งเขี้ยวและเล็บยาวขึ้นอย่างผิดปกติ เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับดวงตาที่วาวโรจน์ขึ้นราวกับจะเรืองแสงได้

แบบนี้แย่แล้ว!

"โอ้ย!"

ขณะที่กำลังกังวลกับรูปลักษณ์ของอัลฟ่าที่เริ่มแปลกไป เสียงร้องของไซกะก็ทำให้ชิโนบุต้องหันกลับมาสนใจก่อน ร่างสูงโปร่งรีบย่อตัวลงไปช่วยพยุงให้คนเจ็บลุกขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าทรมานเพราะอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายทำให้ชิโนบุรู้สึกเป็นห่วงเจ้าตัวไม่น้อยไปกว่าอัลฟ่าเลย จึงตัดสินใจจะจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อยด้วยการพาไปหลบในที่ปลอดภัยก่อน แล้วค่อยกลับไปจัดการเรื่องทางนั้นต่อ

ชิโนบุพยุงให้ไซกะออกเดินอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องหันกลับมาใช้ชิคิงามิป้องกันสายฟ้าจากโรคุบิที่ตอนนี้เริ่มระแวงกับอาการที่แปลกไปของอัลฟ่าจึงเปลี่ยนใจมาโจมตีทางนี้แทน

"ชิ!"

เสียงสบถดังขึ้นเบา ๆ เมื่อชิคิงามิสลายไปทันทีที่รับการโจมตี หัวคิ้วเหนือดวงตาคู่สวยขมวดมุ่น ก่อนจะรีบหยิบชิคิงามิออกมาอีกแผ่นแล้วเปลี่ยนให้มันเป็นสุนัขขนาดใหญ่โจนทะยานออกไป ในขณะที่ตัวเองก็ยิ่งเร่งฝีเท้าพาคนเจ็บไปหลบยังจุดที่ปลอดภัย

"พักไปก่อนนะ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้ว"

"แล้วนายน้อยจะไปไหน"

"จะไปช่วยอัลฟ่า"

"มันอันตรายนะครับ"

"อือ รู้"

ก็เปลี่ยนไปขนาดนั้นแล้วนี่...

ยิ่งคิดได้แบบนั้นหัวคิ้วก็ยิ่งขมวดแน่นแต่ถึงอย่างนั้นชิโนบุก็รีบวิ่งกลับมาดูสถานการณ์ระหว่างอัลฟ่าและโรคุบิ ตอนนี้ชิคิงามิของเขาสลายไปแล้วจึงเหลือเพียงทั้งคู่ที่ยังคงต่อสู้กันอยู่ และดูเหมือนว่าตอนนี้อัลฟ่าจะยิ่งรับมือได้ดีขึ้นกว่าเดิม

แต่ก็เพราะอย่างนั้นแหละถึงยิ่งน่าเป็นห่วง

"อัลฟ่า"

ชิโนบุไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงจึงทำได้เพียงเรียกชื่อของอีกฝ่ายออกมา ก่อนจะเผลอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเคร่งเครียดเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวของอัลฟ่าเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ไอพลังที่ก่อนหน้านี้แผ่ออกมาเพียงจาง ๆ ในตอนนี้กลับเข้มข้นขึ้นจนกลายเป็นเหมือนหมอกสีแดงที่ปกคลุมไปทั่วทั้งตัว

จะทำยังไง...ทำยังไงดี?

"อัลฟ่า กลับมาได้แล้ว"

เพราะไม่รู้จะทำยังไงเลยตัดสินใจตะโกนเรียกออกไป แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบรับกลับมา ชิโนบุได้แต่ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหยิบชิคิงามิออกมาแล้วส่งเป็นนกขนาดใหญ่ออกไปสองตัว ตัวหนึ่งเข้าไปโจมตีโรคุบิเพื่อถ่วงเวลาในขณะที่อีกตัวบินเข้าไปหาอัลฟ่า

"....."

