ในช่วงเวลาต่อมา หลินเฉิน เฉิงชูเหยียน และเฉิงชูเทียนต่างก็ยุ่งกับงานของตัวเอง
เฉิงชูเหยียนในฐานะผู้จัดการทั่วไปของต๊กจื่อกวาง ย่อมมีแผนงานและการวางแผนใหม่ๆ มากมายที่ต้องดำเนินการ
เฉิงชูเทียนในฐานะผู้จัดการทั่วไปรักษาการของกลุ่มซิงเฉิน ก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ ทั้งต้องจัดการงานประจำวันของกลุ่มซิงเฉิน ต้องควบคุมคนในบริษัทที่อาศัยความอาวุโสไม่ยอมเชื่อฟังเธอ นอกจากนี้ยังต้องจัดการเรื่องราวที่เหลือของคดีตู้อวี่หมิง และต้องลดผลกระทบของเรื่องนี้ต่อกลุ่มซิงเฉินให้น้อยที่สุด
แต่โชคดีที่เฉิงชูเทียนมีความสามารถในการทำงานที่ดีจริงๆ เธอแบกรับภาระทั้งหมดนี้ไว้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากหลินเฉิน
ส่วนเฉินตงเจี้ยนผู้จัดการทั่วไปคนเดิมของกลุ่มซิงเฉิน หลังจากที่เขาสารภาพเรื่องราวทั้งหมดของคดีตู้อวี่หมิงที่สถานีตำรวจและล้างข้อสงสัยที่มีต่อตัวเองแล้ว ก็สามารถกลับมาทำงานที่กลุ่มซิงเฉินได้
แต่หลินเฉินส่งเขาไปที่เยียงเจิ้งโดยตรง ให้รับผิดชอบการรับช่วงต่อและจัดการทรัพย์สินทั้งหมดที่ตระกูลชินทิ้งไว้ ดังนั้นทุกวันเขาจึงรายงานความคืบหน้าที่นั่นให้หลินเฉินทราบทางโทรศัพท์