Chapter 11 - หมักสุรา

หมักสุรา

ยามเหม่า(05.00-06.59)

ทุกคนต่างตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนเอง

ถิงถิงและชิงชิงตื่นมาเตรียมวัตถุดิบให้เถียนเถียนทำอาหาร เช้านี้เถียนเถียนทำข้าวต้มหมูสับให้ทุกคนกินเป็นอาหารเช้า

เมื่อทุกคนมากินข้าวสาวๆก็ได้พบองค์รัชทายาท แต่สาวๆไม่รู้จักรัชทายาท

แต่เมื่อคุนหมิงแนะนำให้รู้จักในฐานะเพื่อนสนิท

"คาราวะคุณชาย" สาวๆคารวะจ้าวหนานกง

" ตามสบายเถิด พวกเจ้าทำอะไรกินหรือ" องค์รัชทายาทถามสาวๆ

" ข้าวต้มหมูเจ้าค่ะ"เถียนเถียนตอบ

" ใครเป็นคนทำหรือ" องค์รัชทายาทมองเถียนเถียนแววตาหวานเชื่อม

" เอ่อ....คุณหนูเป็นคนทำเจ้าค่ะ" ชิงชิงตอบ

ชิงชิงกับถิงถิงมองตากัน ก่อนจะจูงกันไปคุยกัน

" เจ้าว่าคุณชายท่านนั้นมองพี่สาวแปลกๆมั๊ยชิงชิง" ถิงถิงถามชิงชิง

" ใช่....แววตามีแววหวาน แบบจ้องจะจับกินอย่างไรก็ไม่รู้" ชิงชิงตอบ

" ข้าว่าเราต้องไปนอนในห้องกับพี่สาวแล้วล่ะ ชิงชิง"

" ทำไมหรือ"ชิงชิงสงสัย

" ก็ป้องกันชื่อเสียงพี่สาวอย่างไรเล่า" ถิงถิงไขข้อสงสัย

เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 ก็ไปเรียกเด็กๆมากินข้าว

ด้านองค์รัชทายาท เมื่อเจอเด็กๆก็พบว่ามีแต่เด็กผู้ชาย แม้ว่าจะมีเด็กผู้หญิงอยู่ด้วยก็เถอะ แต่ทำไมทุกคนถึงได้ผอมกันนัก

เด็กๆมากินข้าว สาวๆคอยดูแลเด็กๆ ซึ่งเถียนเถียนก็คอยดูแลเด็กๆด้วยทำให้องค์รัชทายาท อิจฉาพวกเด็กๆที่ที่มีนางในดวงใจของเขาดูแลพวกเขา แต่ไม่มาดูแลเขา

หลังกินข้าวเช้าเสร็จเถียนเถียนพาเด็กๆไปหาของป่า

หลังจากเสร็จจากมื้ออาหารเหล่าองครักษ์เงาได้แต่ถอนหายใจ เพราะองค์รัชทายาทนั่งหน้าบึ้งหน้างอ เพราะอิจฉาเด็กๆที่ ว่าที่พระชายาไปดูแล แต่พวกเขาก็ชื่นชม ว่าที่พระชายาของพวกตนมาก

" ข้าจะเอาคนนี้เท่านั้น พระชายาต้องเป็นคนนี้" องครักษ์เงา 1 พูด

" ใช่!!!! พวกข้าเห็นด้วย"องครักษ์เงาที่เหลือพูดขึ้นพร้อมกัน

ด้านองค์รัชทายาทเมื่อได้ฟังที่มาของเด็กๆก็ให้เศร้าใจนัก แต่ไม่เป็นไรเขาจะพาพวกเขาไปฝึกทหาร ส่วนน้องสาวของพวกเขานั้นเขาจะพาไปทำงานเป็นนางกำนัลในวังของตน เมื่อเถียนเถียนแต่งกับตนแล้ว

ด้านสาวๆพาเด็กๆเข้ามาในป่า เพื่อเรียนรู้ว่าอะไรกินได้อะไรกินไม่ได้ เดินมาไม่นาน จางเหม่ยเหมยก็เห็นต้นไม้ออกลูกเต็มต้นจึงชี้มือให้ทุกคนดู

" นั่นมัน!!!! หมางกั่ว(มะม่วง) มีตั้ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 " เถียนเถียนนับต้นหมางกั่ว" 10 ต้น ดีเลยเด็กๆช่วยกันเก็บเร็วเข้า"

" มันกินได้หรือเถียนเอ๋อ" องค์รัชทายาทถาม

" กินได้เจ้าค่ะ หวานอร่อยมากเลยเจ้าค่ะ" เถียนเถียนตอบยิ้มๆ

องค์รัชทายาทได้แต่มองรอยยิ้มของเถียนเถียนอย่างโง่งม

ถิงถิงที่เห็นบุรุษผู้นี้เข้าใกล้พี่สาวก็ไม่พอใจจึงเดินเข้าไปชวนพี่สาว

" พี่สาวไปช่วยเด็กๆเก็บหมางกั่ว กันดีกว่าเจ้าค่ะ"