นกกระดาษขนาดใหญ่ที่โผล่มาบินอยู่รอบตัว ทำให้อัลฟ่าที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่โรคุบิชะงักไป หัวคิ้วทั้งสองข้างมุ่นเข้า คล้ายกับสติจะคืนกลับมาวูบหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะหันหน้าไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ดังขึ้นไม่ไกล

"อัลฟ่า กลับมา"

ชิโนบุมองดูคนที่วิ่งกลับมาหาหลังจากโดนเรียกแล้วก็ค่อยใจชื้นขึ้น แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันมากกว่านั้นสายฟ้าที่ฟาดลงมาก็ทำให้พวกเขาต้องพากันกระโดดหลบไปอีกทาง

อัลฟ่าสะบัดหน้าไปมองทางโรคุบิทันที ดวงตาคู่คมกลับมาวาวโรจน์ขึ้นอีกครั้ง แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะได้พุ่งออกไปก็โดนชิโนบุที่อยู่ข้าง ๆ คว้าแขนเอาไว้ก่อน

"อัลฟ่า"

ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ นอกจากเสียงคำรามต่ำในลำคอ เห็นแบบนั้นชิโนบุจึงส่งชิคิงามิในรูปลักษณ์ของเหยี่ยวขนาดใหญ่ออกไปอีกสามตัวเพื่อถ่วงเวลา

"ได้ยินฉันไหม"

เสียงถามดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสองมือที่จับใบหน้าของเจ้าตัวให้หันกลับมาสบตากันตรง ๆ หัวคิ้วเหนือดวงตาคู่สวยขมวดแน่น ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมาก

"ตอบฉันหน่อยสิ ตอบฉันที"

น้ำเสียงอ้อนวอนและสัมผัสเย็น ๆ จากฝ่ามือบนแก้มทั้งสองข้าง ทำให้หัวคิ้วของอัลฟ่ามุ่นเข้าเล็กน้อย แววตาไหวไป ก่อนที่ประกายในดวงตาจะเริ่มคืนกลับมา

"ชิโนบุ?"

"ใช่ ฉันเอง"

".....?"

"ตอนนี้เราช่วยไซกะได้แล้วนะ นายไม่ต้องทำอะไรแล้วเข้าใจไหม"

เมื่อเห็นสีหน้างง ๆ ของอีกฝ่าย ชิโนบุก็รีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเหลือบตามองไปทางโรคุบิที่ตอนนี้มันจัดการชิคิงามิไปสองตัวแล้ว

"นายสลายพลังพวกนี้ทิ้งได้ไหม"

"ไม่แน่ใจ"

ระหว่างที่ตอบอัลฟ่าก็ขมวดคิ้วไป ตอนนี้เขายังรู้สึกมึน ๆ เหมือนว่าสติยังกลับมาไม่ครบดี แต่ก่อนที่จะได้ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันให้มากขึ้นก็ต้องตวัดตามองไปยังโรคุบิ เมื่อมันส่งเสียงคำรามขึ้นมาหลังจากจัดการกับชิคิงามิตัวสุดท้ายได้เรียบร้อย

ประกายสายฟ้าจากหางของมันทำให้อัลฟ่าขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะรีบคว้าตัวชิโนบุหลบเมื่อมันสะบัดสายฟ้าฟาดลงมาตรงจุดที่พวกเขายืนอยู่

เปรี้ยง!

ดวงตาคู่คมวาวโรจน์ขึ้นทันควัน เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังมาจากในลำคอ ทำให้ชิโนบุยิ่งกดหัวคิ้วแน่นอย่างเคร่งเครียด

"อัลฟ่า"

ชิโนบุไม่แน่ใจแล้วว่าอัลฟ่าจะได้ยินเสียงของเขาหรือเปล่า ในเมื่อเจ้าตัวยังคงจับจ้องไปยังโรคุบิโดยไม่สนใจกันเลยสักนิด เสียงคำรามต่ำยังดังออกมาตลอดเวลา ดวงตาที่เมื่อครู่เริ่มมีประกายความรู้สึกคืนมา ในตอนนี้กลับวาวโรจน์ขึ้นอีกครั้ง

"อัลฟ่าได้ยินไหม"

ไม่ว่าเปล่าชิโนบุยังใช้สองมือจับไหล่บังคับให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน ดวงตาคู่สวยมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย หากแต่ตอนนี้เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแววบ้าคลั่งที่กำลังจะปะทุออกมา

"อัลฟ่า--"

เปรี้ยง!

