Chereads / Lady Violet , alter fate. / Chapter 9 - บทที่ 8 จับคนร้าย

Chapter 9 - บทที่ 8 จับคนร้าย

"เฟลิกซ์ ไวโอเล็ตบอกอะไรเจ้าไหม?"

"ก็ครับ เธอ-ไม่สิ เลดี้เป็นห่วงท่านลอร์ดน่ะครับ"

เขาเดินอยู่กับสุนัขล่าที่พื้นสำรวจหาร่องรอยสัตว์ป่า ปรากฏว่าแดเนียลขี่ม้าตามมาด้านข้างเพื่อสนทนาถามเรื่องน้องสาว เฟลิกซ์ไม่มั่นใจว่าควรบอกเรื่องคนร้ายที่แฝงมาอะไรนั่นไหม หากพูดไปโดยไม่มีหลักฐานคงไม่เหมาะ

"ท่านลอร์ด" เด็กชายนั่งยองดูลักษณะดิน "เลดี้เคยเล่าเรื่องความฝันให้ท่านฟังไหม?"

"ความฝัน.."

"อย่างฝันร้ายหรือฝันที่เหมือนเกิดขึ้นจริง ข้ารู้สึกว่าเลดี้กลัวเรื่องพวกนั้น"

คนเป็นพี่ชายเงียบไปครู่หนึ่งคิดถึงเรื่องในอดีตก่อนจะตอบ เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้กับใครเพราะรู้สึกผิด ซึ่งถึงแม้จะขอโทษไปแล้วเรื่องตอนนั้นก็คงทำให้น้องสาวฝังใจ

"เคยเล่า ช่วงสามถึงสี่ขวบเธออวดว่ารู้สิ่งที่จะเกิด แรกๆ ข้าก็สนุกด้วยจนกระทั่งท่านแม่ของข้าป่วย"

แดเนียลย่นคิ้ว เขายังจำวินาทีที่เธอตกใจได้ ครู่ต่อมาน้องก็ระเบิดเสียงร้องไห้ แม่นมจึงเป็นคนมาอุ้มเธอออกไป

"ข้ากลัวว่าจะเป็นจริงอย่างที่ไวโอเล็ตพูด ข้าเลยเผลอตะคอกและตักเตือนไม่ให้ไวโอเล็ตสร้างความกังวลให้ท่านพ่อ"

สุดท้ายท่านแม่ก็เสียชีวิต หลังจากนั้นไวโอเล็ตก็เปลี่ยนไป เด็กหญิงมักจะเก็บความรู้สึก มีเรื่องอะไรก็ปิดไว้เสมอ อีกทั้งเมื่อควบรวมกับมารยาทขุนนางก็สร้างรอยยิ้มเป็นหน้ากากสวมทับขึ้นมา ขณะที่ตัวแดเนียลก็ไม่กล้าถามอะไรอีก

"ท่านลอร์ดไม่ต้องเครียด พี่น้องทะเลาะกันบ้างเรื่องธรรมดา อย่างบ้านข้าตีกันประจำทุกวัน มันไม่ได้แย่หรอกครับ"

ครอบครัวเขาเป็นพี่น้องหกคน ตัวเขาเป็นลูกคนที่ห้า จะของกิน ของใช้ ทำงาน แต่ละอย่างพวกเขาเถียงมีปากเสียงได้ตลอด กระทั่งพอแยกออกมาเป็นเพจทำงานที่คฤหาสน์ดยุกเมอร์ริแกน เขาถึงเริ่มรู้สึกคิดถึงเสียงเอะอะโวยวายที่เคยมี

"ที่สำคัญเลดี้เป็นห่วงท่านลอร์ดนะครับ นี่ก็ยืนยันได้ว่าพวกท่านสองพี่น้องสนิทกันสุดๆ"

"..อืม" ลอร์ดน้อยเมอร์ริแกนยิ้ม "นั่นสินะ"

"เอาล่ะ มาล่าสัตว์กันเถอะครับ นี่ท่านล่าอะไรไม่ได้เลยนะเนี่ย เจ้าชายท่านเก็บไปหลายตัวแล้ว"

