Chereads / Fusion World / Chapter 19 - แม่

Chapter 19 - แม่

ภายในห้องที่ดูหรูหรา ณ ปราสาทหลังหนึ่ง

แม่บ้านวัยกลางคนผู้มีเขาน้อย ๆ คล้ายวัวอยู่บนหัวและมีปีกเหมือนค้างคาวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับรถเข็นที่เต็มไปด้วยอาหารคาวเป็นจำนวนมาก

หญิงสาวที่มีลักษณะเช่นเดียวกันนั่งยิ้มส่งยิ้มอยู่บนเตียงอันแสนอบอุ่น ก่อนจะเอ่ยถาม

"วันนี้มีอะไรบ้าง"

แม่บ้านราดน้ำสีแดงปรุงรสให้กับเนื้อคาวเหล่านั้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยตอบ

"เนื้ออ่อนจากหางไวเวิน เนื้ออ่อนจากต้นขามังกรดิน และเนื้ออ่อนจากข้อมือและข้อเท้ามนุษย์เพคะเจ้าหญิงเบียร์ทรีซ"

เบียร์ทรีซลุกมานั่งที่ขอบเตียงแล้วมองอาหารในจานด้วยนัยน์ตาสีแดงที่ลุกวาว

แม่บ้านเมื่อจัดโต๊ะอาหารที่อยู่ต่อหน้าเจ้าหญิงเสร็จ ก็โค้งคำนับเจ้าหญิงเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

เบียร์ทรีซรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าขาวอมชมพูที่งดงามและอ่อนหวานกำลังเพลิดเพลินไปกับรสชาติของอาหาร ผมสีม่วงเข้มเป็นประกายยาวสลวยถึงกลางหลัง มันโบกสะบัดไปมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอขยับเคลื่อนไหว

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ แม่บ้านก็กลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับชุดเกราะอัศวินสำหรับหญิงสาว ทรวดทรงช่วงอกที่ใหญ่โตทำให้การสวมใส่นั้นยากลำบากเล็กน้อย

เบียร์ทรีซหันไปมองแม่บ้านอย่างไม่พอใจเมื่อแม่บ้านนั้นเอาเกราะส่วนขามาให้เธอด้วย เธอจึงเริ่มบ่น

"ต้องใส่ท่อนล่างด้วยเหรอ"

เบียร์ทรีซผายมือให้ดูช่วงร่างของเธอที่มีเพียงแค่กางเกงชั้นในสีม่วงบาง ๆ ปกปิด ขาที่เรียวยาวเริ่มมีเหงื่อไหลย้อยจากอากาศที่ร้อนชื้น

แม่บ้านยิ้มอย่างจนใจแล้วตอบ

"เป็นคำสั่งเพคะ ไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด"

เบียร์ทรีซหน้ามุ่ยจ้องแม่บ้าน แต่สุดท้ายเกราะส่วนล่างก็ถูกนำมาสวมใส่ให้เธออยู่ดี

หลังจากบริการเจ้าหญิงเบียร์ทรีซเสร็จ แม่บ้านก็นำอาหารอีกชุดมาให้กับมหาปราชญ์ผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ในห้องที่อยู่ไม่ไกลกันนัก

ชายชราผู้มีปีกและเขามองดูแผนที่แสดงตำแหน่งเมืองต่าง ๆ บนโต๊ะขนาดใหญ่อย่างวิตกกังวล หัวเมืองใหญ่ ๆ นั้นโดนยึดไปได้หมดแล้ว ส่วนหัวเมืองเล็ก ๆ ที่กระจัดกระจายกันอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ถูกยึดครองไปทีละเมืองทีละเมือง ซึ่งอีกไม่นานเมืองที่พวกเขาอยู่ก็คงจะโดนไปด้วย เพราะไม่ว่าพวกเขาจะย้ายไปอยู่เมืองไหน เมืองนั้นก็มักจะตกเป็นเป้าหมายของการถูกบุกยึดเป็นเมืองต่อไปโดยตลอด ราวกับว่าเจ้าราชากบฏผู้ชั่วช้านั่น มันรับรู้ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา

แม่บ้านเปิดประตูเข้ามา ก่อนจะเคาะส่งเสียงเบา ๆ

"ท่านมหาปราชญ์ อาหารเพคะ"

มหาปราชญ์ละสายตาจากแผนที่ตรงหน้า แล้วหันมาสนใจอาหารที่แม่บ้านนำมาให้

"วันนี้มีอะไรบ้าง"

"ดังเช่นทุกวันเพคะ แต่ก็มีของใหม่อย่างเนื้อมนุษย์มาด้วย"

มหาปราชญ์เลิกคิ้ว

"เนื้อมนุษย์เหรอ ไปเอามาจากไหน"

"องครักษ์ของท่านเจ้าเมืองจับมาได้เพคะ"

มหาปราชญ์เพ่งมองดูเนื้อในจาน

"การหั่นเนื้อแบบนี้มัน"

มหาปราชญ์ นิ่งคิดครู่หนึ่ง

"แม่บ้าน มนุษย์ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่"

หลายวันและหลายคืน ชีฟได้แต่กรีดร้องอย่างทรมานยามเมื่อเนื้อถูกแล่ ได้แต่นอนนิ่ง ๆ อย่างสิ้นหวัง กิจวัตรเดิม ๆ เกิดขึ้นในทุกเช้าเที่ยงและเย็น ความเจ็บปวดเกิดขึ้นทุกวัน จนกระทั่งหนึ่งเดือนผ่านไป ชีฟก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีก

ยามค่ำคืน ชีฟรู้เจ็บที่ใบหน้าเมื่อถูกมือหนา ๆ ตบใส่หลายครั้ง ชีฟลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าเขากำลังอยู่ในป่าแห่งหนึ่งแม้จะมีเพียงแค่แสงจันทร์อ่อน ๆ แต่เมื่อชีฟได้เห็นเจ้าของมือ ชีฟก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร ชีฟยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

"ฮิก"

ฮิกมองชีฟแล้วยิ้มให้ ก่อนจะหันไปหาคริส

"คริส ขออวัยวะเทียมหน่อย"

คริสนำมือและเท้าที่เป็นเหล็กออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะประกบติดเข้ากับข้อมือและข้อเท้าของชีฟ คริสลูบหัวชีฟอย่างเห็นใจแล้วพูดว่า

"ไว้เดี๋ยวเราจะเก็บเงินปลูกถ่ายมันขึ้นมาใหม่"

คริสพยุงให้ชีฟลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ พาวิ่งไปด้วยกัน

อวัยวะเทียมนั้นทำงานได้ดี ชีฟสามารถกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง ชีฟหันไปถามคริสที่วิ่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยความประหลาดใจเมื่อนึกถึงความสูงที่ตนร่วงลงมา

"ลงมากันได้ไง มันสูงมาก"

คริสพยักหน้าให้ชีฟมองไปข้างบน ก่อนจะพบเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งลอยลำอยู่เหนือผืนป่า มันกำลังรอพวกเขา ชีฟยิ้มอย่างชอบใจที่ได้เห็น เพราะเขาพึ่งจะเคยเห็นมันในหนังที่เขาดูเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี่เอง ไม่นึกว่าจะได้มาเห็นของจริงในวันนี้

แต่แล้วภาพฝันที่จะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ก็พังทลายลงในพริบตา เสียงคำรามกึกก้องดังมาจากด้านหลังของทั้งสามคน มังกรตัวใหญ่ยักษ์บินตรงมายังจุดที่พวกเขาอยู่ มันอ้าปากอันใหญ่โตของมันและพ่นเปลวไฟอันร้อนแรงเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์จนมอดไหม้ ยานยนต์ที่ติดไฟเหวี่ยงไปมาอย่างไร้การควบคุม ก่อนจะร่วงตกกระแทกพื้นแล้วระเบิดเป็นพลุไฟดวงโต

ชีฟมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะหันไปถามคริส

"เราจะได้กลับไปข้างบนมั้ย"

คริสหันมายิ้มหน้าเครียด

"ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เอาตัวให้รอดก่อน เดี๋ยวเราค่อยติดต่อขอลำใหม่มาก็ได้"

