"ท่านอาอีริค ท่านอาแพทริเซีย"
"เลดี้ไวโอเล็ตของอา" หญิงสาวยิ้มตอบรอคนตัวเล็กมาใกล้มือ "ขออากอดหน่อย"
ระหว่างไวโอเล็ตกอดกับอาสะใภ้ของเธอ ทางด้านอาอีริคก็สนทนากับดยุกเมอร์ริแกนผู้เป็นพี่ชาย
"ชุดที่ใส่เหมาะกับหลานมาก สุขสันต์วันเกิดนะ"
"มาดามลิซซี่เป็นคนออกแบบค่ะ ขอบคุณท่านอาแพทริเซียที่แนะนำ"
"ไม่เจอพักเดียวพวกหลานโตขึ้นเยอะเลย"
"ขอบคุณครับ ท่านพี่มาร์ตินไม่ได้มาเหรอครับ?"
"มาร์ตินไปเมืองหลวงน่ะจ้ะ กลับมาไม่ทัน"
แพทริเซียมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมพร้อมช่วยดูแลปลอบโยนเด็กๆ เสมอครั้งทั้งคู่เสียแม่ไปทำให้สนิทสนมกัน โดยมาร์ตินบุตรชายก็เป็นเพื่อนเล่นกับแดเนียล ส่วนอีริคคอยช่วยงานดยุกมานานตั้งแต่สมัยก่อนรับตำแหน่ง เขาได้รับความไว้วางใจที่สุดในบรรดาญาติพี่น้อง ปัจจุบันครอบครัวอาศัยควบคุมดูแลเมืองข้างๆ ตามรับสั่งดยุกเมอร์ริแกน
"ไวโอเล็ต" อีริควางมือลูบศีรษะหลานสาว "พวกอาไปนั่งก่อนนะ"
"ค่ะ ท่านอาอีริค"
เนื่องในโอกาสวันแสนพิเศษ คฤหาสน์ของตระกูลแบล็คจึงถูกเนรมิตตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน โคมไฟระย้าส่องสว่าง อาหารรสเลิศมากมาย ขนมเค้กก้อนโตที่พ่อครัวตั้งใจรังสรรค์จัดเรียงไว้บนโต๊ะปูผ้าขาว บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ต่างมาแสดงความยินดีตามการ์ดคำเชิญ ดยุกเมอร์ริแกนที่ยืนเคียงข้างลูกสาวก็คอยต้อนรับแขก โดยวันเกิดครั้งนี้มีแขกพิเศษเป็นคนจากราชวงศ์มาร่วมด้วย
"ไวโอเล็ต" ท่านพ่อของเธอแนะนำ "ท่านคือเจ้าชายสเตฟาน"
"สุขสันต์วันเกิดครับ เลดี้ไวโอเล็ต"
"ขอบพระทัยเพคะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านสเตฟานทรงมาร่วมงานวันเกิดของหม่อมฉัน"
บุตรีดยุกเจ้าของวันเกิดยิ้มพร้อมก้มศีรษะถอนสายบัว เธอรับของขวัญแล้วส่งต่อให้สาวใช้ช่วยรับไปเก็บรวมกันที่ห้อง
"ท่านสเตฟาน ขอบพระทัยที่มาร่วมงาน"
"ดยุกเมอร์ริแกน"
ดวงตาสีม่วงใสของเด็กหญิงจับมองที่เจ้าชายสเตฟาน เขาเป็นโอรสของจักรพรรดิและจักรพรรดินี ราชวงศ์ตอนนี้มีเจ้าชายองค์อื่นที่ประสูติจากเหล่าราชินีอยู่ แม้พวกเขาอายุมากกว่าแต่หากต้องมีการเลือกรัชทายาทโอรสที่ประสูติกับจักรพรรดินีย่อมได้เปรียบ ส่วนเจ้าชายที่เหลือมักถูกส่งไปปกครองพื้นที่สำคัญต่างๆ ที่ว่างเว้น ไม่ก็แต่งงานกับบุตรีขุนนางแทรกซึมอำนาจ