ชิโนบุยังพูดไม่ทันจบก็ต้องกระโดดหลบสายฟ้าที่ฟาดลงมาตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งคู่ เป็นเหตุให้ทั้งเขาและอัลฟ่าจำต้องหลบกันไปคนละทิศละทาง

"ชิ!"

เสียงสบถดังขึ้นเบา ๆ เมื่อรู้สึกเจ็บจนชาที่ขาข้างซ้าย พอลองเหลือบลงมองก็เห็นว่าตอนนี้มันเป็นแผลถูกกรีดเป็นทางยาวเพราะหลบไม่พ้นสายฟ้าเมื่อครู่จนมีเลือดไหลออกมาเยอะมาก

โฮกกกกก

เสียงคำรามที่ดังขึ้นไม่ไกล ทำให้ชิโนบุต้องรีบหันไปมองทันที เลยเห็นว่าตอนนี้อัลฟ่ากำลังจ้องมองมาที่เขา

ไม่สิ!...กำลังจ้องมองมาที่บาดแผลบนขาของเขาต่างหาก

ดวงตาคู่นั้นเรืองแสงสีแดงขึ้นมาอย่างน่ากลัว ประกายของความรู้สึกเลือนหายไป กลับกลายเป็นความบ้าคลั่งที่ค่อย ๆ ปะทุขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะหันกลับไปหาโรคุบิแล้วส่งเสียงคำรามออกมาดังลั่น

เสียง...

ที่ไม่หลงเหลือความเป็นอัลฟ่าอยู่อีกแล้ว

"อัลฟ่า..."

เรียกได้แค่นั้นชิโนบุก็ต้องชะงักไปอย่างตกใจ เมื่อรู้สึกได้ถึงกระแสพลังอันรุนแรงที่แผ่ออกมา ไอพลังสีแดงเข้มข้นขึ้น ก่อนที่มันจะหมุนวนเป็นพายุขนาดย่อมเข้าปกคลุมตัวของอัลฟ่าไว้

จิตสังหารที่แผ่ออกมาทำให้แม้แต่โรคุบิเองก็ยังต้องถอยออกไปอย่างระวังตัว ในขณะที่ชิโนบุก็ต้องถอยออกไปหาหลักยึดแล้วยกมือขึ้นมาป้องใบหน้าไว้จากเศษกิ่งไม้และใบไม้ที่ปลิวว่อนไปทั่ว เพียงชั่วอึดใจที่ไอพลังสีแดงจางลง เสียงคำรามก็ดังลั่นขึ้นอย่างน่ากลัว ก่อนจะปรากฎเป็นเงาร่างของสัตว์สี่เท้าขนาดใหญ่ที่พุ่งตัวออกไปจัดการกับโรคุบิในทันที

"ไม่จริงน่า..."

สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ชิโนบุตกใจจนสมองแทบหยุดทำงานไปชั่วขณะ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองร่างขนาดใหญ่ของจิ้งจอกสีขาวที่กำลังขย้ำคอโรคุบิแล้วสะบัดไปมาจนเลือดสีสดสาดกระจายไปทั่ว แต่นั่นก็ยังไม่น่าตกใจเท่ากับ...

หางทั้งเก้าที่อยู่ด้านหลัง

โรคุบิกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มันพยายามดิ้นให้หลุดจากคมเขี้ยวที่ฝังลึกลงบนลำคอ เท้าทั้งสี่พยายามทั้งถีบทั้งข่วนแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายจึงต้องสะบัดสายฟ้าจากหางเข้าใส่ จนทางฝ่ายจิ้งจอกเก้าหางต้องยอมปล่อยแล้วกระโดดหนีไปอีกทาง

