Chereads / ONMYOJI องเมียวจิ / Chapter 9 - 08 - สัญชาตญาณ

Chapter 9 - 08 - สัญชาตญาณ

- สัญชาตญาณ -

"สรุปนี่มันยังไงกัน"

ชิโนบุหันไปถามแบล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หลังจากวางผ้าขนหนูชุบน้ำลงบนหน้าผากของอัลฟ่าเรียบร้อยแล้ว

เมื่อช่วงบ่ายหลังจากที่ปล่อยให้อีกฝ่ายตามแบล็กไปจัดการกับปีศาจที่แอบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของฮารุอิ หลังจากกลับมาเจ้าตัวก็มีท่าทีแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ดูเหม่อ ๆ ไม่ค่อยมีสมาธิ ตอนกลับมาถึงบ้านก็ขอแยกตัวเข้าไปอยู่ในห้องคนเดียวด้วย พอลองถามดูก็บอกว่าปวดหัว ขอไปพักก่อน ทั้งเขาและแบล็กเห็นเจ้าตัวอาการไม่ค่อยดีก็เลยไม่ได้รั้งไว้

จนกระทั่งถึงเวลาอาหารเย็น อายาเมะก็เดินมาบอกว่าไปยืนเรียกที่หน้าห้องแล้วแต่อัลฟ่าไม่ตอบ พอเขาเป็นคนไปดูเองถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวมีไข้สูงมาก แล้วก็นอนหลับ ตัวร้อน ไม่ได้สติอยู่ในห้องคนเดียว

"ตอบมา"

"ไม่รู้สิ"

สายตาขวาง ๆ ที่ได้รับกลับมาทำให้แบล็กได้แต่ยกสองมือขึ้นอย่างยอมแพ้ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองไปทางอัลฟ่าครั้งหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจพร้อมกับปรับสีหน้าให้กลับมาจริงจังขึ้น

"คิดว่าน่าจะเป็นเพราะได้เห็นวิธีของฉันแล้วสัญชาตญาณในตัวถูกปลุกขึ้นมา"

"ยังไงนะ"

คำตอบของแบล็กทำให้ชิโนบุขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่แบล็กกลับไม่ยอมอธิบายอะไรเพิ่มเติม ดวงตาที่ยิ่งคมดุขึ้นเวลาจริงจัง เหลือบมองไปทางอัลฟ่าที่กำลังนอนหลับสนิทเพราะพิษไข้ ก่อนจะเลื่อนกลับมาสบเข้ากับชิโนบุอีกครั้ง แล้วพยักเพยิดหน้าไปทางประตูเป็นเชิงบอกให้ออกไปคุยกันข้างนอก

๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐

"สรุปว่ามันยังไง"

"โนบุจังอ่านเรื่องของตระกูลอวี้ไปถึงไหนแล้ว"

"อย่าเปลี่ยนเรื่อง"

"เรื่องเดียวกัน"

ถ้อยคำที่สวนกลับมาของแบล็ก ทำให้ชิโนบุเผลอเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ ตอนนี้พวกเขาเดินออกมายืนคุยกันอยู่ที่หน้าห้องแล้ว จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอทำเสียงดังรบกวนคนป่วยอีก

"หมายความว่าไง"

"ฉันรู้สึกว่าอัลฟ่าเหมือนฉัน"

ชิโนบุเผลอชะงักไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หัวคิ้วขมวดแน่นขึ้น เผลอเหลือบตามองไปทางประตูห้องครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาสบเข้ากับคนตรงหน้าอย่างจริงจังพร้อมน้ำเสียงที่กดต่ำลง

"อย่ามาพูดเล่น"

"ไม่ได้พูดเล่น ฉันรู้สึกมาสักพักแล้ว และคิดว่าโนบุจังเองก็น่าจะรู้สึกได้เหมือนกัน"

"....."

"ทั้งสัญชาตญาณและอะไรหลาย ๆ อย่าง...อัลฟ่าเหมือนฉันมากกว่าโนบุจัง"

สิ้นคำนั้นความเงียบก็เข้าครอบคลุมทั้งคู่ไว้ แบล็กไม่ได้พูดอะไรอีก และชิโนบุเองก็ไม่รู้จะเถียงกลับไปยังไง ทั้งคู่ทำเพียงปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ซึ่งบทสนทนา

ก่อนที่สุดท้าย...