" อืมม....ไปซิ" เถียนเถียนตกลง

ด้านคุนหมิงกำลังกลั้นเสียงหัวเราะอย่างสุดความสามารถ ที่เห็นสหายโดนถิงถิงขัดขวางพลางคิดว่าตนได้แนวร่วมแกล้ง เจ้าสหายหน้าด้านหน้าทนนี่แล้ว ยิ่งเห็นถิงถิงกับชิงชิงกระซิบกระซาบพลางหัวเราะแล้ว   ' โอ้!!!! ข้าได้แนวร่วมอีก 1 หึ หึ หึ เจ้าเสร็จข้าล่ะเจ้าสหายหน้าตาย ' พลางอมยิ้มอย่างมีชัย

ฝ่ายคนที่โดนหมายหัวยังคงไม่รู้ตัวได้แต่เดินตามเถียนเถียนต้อยๆคอยถามโน่นถามนี่ไม่หยุด จนทุกคนกรอกตามองบนด้วยความหน่ายใจ

" หมางกั่ว ทำอันใดได้บ้างขอรับพี่สาว" จางหย่งชุนถามเถียนเถียน

" ก็ ทำหมางกั่วแผ่น แยม สำหรับหมางกั่วสุกนะ ถ้าเป็นหมางกั่วดิบก็เอาไปดอง เอาไปแช่อิ่มนี่ล่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะ" เถียนเถียนไขข้อข้องใจให้เด็กน้อย

องค์รัชทายาทเมื่อเห็นนางในดวงใจพูดกับเด็กชายก็ไม่พอใจ มองเด็กน้อยเขม็ง จนเด็กน้อยขมวดคิ้ว พอเถียนเถียนเดินไปช่วยคนอื่นๆเก็บหมางกั่วแล้วจึงถามคนตัวโตกว่า

" พี่ชายท่านมองข้าเช่นนี้มีอะไรหรือ"

" ข้าไม่ชอบที่มีบุรุษมาคุยกับนาง" องค์รัชทายาทบอกออกไปตรงๆ

เด็กชายขมวดคิ้ว จ้องอย่างสงสัยก่อนถามไปว่า

" พี่ชาย ท่านจิตไม่ปกติ ใช่หรือไม่"

คำถามนี้ทำเอาองครักษ์เงา สะดุ้ง

องค์รัชทายาทเลิกคิ้ว

" เจ้าหมายความว่าอย่างไร"

" ท่านชอบนางใช่หรือไม่" เด็กชายถามกลับ

องค์รัชทายาทอึ้งกับคำถามของเด็กน้อย ก่อนตอบออกไป

" ไม่...." องค์รัชทายาทบอกปัดทำให้คุนหมิงได้ยิน เริ่มไม่พอใจ

" ข้าไม่ได้ชอบนาง.....แต่ข้ารักนาง" องค์รัชทายาทตอบอย่างหนักแน่น

คำตอบขององค์รัชทายาททำให้ทุกคนพอใจในคำตอบ

" แล้วท่านไม่พอใจอันใดข้า หรือท่านคิดว่าข้าจะแย่งชิงนางกับท่าน งั้นหรือ"

"...." ทุกคนเงียบกริบ

" เฮอะ.....บ้าบอ นางอายุมากกว่าข้าและนางมีบุญคุณกับข้าและน้องๆข้าก็ต้องเรียนรู้งานจากนางเพื่อช่วยงานนางซิ" เด็กน้อยแค่นเสียง" ประสาท"

ทุกคนกลั้นเสียงหัวเราะอย่างสุดกลั้น

องค์รัชทายาท อ้าปากค้างกับคำตำหนิของเจ้าเด็กน้อย

" เจ้าหนูนี่ ฝีปากไม่เบา" องครักษ์เงา 1 พูดขึ้น

ทุกคนก็เห็นด้วย

เด็กน้อยเดินไปไกลแล้ว องค์รัชทายาทถึงรู้สึกตัว

" เจ้าเด็กนี่ร้ายไม่เบา" องค์รัชทายาทเอ่ยยิ้มๆ รู้สึกอายตัวเองเหลือทนหึงได้แม้กระทั่งเด็ก

ด้านหวงหลงที่แอบฟังอยู่ ก็พอใจในคำพูดของเด็กน้อย

ตัดมาที่เถียนเถียนกับพวกเด็กๆ เมื่อเก็บหมางกั่วหมดแล้วจึงให้ทหารยกไปเก็บไว้ที่กระท่อม นางจึงชวนเด็กๆเดินต่อไปจนถึงจุดที่พวกนางเก็บเฉาเหม่ยเมื่อวานนี้ก็พบว่าบางลูกนั้นสุกแล้วจึงช่วยกันเก็บ โดยเฉพาะเด็กๆรีบเก็บทันทีที่ได้ลิ้มลองรสชาติของมันว่าเป็นอย่างไร

