"เปิดหน้าต่างสเตตัส"
เมื่อสิ้นคำหน้าต่างโปร่งแสงเด้งขึ้นมาตรงหน้าของเด็กชาย เขากวาดตาตรวจสอบข้อมูลในนั้นทีละรายการอย่างละเอียด
[แองเจโล เยลล์ (ชื่อเดิม) Lv. 1] คุณสามารถเปลี่ยนชื่อใหม่สำหรับโลกนี้ได้ (ตกลง/ยกเลิก)
[คลาส: เทมเมอร์]
[ค่าประสบการณ์: 0/5] [HP 10/10 MP 0/0]
[พลังกาย: 3 ปัญญา: 32 ว่องไว: 4 ทนทาน: 2 พลังเวท: 0]
[สกิล: ไม่มี] [ฉายา: ไม่มี]
"เลเวลหนึ่งอย่างที่คิด คลาสเป็นเทมเมอร์ก็ไม่เลว ค่าปัญญาสูงทั้งที่ยังเลเวลหนึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับชาติที่แล้วของตัวเรา แต่ MP ไม่มีเลย… น่าจะเป็นเพราะค่าพลังเวทเป็นศูนย์ ว่าแต่มีคลาสเป็นเทมเมอร์แต่ดันไม่มีสกิลอะไรให้เลยเนี่ยนะ" เขาพึมพำ
"ไหน ๆ ก็เกิดใหม่แล้ว ขอเปลี่ยนชื่อก่อนแล้วกัน เอาสั้น ๆ แค่เจลก็พอ"
[ระบบยืนยันการเปลี่ยนชื่อของคุณเป็นเจล] (ตกลง/ยกเลิก)
"ตกลง" เขาตอบกลับระบบ "ก่อนอื่น เราต้องเก็บเลเวล แล้วมาตรวจดูอีกทีว่าจะได้สกิลอะไรจากการเพิ่มเลเวลบ้าง"
เจล เป็นแค่เด็กอายุสิบสี่ เขาต้องมาใช้ชีวิตใหม่ที่ต่างโลก มันควรไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา แต่ในโลกเดิมทุกคนต่างประเมินว่าเขาเป็นอัจฉริยะ และนั่นคือเหตุผลที่เขาไม่มานั่งกังวลเพราะกำลังเผชิญหน้ากับความไม่รู้เกี่ยวกับโลกที่เขาเพิ่งมาถึง โดยเฉพาะเมื่อโลกใหม่นี้เห็นชัดว่ามันคล้ายกับเกม
ถ้าเป็นคนที่เล่นเกมจนติดท็อปของเซิร์ฟเวอร์ได้ง่าย ๆ แบบเขา การใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ในโลกนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ไกลจนเกินเอื้อม
"เอาตัวรอดให้ได้ก่อน" เขามองไปรอบบริเวณอย่างสำรวจตรวจตรา
สถานที่ที่รอบตัวมีต้นไม้รายล้อม มันคือป่าของที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่ใช่ป่าในโลกเดิม ต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ทั้งหลายคือหลักฐานยืนยันอย่างดี ต้นไม้บนโลกไม่พิลึกกึกกือเหมือนต้นหนึ่งที่เขากำลังจ้องอยู่ด้วย
เจลตริตรองถึงภารกิจที่เขาอาจจะต้องทำให้สำเร็จเมื่อเลเวลสูงขึ้นไปก่อน หลายคนอาจคิดถึงเรื่องจอมมาร กู้โลก หรือช่วยผู้คนจากคำสาปหรือทุกขภิกขภัย แต่เขายักไหล่หลังคิดถึงเป้าหมายพวกนั้น เขาไม่ได้อยากเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดหรือเป็นที่โจษจันจดจำ