เสียงถอนหายใจจะดังขึ้น

"ข้อมูลของตระกูลอวี้เยอะมาก"

เพราะยังหาเหตุผลมาแย้งที่แบล็กพูดเมื่อกี้ไม่ได้ ชิโนบุเลยเปลี่ยนเรื่องที่จะคุยกันแทน เจ้าตัวยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มเบา ๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่แบล็กตอบกลับมา

"เร่งมือหน่อยก็ดี ฉันอยากรู้ว่าสรุปตระกูลนี้มีอะไร จะใช่เหมือนอย่างที่ฉันคิดไหม"

"คิดอะไรทำไมไม่เห็นเคยบอก"

"ก็ยังไม่แน่ใจเลยไม่รู้จะบอกยังไง"

ดวงตาคู่สวยหรี่ลงมองคนตรงหน้าอย่างคาดคั้น ซึ่งแบล็กเองก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเล่าย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในป่าไผ่เมื่อไม่กี่วันก่อนให้ฟัง

"จำเรื่องสุนาคาเคะได้ไหม"

"ได้"

"ตอนนั้นมีกลิ่นอายแปลก ๆ แผ่ออกมาจากตัวอัลฟ่า แค่เสี้ยววินาทีเดียวก็หายไป แต่ฉันสัมผัสได้และมั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเอง"

"แล้วทำไมตอนนั้นถึงไม่บอก"

"ก็แค่สัมผัสได้เฉย ๆ แต่ไม่รู้ว่าคืออะไรก็เลยเก็บไว้ก่อน"

คนฟังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นมากุมขมับแล้วออกแรงคลึงเบา ๆ ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ถึงมีเรื่องวุ่นวายผุดขึ้นมาเยอะนัก แถมปู่ก็ยังอยู่ ๆ หาย ๆ จะปรึกษาอะไรก็ปรึกษาไม่ได้ พ่อกับแม่ที่ไปทำภารกิจก็ยังไม่มีกำหนดการกลับอย่างชัดเจน ครั้นจะให้ไปถามอัลฟ่า เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้เรื่องอะไร ไม่อย่างนั้นปู่คงไม่ให้เขาไปหาอ่านในบันทึกเอาเองตั้งแต่แรก

เฮ้อ...

สรุปแล้วตอนนี้วิธีเดียวที่จะทำให้รู้เรื่องทั้งหมดได้ คือต้องไปอ่านเอาจากบันทึก

ซึ่งมีเยอะมากจนบางทีเห็นแล้วก็ท้ออยู่เหมือนกัน

"อัลฟ่าเหมือนฉัน"

คำพูดของแบล็กที่ดังแทรกห้วงคิดขึ้นมา ทำให้ชิโนบุต้องลดมือลงแล้วสบตากลับไปตรง ๆ หัวคิ้วของเจ้าตัวขมวดมุ่นก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดุ ๆ

"ยังไม่มีอะไรมายืนยัน"

"สัญชาตญาณฉัน"

"ครั้งนี้ไม่ได้"

"ทุกทีโนบุจังเชื่อ"

"ครั้งนี้ไม่เชื่อ"

"ถ้าไม่เชื่อจริงก็อย่าหันหน้าหนี มามองตากันตรง ๆ"

พูดจบแบล็กก็เอื้อมมือไปจับคางของเจ้าตัวเบา ๆ ก่อนจะออกแรงเล็กน้อยเพื่อบังคับให้หันหน้ามา ดวงตาสองคู่สบกันอยู่อย่างนั้นนานพอจนทำให้แบล็กเห็นว่า ภายใต้ความดื้อรั้นที่ส่งมา...

มีแววไหวเล็ก ๆ ซ่อนอยู่

เฮ้อ...

เสียงถอนหายใจเบา ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนแบล็กจะเปลี่ยนจากที่จับคางเป็นแนบฝ่ามือลงบนแก้มของเจ้าตัวแทน ปลายนิ้วไล้ไปมาเบา ๆ แล้วพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

"ฉันรู้ว่าจริง ๆ แล้วโนบุจังก็เชื่อ"

เพราะเจ้าเด็กดื้อคนนี้ไม่เคยไม่เชื่อเขา...แม้แต่ครั้งเดียว

ดวงตาคู่สวยยังคงสบมองกับคนตรงหน้าอยู่อย่างนั้นอีกสักพักใหญ่ ก่อนที่สุดท้ายจะหลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ

เขายอมรับก็ได้ว่าที่จริงตอนนี้ในใจก็เชื่อไปแล้ว แต่เพราะความรั้นเลยทำให้ยังอดแย้งกลับไปไม่ได้

"อัลฟ่าไม่ใช่แบบนาย"

"ก็ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นแบบฉันเป๊ะ ๆ แต่หมายถึงเหมือนในหลาย ๆ ความหมาย"

"ทำไมฉันจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ตลอดเลย ขอคนปกติธรรมดามาอยู่รอบตัวฉันบ้างไม่ได้หรือไง"

ทางด้านคนฟังหลุดขำออกมาเบา ๆ กับคำบ่นที่มาพร้อมสีหน้ามุ่ย ๆ นั่น ดวงตาเรียวคมฉายแววเอ็นดูออกมาอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะยกมือขึ้นมากอดอกแล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

"แบบนี้ก็ดีออก"

"ดีกับผีน่ะสิ"

"จะได้มีคนช่วยฉันดูแลโนบุจังไง"

"เหอะ!"

