Chapter 7 - 2-3 她来帮忙 นางมาเพื่อช่วยเหลือ

"ทะ... ท่านอาจารย์ฮุ่ยหมิงสั่งไม่ให้ข้าเข้าใกล้บุรุษเกินสามย่างก้าว ข้าจะต้องระวังตัว... แล้ว ๆ ท่านควรขออนุญาตข้าก่อน... จับตัวข้ารักษาหรือทำอะไรก็ตาม ข้ารอให้แผลหายเองได้ท่านเทพหลงเหนียน... ช่วยปล่อยข้า..."

"ปีศาจนั่นเพิ่งจะกอดคอเจ้าอย่างสนิทสนมทีเดียว นับเป็นบุรุษด้วยหรือไม่?"

"เหตุสุดวิสัย นับไม่ได้ ท่านเทพหลงเหนียน..."

เทพหลงเหนียนนึกขันนางขึ้นมาว่านางคิดอะไรไม่เข้าท่า แสยะยิ้มตรงมุมปาก

"ข้าไม่ใช่เทพผู้น่ากลัวเกรงถึงเพียงนั้น ข้าเสกฟ้าฝนทำลายโลกมนุษย์ไม่ได้ ท่านพ่อข้าเป็นชนเผ่ามังกรบนสวรรค์ ท่านแม่ข้าเป็นปีศาจอสรพิษ ข้าชื่ออู่เฉิน" พูดจบ บาดแผลที่ได้รับการดูแลอย่างดีด้วยพลังเพียงเล็กน้อยจากฝ่ามือเทพ จางหายไปจนเหลือเพียงขีดสีแดงจาง ๆ บุรุษเทพจึงปล่อยนางให้เป็นอิสระ

"ข้าอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าเทพอู่เฉินได้"

"ท่าน... เทพอู่เฉิน?"

"ใช่แล้วล่ะอาเป้ย ข้าคือเทพอู่เฉิน หาใช่เทพหลงเหนียนเยี่ยงมนุษย์กล่าวอ้าง ข้าคงเป็นบุรุษผู้ไร้เกียรติเป็นอย่างมาก จึงไม่ได้บอกเจ้าว่าไม่มีเทพหลงเหนียนบนเทวโลก ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดชื่อเทพหลงเหนียน"

ในน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงต่างจากวันแรก บอกความจริงกับนาง อาเป้ยหน้าตะลึงมองเทพปีศาจรูปงาม

หายนะมาเยือนนางแล้วยังไงเล่า! ทั้งหยกพันปี ท่านเทพหลงเหนียนผู้ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์เข้าใจ ดันเป็นครึ่งเทพครึ่งปีศาจชื่ออู่เฉิน 宇辰 Yǔ chén

หากเป็นเช่นนี้... ชะตาชีวิตอันแสนอาภัพของนางจะเป็นอย่างไรต่อไป

"แล้วท่านเพิ่งจะมาบอกข้าเนี่ยนะ!"

 

ข้ารับใช้ผู้ถูกบริภาษว่าไม่มีมารยาท เริ่มปฏิบัติดีกับสตรีผู้พักอาศัยชั่วคราว ยังเล่าให้นางฟังว่าเทวโลกตอนนี้สถานการณ์ยุ่งเหยิง เทพและปีศาจไม่ลงรอยกัน จากดินแดนสมัครสมาน มีบาดหมางกันบ้างแต่ก็ไม่มากเท่านี้ กลายเป็นว่าต่างฝ่ายเริ่มแบ่งพรรคพวก เทพผู้ทรงศีลอย่างแรงกล้าถูกก่อกวนจากปีศาจและอสูร จนไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้

สำหรับภพภูมินี้คือเทวโลกชั้นที่หนึ่ง ภพภูมิบาดาลทิศประจิมปกครองโดยผู้เฒ่าเต่าผู้มีอายุร่วมหมื่นปี หรือที่หลายคนเรียกกันว่าใต้เท้าจีกง

ภพภูมินี้นับว่าใกล้เคียงกับโลกมนุษย์ เทพและปีศาจมีกายหยาบ มีเลือดเนื้อร่างกายใกล้เคียงมนุษย์ ทว่ามีอายุยืนยาวเยี่ยงเทพในทุกภพภูมิ เทพอู่เฉินถูกส่งให้มาอยู่ที่เรือนนี้ไม่กี่สิบปี เพื่อสงบศึกเทพและปีศาจให้อยู่ร่วมกันให้ได้ หลังจากที่ราชาแห่งสวรรค์มีความเห็นว่าควรส่งผู้เป็นครึ่งเทพครึ่งปีศาจลงมาจัดการช่วยเหลือใต้เท้าจีกงอีกแรงหนึ่ง จึงให้ท่านมาพักอาศัยในเทือกเขาทิศอุดร ไม่ไกลจากเรือนเทพเจ้าแห่งสายน้ำทิศประจิม