เมื่อเดินมาจนถึงบริเวณน้ำตกทุกคนพบกับต้นเถาจึ(ลูกท้อ)และต้นเหมย(บ๊วย)เถียนเถียนจึงให้ทุกคนเก็บให้หมดถัดมาอีกราวๆ 3 วา ก็พบกับผูเถาป่า(องุ่นป่า)ทำให้เถียนเถียนนึกอยากทำเหล้าขึ้นมาทันที จึงให้เด็กๆชิมรสชาติ ซึ่งเด็กๆก็ชอบมาก จึงช่วยกันเก็บจนหมด

ซึ่งเถียนเถียนก็แอบขุดเอาต้นอ่อนของแต่ละต้นเข้าไปปลูกในมิติด้วย วันนี้นางให้หวงหลงออกมาช่วยงานโดยให้ไปหาดูว่ามีสิ่งใดที่ช่วยทำเงินให้ได้บ้าง ถึงแม้ว่านางจะมีเงินทองอยู่มากมาย แต่ใช่ว่ามันจะไม่หมด ถ้าเอาแต่ใช้ไม่หาเพิ่มมันก็หมดได้เช่นกัน

ทางด้านจางหลิ่งหยู เมื่อได้พบหน้าและได้เห็นสิ่งที่ว่าที่พี่สะใภ้ทำอยู่ก็ถูกใจมากยิ่งได้ทำความรู้จัก ยิ่งอยากได้

" พี่ชาย ท่านต้องเอานางมาเป็นพี่สะใภ้ข้าให้ได้นะเจ้าคะ" จางหลิ่งหยูเอ่ยกับคนเป็นพี่" และต้องมีนางคนเดียวเท่านั้น"

" แน่นอนอยู่แล้วน้องรัก และเจ้าจะได้อุ้มหลานจากนางเท่านั้น"องค์รัชทายาทให้คำมั่น

" ข้าไปช่วยเด็กๆก่อนนะเจ้าคะ" จางหลิ่งหยูพูดจบก็วิ่งเข้าไปหาเด็กๆทันที

องค์รัชทายาทเห็นดังนั้นก็ส่ายหน้า

" นี่ข้าตามใจนางมากเกินไปหรือไม่นะ นางถึงได้แก่นแก้วถึงเพียงนี้"

เมื่อเก็บผลไม้หมดพวกเขาก็เดินต่อไปอีกราวๆ 1 ชั่วยาม ก็พบต้นผิงกั่วป่า(แอปเปิ้ลป่า)ทุกคนก็เก็บเอาจนหมด ซึ่งเถียนเถียนก็ไม่พลาดที่จะเก็บเอาต้นอ่อนเข้าไปปลูกในมิติ

จางหลิ่งหยูที่เห็นว่าที่พี่สะใภ้เก็บต้นไม้เข้าไปในมิติโดยบังเอิญ ก็ตกตะลึง แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบเข้าไปหาเพื่อช่วยงานว่าที่พี่สะใภ้

" พี่สาว ท่านมีมิติ" จางหลิ่งหยูกระซิบเบาๆ

เถียนเถียนตกใจ

" ไม่ต้องกลัวข้าไม่บอกใครหรอกเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าช่วย"

" อย่างไรหรือ" เถียนเถียนสงสัย

" ก็เวลาพี่สาวจะเก็บของเข้ามิติข้าจะช่วยบังและดูต้นทางให้อย่างไรเล่าเจ้าคะ"

เมื่อได้ยินดังนั้นเถียนเถียน ก็ยิ้มออกมา

" ขอบใจเจ้า"

" มิเป็นไรค่ะ แค่ได้กินอาหารอร่อยๆฝีมือพี่สาว หยูเอ๋อก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ" จางหลิ่งหยูส่งยิ้มไร้เดียงสาให้เถียนเถียน

เถียนเถียนเอ็นดูเด็กสาวตรงหน้า

เดินมาอีกนิดทุกคนก็เจอเข้ากับต้นฝ้ายที่มีใยสีขาวๆ ให้เก็บได้แล้วทุกคนจึงช่วยกันเก็บตามที่เถียนเถียนสั่ง

ยามโหยว(17.00-18.59) ทุกคนกลับมาถึงกระท่อม ทุกคนช่วยกันล้างทุกอย่างที่ได้มาให้สะอาด แล้วผึ่งเอาไว้

" พี่ใหญ่เจ้าคะ" เถียนเถียนเอ่ยเรียกพี่ชาย

" ว่าอย่างไรหรือเถียนเถียน"

" ให้ทหารมาช่วยงานน้องซัก 2-3 คน หน่อยซิเจ้าคะ"

เจ้าจักทำอันใดรึ"

" น้องจะหมักสุราเจ้าค่ะ"

" หืมม....หมักสุรา" คุนหมิงสงสัย" แล้วน้องมีเหล้าแล้วหรือ"

" น้องมีครบทุกอย่างแล้วเจ้าค่ะ"

เย็นนั้นเถียนเถียนจะกวนแยมให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปหมักสุรา

นางชวนทุกคนกวนแยมเฉาเหม่ยก่อน แล้วค่อยกวนอย่างอื่นต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรองค์รัชทายาทก็ตามติดนางเป็นเงาตามตัว

" ทุกคนผ่าเฉาเหม่ยออกเป็น 2 ส่วนก่อนนะเจ้าคะ"

ไม่ว่านางจะสั่งให้ทำอะไรทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

เมื่อผ่าผลเฉาเหม่ยเสร็จแล้วนางก็ให้ทุกคนทำผูเถาต่อทันที

" ผ่าเอาเมล็ดผูเถาออกมาก่อนนะเจ้าคะ อย่าเอาเมล็ดไปทิ้งนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะเอาไปเพาะต่อเจ้าค่ะ"

เมื่อเสร็จจากผูเถา ทุกคนก็หันไปปอกเปลือกผิงกั่วกันต่อหั่นและสับเล็กน้อย

เถียนเถียนสั่งให้กวนผลไม้ทุกอย่างพร้อมกัน เนื่องจากมีหม้ออยู่ถึง 3 ใบ

แม้แต่องค์รัชทายาทก็โดนใช้ให้กวนแยม องครักษ์เงาได้แต่อ้าปากค้างตกตะลึง เมื่อได้เห็นองค์รัชทายาททำตามที่ว่าที่พระชายาสั่งทุกประการ

คุนหมิงเหลือบสายตามองสหายหน้ามึนของตนอย่างขบขัน

' หึ หึ หึ สมน้ำหน้านักโดนน้องสาวข้าแกล้งซะ '

เมื่อกวนเสร็จทุกคนก็ได้ลิ้มลองแยมทั้ง 3 ชนิด

" เถียนเอ๋อ พี่ถูกใจแยมเฉาเหม่ยกับแยมผูเถาของเจ้สนักแล้วยังมีแยมผิงกั่วอีก เจ้าช่างทำได้เลิศรสนัก" องค์รัชทายาทชมออกมาจากใจ มองนางอย่างอ่อนโยน

" อร่อยมากเลยเจ้าค่ะ อร่อยทุกอย่างเลย" จางหลิ่งหยูเอ่ยชมพร้อมกับกินไปด้วยอย่างเอร็ดอร่อย

" อร่อยมากเลยขอรับ/เจ้าค่ะ" เสียงเด็กๆพูดขึ้นพร้อมกัน

องครักษ์เงาได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความอยากกิน แต่ก็ออกไปไม่ได้

หวงหลงที่นั่งกินแยมอยู่ก็รับรู้ว่าพวกเขาอยากกินจึงเอ่ยขึ้น

" ให้พวกเขาออกมากินด้วยดีกว่ามั๊ยขอรับ พี่ชาย"

" หืมม...ใครหรือ" องค์รัชทายาทถาม

" ก็...องครักษ์เงาของท่านอย่างไรเล่า ขอรับ"

องครักษ์เงาสะดุ้ง เมื่อถูกเด็กน้อยจับได้

องค์รัชทายาทอึ้ง

" เฮ้ออ.....ออกมาได้แล้ว" จบคำสั่งองครักษ์เงาจึงออกมาจากเงา

ทุกคนก็มองเด็กชายตัวน้อยอย่างอึ้งๆ ยกเว้นเถียนเถียน

ถิงถิงกับชิงชิงช่วยกันตักแยมให้เหล่าองครักษ์เงาได้ลิ้มลอง

เมื่อทุกคนกินเสร็จแล้วก็ได้เวลาหมักสุรา

เถียนเถียนเอาผลไม้เรียงใส่ไหสลับกับน้ำตาลกรวดให้เต็มแล้วเทเหล้าใส่ไหให้เต็ม ก่อนเอากระดาษปิดปากไหก่อนเอาผ้าปิดปากไห

" พี่สาว ทำไมท่านเอากระดาษปิดปากไห ก่อนปิดด้วยผ้าเล่าเจ้าคะ" ถิงถิงถาม

" ป้องกันน้ำลงไปสัมผัสกับเหล้าในไหอย่างไรเล่า" เถียนเถียนไขข้อสงสัย

" อ๋อ....เป็นเช่นนี้" ถิงถิงเข้าใจ

เมื่อเสร็จงานทุกอย่าง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

ยามเหม่า (05.00-06.59)

ทุกคนตื่นขึ้นมาทำงานกันแต่เช้า เพราะเถียนเถียนจะพาเด็กๆไปขายของ นางเอาแยมผลไม้และผลไม้ที่เหลือไปขาย ทุกคนช่วยกันขนของขึ้นรถม้า เมื่อเรียบร้อยทุกคนก็ออกเดินทาง เมื่อมาถึงประตูเมืองจ่ายค่าผ่านทางเสร็จ

คุนหมิงให้คนไปเช่าแผงขายของในตลาด เมื่อได้แผงแล้วก็ช่วยกันจัดร้านเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย หวงหลงก็เป็นคนเรียกลูกค้า

" พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา ทุกท่านวันนี้พวกเราเอาแยมรสเลิศและผลไม้อร่อยๆมาขาย ขอเชิญพวกท่านมาลิ้มลองก่อนตัดสินใจซื้อได้เลยขอรับ"

ทุกคนที่เห็นเด็กน้อยหน้าตาน่ารัก มาเรียกให้พวกตนลองกินแยม ทุกคนก็เอ็นดูเข้ามาลองชิมปรากฏว่าทุกคนแย่งกันซื้อ ทั้งแยมทั้งผลไม้เพราะมันอร่อยมากไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ขายหมด

นางจูซือซือ เมื่อได้ยินผู้คนในตลาดพูดกันว่าแยมและผลไม้อร่อยมากก็อยากได้ จึงเดินไปซื้อ แต่ก็ไม่ทัน แต่นางจูซือซือหันไปเห็นจางหย่งชุนอยู่ในกลุ่มที่เอาของมาขายก็โกรธเข้าไปทุบตีด่าทออย่างโกรธจัด

" ไอ้เด็กเหลือขอ แทนที่จะเอาไปให้พวกข้ากินดันเอามาขาย ไอ้เด็ก อกตัญญู"

" ปล่อยข้านะ" จางหย่งชุนตะคอกนางจูซือซือ

" ปล่อยเด็กเดี๋ยวนี้นะ" องค์รัชทายาทสั่งเสียงเย็นเยียบ

" ไม่เกี่ยวกับเจ้าอย่ามาแส่เรื่องของข้า" นางจูซือซือ ด่าโดยไม่ไว้หน้า

" เจ้าเป็นใครเหตุใดต้องตีเด็กด้วย" เถียนเถียนพูดขึ้นมา

" ข้าก็เป็นย่าของมันน่ะซิ" พูดจบก็จะตีเด็กน้อยอีกรอบ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีดาบมาพาดคอ

" เจ้ากล้าดีอย่างไรเอาดาบมาพาดคอข้า"

" ทำไมข้าจะไม่กล้า" องค์รัชทายาทเอ่ยเสียงเย็น

นางจูโกรธจนไม่สนว่าใครจะตำหนิหรือว่าอันใดทั้งนั้น

" หึ หลานชายข้าเป็นถึงนายอำเภอ เจ้ากล้าทำกับข้าเช่นนี้หรือ" นางจูแค่นเสียงเยาะเย้ย

" หึ นายอำเภองั้นรึ" องค์รัชทายาทแค่นเสียง" ไปหาหลานของเจ้ากับข้าตอนนี้"

นางจูโดนทหารมาควบคุมตัวต่อจากองค์รัชทายาท

ฝ่ายนายอำเภอเมื่อมีทหารมาแจ้งว่าย่าของตนโดนจับกำลังจะมาที่ว่าการอำเภอ

ฝ่ายชาวบ้านที่อยากรู้ว่านางจูจะโดนอะไรบ้างก็พากันตามมาเป็นขบวน

เมื่อถึงที่ว่าการทหารสั่งให้นางจูคุกเข่า แต่นางจูไม่ยอมทำตามจึงโดนเตะให้คุกเข่า นางจูโวยวายจะเอาเรื่อง

" เจ้าเป็นทหารประสาอะไรไปฟังคำสั่งใครก็ไม่รู้ ข้าเป็นถึงท่านย่าของนายอำเภอเชียวนะ"

" ท่านย่า" เมื่อได้ฟังผู้เป็นย่าพูดเช่นนั้นก็อึ้ง

" ว่าอย่างไรนายอำเภอเจ้าจะลงโทษย่าของเจ้าหรือไม่" องค์รัชทายาทถาม

" แล้วจะให้ข้าลงโทษนางด้วยข้อหาอะไรเล่า" นายอำเภอโกรธเมื่อได้ฟัง

" ก็ข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างไรเล่า" คุนหมิงตอบ

" ท่านย่าของข้าทำร้ายผู้ใด" นายอำเภอถามกลับ

" ก็เด็กคนนี้อย่างไรเล่า" เถียนเถียนจูงเด็กชายออกมา

นายอำเภออึ้ง พูดอะไรไม่ออก

" ย่าไม่ผิดนะ อาหยวน" นางจูพูดหน้าตาย

" เฮอะ  พยานมีมากมายเต็มตลาดเจ้ายังหน้าด้านบอกว่าตนเองไม่ผิดอีกรึนางจู" องค์รัชทายาทเอ่ยด้วยความสมเพช

" ไม่จริง เจ้าอย่าไปเชื่อมัน"

" รีบตัดสินซะ" องค์รัชทายาทเอ่ยอย่างรำคาญ

" เจ้าไม่ต้องมาสอนข้า" นายอำเภอตวาด

" หึ  เจ้าไม่ตัดสินใช่มั๊ย ดี" องค์รัชทายาทพูด" ดีมาก เป็นนายอำเภอแต่ปล่อยให้คนในบ้านมารังแกผู้อื่น เจ้าก็ไม่สมควรเป็นนายอำเภออีกต่อไป"