"ถ้ากลัวข้าเสียหน้า เจ้าก็เร่งมือหน่อย"

"มีเพจตั้งหลายคนอย่าเจาะจงข้าสิครับ"

เจอเหยื่อแล้วก็ทำมือบอก เฟลิกซ์นั่งยองลงจับปลอกคอหมาล่าสัตว์ไว้ แดเนียลขึ้นสายธนูก็เล็งยิงปล่อยศรพุ่งออกไปหนึ่งดอก เรียบร้อยเด็กชายเพจก็เดินย่ำไปมองหากระต่ายตัวสีน้ำตาลที่น่าจะสิ้นชีพ พอเจอก็จัดแจงนำลูกธนูออกแล้วหิ้วมันนำกลับม้า

"ลอร์ดแดเนียลกังวลเรื่องเลดี้ไวโอเล็ตเหรอครับ?"

"ขออภัย กระหม่อมกังวลอยู่จริงๆ"

เจ้าชายสเตฟานเอ่ยถามเพื่อนที่ดูไม่ค่อยจะจดจ่อกับการล่าสัตว์นัก ผ่านมาหลายชั่วโมงลอร์ดน้อยเพิ่งจับได้ตัวเดียว เพจแจ้งพบเหยื่อแต่ละครั้งเขาก็พยักหน้าควบม้าไปแบบเชื่องช้า ทว่าตอนนี้ดูจะคลายความขุ่นมัวในใจลงได้ระดับหนึ่งแล้ว

"กระหม่อมจะตั้งสมาธิแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

กลุ่มเพจจะลงเดินที่พื้นกับสุนัขล่าตรวจหาทิศทางพวกสัตว์ป่า พอเจอส่งสัญญาณมือให้สไควร์ ทางนั้นก็จะแจ้งเจ้านายเพื่อเตรียมพร้อม ถ้ายิงได้เด็กรับใช้ก็จะจัดการเก็บ หากไม่ตายต้องวิ่งไล่ พวกผู้ติดตามขี่ม้าก็จะช่วยไปล้อมดัก พวกเขามีหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่เหล่าขุนนาง

ดังนั้นเขาจึงได้โอกาสคอยดูลาดเลารอบๆ ก่อน ทุกอย่างรอบด้านยังปกติ ทหารคุ้มกันกับองครักษ์ของเจ้าชายก็คอยขี่ม้าตามไม่ทิ้งห่าง เฟลิกซ์ยังไม่เห็นอะไรที่อันตราย สำหรับเรื่องที่อาจมีคนแฝงเข้ามา พวกเพื่อนกับรุ่นพี่สไควร์นั้นเขาเคยเห็นหน้าทุกคนมาแล้วเลยพอวางใจได้ ที่เป็นปัญหาคือพวกทหารอารักขา

"ลอร์ดแดเนียลยิงธนูแม่นมากเลยนะครับ"

"ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ"

ได้จิ้งจอกมาตัวหนึ่ง เฟลิกซ์ก็เก็บกลับไปที่ม้าแบกของ ซึ่งเขาไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ เวลาหันไปก็เห็นว่าเจ้าชายสเตฟานมองที่เขา แววตาเรียบนิ่งอ่านยาก ต้องบอกว่าตั้งแต่เจอหน้ากันก็รู้สึกโดนเพ่งเล็งแปลกๆ เขาถึงได้ไม่อยากโผล่หน้าไปร่วมกลุ่มด้วยนัก หากไม่ติดว่าไวโอเล็ตมาติติงวันนั้นก็อยากเลี่ยงจนกว่าแขกคนสำคัญของท่านดยุกจะไปจากดัชชี

"กวาง?"

เจอแต่สัตว์เล็กมานานในที่สุดก็มีเหยื่อตัวใหญ่โผล่มาในระยะสายตาด้านหน้า ทุกคนหยุดนิ่งรอเจ้านายซึ่งทางแดเนียลไม่เคลื่อนไหวยกให้สเตฟานยิง ปรากฏว่าลูกศรเฉียดพลาดไปจังหวะที่มันขยับ กวางดังกล่าวรู้ตัวออกวิ่ง ทั้งหมดไม่รอช้าก็คุมม้าตามไป

"หายไปไหนแล้ว?"