"คลังเก็บของ"
เสียงของเขาไม่ได้รับการตอบสนองจากระบบ
"ไม่มีอย่างนั้นเหรอ… คลังเก็บของ"
ลองอีกครั้ง แต่ก็ไร้การตอบสนองใดๆ เช่นเดิม
"หรือว่ามันเป็นสกิล" เจลครุ่นคิด ต่อไปนี้เขาต้องเลือกให้ดีว่าจะเก็บหรือไม่เก็บสิ่งใด
ในโลกนี้มีพระเจ้าหรือไม่ เขาไม่รู้ และมีผู้ใช้เวทที่อัญเชิญเขามาหรือเปล่า นั่นก็ยังเป็นปริศนา เพราะการมาปรากฏตัวที่นี่ เขาไม่ได้พบกับผู้สร้างหรือผู้อัญเชิญในตอนที่มาถึงหรือที่เขาอยากเรียกว่ามาเกิดใหม่ เพราะสิ่งสุดท้ายที่เกิดขึ้นในโลกเดิมเท่าที่เขาจำได้คือเขาประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน
"นอกจากเสื้อผ้าที่ใส่มา ไม่มีระบบช่วยเหลืออย่างสัตว์คู่หูตัวแรกที่ให้คำแนะนำ หรือข้าวของเริ่มต้นเลยเหรอ" เจลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เผื่อว่าจะมีไอเทมลับซ่อนอยู่ในนั้น แต่ไม่มีของแบบนั้นอยู่
"น่าจะให้อาวุธอะไรเริ่มต้นมาบ้างไม่ใช่เหรอ ไม่สิ อย่างน้อยก็ช่วยส่งไปเริ่มที่เมืองจะได้ไหม ส่งมาเกิดใหม่หลังจากที่ตายอนาถที่โลกเดิมมันก็ดีอยู่หรอก แต่เล่นส่งมากลางป่าโดยมีแค่มือเปล่าเนี่ยนะ อย่างน้อยก็ขอมีดหน่อยสิ"
เจลบ่นไปอย่างนั้นเอง
ไม่นาน ทุกอย่างเริ่มไปได้สวยกว่าที่คิด เขาสามารถหาท่อนไม้ขนาดพอเหมาะได้ หลังจากปรับปรุงเล็กน้อยก็นำมันมาใช้ต่างอาวุธ เขาเคยดูสารคดีเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในป่ามาพอสมควร เรื่องการจุดไฟ สร้างกับดัก หรือจับสัตว์ขนาดเล็กมาเป็นอาหารจึงเป็นสิ่งที่พอทำได้
"ยากเหมือนกันแฮะ" เจลลองจุดไฟดู มือของเขาพองเพราะต้องปั่นไม้ให้เกิดแรงเสียดสีเพื่อให้เกิดประกายไฟ เขานั่งลงและกระเทาะหินที่เขาเก็บได้แถวลำธารใกล้ๆ เพื่อสร้างเหลี่ยมมุมให้มัน จากนั้นจึงมัดเข้ากับกิ่งไม้ยาวที่เก็บมาได้ และหักให้มีขนาดพอดีมือ
เขาโชคดีที่เป็นคนเรียนรู้ไวมาตั้งแต่อยู่โลกเดิม และสามารถเลียนแบบพฤติกรรมและทักษะของผู้คนได้ง่ายๆ ด้วยการได้เห็นเพียงครั้งเดียว
เจลตั้งใจล่าทุกอย่างที่เขาทำได้เพื่อใช้เป็นเสบียงและเก็บค่าประสบการณ์ ตอนแรกเขาจับปลามีขากับตะขาบตัวโตได้ พวกนั้นทั้งคู่รสชาติไม่เลวร้ายหลังจากที่เขานำพวกมันมาผ่านไฟเสียหน่อย แต่เจลพบว่าเขาไม่ได้รับค่าประสบการณ์หรืออะไรทำนองนั้นเลย พอเจลลองมองหาตัวอะไรที่ใหญ่ขึ้นเขาก็พบ