" เจ้าไม่มีสิทธิ์ อย่าเหิมเกริมให้มันมากนัก" นายอำเภอโมโห

" ได้ คุนหมิงให้คนไปตามท่านเจ้าเมืองมาดูซิว่าเขาจะทำเช่นไร"

" ได้" คุนหมิงไปตามท่านเจ้าเมืองด้วยตนเอง

ผ่านไป 1 ชั่วยาม

ท่านเจ้าเมืองเมื่อรู้ว่าลูกน้องตนทำงามหน้าจึงรีบมาทันที

เมื่อมาถึงท่านเจ้าเมืองรีบทำความเคารพองค์รัชทายาท

" เหอะ    แทนที่ทำความเคารพท่านเจ้าเมืองดันให้ท่านเจ้าเมืองทำความเคารพ ไร้มารยาทจริงๆ"

" บังอาจ" ท่านเจ้าเมืองตวาด" เจ้าพูดเช่นนี้ได้หรือ"

" ท่านเจ้าเมืองก็แค่คนไร้หัวนอนปลายเท้า ท่านจะตวาดหลานชายข้าทำไม"นางจูพูดแทรกขึ้นมา

" หึ เจ้านี่มัน ช่างไร้ยางอายจริงๆนางจู แค่หลานชายเป็นนายอำเภอเจ้าก็กำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ นี่ถ้าเป็นถึงเจ้าเมืองเจ้ามิเหยียบหัวชาวบ้านมากกว่านี้หรือ"

นายอำเภอโกรธที่ผู้เป็นนายตำหนิ แต่ไม่ทันได้พูดอะไร

" คุกเข่าลง" ท่านเจ้าเมืองสั่ง

" ทำไมข้าต้องคุกเข่า" นายอำเภอสงสัย

" เอาล่ะไม่จำเป็นต้องให้คุกเข่าหรอกท่านเจ้าเมือง หลังจากนี้ปลดเขาออกซะ"องค์รัชทายาทสั่งการ

" เจ้าไม่มีสิทธิ์มาปลดหลานชายข้า" นางจูไม่ยินยอม

" หรือเจ้าจะให้บิดาข้ามาปลดเขาออกเองเลยหรือไม่ ข้าไม่รับรองหรอกนะว่าพวกเจ้าจะไม่ถูกขายเป็นทาส" องค์รัชทายาทเอ่ยนิ่งๆ

" นี่เจ้า" นายอำเภอยังกร่างไม่เลิก

" องค์รัชทายาท กระหม่อมต้องขอประทานอภัยที่กระหม่อมสั่งสอนลูกน้องไม่ดีพะย่ะค่ะ"

ทุกคนเมื่อได้ยินก็ตกตะลึงรีบคุกเข่าลงทำความเคารพทันที

นายอำเภอเมื่อำเภอเมื่อได้ยินก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อได้ยิน

" เชื่อได้อย่างไรว่าเป็นตัวจริง หลอกชาวบ้านชัดๆ" นางจูยังคงไม่เชื่อ

" ทำไมจะไม่ใช่เล่านางจู ข้าหลี่คุนหมิงรองแม่ทัพเป็นพยานได้" คุนหมิงพูดขึ้นมา

" ใช่ ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่เคยเข้าเฝ้าองค์รัชทายาทเสียเมื่อไหร่" ท่านเจ้าเมืองเอ่ยขึ้น

" เอาล่ะจูหยวน ต่อไปนี้เจ้าถูกปลดออกจากตำแหน่งนายอำเภอและลูกหลานของพวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์สอบเข้าเป็นขุนนางอีกต่อไป" องค์รัชทายาทตัดสินทุกอย่าง

จูหยวนทรุดลงจบกันอนาคตในการรับราชการของตน

ด้านจูฮวน เมื่อรู้ว่าหลานชายโดนปลดจากตำแหน่งเพราะอะไรจึงเดินเข้ามาตบนางจู

" ข้าน่าจะเชื่อ อาโหย่วไม่ควรเอาเจ้าเข้ามาในตระกูลเลยจริงๆ"

เมื่อจูฮวนเห็นจางหย่งชุนก็รู้สึกผิด หันไปมองจูหยวนก็ให้โมโหนัก

จูฮุ่ยเหนียง เมื่อรู้ว่าบุตรชายถูกปลดก็ตกใจชวนสามีมาที่ว่าการทันทีเมื่อมาถึง จูจงหยวนเห็นจางหย่งชุนก็เข้าไปทุบตี แต่ก็โดนทหารเอาดาบพาดคอ

" เพราะเจ้า ไอ้เด็กเหลือขอ" จูจงหยวนยังคงด่าทอเด็กน้อย

" พอได้แล้ว" องค์รัชทายาทตวาด" จางหย่งชุน เจ้าจะว่าอย่างไรถ้าข้าจะสั่งประหารพวกเขา"

