ินห์ - พ่อผู้ยากจนที่อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ กับลูกสาววัยหกขวบชื่อกุ๊ก ต้องดิ้นรนกับชีวิตที่ไม่แน่นอน วันหนึ่ง แสงแดดลอดผ่านหน้าต่างส่องมาที่ห้องเช่าของเขา ห้องที่เต็มไปด้วยความรกและความอับชื้น มินห์และกุ๊กกำลังหลับสนิท แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตูและเสียงตะโกนจากข้างนอก มินห์เปิดประตูออกไปพบกับลุงฮว่าง เจ้าของหอพักที่กำลังด่าทอเขาเรื่องค่าเช่าที่ค้างจ่าย มินห์พยายามขอผัดผ่อนและสัญญาว่าจะจ่ายให้ครบ ลุงฮว่างยังคงด่าแต่สุดท้ายก็ยอมให้ผัดออกไป
เช้าวันรุ่งขึ้น มินห์ถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์จากแม่ของเขา แม่โทรมาขอเงินใช้หนี้ มินห์ฟังไปสักพักก่อนจะวางสายลงอย่างหงุดหงิด พลางพึมพำว่า "ตัวเองก็ยากจนอยู่แล้วยังจะมาขอเงินอีก จะเอาที่ไหนให้!" มินห์ถอนหายใจอย่างอ่อนล้า ก่อนจะรีบล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาลูกสาวไปโรงเรียน ระหว่างทาง กุ๊กบอกเขาว่าครูแจ้งเรื่องค่าเทอมที่ต้องจ่าย มินห์จึงบอกลูกว่าให้ตอบครูไปว่า "เดือนหน้าพ่อจะจ่ายทีเดียว" จากนั้นเขาซื้อข้าวเหนียวให้ลูกกิน ก่อนจะส่งกุ๊กที่หน้าโรงเรียนแล้วรีบไปทำงาน
ที่โรงเรียน ครูสังเกตเห็นรอยฟกช้ำบนร่างของกุ๊ก เมื่อสอบถาม เด็กน้อยกลับบอกว่าเธอหกล้ม ครูรู้สึกเป็นห่วงแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ในที่ทำงาน มินห์ถูกเจ้านายต่อว่าอย่างรุนแรงก่อนจะถูกไล่ออก เพราะทำงานผิดพลาดจนเกิดความเสียหาย และเขายังถูกเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย เจ้านายแจ้งว่าจะมีคนมาติดต่อเขาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า มินห์สบถอย่างหัวเสียก่อนเดินออกมา เขาขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆ ของเขาไปตามถนน พลางคิดถึงความผิดพลาดของตัวเอง "เงินเดือนก็หมดไปกับการพนัน สุรา และผู้หญิง จนเมียหนีไปทิ้งลูกไว้ให้เลี้ยง เงินก็ไม่มีเก็บสำรอง" ระหว่างที่คิดถึงเรื่องพวกนี้ ฝุ่นก็ปลิวเข้าตาของเขา ทำให้เขามองไม่ชัดและชนเข้ากับป้าหลานที่เดินอยู่ริมถนน ป้าหลานล้มลงไป แต่มินห์กลับต่อว่าเธอว่า "แก่แล้วไม่เห็นทางเหรอถึงเดินกลางถนน!" แล้วก็ขับรถจากไป
ตอนเที่ยง หลังจากขายมอเตอร์ไซค์คันเก่าของเขาไปแล้ว มินห์เดินไปที่ร้านขายของชำใกล้สี่แยก ขณะกำลังซื้อบุหรี่ เขาได้ยินกลุ่มผู้หญิงวัยกลางคนคุยกันเรื่องการขอหวยจากศาลเจ้าใกล้สะพาน พวกเธอบอกว่าศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้วิญญาณของเหยื่ออุบัติเหตุได้สถิตอยู่ และส่วนใหญ่เป็นเด็กที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงทำให้ศาลเจ้านี้ศักดิ์สิทธิ์มาก มินห์ฟังเรื่องนี้ด้วยความสนใจ คืนนั้นเอง เขาจึงไปที่ศาลเจ้าและนำผลไม้ไปเซ่นไหว้ เขาขอพรให้เขาชนะการพนันครั้งใหญ่ ก่อนจะปักธูปแบบลวกๆ และรีบจากไป