ชีฟพยักหน้าก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตรงไปข้างหน้า

เจ้ามังกรบินลอยข้ามหัวพวกเขาไป ก่อนจะวกกลับมาแล้วบินลงมายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

คริสและฮิกยกปืนขึ้นมากราดยิงไม่ยั้ง แต่กระสุนกลับไม่สามารถทะลุผิวหนังของเจ้ามังกรได้เลย มังกรร้ายขู่คำรามแล้วพ่นไฟออกมาอีกครั้ง คริสคว้าชีฟแล้วพากระโดดหลบไปด้านข้าง แต่ฮิกนั้นแม้จะกระโดดหลบไปแล้ว แต่เจ้ามังกรก็หันตามและเผาจนมอดไหม้ คริสและชีฟมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เจ้ามังกรหยุดพ่นไฟแล้วหันมาทางพวกเขาสองคน วงแหวนสามชั้นปรากฏขึ้นมารัดตัวชีฟไว้อีกครั้ง ก่อนจะพาชีฟลอยขึ้นไปในอากาศ คริสรีบกระโดดคว้าชีฟเอาไว้ แต่เจ้ามังกรก็ใช้หางที่ยาวเฟื้อยของมันตวัดฟาดคริสจนกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น แล้วพ่นไฟใส่ ภาพของคริสที่มอดไหม้สะท้อนอยู่ในนัยน์ตาสีน้ำตาล ก่อนจะตัดเป็นภาพเพดานห้องที่คุ้นเคย ชีฟสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมกับเหงื่อที่ไหลอาบเต็มใบหน้า บางอย่างทำให้ชีฟโล่งใจเมื่อภาพที่เห็นเป็นเพียงแค่ฝัน

ชีฟยกแขนขึ้นปาดเหงื่อด้วยความเคยชิน ก่อนจะพบว่าโซ่ที่รัดเขาไว้นั้นหย่อนยานด้วยสาเหตุบางอย่าง ชีฟดึงแขนทั้งสองข้างออกจากโซ่ แล้วตามด้วยโซ่ที่รัดคอของเขา จากนั้นก็ดึงขาออกมา ชีฟกลิ้งลงจากเตียงไปอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด แขนและขาสองข้างต้องทำหน้าที่ต่างเท้าพาร่างกายคลานไปกับพื้น ชีฟคลานอย่างช้า ๆ จนไปถึงประตู จากนั้นคุกเข่าขึ้นแล้วใช้แขนข้างซ้ายโยกที่จับประตูลงมา เสียงแคร็ก ๆ ที่ดังขึ้นทำให้ชีฟหมดหวัง เพราะมันคือเสียงที่บ่งบอกว่ามันถูกล็อกเอาไว้

ชีฟหันหลังนั่งพิงประตู ก่อนจะมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง สายตาของเขาไปสะดุดเข้ากับแท่งเหล็กแหลมที่ตั้งพิงกำแพงอยู่ใกล้ ๆ กับประตู ความคิดบางอย่างทำให้ชีฟใช้แขนสองข้างไปคีบเอามันมา เหล็กแหลมสั้นพอดีกับตัวในขณะที่นั่งอยู่ ปลายด้านทู่ค้ำยันไว้กับพื้น ส่วนปลายด้านแหลมก็มาจออยู่ที่ลำคอ แค่เพียงก้มตัวลงแรง ๆ ความทรมานที่เขาได้รับในทุกวันก็จะหยุดลง ชีฟเงยหน้าขึ้นแล้วกลั้นใจ แต่ในขณะที่เขาจะก้มตัวลงมา บางอย่างที่มองไม่เห็นก็รั้งเขาเอาไว้ ภาพของหญิงคนหนึ่งที่ลำบากเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก ผู้หญิงที่อาบน้ำให้เขา ผู้หญิงที่พาเขาหัดเดิน ผู้หญิงที่ทำให้เขาโตมาได้ขนาดนี้แม้จะต้องลำบากขนาดไหนก็ตาม น้ำหยดใส ๆ ถูกปลดปล่อยออกมา เสียงสะอื้นไห้ดังออกมาไม่ขาดสาย

"แม่"