" ไม่เกี่ยวอันใดกับพวกเราอยู่แล้วขอรับเพราะพวกเขาตัดขาด พวกเราพี่น้องไปหมดแล้ว" เด็กน้อยเว้นวรรคก่อนจะกล่าวต่อ" ข้ากับพวกเขาคนละแซ่กัน ข้าแซ่จาง แต่พวกเขาแซ่จูขอรับ"

" สมน้ำหน้าบ้านจู กลั่นแกล้งลูกๆของจางโหย่งและจางหย่งเหมยดีนัก" ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น

ชื่อที่ชาวบ้านพูดสะดุดหูของจางหลิ่งหยูเป็นอย่างมาก

" ท่านป้า จางหย่งเหมยใช่คนในรูปนี้หรือไม่เจ้าคะ" จางหลิ่งหยูเอารูปให้ชาวบ้านดู

" ใช่ๆ นางนี่แหละ เจ้าเป็นอะไรกับนางหรือ" ชาวบ้านถาม

" นางเป็นน้าของข้าเจ้าค่ะ" พูดจบนางก็ไปหาจางหย่งชุนแล้วเอารูปให้เขาดู

" นี่ใช่ แม่ของเจ้าหรือไม่"

จางหย่งชุนตะลึง

" ชะ...ชะ...ใช่ขอรับ"

เมื่อได้คำตอบจางหลิ่งหยูก็กอดเด็กชายเอาไว้แล้วหันไปหาองค์รัชทายาท

" พี่ชายท่านช่วยส่งคนไปบอกท่านตาได้หรือไม่ว่าข้าเจอท่านน้าแล้ว"

" ได้ซิ"

เมื่อทุกอย่างจบลงเถียนเถียนชวนทุกคนไปดูผ้ามาตัดเสื้อผ้า

เถียนเถียนเลือกผ้าทำกระเป๋า หญิงสาวเลือกซื้อผ้าไปเป็นจำนวนมากจนเถ้าแก่ยิ้มแก้มปริ

" ขอบคุณแม่นางที่อุดหนุนขอรับ"

หลังจากนั้นเถียนเถียนเดินเข้าร้านขายผ้าทุกร้าน ซึ่งทุกร้านก็ขายดีจนเกลี้ยงร้าน

จนมาถึงร้านผ้าร้านสุดท้าย

เถียนเถียนกำลังจะหยิบผ้าไหมเหมันต์ขึ้นมาก็มีมือมาดึงเอาผ้าออกไปจากมือของนาง

" นี่แม่นาง พวกเรากำลังดูผ้าชิ้นนี้อยู่นะ" เถียนเถียนเอ่ยเตือน

" เฮอะ   เป็นบุรุษจะซื้อผ้าไหมเหมันต์ไปตัดชุดได้อย่างไร"

" หืมม....เจ้าเอาอะไรทำตารึแม่นาง" เถียนเถียนขำ" เถ้าแก่ข้าเหมาผ้าในร้านของท่านทั้งหมดรวมทั้งผ้าไหมเหมันต์นี่ด้วย"

" ขอรับ" เถ้าแก่รีบไปจัดการให้

หญิงสาวผู้นั้นโกรธมากแต่เถียนเถียนไม่สนใจนาง

​​​​​​เถียนเถียนเดินดูผ้าในร้านก็หันไปเจอเข้ากับ ม้วนผ้าชนิดหนึ่งเข้า

" นี่มันเคมีกาวทำกระเป๋านี่" เถียนเถียนลูบคลำมันเหมือนมันเป็นสมบัติล้ำค่า

" คุณหนู อย่าไปสนใจผ้าม้วนนั้นเลยขอรับ มันทำอะไรไม่ได้หรอกขอรับ"

" ใครบอกท่านเล่า นี่น่ะของดีเชียวล่ะ" เถียนเถียนพูด" ท่านไปได้มันมาอย่างไรรึเถ้าแก่"

" บุตรชายข้าได้มาจากท่าเรือขอรับ"

" ท่าเรือหรือน่าสนใจ" เถียนเถียนกล่าว

" นี่!!!!!  พวกเจ้าจะคุยกันอีกนานมั๊ย" เสียงเด็กสาวตวาดขึ้นด้วยความโมโห

" เถ้าแก่ข้าต้องการผ้าไหมเหมันต์ไปตัดชุดให้ท่านพ่อท่านแม่ของข้า" เด็กสาวพูด

" อ้อ...ต้องขออภัยแม่นางหยาง พอดีแม่นางหลี่เหมาผ้าในร้านข้าไปหมดแล้วขอรับ"

" ห๊ะ!!!!! แม่นางหลี่ นี่เจ้าเป็นผู้หญิงรึ" หยางเพ่ยเพ่ยอึ้ง

" ข้าถึงได้ถามไงว่าเจ้าใช้อะไรทำตา" เถียนเถียนเอ่ยยิ้มๆ

" แล้วเจ้าเหมาผ้าไปทำบ้าอะไรตั้งเยอะตั้งแยะ" หยางเพ่ยเพ่ยหน้าบึ้งไม่พอใจ" 

