วันอังคาร ที่ 19 ตุลาคม พุทธศักราช 2542 (คริสต์ศักราช 1999) เวลา 09.00 นาฬิกา
ระหว่างการเดินทาง 7 วัน ประทักษิณพาบดินทร์แวะอาบน้ำ ค้างคืน เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
บดินทร์สวมเสื้อยืด กางกางขายาว รองเท้าสวมที่พื้นหนานุ่ม เดินทางไกลแล้วเท้าไม่ปวด
ส่วนประทักษิณสวมหมวกฟางร้อยเชือกห้อยอยู่ข้างหลัง เสื้อพิมพ์ลายคอปก-แขนสั้น ปลดกระดุมเห็นแผงอก-กล้ามท้อง สะพายเป้เฉียงบ่าทั้งสองข้างจนข้างหลังมองเป็นเครื่องหมายกากบาท กางเกงคลุมเข่า รองเท้าผ้าใบ
"ถึงแล้วครับ"
โลกของเขากำลังจะเปลี่ยนไป รู้สึกได้เลย บดินทร์ตกตะลึงอยู่บ้างทันทีที่เห็นเส้นเรืองแสงสว่างระจายไปทั่ว เขาก้าวยาวๆ อยู่ๆ ก็ต้องตกใจ ผงะถอยหลัง
"อาณาเขตชายแดนแห่งนี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปก็ได้ มีเพียงคนของดินแดนแรกที่ได้รับอนุญาตจากดินแดนนี้เท่านั้นถึงจะเข้าไปในดินเดนแห่งนี้ได้"
ข้างหน้ากำแพง มีทหารยืนอยู่อย่างเว้นระยะห่างเท่าๆ กัน ดูแลอยู่บริเวณรอบนอก
"วิญญาณฆ่าตัวตายมองไม่เห็นดินแดนหลังความตาย" ประทักษิณมองดูกระดิ่งที่สั่นไหวๆ
"นี่น่าจะเป็นวิญญาณฆ่าตัวตายที่อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุ เพราะอาคมใช้การได้เอง และกระดิ่งบริเวณกำแพงปรากฏเป็นแสงสีเขียว"
ดวงวิญญาณจำนวนมากเดินไป-มาอยู่ข้างหน้ากำแพง พวกเขาราวกับนัยน์ตามืดบอด มองทางเข้าไม่เห็น
คลำไม่เจอ ทั้งที่อยู่ตรงหน้า
"แม้จะอยู่ที่ดินแดนหลังความตาย การลงมือฆ่าตัวเองด้วยตัวเองนั้นจัดอยู่ในวิญญาณพฤติการณ์แห่งการตายโดยผิดธรรมชาติ การฆ่าตัวตาย ผู้อื่นทำให้ตาย สัตว์ทำให้ตาย ตายโดยอุบัติเหตุ และตายโดยยังมิปรากฏเหตุ จะถูกกักกันที่สำนักงานรอพบพนักงานสอบสวนและแพทย์ชันสูตรพลิกศพ เพื่อพิจารณาส่งตัวต่อไปยังสถานที่สาม"
บดินทร์ต้องการจะถาม แต่เขาเพิ่งจะอ้าปาก ก็ต้องค้างอยู่อย่างนั้น
[ด่านตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี]
[ณ ช่องทางอนุญาตเส้นทางคมนาคมจากพรมแดนถึงที่ตั้ง ตม.กรุงเทพมหานคร]
บดินทร์มองดูกำแพงหินขนาบสายน้ำตกที่ราวกับประตูสูงจรดฟ้า ข้างประตูมีต้นไม้แห่งชะตาลิขิต อายุนับ 4,500 ล้านปีเขียวสด
บนยอดไม้สูงสุดมีไก่ตัวผู้สีทองตัวหนึ่งคอยตรวจตราขอบฟ้า
นกอินทรีอีกตัวหนึ่งจะคอยเกาะกิ่งไม้มองสำรวจเช่นเดียวกับไก่ นกตัวนี้เป็นผู้ช่วยของนกเหยี่ยวซึ่งเกาะอยู่ระหว่างตาของมัน