คลาดสายตาพวกเพจก็ลงจากม้าไปค้นหา เฟลิกซ์มองหารอยเท้ากับพวกลักษณะพงหญ้าก้านไม้ที่หัก กระทั่งเห็นบางอย่างแวบผ่านทางหางตา เด็กชายย่างเท้าช้าๆ ฝ่าต้นไม้ใบหญ้าหนาทึบ มือดึงมีดยาวที่พกไว้ออกมาถือป้องกันตัว หลุดจากเงาบังตาเขาก็หยุดกึกเช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่สะดุ้ง เธอกะพริบตาปริบก่อนจะยิ้มทักทาย

"สวัสดีค่ะ เฟลิกซ์"

"หา? เดี๋ยว เจ้ามาทำอะไรที่นี่เนี่ย!"

"อย่าเสียงดังสิคะ"

ไวโอเล็ตกำลังเอาผลไม้ที่เก็บได้มาล่อกระรอกตัวกลมน่ารัก อีกนิดจะเข้ามาใกล้แล้วแต่พอเขาโผล่พรวดออกมาเจ้าสิ่งมีชีวิตน้อยก็เผ่นหนี

"ข้าก็มาเดินเล่น ชมนกชมไม้ค่ะ"

"ไม่ใช่ไหม? นี่มันสถานที่ล่าสัตว์นะ ไม่ใช่สนามหญ้าสวนดอกไม้ที่คฤหาสน์"

สาวใช้สองคนกับคนคุ้มกันที่ยืนอยู่ด้านหลังเลดี้น้อยพากันพยักหน้าเงียบๆ เห็นด้วยกับเฟลิกซ์ เลดี้น้อยอวดดอกไม้กับผลไม้แปลกๆ ที่เก็บตามทางห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าให้ดูเขาก็นิ่วหน้า มีผลสีเขียวอ่อนเปลือกตะปุ่มตะป่ำน่าขยะแขยงปนอยู่

"เจ้าไปเก็บไอ้นี่มาทำไม?"

"กำลังคิดว่าจะเอาไว้แกล้งเจ้าค่ะ" เธอยิ้มหวาน "มันดูคล้ายหนอนเลยนะคะ"

แดเนียลกับสเตฟานได้ยินเสียงพูดคุยกันก็สงสัยขี่ม้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งคู่เบิกตาโตประหลาดใจที่เห็นว่าเธอมาอยู่กลางป่า

"ท่านพี่" เห็นพี่ชายเธอก็โล่งใจ "ท่านพี่ปลอดภัยนะคะ?"

"ไวโอเล็ต ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?"

โกหกอย่างไรพี่ชายของเธอก็ไม่เชื่อแน่ เด็กหญิงจึงปั้นยิ้มไว้เป็นคำตอบให้เดาเอาเอง จากสีหน้าท่าทางลำบากใจของสาวใช้ชัดเจนว่าแอบออกมา

"แถวนี้มันอันตราย" แดเนียลปลง เดาว่าถ้าบิดารู้คงได้ส่งกองทหารใหญ่มารื้อทั้งป่าหาตัวเธอ "ข้าจะให้คนมารับเจ้ากลับ"

"ข้าขอตามไปด้วยไม่ได้เหรอคะ? ข้าไม่เคยเห็นการล่าสัตว์เลยสักครั้ง"

"เจ้าไม่ชอบหรอก อีกอย่างเจ้าก็ขี่ม้าไม่เป็นด้วย"

ข้อนี้เธอเถียงไม่ได้ หนำซ้ำแถวนี้ก็ไม่มีรถม้าให้เรียกใช้ ไม่มีวิธีอื่นเลยงัดไม้ตายสุดท้ายคือการทำหน้าเศร้าน้ำตาซึม เฟลิกซ์เห็นก็เบะปากรู้ว่าเธอแสร้งทำ ทว่าดูจะได้ผลต่อท่านลอร์ดผู้เป็นพี่ชาย เจ้าตัวเริ่มอึกอักจนสีหน้าเย็นชาดุๆ กลายเป็นสับสน

