- นูราริเฮียง -
"ชิโนบุ แบล็ก มาอยู่ด้วยกันไหม"
คำชวนที่ได้รับทำให้เจ้าของชื่อทั้งสองคนที่กำลังกวาดมองไปรอบห้อง เลื่อนสายตากลับมายังเจ้าของเสียงในทันที แบล็กส่งยิ้มไปให้บาง ๆ ขณะที่ชิโนบุกระพริบตาปริบ ๆ อยู่ 2-3 ครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะตอบกลับไปโดยไม่จำเป็นต้องหันมาปรึกษากันเลยแม้แต่น้อย
"อือ"
"เอาสิ พวกฉันอยู่ด้วย"
คำตอบรับที่ได้มาจากชิโนบุและแบล็กทำให้คิระชิมะส่งยิ้มกว้างจนตาหยีกลับไป ก่อนจะหันไปสะกิดเพื่อนข้าง ๆ แล้วพากันลุกมาหาแบล็กและชิโนบุทันที
เด็กหนุ่มสี่คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ที่หลังห้องตรงโต๊ะของแบล็กและชิโนบุ ในขณะที่ภายในห้องก็ยังคงเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงพูดคุยชักชวนเข้ากลุ่มของนักเรียนคนอื่น เนื่องจากวิชานี้อาจารย์สั่งให้จับกลุ่มกันสี่คนเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมาย ดวงตาสี่คู่หันมองกันไปมาก่อนที่ต่างคนจะส่งยิ้มให้กันอย่างโล่งใจ เพราะพวกเขาทั้งหมดก็ถือว่าค่อนข้างคุ้นเคยกันดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการทำงาน
แน่นอนว่าแบล็ก ชิโนบุ และคิระชิมะ สามคนนี้เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ส่วนสมาชิกอีกคนในกลุ่มอย่างฮารุอิ นี่ก็ถือเป็นเพื่อนร่วมห้อง 1 ใน 4 คน ที่ชิโนบุคุยด้วยมากที่สุด แถมเจ้าตัวยังเป็นเพื่อนสนิทกับคิระชิมะด้วย
"งานนี้ส่วนใหญ่ต้องทำด้วยกัน แบ่งไปทำแยกไม่ได้ด้วยสิ"
คำพูดของฮารุอิทำให้อีกสามคนที่เหลือพยักหน้ารับ ก่อนจะพากันหันไปมองหน้าคิระชิมะที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังเคาะปากกาเล่นกับโต๊ะเบา ๆ
"ก็คงต้องรวมตัวกันทำตอนวันหยุดล่ะนะ เพราะมันต้องส่งสัปดาห์หน้า"
"งั้นเอาเป็นบ้านฉันไหม อยู่ระหว่างบ้านพวกนายสามคนพอดีเลยด้วย"
ข้อเสนอของฮารุอิได้รับการเห็นด้วยจากอีกสามคนอย่างไม่มีข้อคัดค้านใด ๆ ก่อนที่คิระชิมะจะเป็นคนสรุปเป็นครั้งสุดท้าย แล้วแยกย้ายกันกลับเข้าที่เพื่อเตรียมตัวสำหรับวิชาต่อไป
"งั้นเอาเป็นว่า เสาร์นี้พวกเราไปบ้านของฮารุกัน"
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
"สวัสดี"
คำทักทายจากคนที่เพิ่งเคยได้คุยกันเป็นครั้งแรกทำให้ฮารุอิชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาทั้งสองข้างกระพริบปริบ ขณะมองคนตรงหน้าสลับกับอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความแปลกใจ
"โทษทีนะที่ฉันต้องติดสอยห้อยตามมาด้วย"
ประโยคที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้คราวนี้ฮารุอิที่กำลังมึนงงได้สติกลับมาครบถ้วนสมบูรณ์สักที เจ้าตัวเลยรีบเปิดประตูบ้านให้กว้างขึ้นแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"ไม่เป็นไร ๆ เข้ามากันได้เลย โทษทีที่เมื่อกี้ฉันเงียบใส่ ฉันแค่ตกใจเพราะเพิ่งเคยคุยกับนายเป็นครั้งแรกน่ะ"