เสียงคำรามดังลั่นขึ้นอีกครั้ง ดวงตาเรียวอย่างจิ้งจอกเรืองแสงสีแดงไม่ต่างจากริ้วแดงที่ใต้ดวงตาทั้งสองข้าง ภายในแววตาไม่หลงเหลือร่องรอยความรู้สึกอะไรอยู่อีก มีเพียงกระแสของความคลุ้มคลั่งที่ต้องการจะทำลายสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก่อนร่างสี่เท้าขนาดใหญ่จะกระโจนเข้าใส่เพื่อเปิดฉากการต่อสู้ขึ้นอีกครั้ง

ปลายหางเส้นหนึ่งฟาดเข้าใส่โรคุบิ แต่ปฏิกิริยาตอบสนองที่ฉับไวก็ทำให้มันกระโดดหลบได้ ตรงจุดที่มันเคยอยู่จึงได้รับความเสียหายแทน ต้นไม้ใกล้ ๆ หักโคน หากแต่เจ้าของพลังทำลายนั้นกลับไม่สนใจรีบกระโดดตามไปโจมตีต่อทันที

"....."

ชิโนบุได้แต่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร้คำพูด ตอนนี้อัลฟ่าไม่น่าจะหลงเหลือสติอยู่แล้วจริง ๆ การต่อสู้กับโรคุบิทั้งหมดล้วนเป็นไปตามสัญชาตญาณทั้งนั้น เจ้าตัวจึงไม่สนใจสักนิดว่าจะมีอะไรโดนทำลายลงไปบ้าง

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้งหากแต่ร่างขนาดใหญ่ของจิ้งจอกเก้าหางก็ยังเคลื่อนไหวหลบได้อย่างรวดเร็ว ตรงพื้นที่ที่เคยยืนอยู่จึงกลายเป็นร่องลึก พื้นดินโดยรอบเสียหายหากแต่เจ้าตัวไม่คิดจะสนใจ รีบกระโดดตามไปแล้วใช้ปลายหางเส้นหนึ่งฟาดตัวโรคุบิลงกับพื้น ก่อนจะใช้ปลายหางอีกเส้นแทงตามลงไป แต่ดันพลาดเป้าโดนแค่ขาหลังข้างหนึ่งเพราะโรคุบิเองก็พลิกตัวหลบได้ทัน

บริเวณโดยรอบที่สัตว์หางทั้งสองสู้กันเสียหายอย่างหนัก พื้นดินถูกทำลาย ก้อนหินใหญ่ถูกป่นละเอียด และมันก็ยิ่งกินบริเวณกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

โครม!

แรงสั่นสะเทือนกระจายไปทั่ว เมื่อร่างขนาดใหญ่ของจิ้งจอกเก้าหางกระเด็นมาชนจนต้นไม้หักโค่นไปอีกสองต้น ที่ขาหน้าข้างขวามีเลือดไหลออกมาจนอาบย้อมขนสีขาวให้กลายเป็นสีแดง แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง รีบลุกขึ้นมาตั้งหลักแล้วพุ่งตัวเข้าใส่อีกครั้ง

เสียงคำรามดังลั่นพร้อมกับพายุพลังสีแดงที่พุ่งออกไปชนโรคุบิจนกระเด็นถอยหลังไปไกล พลังทำลายกวาดเอาสิ่งที่ขวางทางอยู่ตรงหน้าให้แหลกเป็นผุยผง และมันก็เริ่มกินพื้นที่มาจนเกือบถึงตรงจุดที่ชิโนบุพาไซกะไปซ่อนตัวไว้

"อะไรกันนักกันหนาเนี่ย!"

ชิโนบุได้แต่บ่นขึ้นอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปหาไซกะเพราะรู้ดีว่าตัวเองคงจัดการเรื่องทางนี้ไม่ได้ง่าย ๆ แน่

"โอ้ย!!"

แต่ไปได้เพียงสองก้าวก็ต้องทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะความเจ็บจากขาซ้าย องเมียวน้อยได้แต่สบถออกมาอย่างขัดใจที่ดันมาเจ็บเอาตอนนี้ ก่อนจะกัดฟันเกาะต้นไม้ข้าง ๆ เพื่อพยุงตัวเองลุกขึ้น

หากแต่...

".....!!"