[หนูกาโบ Lv. 1] [หนูกาโบ Lv. 2] [หนูกาโบ Lv. 1]
หน้าต่างข้อมูลโปร่งแสงแสดงชื่อและเลเวลของศัตรูออกมาเหนือร่างกายของพวกมัน แต่ไม่แสดงค่าสเตตัส ค่าประสบการณ์ และสกิลเหมือนที่เขาใช้กับตัวเอง เขาเดาว่ามันคงเป็นเพราะเขาไม่มีสกิลสำหรับตรวจสอบศัตรูหรือระบบของโลกนี้ไม่อนุญาตให้สามารถดูข้อมูลพวกนั้นของคนอื่นได้
"เจ้าพวกนี้มีเลเวล ไม่เหมือนกับไอ้ที่จับกินไปก่อนหน้านี้ แสดงว่าถ้าจัดการมันได้ ก็ควรจะได้ค่าประสบการณ์" เจลคาดเดา
หนูกาโบตัวใหญ่กว่าหนูทั่วไปมาก ใหญ่กว่าสุนัขพันธุ์เล็กเสียอีก แต่ก็ไม่สูงใหญ่เท่าสุนัขขนาดกลาง เจลลองสู้กับมัน เขากลั้นใจและกระโจนใส่มันอย่างกล้าหาญ แทงมันเข้าไป หนูกาโบตัวแรกสิ้นลมก่อนเขาจะถอนหายใจออกมาด้วยซ้ำ
[ได้รับค่าประสบการณ์ 1 หน่วย]
"เออ กระจอกแบบนี้ก็คงได้แค่ 1 หน่วยนี่แหละ"
หนูกาโบอีกสองตัว แทนที่จะหนีไป พวกมันกลับฮึดสู้ หนึ่งในพวกมันเลเวลมากว่าอีกตัว แต่มันไม่ได้เก่งกว่าตัวแรกที่ถูกสังหารไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อฆ่าไปแล้ว ตัวที่มีเลเวลสองให้ค่าประสบการณ์สามหน่วย ส่วนตัวที่เหลือให้ค่าประสบการณ์ไม่ต่างจากพวกมันตัวแรกที่เจลฆ่าไป
[เจลเพิ่มระดับเป็น Lv. 2]
[HP สูงสุดเพิ่ม 2 หน่วย]
[พลังกายเพิ่ม 2 หน่วย ว่องไวเพิ่ม 1 หน่วย ทนทานเพิ่ม 1 หน่วย]
[ได้รับสกิลเลี้ยงมอนสเตอร์ Lv. 1]
"สเตตัสเพิ่มกระจึ๋งเดียวแฮะ แต่ว่าได้สกิลด้วย"
เลี้ยงมอนสเตอร์ เจลอ่านรายละเอียดเพิ่ม มันคือสกิลสำคัญสำหรับอาชีพเทมเมอร์ ทุกครั้งที่เขาพบกับมอนสเตอร์ มีโอกาสที่มอนสเตอร์จะถูกใจและขอเป็นเพื่อน สกิลนี้จะช่วยให้มอนสเตอร์ไว้ใจและรู้สึกสนิทสนมเพิ่มขึ้น ยิ่งระดับของสกิลสูงก็จะยิ่งดึงดูดมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
"ก็ฟังดูไม่เลวแฮะ แต่จะเลี้ยงตัวอะไรเอาไว้ตัดสินใจอีกทีก็แล้วกัน"
เจลก็ไม่ได้อยู่ในป่านานอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ราวหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาก็บังเอิญได้พบกับพรานที่เข้ามาล่าสัตว์ และพบกับเรื่องประหลาดใจถึงสองเรื่องพร้อมกัน หนึ่งคือเขาสามารถพูดคุยสื่อสารกับอีกฝ่ายได้ราวกับรู้จักภาษาของโลกนี้ และสองคือหมู่บ้านของพวกพรานอยู่ใกล้กว่าที่เขาคาดไว้มาก