"แดเนียล" ดยุกเรียกบุตรชายให้รับหน้าที่พาเจ้าชายไปที่โต๊ะ "ไวโอเล็ตก็ไปนั่งคุยกับเพื่อนๆ เถอะ"
"ค่ะ ท่านพ่อ"
หลังตอบรับคำไวโอเล็ตกับแดเนียลก็พาแขกสำคัญเดินไปหาเพื่อนวัยเดียวกันที่โต๊ะซึ่งจัดไว้ เหล่าเลดี้กับลอร์ดน้อยพากันลุกขึ้นถวายความเคารพ รอเจ้าชายสเตฟานนั่งแล้วจึงนั่งลง
"ข้าเพิ่งเคยเห็นเจ้าชายสเตฟานครั้งแรก"
"ทางราชวงศ์สนิทสนมกับตระกูลแบล็คมากเลยสินะคะ"
เพื่อนหญิงของไวโอเล็ตดูจะสนใจฟากโต๊ะนั้น ทว่าเจ้าของงานเพียงยิ้มแล้วจิบชา เธอเองก็ไม่ได้รู้จักอะไรกับทางราชวงศ์ เป็นท่านพ่อของเธอที่เป็นสหายของจักรพรรดิ ส่วนท่านพี่ที่หลายครั้งติดตามไปศึกษาหรือร่วมงานที่เมืองหลวงใจกลางก็น่าจะสนิทกับเจ้าชายมากกว่า
"วันนี้ชุดเดรสของเวโรนิก้าสวยมากเลยนะคะ" ไวโอเล็ตทักเปลี่ยนเรื่อง "เพิ่งตัดใหม่เหรอคะ?"
"ใช่แล้วค่ะ แต่อย่างไรก็เทียบชุดเดรสของเลดี้ไม่ได้หรอกค่ะ"
พวกเธอย้ายหัวข้อมาเป็นพวกเครื่องประดับ ช่างตัดเสื้อที่กำลังนิยม ไม่ก็ขนมหวานอร่อยๆ แทน เด็กหญิงหลับตาดื่มชาคอยฟังและวางถ้วยเพื่อเอ่ยตอบ พวกตัวแทนกลุ่มการค้ามักจะมาเสนอขายสินค้าโดยตรงตามคฤหาสน์แต่ดยุกเมอร์ริแกนน์เป็นที่กล่าวขานถึงความขี้รำคาญ ท่านพ่อของเธอไม่ชอบพวกพ่อค้าที่พูดมากไม่ยอมหยุดเลยไม่เคยเปิดต้อนรับ จะมีก็เธอขอหรืออาสะใภ้ของไวโอเล็ตแนะนำถึงจะผ่านมาได้เช่นมาดามลิซซี่ ทว่าเลดี้น้อยอยากรู้จักไว้เยอะๆ เองบ้าง ไวโอเล็ตเอ่ยขอข้อมูลติดต่อเอาไว้
ระหว่างพูดคุยกับเพื่อนๆ ไวโอเล็ตก็คอยแต้มยิ้มสวยประดับไว้บนใบหน้า เจตนาจัดที่นั่งให้พอเงยมองจะเห็นสเตฟานที่อยู่อีกโต๊ะได้พอดิบพอดี นั่นทำให้บางครั้งก็สบตากันบ้างและเธอยินดีอย่างยิ่งที่จะยิ้มตอบ
ข้อมูลจากฝันที่เธอมียังน้อยเกินไป ที่แน่ๆ เธอจะไม่แต่งงานกับเคานต์ฟรานโก ศาลพิพากษาข้อหากบฏมีชื่อของเขาถูกประกาศออกมา พวกเขากล่าวว่าตระกูลแบล็คให้เธอแต่งงานกับเขาเพื่อผลประโยชน์ทางทหารและอำนาจ เคาน์ตีฟรานโกในแผนที่อยู่ทางตอนบนของดัชชีเมอร์ริแกน พื้นที่อาจเล็กกว่าแต่สามารถใช้ตั้งฐานเสบียงหรือรวบรวมคนได้จริงตามข้อหา พอลองถามแดเนียลและอาจารย์ที่มาสอน ปัจจุบันแถบนั้นก็เป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของจักรวรรดิ
หากท่านพ่อของเธอเสียชีวิตก่อนหน้านั้น แสดงว่าไม่ใช่ท่านพ่อที่ต้องการให้เธอแต่งงาน ตามหลักก็คงเป็นพี่ชายของเธอเองที่จะรับตำแหน่งดยุกแทน ช่วงเวลานั้นอาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างให้ต้องเลือกฝักฝ่าย ไวโอเล็ตตัดสินใจกรุยทางเตรียมเอาไว้ มันจะไม่ดีกว่าเหรอหากเธอได้เป็นพระคู่หมั้นของว่าที่จักรพรรดิ หากไม่สำเร็จการผูกมิตรกันก็ไม่มีอะไรเสียหาย
กว่าจะจบงานก็ดึกมากแล้ว แขกเหรื่อกลับกันไปหมด ดยุกเมอร์ริแกนก็เชิญท่านสเตฟานให้เข้าไปด้านในคฤหาสน์ เธอกับพี่ชายคอยเดินตามอยู่ด้านหลัง
"การเดินทางไกลคงทำให้ท่านเหนื่อยล้าไม่น้อย"
"ไม่หรอกท่านดยุก ข้าดีใจมากที่ได้มาดัชชีเมอร์ริแกน จักรพรรดิทรงตรัสให้ฟังเสมอว่าท่านดยุกทุ่มเทอย่างหนักเพื่อพัฒนาที่นี่ ทุกเมืองในเขตปกครองของท่านถึงได้สงบสุข"
"ฝ่าบาททรงกล่าวชมเกินไป"
การเดินทางจากเมืองหลวงมาดัชชีใช้เวลานานกว่าสัปดาห์ ดังนั้นท่านพ่อของเธอจึงให้บรรดาคนรับใช้ไปจัดเตรียมห้องพักรับรองสำหรับแขกพิเศษไว้ ไวโอเล็ตรู้ว่าเป้าหมายจะอยู่ที่นี่สักพักก่อนเดินทางกลับ
"หากขาดเหลือสิ่งใดท่านสามารถบอกกระหม่อมได้พ่ะย่ะค่ะ"
"ขอบคุณท่านดยุก"
"พวกกระหม่อมขอตัวพ่ะย่ะค่ะ"
เธอกับพี่ชายก้มโค้งลาพร้อมกันแล้วแยกย้ายตามท่านพ่อไป ไวโอเล็ตคิดว่าจะให้เขาสนิทกับเธอทันทีนั้นเป็นไปได้ยาก อย่างไรระยะนี้ค่อยๆ สนทนาด้วยทีละนิดเพื่อให้สนิทใจกว่าเดิมคงเหมาะสมกว่า ที่สำคัญเธอค่อนข้างได้เปรียบตรงที่พอจะรู้เหตุการณ์ของวันเกิดปีนี้บ้าง
วันนี้เธอมีของขวัญหลายชิ้นเรียงตั้งอยู่ในห้องให้แกะดูแต่ไวโอเล็ตนั่งรอ ถึงเวลาก็หยิบผ้าคลุมไหล่ทับชุดนอนเดินออกจากห้องตัวเอง ในความฝันเธอบังเอิญเจอกับท่านสเตฟานตอนดึกสงัด เจ้าชายทรงบรรทมไม่หลับจึงออกมาเดินด้านนอก ซึ่งตัวเธอตอนนั้นแค่ยิ้มทักทายแล้วขอตัวกลับห้องไปเฉยๆ
สงสัยเหมือนกันว่าตัวเองออกมาดูอะไรตรงระเบียง ไวโอเล็ตจำตำแหน่งได้เท่านั้นเลยไปยืนที่เดิมและมองลงไป
"แสง?"