"ดูท่าฉันคงต้องพาอัลฟ่าออกไปทัวร์ด้วยกันบ่อย ๆ แล้วล่ะ"

"หยุดความคิดนั้นไว้เลย ขนาดเจอแค่นี้ยังไข้ขึ้น ขืนนายร่าเริงเกินเหตุจนหลุดเปลี่ยนเป็นร่างนั้นขึ้นมา หมอนั่นไม่ช็อคตายไปเลยหรือไง"

"ไม่แน่นะ บางทีถ้าอัลฟ่าเห็นฉันในร่างนั้น สัญชาตญาณอาจจะทำให้ปล่อยร่างจริงของตัวเองออกมาก็ได้ โนบุจังจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งอ่านบันทึกไง"

"ฉันยอมนั่งหลังขดหลังแข็งทนอ่านบันทึกพวกนั้นให้รู้เอง ดีกว่าต้องมาใช้วิธีของนาย"

สีหน้าจริงจังพร้อมแววตาขวาง ๆ ที่ได้รับ ทำให้แบล็กเพียงยักไหล่กลับไปด้วยท่าทางกวน ๆ ขณะที่รอยยิ้มทะเล้นก็ยังคงปรากฏชัดอยู่บนใบหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะหลุดขำออกมาอย่างอดไม่อยู่ เมื่อได้ยินเสียงบ่นพึมพำจากคนที่เดินย้ำเท้าผ่านหน้าไป

"แต่เนื้อหาในบันทึกบ้านี่ก็เยอะชะมัดเลย คนตระกูลอวี้จะรักการเขียนอะไรกันนักหนาเนี่ย"

"ฮ่า ๆ ๆ"

๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐

"อืม..."

เสียงครางในลำคอดังขึ้นเบา ๆ เมื่อคนที่หลับไปนานเริ่มรู้สึกตัวตื่น สัมผัสเย็น ๆ ที่แตะอยู่ข้างแก้มทำให้เผลอขมวดคิ้วเข้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

สิ่งแรกที่เห็นคือผ้าขนหนูสีขาวสะอาดที่กำลังไล่เช็ดไปตามผิวแก้มของเขา โดยที่เจ้าของมือที่ถือผ้าขนหนูอยู่ก็คือชิโนบุ และตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังชะโงกหน้าเข้ามามองพร้อมกับคำทักทายที่ดังขึ้น

"ไง"

อัลฟ่าไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในทันที นอกจากนอนกระพริบตาอยู่อีก 2-3 ครั้ง เพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ กวาดตามองไปรอบห้องเพื่อประมวลผลว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น

"จะลุกไหม เดี๋ยวช่วย"

คำถามที่ถูกส่งมาทำให้เขาพยักหน้ากลับไปเบา ๆ ความทรงจำต่าง ๆ ค่อย ๆ ผุดขึ้นในหัวว่าก่อนที่จะหลับไปเกิดอะไรขึ้นบ้าง

หลังจากที่เมื่อวานเขาออกไปกับแบล็กสองคนเพื่อจัดการกับปีศาจ เอ่อ..เหมือนจะจำได้ว่าแบล็กอธิบายไว้ว่า ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้มันคือภูตผีปกติ แต่เพราะได้รับพลังชั่วร้ายมาสะสมอยู่ในตัวมากเกินไป ก็เลยกลายเป็นปีศาจที่ต้องกำจัดทิ้งสถานเดียวเพราะเป็นอันตรายกับผู้คน...

แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ!

ที่สำคัญคือ เป็นเพราะว่าชิโนบุไม่ได้มาด้วย ก็เลยทำให้เขาได้เห็นวิธีการของแบล็กที่มันค่อนข้างจะน่าตกใจ ใครจะไปคิดว่าคนธรรมดาจะใช้มือเปล่าฉีกกระชากแขนขาของปีศาจจนขาดกระเด็นได้แบบนั้น แถมแบล็กยังดูไม่ได้ตกใจในการกระทำของตัวเองเลยสักนิด เขาเห็นว่าในดวงตาคู่นั้นวาวโรจน์ และที่สำคัญ...มันแฝงความสนุกอยู่ในนั้น

ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าสรุปแล้วอะไรน่ากลัวกว่ากัน ระหว่างปีศาจตนนั้นที่ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้น ๆ จนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว กลับแบล็กที่ยืนอยู่ท่ามกลางเศษซากเละ ๆ และกองเลือดที่แดงฉาน

เขารู้เพียงแต่ว่า...