เงาร่างขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ตรงหน้าทำให้ชิโนบุเผลอเกร็งตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบเข้ากับดวงตาวาวโรจน์ที่กำลังจ้องมองลงมา

เสียงคำรามต่ำ ๆ ในลำคอของอีกฝ่ายทำให้ชิโนบุแทบไม่กล้าขยับตัว ตามแนวไขสันหลังเย็นวาบเมื่อเหลือบมองไปทางโรคุบิแล้วเห็นว่ามันเองก็มีสภาพไม่สู้ดีนัก ที่ขาหน้าข้างขวาถูกขย้ำเละจนเกือบใช้งานไม่ได้ ส่วนที่ขาหลังด้านซ้ายเองก็มีบาดแผลขนาดใหญ่จนเลือดไหลออกมาอาบย้อมไปทั้งขา ลมหายใจหอบหนัก นอนกองอยู่ที่พื้นอย่างไร้สภาพความเป็นสัตว์หางโดยสิ้นเชิง

คงไม่ใช่ว่าจัดการทางนั้นจนสิ้นสภาพแล้ว เลยจะมาจัดการทางนี้ต่อหรอกนะ

ไม่หรอก ๆ อัลฟ่าไม่ทำแบบนั้นกับเราหรอก!

แม้จะพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองคิดไปในแง่ที่น่าหวาดกลัว แต่ถึงอย่างนั้นชิโนบุก็รู้ดีว่าโอกาสที่ตัวเองจะถูกจัดการเป็นรายต่อไปมีสูงมาก เพราะต่อให้ตอนมีสติจะพูดคุยกันสนิทสนมขนาดไหน แต่หลังจากหลุดควบคุมไปแล้ว ต่อให้เป็นพี่น้องหรือแม้แต่ลูกเมีย ก็มีสิทธิ์จะโดนภูตที่หลุดควบคุมสังหารทิ้งทั้งนั้น

โอกาสรอดมีน้อยมาก!

ยิ่งคิดถึงในแง่ความเป็นจริง ชิโนบุก็ได้แต่หันกลับมาสบเข้ากับดวงตาสีแดงเพลิงคู่นั้นอีกครั้งอย่างรู้ดีว่าคงทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้ เขาไม่มีทางสู้กับจิ้งจอกเก้าหางได้ แม้จะเป็นในตอนที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ดีกว่านี้ก็ตาม

"อัลฟ่า"

ไม่มีถ้อยคำใด ๆ ตอบกลับมานอกจากเสียงคำรามต่ำในลำคอ ในดวงตาคู่นั้นยังคงไร้ซึ่งประกายของความรู้สึก ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้าลงมาใกล้ขึ้น และ...

เปรี้ยง!

"อะ!!"

เสียงร้องแทบหลุดออกมาไม่พ้นลำคอเมื่อจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวจะลอยขึ้นจากพื้น ชิโนบุจำได้ว่าก่อนหน้านี้หางตาเหลือบไปเห็นสายฟ้าที่กำลังพุ่งตรงมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อัลฟ่าแยกเขี้ยวขึ้นพอดี

แล้วพอรู้ตัวอีกที...

ก็มาถูกคาบอยู่ในปากของอัลฟ่าซะแล้ว

แบบนี้ก็หมายความว่าอัลฟ่าช่วยเขาจากสายฟ้าของโรคุบิใช่ไหม?

"อัลฟ่า นาย..."

จำฉันได้ใช่ไหม?

ประโยคที่เหลือยังไม่ทันได้ถามออกไปชิโนบุก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองด้านบน เมื่อรู้สึกถึงเงาร่างขนาดใหญ่ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา

"แบล็ก ปู่"

ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครชิโนบุก็รีบร้องเรียกเสียงดังอย่างใจชื้นขึ้นเยอะที่เห็นทั้งคู่ หากแต่ช่วงเวลาแห่งความดีใจก็ต้องจบลงอย่างรวดเร็ว เมื่ออัลฟ่าที่ยังคงคาบเขาไว้ในปากหันกลับมาส่งเสียงขู่คำรามใส่แบล็กอย่างดุร้าย

'โนบุจัง'

"แบล็ก ช่วยอัลฟ่าด้วย"

'สภาพนี้ฉันว่าฉันควรจะช่วยโนบุจังก่อน'

"ไม่ ๆ ฉันไม่เป็นไร นี่อัลฟ่าช่วยฉันไว้ ไอ้ตัวนั้นต่างหากที่มันทำร้ายฉันอะ จัดการมันเลย!"

