เฉิงชูเหยียนขมวดคิ้ว รู้สึกไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉายชิงชิงอย่างมาก
เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเองมาตลอด และไม่เคยคิดจะเอาเปรียบของคนอื่น แม้ว่าหลินเฉินจะบอกว่าทุกอย่างที่เป็นของเขาก็คือของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถรับสิ่งของของหลินเฉินมาเป็นของตัวเองได้อย่างสบายใจ
ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นสามีภรรยากันในนาม แต่ความจริงแล้วก็ยังไม่ได้เป็นคู่สามีภรรยาที่แท้จริง
ทรัพย์สินและบ้านที่หลินเฉินได้มา เฉิงชูเหยียนไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครองส่วนใดส่วนหนึ่งของมัน
แต่ฉายชิงชิงกลับไม่คิดเช่นนั้น ในใจของเธอถึงขั้นคิดวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้บ้านพักริมทะเลสาบหลังนี้ตกเป็นของเธอและลูกสาวให้ได้
ในขณะที่ฉายชิงชิงกำลังตื่นเต้นลากเฉิงชูเหยียนและน้องสาวไปชมห้องต่างๆ ในบ้าน ที่ถนนด้านนอกบ้านพักริมทะเลสาบ มีรถมาเซราติสีเงินคันหนึ่งแล่นเข้ามา
ยามรักษาความปลอดภัยที่ควรจะต้องห้ามรถแปลกหน้าทุกคันที่ปากทางเข้า เพิ่งจะวิ่งเข้าไปล้อมรถ ก็เห็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วน ผมบางจนเห็นหนังศีรษะนั่งอยู่ที่ที่นั่งคนขับ และหญิงสาวผมยาวแต่งตัวยั่วยวนนั่งอยู่ข้างๆ