"ถ้าอย่างนั้นเปลี่ยนเป็นขี่ม้าเดินเล่นไปก่อนไหมล่ะครับ?" สเตฟานเสนอ "แล้วเราก็ส่งคนแจ้งท่านดยุก"

"หม่อมฉันเห็นด้วยเพคะ แต่เรื่องแจ้งท่านพ่อ หม่อมฉันให้คนไปแจ้งแล้วเพคะ"

แดเนียลกำลังจะลงจากหลังม้าฉับพลันมีแสงสะท้อนเข้าดวงตาสีอำพัน นั่นทำให้เฟลิกซ์รู้ตัวได้ทันคว้าเด็กหญิงหลบพร้อมเตือนคนอื่น

"ระวัง!"

"!"

ลูกศรพุ่งตัดผ่านอากาศปักเข้าที่ข้างลำคอของม้าตัวที่แดเนียลนั่งอยู่ ส่งผลให้ม้าดีดตัวตกใจยกขาหน้าขึ้นสองข้างแล้วผลักวิ่งสะบัดพยศ คนคุมพยายามทรงตัวใหม่จับสายดึงไว้แต่มันก็เตลิดวิ่งเข้าป่า

"ท่านพี่!"

ไวโอเล็ตหันไปยังตำแหน่งที่มีลูกธนูยิงมาก็เห็นคนซ่อนตัวหลบหนี เธอจึงใช้อุปกรณ์เวทปล่อยศรลมยิงใส่ ฝ่ายตรงข้ามตกใจก้มทว่าเป้าจริงเป็นด้านบน เสียงแตกโพละของผลไม้เหนือศีรษะปล่อยน้ำยางเหม็นกระจายทั่วก่อนเขารู้ตัววิ่ง พวกทหารคุ้มกันกับสไควร์ส่วนหนึ่งเร่งตามแดเนียลอีกส่วนอารักขาสเตฟานที่นี่ ทางเฟลิกซ์กลับไปหาม้าตัวเองซึ่งเธอวิ่งไปขอ

"ข้าขอไปด้วยค่ะ!"

เขาลังเลอยู่ครู่ก่อนจะจับมือพยุงให้ปีนขึ้นมานั่งด้วยซ้อนด้านหลัง ม้าตะบึงวิ่งเด็กหญิงก็เกาะไว้ เมื่อเห็นแตรเขาสัตว์ที่เฟลิกซ์สะพายก็จับดึงหยิบมาเป่าเองดังๆ สายเชือกแทบจะพันคอเพื่อน

"ทำอะไร!?"

"ข้าจะระบุตำแหน่งค่ะ เจ้าตามท่านพี่เร็วเข้า!"

ม้าสำหรับแบกของวิ่งช้าไม่ทันใจ ทว่าขอแค่พอเห็นด้านหน้าที่วิ่งกันอยู่ก็เพียงพอ ไวโอเล็ตภาวนาให้ได้ยินกันทั่วๆ จนมีเสียงเป่าแตรเขาสัตว์ตอบเป็นสัญญาณเธอก็ใจชื้น

ไม่นานม้าเร็วของกลุ่มอัศวินเมอร์ริแกนก็วิ่งเข้ามาในระยะ เซอร์แบรนดอนควบมาถามสถานการณ์

"เกิดอะไรขึ้น!?"

"เซอร์แบรนดอนมีคนร้ายยิงธนู ม้าท่านลอร์ดแดเนียล!"

เข้าใจแล้วเขาก็สะบัดสายบังเหียนเร่งขึ้นไปด้านหน้า ไม่ลืมตะโกนสั่งให้หาตัวคนน่าสงสัยและแบ่งคนคุ้มครองเลดี้ไวโอเล็ต

แดเนียลยังพอพยุงตัวไม่ให้ตกหลังม้าหรือพอเบี่ยงทิศไม่ให้ชนต้นไม้ได้ แต่ม้าคลุ้มคลั่งผิดปกติไม่เชื่อฟัง ท่านเซอร์วิ่งเทียบได้ก็รีบคว้าตัวลอร์ดน้อยเมอร์ริแกนมา แล้วพวกสไควร์ถึงช่วยกันจับม้าด้วยเชือกกระชากให้หยุด

"ท่านพี่คะ!"