ว่าแล้วเจ้าตัวก็ชี้มือไปทางโรคุบิเพื่อฟ้อง เห็นแบบนั้นแบล็กจึงหันไปส่งเสียงคำรามใส่เจ้าวีเซิลหกหางที่ถือโอกาสนี้แอบพักฟื้นร่างกายของตัวเอง

พลังวิญญาณและจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างสีดำที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับจิ้งจอกเก้าหาง ทำให้โรคุบิเผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แม้แต่อัลฟ่าที่ยังไม่ได้สติกลับคืนมาก็ยังเผลอถอยหลังไปตามสัญชาตญาณระวังตัวที่ร้องเตือนถึงความอันตราย ทั้งสามยืนมองจด ๆ จ้อง ๆ กันอยู่ครู่สั้น ๆ ก่อนที่โรคุบิจะเป็นฝ่ายเปิดศึกก่อน ด้วยการส่งสายฟ้าจากปลายหางให้ฟาดผ่าลงมากลางวง

เปรี้ยง!

ทันทีที่สายฟ้าฟาดลงตรงกลาง แบล็กก็เป็นฝ่ายกระโจนเข้าไปก่อน ในขณะที่อัลฟ่าเองก็วางชิโนบุลงกับพื้นแล้วกระโดดตามเข้าไป

การต่อสู้ของสองสัตว์หางและหนึ่งภูตระดับสูง ทำให้พื้นที่ที่เสียหายอยู่แล้วยิ่งเละเทะไปกันใหญ่ จนชิโนบุที่ค่อย ๆ เกาะต้นไม้พยุงตัวขึ้นมา ได้แต่มองตามทั้งคู่ไปอย่างเป็นห่วง

"ชีจัง"

"ปู่ เราต้องช่วยอัลฟ่านะ"

ทันทีที่คุณปู่วิ่งเข้ามาหาชิโนบุก็รีบเขย่าแขนบอกด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ความเป็นห่วงที่มีต่ออีกฝ่ายมันมากเกินกว่าจะมัวเสียเวลามาสนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองด้วยซ้ำ

"หลานใจเย็น ๆ ก่อน บอกปู่มาสิว่าเกิดอะไรขึ้น"

"อัลฟ่าหลุด แต่ว่าเมื่อกี้เขาช่วยผมไว้ เขาจำผมได้"

คนเป็นปู่ได้แต่หันไปมองภาพการต่อสู้ตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วแน่น เมื่อสิ่งที่ได้ยินจากหลานชายและสิ่งที่เห็นมันค่อนข้างจะสวนทางกัน เจ้าตัวบอกว่าอัลฟ่าจำได้ แต่จำได้ยังไงถึงปากขย้ำหลังโรคุบิ ส่วนหางก็ฟาดใส่แบล็กให้ต้องกระโดดหลบไปอีกทางแบบนั้น

"ปู่ว่าอัลฟ่าดูไม่เหมือนคนจำอะไรได้ตามที่หลานบอกเลย"

"แต่ผมมั่นใจว่าอัลฟ่าจำผมได้จริง ๆ นะ ไม่งั้นเขาจะช่วยคาบผมหลบสายฟ้าจากโรคุบิทำไม ถ้าจำไม่ได้จริงป่านนี้เขาขย้ำผมตายคาปากไปแล้ว"

"ปู่จะตีนะชีจัง พูดอะไรน่ะ"

"ปู่อย่าเพิ่งตี ปู่ช่วยอัลฟ่าก่อน"

พอเห็นท่าทางที่เริ่มจะงอแงของหลานชาย สุดท้ายคนเป็นปู่ก็ได้แต่ใจอ่อนพยักหน้ารับ อดีตผู้นำตระกูลอาคาวะใช้ปลายนิ้ววาดวงเวทย์กลางอากาศเพื่อทำพิธีอัญเชิญเรียกภูตที่ทำสัญญากับตนออกมา

