คืนวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1987 ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ปีเถาะ เธอและเขาได้ฝันเห็นตนเองวิ่งฝ่าสายฝนตกหนักอย่างรีบเร่งราวกับหนีอะไรบางอย่างที่น่าหวาดกลัว เสียงฟ้าร้องครั้งสุดท้ายดังสนั่นขณะหยุดอยู่ที่ริมหน้าผา
จู่ๆ เกิดฟ้าแล่บ สายฟ้าราวกับรากฝอยหลายสายฟาดส่งเสียงดังเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหวจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน! พร้อมๆ กับเหนือหน้าผาปรากฏเทพบุตรกับนางฟ้า 8 ปีกปรากฏ มีกายเรืองแสงเป็นสีขาวสว่างโดยรอบ
เสียงเทพบุตรดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วว่า "สามี-ภรรยาคู่นี้เป็นมนุษย์ที่มีคุณงามความดี เมตตาต่อสรรพชีวิตทั้งปวง ประกอบการงานอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งยังสร้างคุณงามความดีมาตลอดชีวิต"
นางฟ้าส่งรอยยิ้มราวกับเอ็นดูทั้งสามี-ภรรยา คนทั้งสองเห็นแสงสว่างจุดหนึ่งเหนือศีรษะ ก่อนจะขยายกว้างเป็นเนบิวลาเรืองแสง (ดูคล้ายสายไหมหลายหลากสี) และแล้วมังกรที่มีขนาดใหญ่พลันเคลื่อนที่ออกมาจากเนบิวลานั้น
มังกรขาวที่มีลำตัวคล้ายงูใหญ่นั้นสะท้อนแสงดวงจันทร์ มีเขาเหมือนเขากวาง มีโหนกที่หัวที่ทำให้สามารถ
บินได้ กรงเล็บของนกอินทรี อุ้งเท้าเสือ หนวดแมว หูเหมือนกระทิง ท้อง-สันหลังสีทอง
ก่อนจะขนาดหดเล็กเท่าหนอนเคลื่อนเข้าไปยังประทีปที่เรืองแสงรัศมีสีรุ้ง (ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง) สวยจับใจ
"บัดนี้ มังกรผู้คุมประตูแห่งจักรวาลถึงกำหนดจุติ เขาในอนาคตจะกลายเป็นมนุษย์ผู้อยู่เหนือมนุษย์และทุกสรรพสิ่ง เขาจะรอบรู้โดยไม่จำกัดขอบเขต มีความสามารถในการบันดาลทุกสรรพสิ่ง และคงอยู่อย่าง
ไม่มีจุดจบ"
เทพบุตรลดระดับลงมาเรื่อยๆ ดูเหมือนเขาจะมุ่งหน้าตรงมาที่นางราชพฤกษ์กับนายยุทธนาข้างล่างนี่
เทพบุตรกล่าวอย่างไม่แสดงอารมณ์ ที่จริงเขาสวมหน้ากากสีขาวสลักอักษรรูนเป็นลวดลายแปลกตาปิดบังใบหน้า
ในขณะที่คนทั้งสองต่างตะลึงงันอยู่นั้น
"แต่ทว่า ต่อไปภายหน้าจะได้สิ่งมีชีวิตนี้เป็นผู้นำแสงสว่างมาสู่โลกสืบรุ่นสู่รุ่น หรือเป็นผู้นำความมืดมาสู่โลกเป็นวาระสุดท้าย ขึ้นอยู่กับคุณทั้งสองผู้ให้การเลี้ยงดู"
นางฟ้าส่งมอบประทีปให้แก่นางราชพฤกษ์กับนายยุทธนา "คุณทั้งสองโปรดรับไว้ และโปรดรักษาให้ดี"
เมื่อสิ้นเสียงสุดท้าย เทพบุตรกลายร่างเป็นมังกรทองที่มีลำตัวคล้ายงูใหญ่นั้นบดบังดวงจันทร์
มีเขาเหมือนเขากวาง มีโหนกที่หัวที่ทำให้สามารถบินได้ กรงเล็บของนกอินทรี อุ้งเท้าเสือ หนวดแมว
หูเหมือนกระทิง ท้อง-สันหลังสีขาว
เวลาเดียวกับเทพธิดากลายร่างเป็นหงส์ หัวมาจากไก่ฟ้า ปากมาจากนกแก้ว ตัวมาจากเป็ดแมนดาริน
ขามาจากนกกระสา หางมาจากนกยูง สวยงามมาก รัศมีเปล่งออกจากร่างกายยี่สิบแปดสายส่องสว่างรอบทั่ว
ทั้งคู่ค่อยๆ เลือนหายไปในทันที พร้อมๆ กับนางราชพฤกษ์และนายยุทธนาสะดุ้ง ลืมตาตื่น
และลุกขึ้นนั่ง เหงื่อผุด เสียงหัวใจเต้นราวกับกลองรัว
"ฉันฝันเห็นเทพบุตร"
"ผมฝันเห็นเทพธิดา" นายยุทธนาพูดพร้อมนางราชพฤกษ์
"เทพธิดาส่งประทีปให้ผม"
"เทพธิดาส่งประทีปให้ฉัน" นางราชพฤกษ์พูดพร้อมนายยุทธนา
"ผมคิดว่าคนสองคนอยู่ในความฝันเดียวกันพร้อมๆ กันนั้นเป็นไปไม่ได้ คนสองคนจะฝันเหมือนกันเป๊ะได้ยังไง อยู่ในฝันเดียวกันพร้อมๆ กันนั้นยากมาก ยังไงก็เป็นไปไม่ได้หรอก"
"หลักการวิทยาศาสตร์ บอกฉันว่าภาพความฝันที่เราเห็นขณะหลับเกิดขึ้นจากความทรงจำบางชุดถูกสุ่มจับได้เป็นกรณีพิเศษ โดยจะถูกผสมผสานและปรุงแต่งเรื่องราวตามประสบการณ์ที่แต่ละคนนึกคิดและพบเจอ
ฉันกับคุณก่อนหลับอาจจะดูภาพยนตร์หรือซีรีย์สักเรื่อง..."
"...อ่านหนังสือสักเล่ม"
นายยุทธนากระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะเห็นด้วย "นั่นสินะ"
"สารคดี..."
"...เรื่องเล่า"
ทั้งสองคนนึกอยู่นาน แต่แล้วพวกเขาก็ค้นพบความจริงที่ว่า พวกเขาคงเป็นมนุษย์คู่สุดท้ายที่จะมีเวลาเหลือมากพอทำกิจกรรมยามว่างเหล่านั้น
"จริง คุณพูดหลักการที่เถียงไม่ได้" นายยุทธนาเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งที่เครื่องปรับอากาศแผ่ไอเย็นฉ่ำ "แต่เราทั้งคู่จะอธิบายถึงสิ่งที่อยู่ในมือของแต่ละคนว่าอย่างไรล่ะ" เขาแบบมือเผยให้เห็นสร้อยเส้นหนึ่ง
นางราชพฤกษ์แบมือเผยให้เห็นเปลือกเฮเซลนัต
และสุดแสนจะแปลกประหลาด เมื่อทั้งสองคนเห็นตัวอักษรที่ขนาดเล็กจิ๋วเกินกว่าที่คนธรรมดาจะมองเห็น 'บดินทร์ อัครบดินทรเดชา'