หมู่บ้านกาโบ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่ติดกับป่ากาโบตะวันตก เจลได้รับการต้อนรับอย่างดีแม้ว่าเขาจะเป็นคนต่างถิ่นที่ไม่มีใครรู้หัวนอนปลายเท้า เจลได้รับน้ำใจจากผู้ใหญ่บ้านให้มาพักจนกว่าเขาจะหาที่ไปต่อได้ แต่เขาปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือเปล่า ๆ แต่นำหนังของหนูกาโบมาแลกกับอาหารและที่พักเพื่อขอปักหลักชั่วคราวในหมู่บ้านแห่งนี้
แม้จะไกลปืนเที่ยง แต่หมู่บ้านแห่งนี้มีห้องสมุดเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ไม่เก็บค่าบริการ เจลพบว่าเขาสามารถอ่านหนังสือได้รู้เรื่อง แม้ว่าตัวอักษรจะหน้าตาไม่เหมือนกับที่เขาเคยเห็นมาก่อน นี่คงเป็นสกิลลับที่พระเจ้ามอบให้ตอนส่งมาโลกนี้
เจลอ่านทุกอย่างในห้องสมุด ระดับความเร็วในการอ่านหนังสือของเขาทำให้ชาวบ้านต่างแปลกใจ หนังสือในห้องสมุดมีทั้งเรื่องราวของจอมมารในโลกนี้ ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ สังคม การเมือง อารยธรรม ศาสนา และยังมีเรื่องที่จำเป็นต่อเขาอย่างยิ่งยวด
หัวข้อที่เขาสนใจมากที่สุดตั้งแต่มาถึงโลกนี้ และเห็นหน้าต่างสถานะของตัวเอง...
"รวมข้อมูลมอนสเตอร์! มีหนังสือนี่ด้วย เอ๊ะ! เฮ้ย! โลกนี้มีเจ้านั่นด้วย" เจลดวงตาเป็นประกาย ถึงนี่จะเป็นต่างโลก แต่เขาไม่ได้หวังว่าจะได้พบกับสิ่งนั้น มอนสเตอร์สายพันธุ์เดียวที่เป็นหนึ่งในใจของเขาตลอดมา
...สไลม์…
เจลคือโอตาคุสไลม์ ในโลกที่เขาเคยอยู่ เวลาเล่นเกม เขาชอบสไลม์เป็นที่สุด เขาเล่นทุกเกมที่มีสไลม์อยู่ในเกม ยิ่งถ้าเกมไหนสามารถเอาสไลม์เป็นพวกได้เขาก็จะเน้นเก็บสไลม์เป็นคอลเลคชัน ในบางเกมเขาถึงกับเก็บเลเวลสไลม์จนสามารถเอาไปตบกับบอสใหญ่ได้ด้วยซ้ำ
"แจ๋ว! แจ๋วสุดๆ" เจลอดยิ้มไม่ได้
เขาตัดสินใจแล้ว ในเมื่อโลกนี้มีสไลม์ ฉันก็จะเก็บแต่สไลม์นี่แหละ ไม่ใช่สิ… มีหนังสือที่พูดถึงการพัฒนาสายพันธุ์มอนสเตอร์อยู่ด้วย บางทีอาจจะพัฒนาสไลม์ชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนขึ้นมาได้
ถ้าคนอื่นอ่านใจของเจลออก พวกเขาอาจจะเห็นเป็นแค่เรื่องน่าขัน ไม่สำคัญ เพราะสไลม์ไม่ใช่มอสเตอร์ในตำนาน แต่การที่เจลจับสิ่งเล็กๆ ที่ตนชอบที่สุดนี้มาเป็นหลักในการพัฒนาตัวเองในโลกนี้ของเขา มันคือจุดเปลี่ยนชีวิตของเจลไปอย่างสิ้นเชิง
หลังจากวันนั้น เจลเริ่มสำรวจป่ากาโบตะวันตกจนได้พบกับสไลม์ตนแรก