อันที่จริงฮารุอิก็เคยเห็นอัลฟ่าอยู่บ่อย ๆ เวลาเจ้าตัวมารอแบล็กกับชิโนบุที่หน้าห้อง แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยด้วยก็เลยออกจะทำตัวไม่ถูกไปสักนิด เพราะที่ผ่านมาเราจะทำเพียงส่งยิ้มทักทายเวลาเห็นหน้ากันเฉย ๆ
"ไคมาถึงก่อนพวกนายสักพักแล้วล่ะ"
ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้ทั้งสามพยักหน้ารับเบา ๆ อัลฟ่าที่ได้เข้ามาเป็นคนแรกหยุดรอชิโนบุและแบล็กเพื่อจะเดินไปพร้อมกัน โดยที่ระหว่างนั้นก็กวาดตามองภายในอาณาเขตบ้านของตระกูลฮารุอิ ที่ไม่ได้กว้างขวางเท่ากับบ้านของอาคาวะหรือคิระชิมะ แต่ก็ถือได้ว่าใหญ่โตพอสมควร
ทางด้านชิโนบุที่เดินพ้นประตูมาแล้วก็กำลังจะเดินตามฮารุอิเข้าไปข้างในเหมือนกัน แต่แล้วก็ต้องชะงักแล้วตวัดตาไปมองเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสะกิดเบา ๆ จากแบล็กที่ตามมายืนอยู่ข้าง ๆ
แม้จะไม่มีคำพูดใด แต่เพียงแค่เห็นสายตาที่ส่งมาชิโนบุก็เข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าตัวคงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง หัวคิ้วเหนือดวงตาคู่สวยขมวดเข้าเล็กน้อย เพราะไม่คาดคิดว่าแค่การมาทำงานบ้านเพื่อน จะทำให้บังเอิญเจอกับเรื่องพวกนี้เข้าอย่างไม่ตั้งใจ
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ ก่อนเจ้าตัวจะหันไปหาอัลฟ่าเพื่อส่งสัญญาณให้รู้กัน แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังมองขึ้นไปที่หน้าต่างบานหนึ่งด้วยสีหน้าแปลก ๆ
"อัลฟ่า?"
ชิโนบุอาศัยจังหวะที่ฮารุอิเดินนำไปโดยไม่หันมามองข้างหลัง สะกิดเรียกเจ้าตัวแล้วถามขึ้นเบา ๆ
"มีอะไรหรือเปล่า"
"ฉันรู้สึกแปลก ๆ กับตรงนั้น"
พูดจบก็พยักเพยิดหน้าไปทางหน้าต่างบานนั้นพร้อมทั้งขมวดคิ้ว ในขณะที่ชิโนบุเองก็เลื่อนสายตาตามไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไร แตกต่างจากแบล็กที่ขยับเข้ามาใกล้ทั้งคู่แล้วพูดขึ้นมาเบา ๆ ให้ได้ยินกันเพียงสามคน
"นั่นน่ะ ที่เดียวกับที่ฉันรู้สึกเลย"
คำพูดของแบล็กทำให้ชิโนบุยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น ดวงตาเหลือบไปมองทางหน้าต่างบานนั้นอีกครั้งอย่างตั้งใจ ก่อนจะไหวตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของอะไรบางอย่างที่บางเบามากจนแทบจะไม่รู้สึก
"อะไรกันล่ะนั่น"
"ไม่รู้สิ"
"ว่าแต่นายไปรู้สึกเหมือนกันกับแบล็กได้ยังไงล่ะเนี่ย"
"อันนี้ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน"
"สัญชาตญาณเหมือนกันล่ะมั้ง"
คำตอบของแบล็กที่ดังแทรกบทสนทนาขึ้นมา ทำให้ชิโนบุเบะปากลงเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ตามฮารุอิไป เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทิ้งห่างไปพอสมควรแล้ว
โดยที่...