ภาพที่เห็นมันทำให้เลือดในกายเดือดพล่าน รู้สึกร้อนไปทุกส่วนจนมือไม้สั่นไปหมด ริมฝีปากและลำคอแห้งผาก แล้วหลังจากนั้น...ก็ปวดหัวจนไม่รับรู้อะไรอีก

"เป็นไงบ้าง"

คำถามที่ถูกส่งมาอีกครั้งทำให้อัลฟ่าหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง ดวงตาคู่คมหันกลับมาสบเข้ากับคนถามแล้วส่งยิ้มให้บาง ๆ

"ดีขึ้นแล้วล่ะ"

"งั้นก็ดีแล้ว เพราะถ้าตอนนี้นายยังไม่ดีขึ้นอีกฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน"

พูดไปชิโนบุก็หันไปพาดผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดตัวอีกฝ่ายไว้ที่ขอบอ่าง

เมื่อคืนเขาต้องคอยเช็ดตัวให้อยู่เรื่อย ๆ จนแทบไม่ได้นอน แถมต้องอยู่ดูแค่คนเดียวเลยด้วยเพราะแบล็กถูกเรียกตัวไปช่วยที่สาขาที่นารา

"นี่ฉันหลับยาวจนถึงเช้าเลยเหรอ"

"ใช่ หลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าฉันต้องลำบากขนาดไหนกับการเอายากรอกปากนาย"

ได้ยินแบบนั้นอัลฟ่าก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้อย่างทั้งขอโทษและขอบคุณ

มิน่าล่ะ ตื่นมาถึงได้ไม่ปวดหัวเลย แม้จะยังมึน ๆ เบลอ ๆ อยู่นิดหน่อยแต่ก็ไม่เท่าเมื่อวานแล้ว

"คิดว่าลุกเดินไหวไหมจะได้ไปกินข้าวกัน ถ้าไม่ไหวฉันจะได้ให้คนเอามาให้ที่นี่"

"ไหว"

เพราะเกรงใจบวกกับดีขึ้นมากแล้วอัลฟ่าเลยพยักหน้าตอบกลับไป ก่อนจะค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นโดยมีชิโนบุคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ

เขาเห็นเจ้าตัวขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนจะเข้ามาจับแขนเขาไว้ แล้วพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงให้ออกเดิน

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ"

พอเปิดประตูออกมาก็เห็นอายาเมะและสาวใช้คนหนึ่งยืนรออยู่แล้ว อัลฟ่าส่งยิ้มบาง ๆ กลับไปให้พวกเธอ ในขณะที่ชิโนบุพยักเพยิดหน้าเข้าไปข้างในห้องพร้อมออกคำสั่ง

"จัดการให้เรียบร้อยด้วย"

"ค่ะ"

พอสั่งให้คนเข้าไปจัดการเก็บห้องของอัลฟ่าเรียบร้อย ชิโนบุก็หันกลับมามองข้างหน้าเหมือนเดิม ตลอดทางเขายังคงจับแขนอีกฝ่ายไว้เพราะไม่มั่นใจว่าเจ้าตัวจะเป็นอะไรอีกหรือเปล่า เกิดจู่ ๆ เป็นลมล้มไปจะได้ดึงไว้ทัน

"ว่าแต่แบล็กไปไหนล่ะ ไม่เห็นเลย"

หลังจากเดินมาได้สักพักอัลฟ่าก็ถามขึ้น เพราะตั้งแต่ออกจากห้องมาก็ยังไม่เจอแบล็กเลย ซึ่งปกติตอนเช้า ๆ แบบนี้จะต้องเห็นเจ้าตัวมาหาเรื่องกวนโมโหชิโนบุสัก 2-3 รอบไปแล้ว

"ไปธุระ เดี๋ยวก็กลับ"

คำตอบที่ได้รับทำให้คนถามพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะเผลอนึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้ง แม้มันจะทำให้ตกใจจนต้องล้มป่วยอย่างที่เป็นอยู่นี้ แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าฝีมือของแบล็กดีมาก และน่าทึ่งมาก ๆ เลยด้วย

"แบล็กเนี่ย เก่งมากเลยเนาะ"

"อือ"

"หมอนั่นใช้แค่มือเปล่าฉีกแขนขาของปีศาจแบบนั้นได้ยังไงกัน..."

ประโยคนั้นทำให้ชิโนบุเหลือบตาไปมองนิด ๆ โดยไม่ตอบอะไร ก่อนที่ริมฝีปากจะเริ่มเบะลงอย่างหมั่นไส้กับความสามารถสารพัดอย่างของคนที่ถูกพูดถึง ซึ่งต่อไปในอนาคตอัลฟ่าเองก็คงจะเป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน

น่าหมั่นไส้จริง ๆ

"...เก่งอย่างกับไม่ใช่คนเลย"

ก็ไม่ใช่คนน่ะสิ และน่าจะรวมถึงนายด้วยนั่นแหละ!

tbc...