งานเลี้ยงเลิกราห้องโถงย่อมเงียบสงัด ทว่าที่ห้องกว้างที่จัดงานเลี้ยงตอนนี้จุดไฟดวงเล็กๆ ด้วยตะเกียงตั้งไว้หลายอัน เธอพยายามดูให้ละเอียดก็เห็นพวกสาวใช้กับคนงานเดินเข้าออก พวกเขาเพิ่งทำความสะอาดเก็บงานเสร็จนั่นเอง อาหารมากมายที่เหลือจากงานเลี้ยงก็ขนไปที่ครัว ไวโอเล็ตเจอเฟลิกซ์ที่หอบอุปกรณ์ทำความสะอาดเดินอยู่ก็อมยิ้ม เขานิ่วหน้าเถียงกับอีกคนก่อนจะยิ้มกว้างหัวเราะ พวกเขาทั้งหมดน่าจะไปรวมกลุ่มทานอาหารที่ครัวหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน
"เลดี้ไวโอเล็ต"
เด็กหญิงมัวแต่สนใจด้านล่างเลยเพิ่งนึกจุดประสงค์ที่มายืนตรงนี้ได้ เธอหันไปทางเจ้าของเสียงแล้วก้มศีรษะ
"ถวายบังคมเพคะ" ไวโอเล็ตประสานมือตัวเองไว้ด้านหน้าด้วยความเคยชิน "ทรงมีอะไรให้หม่อมฉันรับใช้?"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ ข้าแค่นอนไม่ค่อยหลับเลยออกมาเดินรับลม"
"เพคะ หม่อมฉันเองก็กำลังตื่นเต้นวันเกิดจนนอนไม่ค่อยหลับ ถ้าหากไม่รังเกียจหม่อมฉันยินดีเป็นเพื่อนสนทนาด้วยเพคะ"
บุตรีดยุกยิ้มหวานเป็นมิตร อีกฝ่ายยืนเว้นห่างออกไปจากจุดที่เธออยู่ประมาณหนึ่งช่วงแขน ดวงตาสีฟ้ามองตามสายตาของไวโอเล็ตไปยังห้องโถงที่วุ่นวาย
"งานวันนี้สนุกมากเพคะ แต่พอแขกกลับกันหมดก็รู้สึกเงียบเหงาประหลาด"
"ครับ ข้าพอเข้าใจ"
"แสดงว่าทรงกำลังรู้สึกเช่นเดียวกันเหรอเพคะ?"
"ฮ่ะๆ นิดหน่อยครับ"
ไวโอเล็ตลองถามสเตฟานก็ยอมรับ อย่างที่เธอคิด เขาไม่ค่อยถือตัวเย่อหยิ่งแบบเจ้าชายคนอื่นในงานเต้นรำ ทั้งสุภาพอ่อนน้อม น่าเสียดายที่ภายหลังรอบข้างก็ผลักดันให้เขาค่อยๆ เปลี่ยนไป แม้นิมิตฝันไวโอเล็ตจะเป็นภรรยารองเฉาอยู่ภายในเคาน์ตีก็ยังได้ยินข่าวลือมาบ้าง บัลลังก์ที่รอเขาอยู่มันเต็มไปด้วยเลือดและความโดดเดี่ยว
"อย่าทรงกังวลเพคะ" หันมาสบตาเด็กหญิงก็แต้มรอยยิ้มมอบให้ "ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ทรงประทับอยู่ที่นี่ หม่อมฉันกับท่านพี่จะไม่ให้ทรงรู้สึกเช่นนั้นได้อีกเลยเพคะ"
เจ้าชายทั้งหมดในราชวงศ์มีสามองค์ด้วยกันที่โดดเด่น สเตฟานมีอายุน้อยที่สุดเป็นโอรสโดยตรงจากจักรพรรดินี ไวโอเล็ตเดาว่าเขาไม่ค่อยมีเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันนัก เทียบอายุก็น้อยกว่าแดเนียลอยู่หนึ่งปี และคงใช้เวลาส่วนใหญ่เรียนรู้ศึกษาวิชาการอย่างหนักไม่ต่างกับท่านพี่ของเธอ