ทว่า... เทพและปีศาจไม่เคยอยู่ร่วมกันได้มาแต่สมัยไหน

หากไม่เป็นเพราะเทพอู่เฉินเป็นบุตรชายเพียงหนึ่งเดียวของทั้งเทพและปีศาจ มีแนวโน้มว่าอาจจะสานสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายได้ หากไม่สามารถทำได้ อย่างน้อย ๆ ไม่ให้ต้องสังหารกัน ไม่ให้ปีศาจไปรบกวนเทพมากนัก ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ระรานกันก็ยังดี

"แล้ว... มนุษย์เช่นข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร? ทำไมท่านต้องคาบเครื่องสังเวยกลับมา"

"ท่านอู่เฉินได้รับคำทำนายจากแม่เฒ่าเมื่อครั้งไปบำเพ็ญเพียร เรื่องเจ้าสาวของมนุษย์ผู้เป็นเครื่องสังเวยท่านมีเพียงหนึ่งเดียว นางจะนำมาซึ่งความสงบ แต่ก็อาจทำลายตัวท่านและเทวโลกได้เช่นกัน"

อาเป้ยเบิกตากว้าง นางว่านางขอกลับไปหาบน้ำอยู่วัดอย่างเดิมกับหลวงจีนหัวล้านเสียยังจะดีกว่า! ยิ่งลูกสมุนงูพยายามยัดเยียดข้อมูลหลายอย่างเข้าสู่สมองนาง นางยิ่งเวียนหัว

"อีกเรื่องหนึ่ง... หากท่านอู่เฉินไม่ไปเอง การจะให้ท่านแม่ของท่านไปรับเครื่องสังเวย... เฟยอี๋ เจ้าเคยได้ยินตำนานของนางหรือไม่?"

"จะเกิดอุทกภัยใหญ่ แม่น้ำแห้งเหือด ฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทุกที่แห้งแล้งหากนางปรากฏตัว"

"ใช่ และที่สำคัญที่สุด เจ้าถูกกลืนลงท้องอย่างแน่นอน ต่อให้เจ้าจะมีเกราะกำบังของอาจารย์ฮุ่ยหมิงก็ไม่อาจรับประกันว่าเจ้าจะรอด หากเจ้ารอด นางจะสังหารเจ้าทันทีที่มาถึงเทวโลก"

"เอ้า... ทำไมนางจะต้องสังหารข้าด้วยเล่า ข้าไปทำอะไรให้นาง" อาเป้ยโวยวาย

"เฟยอี๋ นางเป็นปีศาจอสรพิษผู้ทรงพลังมาก นางถือกำเนิดมาจากไฟกัลป์ในนรกภูมิชั้นลึกสุด เมื่อนางถูกราชาแห่งสวรรค์กักขังเอาไว้ วันหนึ่งนางหลุดรอดออกมา จึงไปล่อลวงท่านเทพสวรรค์คราวเผชิญด่านเคราะห์ให้เกิดกามารมณ์ จนได้ถือกำเนิดครึ่งเทพครึ่งปีศาจขึ้น การกระทำของนางล้วนแล้วแต่ไร้เหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น นางทำเพราะชื่นชอบสนองอารมณ์คึกคะนองของตน"

"เอ้อ... ข้าเข้าใจแล้วล่ะ"

ปัญหาครอบครัว... ปัญหาเรื่องการควบคุมสติอารมณ์ ยากจะแก้ไข นางเฟยอี๋คงเป็นพวกอยากทำอะไรก็ทำ ไม่ใคร่สนใจผู้ใด อยากฆ่าก็ฆ่า

นางถอนหายใจพลางทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนของนาง บ่าวงูยืนอยู่ข้างเตียงนาง กลัวจะถูกนางกล่าวหาว่าไม่มีมารยาทอีกจึงถาม

"ไม่มีคำถามรึ?"

"ไม่มี ๆ ข้าปวดหัวกับพวกท่านเหลือเกิน ข้าว่าข้านอนดีกว่า"

อาเป้ยปัดมือไปมาไม่ถามต่อ ถึงแม้ว่านางจะไม่ลืมเรื่องที่ตนได้รับรู้ความจริง การที่พวกเขาเริ่มให้เกียรตินางหลังถูกนางบริภาษว่าเสียใหญ่โต นางจึงถามชื่อบ่าวทั้งสองเสียหน่อย

บ่าวงูสองพี่น้องของท่านเทพอู่เฉิน ตนหนึ่งชื่อซื่อหยูอี้น่าจะมีอีกร่างเป็นงูขาว ส่วนเซียวอี้หรู บุรุษร่างใหญ่กำยำคงจะเป็นงูเขียว

นางถามแค่พอเป็นมารยาท แล้วนางก็นอนหลับตา ประสานมือไว้บนหน้าท้อง