"ทำกระเป๋า"

" ห๊ะ!!!! กระเป๋า" หยางเพ่ยเพ่ยทำหน้างง" เป็นอย่างไรรึ"

เถียนเถียนเอาแบบให้หยางเพ่ยเพ่ยดู

" โอ้โห!!!!! สวยจัง เจ้าจะทำขายรึ"

" ยังไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก ข้าต้องทำให้ได้มากๆก่อน"

" ข้าขอเรียนกับเจ้าได้หรือไม่" หยางเพ่ยเพ่ยตื่นเต้น

" ได้ซ ว่าแต่เจ้าจะตัดเสื้อผ้าให้พ่อกับแม่เจ้าใส่ด้วยตนเองหรือ"

หยางเพ่ยเพ่ยส่ายหน้า

" ข้าตัดไม่เป็นหรอก"

" อืมม....เอาอย่างนี้ซิเดี๋ยวข้าจะสอนให้เจ้าเอง"

" ได้แล้วขอรับคุณหนู ทั้งหมด 3500 ตำลึงทองขอรับ"

เถียนเถียนกำลังจะจ่ายเงิน แต่มีมือหนึ่งส่งเงินให้เถ้าแก่ก่อนนาง นางจึงมองหน้าคนที่มาจ่ายเงินก่อนตน

" องค์รัชทายาทหม่อมฉันจ่ายเองได้เพคะ"

" เปิ่นหวางจะจ่ายให้ว่าที่พระชายาของเปิ่นหวาง ใครจะทำไมรึ" องค์รัชทายาทพูด

" หม่อมฉันเป็นว่าที่พระชายาของพระองค์ตั้งแต่เมื่อไหร่เพคะ" เถียนเถียนพูดด้วยความไม่พอใจ

" เมื่อแรกเจอ" องค์รัชทายาทกล่าวพร้อมมองด้วยแววตากรุ้มกริ่ม

เถียนเถียนโกรธจัด

หยางเพ่ยเพ่ยอ้าปากค้างกับความหน้าด้านขององค์รัชทายาท

" ไหนว่าองค์รัชทายาทเย็นชาไม่สนสตรีอย่างไรเล่านี่มันคืออะไรอ่ะ" หยางเพ่ยเพ่ยพูดขำๆ

ด้านองค์รัชทายาทยังคงตามตอแยเถียนเถียนไม่เลิก

ยามเซิน(15.00-16.59)

เถียนเถียนกลับมาจากตลาดก็สอนให้ทุกคนทำกระเป๋าทันที แบบกระเป๋าก็เอาดีไซน์จากโลกอนาคตมาใช้

ถิงถิงชอบขนาด 9 ชุ่น สูง 7 ชุ่น มีช่องทั้งหมดด้านหน้า 1 ช่อง ด้านหลัง 1 ช่อง ช่องใหญ่ 1 ช่อง ช่องเล็กๆในช่องใหญ่อีก 2 ช่อง ถิงถิงเลือกใช้ผ้าไหมสีดำ

ชิงชิงเอาแบบเดียวกันกับถิงถิงแต่ใช้ผ้าไหมสีแดง

เหม่ยฮวาชอบกระเป๋าใบใหญ่ๆ นางเลือกขนาด 9 ชุ่น สูง 12 ชุ่นกว้าง 4 ชุ่นด้านหน้ามีช่อง 1 ช่อง ด้านหลัง 1 ช่อง ช่องใหญ่ 1 ช่องช่องเล็กๆในช่องใหญ่ 2 ช่อง

ส่วนเถียนเถียนนั้นเลือกแบบมี 2 ช่องแบบมีฝาปิดขนาด 9 ชุ่น สูง 8 ชุ่น กว้าง 4 ชุ่น

การทำกระเป๋าในครั้งนี้แม้แต่จางหลิ่งหยูก็มร่วมเรียนด้วยเช่นกัน โดยเด็กสาวเลือกกระเป๋าขนาดกระทัดรัดน่ารักๆขนาด 8 ชุ่น สูง 6 ชุ่น กว้าง 4 ชุ่น

การทำกระเป๋าในครั้งนี้เถียนเถียนได้เข้าไปดูในห้างสรรพสินค้าในมิติมาจึงได้เจอร้านอุปกรณ์ตัดเย็บทุกชนิด แม้กระทั่งอุปกรณ์ทำกระเป๋าจึงได้สายกระเป๋ามาให้ทุกคนได้ใช้

เถียนเถียนได้อยู่ที่เมืองนี้อีก 1 เดือนเพื่อสอนหยางเพ่ยเพ่ยตัดเย็บเสื้อผ้าซึ่งหยางเพ่ยเพ่ยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นางทำได้ดีและนางยังได้รับกระเป๋าจากเถียนเถียนอีก 3ใบ ซึ่งหยางเพ่ยเพ่ยก็ได้เรียนทำกระเป๋ากับเถียนเถียนด้วยเช่นกัน

​​​​​​

​​​​​​

​​​​

​​​​