"หม่อมฉันปรารถนาจะเป็นสหายของท่าน คิดว่าท่านพี่ก็คงเหมือนกัน หากไม่รังเกียจก็ขอฝากตัวด้วยเพคะ"
"..." แววตาเขาชัดเจนว่าดีใจ "ขอบคุณครับ"
ถือว่าการเริ่มต้นไม่ได้เลวร้าย เธอค่อนข้างภูมิใจทีเดียวที่ทุกอย่างราบรื่น ไม่รู้ว่าท่านพ่อของเธอหรือท่านพี่จะเลือกสนับสนุนฝ่ายไหนในอนาคต ทว่าจากนี้ไวโอเล็ตจะคอยโน้มน้าวเอง อย่างไรก็ควรเลือกฝ่ายที่ชนะ ไม่อย่างนั้นคนที่จะหายไปจากหน้าหนังสือประวัติศาสตร์ก็คือพวกเธอ
"ท่านพี่มักจะทำหน้านิ่งๆ เสมอ แต่ที่จริงกำลังยิ้มอยู่นะเพคะ เขาค่อนข้างคล้ายท่านพ่อ ภายนอกเลยจะดูเย็นชาไปเสียหน่อย"
"อย่างนั้นเอง"
"อีกสักพักถ้าได้สนทนากันมากขึ้น ท่านสเตฟานจะเข้าใจเพคะ"
เพราะเธอเห็นเจ้าชายสเตฟานพยายามชวนพี่ชายเธอสนทนา ทว่าแดเนียลหน้าตานิ่งเรียบอ้าปากตอบไม่ถึงประโยคก็จบบท พี่ชายเธอมักเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ยังไม่สนิทกันมากพอ ซึ่งในใจจริงไม่ได้ดุร้ายเลยสักนิด อย่างเฟลิกซ์ หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่ท่านพี่ก็จะเรียกไปฝึกดาบ ขี่ม้า นั่งสนทนาหัดเล่นหมากรุกกันโดยทั้งคู่จะทำลืมเธอไปเลย
"พรุ่งนี้หลังมื้อเช้า หม่อมฉันจะพาแนะนำรอบๆ คฤหาสน์นะเพคะ"
"ครับ รบกวนด้วย"
"ไม่รบกวนเลยเพคะ"
ไวโอเล็ตทัดผมตัวเองที่ปลิว อากาศเย็นลงกว่าเดิมเด็กหญิงเลยกระชับผ้าคลุมไหล่ห่อตัว สเตฟานสังเกตเห็นก็เสนอให้กลับห้อง เขาเดินตามไปส่งโดยเว้นห่างรักษามารยาท เจอสาวใช้ถือตะเกียงเดินตรวจผ่านมาจึงเอ่ยลากัน
"ขอบพระทัยที่มาส่งเพคะ" เธอก้มหนึ่งครั้งแล้วคลี่ยิ้ม "ขอให้ท่านสเตฟานบรรทมหลับฝันดี"
"ครับ เลดี้ก็ด้วย"
แยกย้ายแล้วเด็กหญิงก็กลับเข้าห้องนอนตัวเอง เธอคิดถึงผ้าห่มหนาๆ ผืนใหญ่เต็มที ทว่าก่อนนอนเธอก็เหลือบมองไปทางหน้าต่างไร้เงาคน ปกติเขาไม่ได้ให้ของขวัญอยู่แล้วไม่รู้ทำไมแอบคาดหวังนิดๆ ส่วนมากหลังวันเกิดหนึ่งวันเจอกันก็จะจิกกัดปกติ เขาจะอวยพรให้ลวกๆ พร้อมกล่าวขอบคุณ อวดอาการท้องอืดเนื่องจากอัดอาหารชั้นดีจำนวนมากที่ในครัวแบ่งกันกินไม่หวาดไม่ไหวลงไปจนแน่น
"ตอนนี้คงอยู่ที่ครัวแน่เลย.."