"หลานหลบไปก่อน"

ได้ยินแบบนั้นชิโนบุค่อยเริ่มยิ้มออก เจ้าตัวถอยออกมายืนมองวงเวทย์กลางอากาศของคุณปู่อย่างรู้สึกอิจฉานิด ๆ ใครต่างก็รู้ว่าวงเวทย์อัญเชิญเขียนยากขนาดไหน เพราะมีวงเวทย์ซ้อนกันหลายชั้นและอักขระหลายตัว ยิ่งเป็นภูตระดับสูงก็ยิ่งซับซ้อนขึ้น อักขระแต่ละตัวก็จะยิ่งเขียนยากขึ้นไปอีก มีน้อยคนมากที่จะจำและเขียนได้อย่างถูกต้อง

ซึ่งความจริง...ตอนนี้ชิโนบุก็จำและเขียนได้หมดแล้ว เพียงแต่ว่าเขาจะต้องเขียนลงบนกระดาษหรือบนพื้น ยังไม่เก่งพอจะสร้างอักขระต่าง ๆ ขึ้นกลางอากาศได้ทุกสถานที่แบบที่ปู่กับพ่อทำ

"ออกมา ไทซัน"

สิ้นคำนั้นวงเวทย์ก็สว่างวาบขึ้น ก่อนจะปรากฏเป็นภูตในรูปลักษณ์กวางมูสตัวหนึ่งยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า แม้จะดูไม่อันตรายเท่าสัตว์หางหรืออุนิงามิ แต่มันกลับมีขนาดตัวใหญ่ยิ่งกว่าภูตสามตนตรงนั้นรวมกันซะอีก แค่เขาข้างเดียวก็ใหญ่กว่าชิโนบุตั้งไม่รู้กี่เท่า

"ต้อนโรคุบิมาให้ที ฉันจะผนึกมัน"

ได้ยินแค่นั้นภูตรับใช้ที่ทำสัญญาด้วยก็กระโจนเข้าสู่วงต่อสู้ทันที เห็นแบบนั้นอาคาวะ ชุนจึงเดินแยกออกไปเพื่อเตรียมทำพิธีผนึกในจุดที่เป็นพื้นที่ว่างจากการต่อสู้อย่างถล่มทลายของภูตทั้งสี่

ทันทีที่มีกวางขนาดใหญ่เข้าไปร่วมด้วย การต่อสู้ก็ถูกแยกออกเป็นสองคู่ทันที ไทซันกำลังไล่ต้อนโรคุบิตามคำสั่งของชุน ซึ่งก็ทำได้ไม่ลำบากนัก เพราะถึงจะเป็นหกหางแต่มันก็สะบักสะบอมมากแล้วจากการต่อสู้กับอัลฟ่า แล้วยังมาเจอแบล็กซ้ำต่ออีก มันจึงค่อย ๆ ถูกต้อนจนถอยกลับมาทางชุนที่กำลังวาดวงเวทย์ขนาดใหญ่เตรียมไว้

ส่วนทางด้านอัลฟ่ากับแบล็ก...

ทางนี้ต่างหากที่น่าเป็นห่วง เมื่ออัลฟ่าพยายามจะพุ่งเข้าไปขย้ำโรคุบิตลอดเวลาโดยไม่สนใจอะไร ในขณะที่แบล็กเองก็พยายามจะหยุดเจ้าตัวไว้โดยไม่ใช้พลังอย่างเต็มที่ เพราะกลัวว่าจะไปทำให้บาดเจ็บยิ่งกว่าเดิม จนกลายเป็นว่าตอนนี้บนร่างของแบล็กก็มีบาดแผลเพิ่มขึ้นมาหลายแห่ง

ชิโนบุได้แต่มองไปทางทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง อัลฟ่าดูราวกับจะคลั่งอยู่แล้วที่ถูกขวางไม่ให้เข้าไปจัดการกับโรคุบิ แต่เป็นเพราะเจ้าตัวยังควบคุมพลังตัวเองไม่ได้จึงใช้อย่างเต็มที่ตลอดเวลา ทำให้เรี่ยวแรงลดลงไปเยอะพอสมควร จนมีจังหวะที่แบล็กได้โอกาสกดเจ้าตัวลงกับพื้นแล้วล็อคไว้