มาถึงไวโอเล็ตก็แทบจะกระโดดลงจากหลังม้าโดยไม่รอ เฟลิกซ์จับทันให้ปีนวางเท้าที่โกลนลงดีๆ เท้าเหยียบพื้นได้เธอก็ตรงเข้าไปหาแดเนียล

"ท่านพี่ ท่านพี่ปลอดภัยนะคะ?"

"ข้าไม่เป็นไร" เขาหันไปทางอัศวินแบรนดอน "ขอบคุณท่านเซอร์"

"ลอร์ดแดเนียล เลดี้ไวโอเล็ต เรายังจับคนร้ายไม่ได้ พวกท่านควรกลับคฤหาสน์เพื่อความปลอดภัย"

"ไม่ต้องห่วงค่ะ เซอร์แบรนดอน"

ในความฝันที่จับตัวคนร้ายไม่ได้เพราะว่าคนๆ นั้นแฝงตัวเป็นคนที่เดินทางมาครั้งนี้ เพียงหลบออกไปแล้วทำทีปะปนกลับเข้ามาก็ไม่มีใครรู้สึกผิดสังเกต ดังนั้นไวโอเล็ตเลยจงใจทำสัญลักษณ์ ดวงตาสีม่วงเหลือบมองไปยังสไควร์คนหนึ่ง บนศีรษะเขามีน้ำยางเหม็นเขียวของเจ้าผลไม้ที่เธอทดสอบหาวิธีแกล้งเฟลิกซ์ไว้อยู่

ท่าทางเขาเริ่มรู้สึกตัวได้จากสายตาของเลดี้น้อย สบโอกาสตอนนี้เลยตัดสินใจขึ้นม้าหนี ทหารของเซอร์แบรนดอนตามไปจับตัว ฝั่งด้านหน้าก็มีกลุ่มของเจ้าชายสเตฟานมาทางนี้พอดี พริบตานั้นองครักษ์ของเจ้าชายก็ยิงลูกธนูปักคนร้ายร่วงลงกระแทกพื้น พวกทหารลงจากหลังม้าก็ตรวจสอบลมหายใจ

"เป็นอย่างไรบ้าง?"

"เสียชีวิตแล้วครับ"

เซอร์แบรนดอนย่นคิ้วที่ไม่สามารถเค้นสืบต่อได้ ซึ่งทุกคนก็ปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อนก้มศีรษะทำความเคารพแล้วนำทางไปสมทบกัน ไวโอเล็ตเห็นร่างคนลอบสังหารที่ขาดใจแล้วก็สับสน เธอไม่คิดว่าพวกอัศวินจะจับตาย จะหันไปถามท่านเซอร์ ผู้อาวุโสกว่าก็ส่ายหน้า

"ปลอดภัยกันใช่ไหมครับ?"

"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าพวกเราควรกลับไปที่เมือง" อัศวินแบรนดอนแจ้ง "เวลานี้ท่านดยุกน่าจะทราบเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

"เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นเราก็กลับกันเถอะ"

บุตรจักรพรรดิเห็นไวโอเล็ตจ้องตรงมาก็ยิ้มตอบ นั่นทำให้ไวโอเล็ตรู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม

ทั้งหมดรับคำสั่งก็พากันเคลื่อนย้าย พวกทหารแบ่งกันเก็บหลักฐานรอบๆ ที่เหลืออารักขาพาเจ้านายกลับเข้าเมือง ไวโอเล็ตที่นั่งม้าอยู่กับเซอร์แบรนดอนก็กำมือตัวเองแน่น เธอคิดทบทวนหลายอย่างในหัวซ้ำไปมา จนใกล้ถึงประตูด่านเข้าเมืองเห็นบิดาก็หน้าซีดเม้มปาก แม้แต่แดเนียลที่ไม่ได้ทำผิดอะไรยังหนาววาบไปทั้งตัว