ก่อนไปก็ไม่ลืมทิ้งท้ายไว้ให้อีกสองหนุ่มพากันหลุดขำออกมาเบา ๆ
"เกลียดสัญชาตญาณของพวกนายจริง ๆ"
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
"โอ้ยยยยย...ฉันไม่ไหวแล้ว"
เสียงร้องโหยหวนของคิระชิมะทำให้อีกสามคนที่เหลือเองก็พากันปล่อยมือออกจากงานที่กำลังทำเหมือนกัน เด็กหนุ่มสี่คนทิ้งตัวลงนอนแผ่หลากับพื้นอย่างหมดสภาพ โดยที่รอบตัวของแต่ละคนก็มีกองกระดาษและอุปกรณ์ต่าง ๆ กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด
ตั้งแต่มาถึงบ้านของฮารุอิ ทั้งสี่คนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างจริงจัง จนนี่ผ่านมาครึ่งค่อนวันแล้วถึงเพิ่งจะหยุดพัก ก็เลยทำให้ล้ากันไปหมดแบบนี้
ซึ่งระหว่างนั้น ก็จะมีอัลฟ่าค่อยเข้ามาช่วยบ้างเป็นบางครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามันก็จะไม่ได้ทำให้งานมากมายมหาศาลนี่ลดลงไปสักเท่าไร
"มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหม"
เห็นแต่ละคนนอนแผ่จนหมดสภาพไม่เว้นแม้แต่แบล็กและชิโนบุ อัลฟ่าก็วางหนังสือการ์ตูนที่ยืมของฮารุอิมาอ่านฆ่าเวลาลง ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ชิโนบุแล้วใช้นิ้วจิ้มแก้มเจ้าตัวเบา ๆ ซึ่งคนโดนจิ้มแก้มก็ทำเพียงถอนหายใจออกมาอย่างหมดแรงเท่านั้น ทั้งที่ถ้าเป็นเวลาปกติคงมองตาขวางกลับมาแล้ว
"ไม่เป็นไร นายช่วยพวกเรามาเยอะแล้ว"
ตอบไปฮารุอิก็ยืดแขน ยืดขาเพราะความปวดเมื่อยไป ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นมานั่งบิดตัวอีกทีแล้วลุกขึ้นยืน
"เดี๋ยวฉันไปหาเสบียงมาเพิ่มพลังให้นะ"
"งั้นฉันไปเป็นเพื่อนแล้วกัน"
คำอาสาของอัลฟ่าได้รับการพยักหน้าตอบกลับมาจากฮารุอิ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากห้องเพื่อลงไปหาเสบียงในครัวที่ชั้นล่างด้วยกัน
ใช้เวลาไม่นานในอ้อมแขนของทั้งสองคนก็เต็มไปด้วยขนมที่คุณนายฮารุอิผู้ใจดีให้มา ซึ่งตอนแรกมันจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ด้วยซ้ำ จนเด็กสองคนต้องช่วยกันบอกให้พอก่อนแล้วรีบขอตัวออกมาจากในครัวทันที
ระหว่างที่กำลังจะเดินกลับห้องกันนั้น จู่ ๆ ก็มีใครบางคนเดินสวนมาให้ทั้งคู่ต้องหยุดฝีเท้าของตัวเองไว้
"อ้าวปู่ จะไปไหนล่ะครับ"
ฮารุอิเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าปู่ของตัวเองกำลังจะเดินสวนไป ในขณะที่อัลฟ่าเองก็ส่งยิ้มไปให้พร้อมกับ...ความสงสัยที่ผุดขึ้นมา
เขาจำได้ว่าตอนมาถึงก็ได้เจอกับคุณปู่ของฮารุอิไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นมันไม่เหมือนกันกับตอนนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่แปลกไป แต่ว่า...
แปลก...แปลกไปจริง ๆ
ยิ่งคิดได้แบบนั้นหัวคิ้วของอัลฟ่าก็ยิ่งขมวดเข้า ซึ่งท่าทางนั้นคงไปเข้าตาคุณปู่ของฮารุอิพอดี ท่านจึงหันมาส่งยิ้มให้...
เป็นยิ้มที่ทำให้อัลฟ่ายิ่งมั่นใจว่ามีบางอย่างผิดปกติ
"ปู่ว่าจะไปเดินเล่นในสวนสักหน่อย"
"งั้นเดินดี ๆ นะปู่"
เสียงหัวเราะที่ดังไล่หลังมาทำให้อัลฟ่ายิ่งมั่นใจว่านั่นไม่ใช่คุณปู่ของฮารุอิ...ไม่ใช่อย่างแน่นอน
"งั้นเราเองก็รีบกลับห้องกันเถอะ"
คำชวนนั้นทำให้อัลฟ่าพยักหน้ารับแล้วรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เพราะตอนนี้เขาเองก็อยากเอาเรื่องนี้ไปคุยกับแบล็กและชิโนบุมาก ๆ เหมือนกัน
๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐
"อ๋อ ฉันรู้แล้วล่ะ"
"รู้แล้ว?"