[บลูสไลม์ Lv. 1]
บลูสไลม์ สไลม์สีน้ำเงินสายพันธุ์ไร้หน้า อาหารหลักคือใบไม้แทบทุกชนิด อ่อนแอ แต่มีพลังธาตุน้ำที่เข้มแข็ง หากสามารถเติบโตขึ้นเป็นเลเวลสูงก็อาจจะเป็นมอนสเตอร์อันตรายได้
"สายพันธุ์ไร้หน้า มีพลังธาตุน้ำ" เจลพึมพำ เรื่องพลังธาตุเขาเคยได้อ่านมาก่อนแต่เรื่องของสายพันธุ์สไลม์เขาไม่เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มไหน อาจจะเพราะไม่ค่อยมีใครสนใจจะศึกษาเรื่องสไลม์
เจลจัดการบลูสไลม์ไปหลายตัวจนเลเวลอัพ และในที่สุดเขาเจอกับตัวหนึ่งที่สกิลเลี้ยงมอนสเตอร์ทำงาน
[บลูสไลม์ Lv. 1 ต้องการเป็นเพื่อนกับคุณ] (ตกลง/ยกเลิก)
"แน่นอน ล่ามาตั้งนาน ต้องตกลงสิ"
แม้จะได้บลูสไลม์ตัวแรกเจลก็ยังไม่หยุดล่า บลูสไลม์หนึ่งตัวอาจจะไม่ได้ช่วยให้เขาเก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่การมีกับไม่มีพวกพ้องนั่นแตกต่างกันมาก เขาสามารถใช้เพื่อนตัวแรกเพื่อเป็นตัวล่อ ล้อมศัตรู หรือแม้แต่ช่วยกันรุมโจมตีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่า
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเจลก็ได้บลูสไลม์มาอีกหลายตัว
[เจลเพิ่มระดับเป็น Lv. 3]
[HP สูงสุดเพิ่ม 2 หน่วย]
[พลังกายเพิ่ม 2 หน่วย ปัญญาเพิ่ม 1 หน่วย ว่องไวเพิ่ม 1 หน่วย ทนทานเพิ่ม 1 หน่วย]
[ได้รับสกิลตีต่อเนื่อง Lv. 1 สกิลเลี้ยงมอนสเตอร์เพิ่มระดับเป็น Lv. 2]
ตีต่อเนื่องช่วยให้เจลสามารถโจมตีซ้ำสองถึงสามครั้งได้ในระดับเบื้องต้น ส่วนเลี้ยงมอนสเตอร์ระดับสองที่ช่วยในการจับมอนสเตอร์ในระดับที่สูงขึ้นไม่มีผลอะไรกับเจลมาก เพราะเขาตั้งใจจะจับแต่สไลม์ซึ่งสกิลระดับหนึ่งก็น่าจะเพียงพอแล้ว เขาไม่สนมอนสเตอร์ชนิดอื่น
เจลหาบลูสไลม์เป็นพวกได้สามตัวในวันเดียว และในวันเดียวกันนี้เองเขาก็เก็บเลเวลของทั้งตัวเองกับบลูสไลม์ทั้งสามไปได้จนถึงเลเวลห้า และจังหวะที่เลเวลอัพ บอสของป่ากาโบตะวันตกได้โผล่ออกมา
[กาโบสไลม์ Lv. 8]
"จริงสิ ชาวบ้านเตือนแล้วนี่นาว่ามีสไลม์อันตรายอยู่ในป่า" เจลแสยะยิ้ม แทนที่จะกลัวเพราะเจอกับมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่าตัวเอง เขารู้สึกยินดีที่ได้เจอกับสไลม์พิเศษที่มีเฉพาะในป่ากาโบเท่านั้น