ต่อมาในคืนนั้น มินห์ไปพบกับ ฟุก เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นเจ้ามือบ่อน ทั้งสองนั่งอยู่ในรถตู้เก่าที่จอดอยู่ในตรอกที่มืดสลัว ภายในรถมีเด็กสาวคนหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ เธอสวมเสื้อเชิ้ตขาวกับกระโปรงดำ เสื้อของเธอสกปรกเต็มไปด้วยโคลน มินห์มองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายก่อนถามว่า "มึงไปหาผู้หญิงคนนี้มาจากไหน?" ฟุกหัวเราะเยาะแล้วตอบ "กูได้มาจากลุงไฮกว๋าง นี่ลูกสาวสุดที่รักของมันเลยนะ! ยังใหม่เอี่ยมเลย สนใจลองไหม?" มินห์หัวเราะก่อนตอบว่า "ของดีแบบนี้...ถ้าไม่ลองก็เสียดายแย่" จากนั้นเขาค่อยๆ ถอดกางเกงออก ในขณะที่ฟุกก็ถอดเสื้อของมันออกเช่นกัน เสียงหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นท่ามกลางเสียงลั่นของรถเก่า
ไม่กี่วันต่อมา มินห์กำลังเล่นพนันอยู่ที่บ่อน ในตอนแรกเขาชนะและหัวเราะเยาะอย่างภาคภูมิใจ แต่แล้วฟุกส่งสัญญาณให้ลูกน้องสับไพ่ มินห์เริ่มแพ้และเสียเงินจนเหลือเพียงโทรศัพท์มือถือและเงินไม่กี่ร้อย ฟุกยั่วยุให้มินห์เดิมพันรอบสุดท้ายโดยใช้ลูกสาวของเขาเป็นเดิมพัน ถ้าขาดเงิน ฟุกจะให้ยืมเพิ่ม มินห์ลังเล เสียงของแม่เขาดังขึ้นในหัว "มึงหาเงินได้หรือยัง? ถ้าไม่มี กูอาจจะต้องขายบ้านแล้ว!" เสียงของเมียเก่าก็ลอยมา "กูอยู่กับมึงไม่ได้แล้ว มึงทำได้แค่ทำกูท้องแล้วสร้างหนี้! กูขอล่ะ มึงเลี้ยงลูกไปเถอะ กูอยู่กับมึงต่อไปไม่ไหวแล้ว"
สุดท้าย มินห์ตัดสินใจเดิมพันทุกอย่าง แต่เขาแพ้ ฟุกบอกให้เขาชดใช้หนี้ ถ้าไม่จ่ายตามกำหนดจะต้องเจอผลลัพธ์ที่เลวร้าย ลูกน้องของฟุกพาตัวกุ๊กมายังบ่อน เด็กน้อยร้องไห้และพยายามหนี มินห์พยายามยื้อแย่งตัวลูกคืนมาแต่ถูกซ้อมจนต้องถอยไป มินห์หมดหวังและรีบวิ่งออกจากบ่อน
เขาวิ่งไปถึงศาลเจ้าอย่างเดือดดาล และสาปแช่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ช่วยให้เขาชนะพนัน เขาเตะถาดผลไม้จนของเซ่นไหว้กระเด็นลงถนน ทันใดนั้น ลมแรงพัดมาทำให้แผ่นไม้มีตะปูหลุดตกลงมาและปักเข้าที่เท้าของเขา มินห์ร้องด้วยความเจ็บปวดแต่ยังหัวเราะ "กูยังไม่ตายง่ายๆ หรอก!" ทันใดนั้น มีแมวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้า มินห์สะดุดมันและล้มจากสะพานลงไปบนถนน ขณะนั้น รถบรรทุกแล่นผ่านมาพอดี เขาถูกกระแทกจนร่างกระเด็นและกระดูกหัก ร่างของเขากระแทกพื้นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาถูกครูดไปกับพื้นถนนจนเป็นแผลเหวอะ
ก่อนสิ้นใจ เขาพูดคำสุดท้ายว่า "พ่อขอโทษลูก..." จากนั้นเขาก็หมดลมหายใจ เสียงระฆังเก่าแก่ที่แขวนอยู่ในศาลเจ้าหล่นลงพื้น ดังก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณ ราวกับเป็นเสียงไว้อาลัยให้กับโชคชะตาของเขา
งานศพของมินห์ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายในบ่ายวันที่ฝนตก โปรยปรายและเยือกเย็น