"อืม เห็นตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว"
คำตอบของแบล็กทำให้อัลฟ่าได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
อาการตื่นตระหนกก่อนหน้านี้มลายหายไปจนหมด เหลือไว้แต่ความเฟลเล็ก ๆ ให้ได้แต่แอบถอนหายใจ แล้วกระซิบถามกลับไปเสียงเบา เมื่อเห็นว่าฮารุอิ คิระชิมะ และชิโนบุก็กำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ แม้สามคนนั้นจะไม่ได้หันมาสนใจพวกเขาแต่ระวังตัวไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะพื้นที่ภายในห้องมีจำกัด พวกเขาทั้งสองกลุ่มจึงนั่งอยู่ไม่ไกลกันมาก
"งั้นพวกเราก็ไม่ต้องทำอะไรใช่ไหม"
"อืม ไม่ต้องทำอะไรหรอก พวกนูราริเฮียงน่ะ เดี๋ยวเบื่อเมื่อไรก็ออกไปเอง"
สีหน้างง ๆ ของอัลฟ่าเพราะได้ยินชื่อที่ไม่รู้จักทำให้แบล็กหลุดขำออกมาเบา ๆ ก่อนจะตักขนมในมือเข้าปากแล้วพูดขึ้นพร้อมกับใช้ช้อนชี้ไปทางอัลฟ่าด้วย
"หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เทพอาคันตุกะ"
"เทพอาคันตุกะ?"
"ใช่ เขามักจะแวะไปตามบ้านของผู้คน อาจจะมีแอบขโมยของกินบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่เป็นอันตรายหรอก"
พอได้ยินแบบนั้นอัลฟ่าก็พยักหน้ารับเบา ๆ อย่างเข้าใจ ก่อนจะไพล่ถามต่อไปถึงเรื่องที่ตัวเองได้เจอมาด้วยความสงสัย
"แล้วที่ฉันเห็นเขาเป็นคุณปู่นั่นล่ะ"
"นั่นคือภาพมายาไว้แปลงเป็นคนในบ้าน เพื่อที่เวลาแอบหยิบอะไรแล้วใครมาเจอเข้าจะได้ไม่สงสัยไง"
"อ๋อ"
"ก็อย่างที่ฉันบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง นูราริเฮียงอาจขโมยของกินบ้างแต่ไม่ทำร้ายมนุษย์"
อัลฟ่าพยักหน้ารับอีกครั้งก่อนจะงับเอาขนมที่แบล็กตักมาป้อนให้เข้าปากไป เจ้าตัวเคี้ยว ๆ อยู่อีก 2-3 ทีก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายลง
"งั้นสรุปว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ กับบ้านหลังนี้ก็คือนูราริเฮียงเองสินะ"
"สัญชาตญาณดีนะ แต่คงต้องลับให้คมอีกหน่อยแหะ"
ถ้อยคำที่สวนกลับมาเหมือนไม่ได้กำลังคุยเรื่องเดียวกัน ทำให้อัลฟ่าได้แต่เลิกคิ้วขึ้นอย่างงง ๆ ซึ่งแบล็กเองก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากตักขนมอีกคำเข้าปาก แล้วพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
ที่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ามันแฝงไว้ด้วยความภูมิใจนิด ๆ
"สัญชาตญาณนายถือว่าใช้ได้แล้ว ที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติในบ้านนี้ แต่ว่ามันยังแยกแยะได้ไม่ดีพอเท่านั้นเอง"
"หมายถึงอะไร"
"ลองนึกดูดี ๆ สิว่าคุณปู่นูราริเฮียงที่นายเจอกับสิ่งที่ทำให้นายรู้สึกแปลก ๆ มันเป็นกลิ่นอายเดียวกันไหม"
คำถามนั้นทำให้อัลฟ่าเริ่มมุ่นหัวคิ้วเข้านิด ๆ เมื่อลองนึกย้อนไปแล้วรู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนกัน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไรกลับไปก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้ความเย็นแล่นพล่านไปตามไขสันหลังจนขนคอลุกชัน ในขณะที่แบล็กก็สะบัดหน้าฉับไปยังทิศทางหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
"สิ่งที่ทำให้นายรู้สึกแปลก ๆ พร้อมฉันเมื่อเช้าน่ะ...เจ้านั่นต่างหาก"
สิ้นคำนั้นแบล็กก็ลุกพรวดขึ้นจนอีกสามคนที่คุยกันอยู่หันมามองเป็นตาเดียว อัลฟ่าเห็นว่าคิระชิมะและฮารุอิมองมาด้วยความแปลกใจ ในขณะที่ชิโนบุกลับมีท่าทีสงบนิ่งเหมือนกับรู้อยู่แล้ว
ซึ่งพอสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นว่าในมือของเจ้าตัวที่เท้าพื้นอยู่ มีชิคิงามิเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงชิโนบุยกปลายนิ้วขึ้นเล็กน้อย มันก็หลุดออกจากมือของเจ้าตัว แล้วค่อย ๆ ขยับตัวคืบคลานเข้าปกคลุมไปตามส่วนต่าง ๆ ของห้องโดยที่คิระชิมะและฮารุอิไม่รู้ตัว
และก่อนที่มันจะขยายตัวมาถึงประตู แบล็กก็หันไปพูดกับทั้งสามคนด้วยรอยยิ้มทะเล้นเหมือนเดิม
"เดี๋ยวฉันกลับอัลฟ่าขอไปโทรศัพท์แป๊บนะ"
พูดจบเจ้าตัวก็หันมาพยักหน้าให้อัลฟ่าเบา ๆ เป็นเชิงเรียก ซึ่งคนโดนเรียกก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตามออกไปทันทีแม้ยังไม่เข้าใจอะไรเลยก็ตาม
ครืด!