นอกจากนี้ เหตุผลที่เจลไม่รู้สึกกังวลที่จะเข้าต่อสู้กับศัตรูที่เลเวลสูงกว่า เพราะเลเวลของมอนสเตอร์ไม่ใส่สิ่งเดียวที่บ่งบอกความเก่งกาจ ฟอร์เรสดรากอน Lv. 1 ควรเหนือกว่าบลูสไลม์ lv. 10 ความแข็งแกร่งอยู่ที่สายพันธุ์ด้วย แต่พอเจลเข้าปะทะกับสไลม์พิเศษที่เขาหมายตา เขาก็รู้ว่ากำลังเจอเข้ากับของแข็ง
กาโบสไลม์มีสกิลตีต่อเนื่อง Lv. 5 ซึ่งสามารถโจมตีรัวได้ เจ็ดถึงเก้าครั้งในการออกท่าครั้งเดียว ด้วยพลังชีวิตที่มีอย่างจำกัด หากถูกท่านี้ไปครั้งเดียวเจลสามารถกลับบ้านเก่าได้ในทันที
"ไม่อยากตายเพื่อจะทดลองหรอกนะว่าฟื้นคืนชีพได้เองหรือเปล่า" เจลหลบการโจมตี
เขาใช้สมาธิกับการต่อสู้มากขึ้น อีกสิ่งที่อีกฝ่ายเหนือกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด คือมันสามารถโจมตีด้วยเวทมนตร์ได้ด้วย เจลหวุดหวิดถูกย่างสดจากสกิลลมหายใจเพลิง Lv. 3
"มีสกิลอื่นอีกหรือเปล่า… " เขาอยากรู้อยากเห็น แต่ขณะเดียวกันเขาก็คิดว่าตัวเองอาจควรหนีก่อนที่กาโบสไลม์จะใช้สกิลที่เขาไม่รู้ผลแนๆ ออกมา แต่นี่มันสไลม์ที่เขาอยากจะล่าให้ได้ ใจที่เห็นสมบัติอยู่ตรงหน้าบังคับไม่ให้หันหลังกลับ
[ได้รับสกิลหลบหลีก Lv. 1]
"หืม สกิลสามารถได้มาจากวิธีอื่นนอกจากเลเวลอัพด้วยเหรอเนี่ย หวานสิแบบนี้" เจลยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
ในทันทีที่ได้สกิลมา การหลบหลีกของเขาเป็นไปอย่างถนัดถนี่ขึ้น มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขาเบาลง
เจลออกท่าตีต่อเนื่อง มันเป็นท่าที่ไม่ได้ใช้ค่าพลังเวท แต่ข้อเสียคือไม่สามารถใช้ซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง เจลอาศัยการอ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายออกและหลบไปมา เขาแทบไม่ได้โจมตีกลับ แต่มอบหน้าที่นั้นให้กับบลูสไลม์ทั้งสามที่รู้งานเป็นอย่างดี
บลูสไลม์ทำความเสียหายได้แค่ทีละเล็กน้อย แต่พวกมันทำงานเป็นทีมอย่างต่อเนื่อง กาโบสไลม์ไม่ได้สนใจนักเพราะเพ่งความสนใจว่าการโจมตีที่แท้จริงซึ่งสร้างความเสียหายได้จะมาจากเจล
แต่เจลก็ยังไม่โจมตี เขาก้มหลบ ถอยหลัง ตีลังกาอย่างคล่องแคล่ว เผลอแค่ครู่เดียวสกิลหลบหลีกก็กลายเป็นเลเวลสามไปแล้ว ทางด้านกาโบสไลม์ที่เคยไล่ล่าเขาอย่างดุดัน มันเริ่มมีการเคลื่อนที่ช้าลงบ้าง ถึงจะมองไม่เห็น HP แต่เจลแน่ใจว่ามันเหลือพลังชีวิตน้อยกว่าครึ่ง เขาภาวนาให้มันยอมแพ้และกลายเป็นเพื่อนก่อนที่จะสายเกินไป