แบล็กก้มลงงับเข้าที่หลังคอของอัลฟ่าแบบไม่ฝังเขี้ยวลงไป เพราะเขาต้องการจำกัดการเคลื่อนไหวเพียงเท่านั้น ขาหน้าข้างหนึ่งเหยียบไว้บนไหล่ ในขณะที่อีกข้างก็เหยียบลงบนขาหน้าข้างที่บาดเจ็บของเจ้าตัวไว้เช่นกัน

เห็นแบบนั้นชิโนบุก็ค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่เป็นเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ทางนี้จนไม่ได้สนใจทางด้านของไทซันและโรคุบิ จึงไม่ทันสังเกตว่า ตอนนี้เจ้าตัววีเซิลสายฟ้ากระโจนหลบการโจมตีของไทซันมายังทิศทางที่ตัวเองยืนอยู่พอดี

"โอ้ย!"

เสียงร้องดังลอดออกมาจากลำคอ เมื่อทันทีที่พลิกตัวหลบได้ความเจ็บจากขาซ้ายกลับแล่นริ้วขึ้นมาจนเสียหลักล้มลง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ก่อนจะรีบกลิ้งหลบไปอีกทางเมื่อเห็นว่าโรคุบิฟาดหางตามลงมา

แว่วเสียงคำรามดังมาจากทางด้านอัลฟ่าและแบล็กให้ชิโนบุต้องเหลือบไปมอง จึงทันเห็นว่าอัลฟ่ากำลังดิ้นพล่าน ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองมาทางโรคุบิอย่างอาฆาต ก่อนจะหันไปฝังเขี้ยวลงบนขาของแบล็กข้างที่อยู่ใกล้ ๆ ปากพอดี

เสียงคำรามเพราะความเจ็บดังขึ้นจากแบล็ก ก่อนเจ้าตัวจะปล่อยตัวอัลฟ่าให้เป็นอิสระ

ปล่อย...เพราะจงใจ

แท้จริงแล้วกับความเจ็บแค่นี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหากแบล็กคิดจะทน แต่ที่เลือกจะไม่ทนก็เป็นเพราะเขาเองก็โมโหและคิดจะเข้าไปจัดการกับโรคุบิที่กล้ามาทำร้ายเด็กน้อยของเขาเหมือนกัน

"อะ!"

ทางด้านชิโนบุเองก็ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของอัลฟ่าและแบล็กต่อเมื่อหางตาเหลือบเห็นเงาจากสายฟ้าที่กำลังพุ่งเข้ามา ร่างสูงโปร่งรีบยันตัวลุกขึ้นแล้วขยับหลบไปอีกทาง แต่เป็นเพราะระยะที่ใกล้เกินไปทำให้หลบไม่พ้น สายฟ้าเส้นน้อยแต่พลังทำลายร้ายแรงฟาดลงตรงพื้นใกล้ ๆ แรงสะท้อนทำให้เจ้าตัวกระเด็นไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ข้างหลังแล้วทรุดลงกับพื้นในทันที

แรงกระแทกทำให้สมองมึนเบลอราวกับสติจะเลือนหายไป แต่ถึงอย่างนั้นชิโนบุก็ยังทันเห็นว่าคุณปู่กำลังมองมาทางนี้ด้วยสายตาเป็นห่วง เห็นว่าไทซันกำลังวิ่งตามมาทางนี้ และเห็นว่า...

อัลฟ่าและแบล็กมองมาด้วยสายตาแบบไหน

ในช่วงสุดท้ายที่สติยิ่งลางเลือน แว่วเสียงคำรามดังลั่น พร้อมกับเงาร่างขาวดำที่กำลังกระโจนเข้ามา ชิโนบุนึกอยากจะตะโกนห้ามเมื่อเห็นดวงตาวาวโรจน์ของทั้งคู่ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหลับตาลง เมื่อสติการรับรู้ทั้งหมดกำลังจะถูกพรากไป

ก่อนที่...

ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อย ๆ ดับวูบลง

tbc...