ทันทีที่ประตูปิดลง อัลฟ่าก็เห็นว่าชิคิงามิของชิโนบุขยายตัวมาถึงประตู แล้วครอบคลุมทั้งห้องนั้นไว้จนหมดพอดี
"ดีนะที่พานายออกมาทัน"
"หา?"
"ก็ตอนเปิดปิดประตู ขืนเผลอไปทำชิคิงามิของโนบุจังขาดจนต้องเริ่มใหม่ มีหวังกลับไปได้โดนบ่นจนหูชากันแน่ ๆ"
แม้คำพูดนั้นจะเคล้ามาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะเหมือนอย่างปกติ หากแต่บรรยากาศที่แผ่ออกมากลับทำให้อัลฟ่ารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนไป...นี่ไม่ใช่แบล็กคนเดิม
"ไปกันเถอะ"
"แล้วชิโนบุล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ"
แม้จะรู้สึกได้ถึงความแปลกไปของแบล็ก แต่อัลฟ่าก็อดถามถึงใครอีกคนที่ยังอยู่ในห้องกับคิระชิมะและฮารุอิไม่ได้
"ไม่มาหรอก โนบุจังต้องอยู่ดูความเรียบร้อยที่นี่ไม่ให้มีอะไรมายุ่งกับคนในบ้าน"
ได้ยินแบบนั้นอัลฟ่าก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าแบล็กหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับกลิ่นอายแปลกประหลาดรอบตัวที่ดูจะเบาบางลงทุกครั้งเมื่อพูดถึงชิโนบุ
"ที่สำคัญเจ้านี่เป็นพวกยุ่งยากทำให้จัดการค่อนข้างลำบาก โนบุจังก็เลยต้องยอมให้ใช้วิธีของฉัน"
"วิธีของนาย?"
"ใช่"
สิ้นคำยืนยันนั้น อัลฟ่าไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า แต่เขาสังเกตเห็นไอดำจาง ๆ แผ่กระจายออกมาจากทั่วทั้งตัวของแบล็ก และมันก็ทำให้กลิ่นอายแปลก ๆ ของเจ้าตัวกลับมาเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง
"โนบุจังไม่ค่อยชอบวิธีของฉันเท่าไร นี่เลยเป็นเหตุผลหลักที่เจ้าตัวไม่ตามมาด้วย เพราะว่า..."
พูดไปแบล็กก็อมยิ้มขำไป หากแต่ประกายในดวงตาคู่นั้นกลับดุดันจนอัลฟ่ายังเผลอผงะตัวถอยหลังไปอย่างตกใจ แบล็กในตอนนี้ไม่เหมือนเวลาปกติที่อยู่กับชิโนบุเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคู่นั้นวาวโรจน์ราวกับจะเรืองแสงได้ ดูน่ากลัว...
ราวกับไม่ใช่คน
อัลฟ่าเพิ่งเคยสัมผัสกับคำว่าจิตสังหารตรง ๆ เป็นครั้งแรก มันอึดอัดและกดดันจนรู้สึกได้เลยว่าเลือดในกายกำลังร้อนระอุไปหมด เหงื่อเย็น ๆ ซึมออกมาตามข้างขมับ ก่อนที่มันจะไหลลงถึงปลายคางเมื่อเห็นว่ามุมปากของคนตรงหน้ากำลังยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม...แสยะ
"...มันค่อนข้างจะ 'เลอะ' น่ะ"
tbc...