Chereads / echoes of the divine / Chapter 9 - ตอนที่ 8 ร้านพิซซ่า

Chapter 9 - ตอนที่ 8 ร้านพิซซ่า

(ณ Arizona เวลา 20:50 น. ที่ห้องพักเก่าแห่งหนึ่ง)

"ผ-ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย?" Azel พูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้าก่อนที่พยายามมองหาตัวของ Seraphiel

"โอ้ ตื่นแล้วเหรอ Azel" Seraphiel นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงอีกเตียงหนึ่งที่อยู่ข้างขวาของ Azel ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นท่าทีของ Azel ที่ดูเหมือนกับว่าพยายามจะลุกขึ้น "เดี๋ยวก่อนๆ หยุดเลยเจ้าหนู! เดี๋ยวแผลก็ฉีกหมดหรอก!"Seraphiel รีบจับ Azel ลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง

"แล้วนี่ใช่ไหมที่คุณหมายถึง? การที่บอกว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกน่ะ คืออย่างนี้เหรอ?" Azel ถามพร้อมกับค่อยๆนอนลงไปบนเตียง

Seraphiel ถอนหายใจหนึ่งทีก่อนจะตอบ "ก็นะ...ตอนแรกแผนฉันก็คือไปหาคดีที่ตำรวจไม่สามารถแก้ไขได้" เขาพูดต่อ "แต่ว่า...จู่ๆเรื่องพวกนี้มันก็เชื่อมไปถึงเรื่องเหนือธรรมชาติซะงั้น"

Seraphiel หยิบหนังสือที่เขาเพิ่งอ่านไปมาอ่านอีกครั้ง

"คุณอ่านอะไรอยู่เหรอ?" Azel ถามพร้อมกับมองไปที่หนังสือ

"อ๋อ...หนังสือเกี่ยวกับการล่าแม่มดเมื่อ 500 ปีที่แล้วน่ะ" Seraphiel ตอบพร้อมกับเปิดไปหน้าถัดไป

Azel จ้องไปที่ปกหนังสือสักพักก่อนจะพูด "คนที่อยู่หน้าปกหนังสือ...เขาหน้าเหมือนคุณเลยหนิ่" Azel พูดพร้อมความสงสัย

Seraphiel ขําเล็กน้อยก่อนตอบ "ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ Azel ก็ฉันเขียนหนังสือเรื่องนี้เองกับมือนี่นา...นี่ลืมแล้วเหรอว่าฉันเป็นอมตะ?"

"อ๋อจริงสิ...ผมลืมซะสนิทเลย"

Seraphiel หันมามองที่ Azel ก่อนที่จะปิดหนังสือ

เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะพูด "เฮ้อ...ไม่เห็นเข้าใจเลย...รายชื่อแม่มดทั้งหมดไม่มีใครรอด...แต่ทําไม Mira ถึงใด้ยังอยู่กัน?"

Seraphiel ยื่นหนังสือไปให้ Azel "เอ้า...ลองอ่านดูสิ หนังสือนี่มีข้อมูลการล่าแม่มดทุกไปรูปแบบ และเป็นเรื่องจริงทั้งหมด...ก็นะ...ฉันอยู่ในสถานการณ์ทั้งหมดนี่นา...อยู่มาตลอด..."

Azel หยิบหนังสือที่ Seraphiel ยื่นให้ "ขอบคุณนะ...ผมกำลังจะหาอะไรทําระหว่างรอพักฟื้นอยู่พอดี"

"ว่าแต่หนังสือนี่ถูกพิมพ์มาได้ยังไงเหรอ? 500 ปีที่แล้วยังไม่มีเครื่องพิมพ์ดีดเลยด้วยซ้ำ"

Seraphiel ขําเล็กน้อยก่อนตอบคำถาม "แหมๆ พ่อเทวดา อยู่บนสวรรค์คงไม่มีหนังสือประวัติศาสตร์ให้อ่านสิ่นะเนี่ย~"

"แน่นอนอยู่แล้วว่ายุคนั้นไม่มีเครื่องพิมพ์ดีด...ฉันใช้อย่างอื่นแทน...'แท่นพิมพ์โยฮันน์ กูเตนแบร์ก'...พอจะคุ้นชื่อไหมล่ะ?"

ระหว่างที่สองคนคุยกันอยู่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรจากโทรศัพท์ของห้องพัก

Azel ลุกขึ้นนั่งบนเตียงของเขา

Seraphiel ยืนขึ้น "อยู่นี่แหละ...เดี๋ยวฉันไปรับเอง"

Seraphiel เดินไปรับสายและพูด "ผมบอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าค่าห้องจะจ่ายพรุ่งนี้" ไม่มีเสียงตอบกลับแต่ Seraphiel ยังคงถือสายอยู่

"อ๋อครับ...ขอโทษครับผมนึกว่าเจ้าของห้องพักโทรมา"

Azel นั่งฟังอย่างเงียบๆในหัวเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่คุยกันในโทรศัพท์

Seraphiel พูดขึ้นอีกครั้ง "เดี๋ยวนะ...เบาะแสเกี่ยวกับแม่มดเหรอครับ?" Seraphiel เงียบสักพักก่อนพูดต่อ

"ค-คุณ รู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง?" เสียงของ Seraphiel ดูตึงเครียดขึ้น

"ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ...ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอ?"

"S-satan?" เสียงของ Seraphiel เต็มไปด้วยความช็อก ก่อนที่โทรศัพท์จะช็อตและพังลง

(ณ Arizona เวลา 21:15 น. ห้างสรรพสินค้ากลางเมือง) Michael และ Gabriel เดินสำรวจไปรอบๆ สายตาจับจ้องไปที่เหล่ายมทูตที่ใส่ชุดสูทสีดำนับหมื่นคน

"ผู้คนพวกนี้ยังไม่รู้ว่าพวกเขากำลังตกอยู่อันตราย..." Gabriel พูดพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูสิ้นหวัง

ทั้งสองคนกับอัครเทวทูตที่รออยู่ในห้างและนอกห้าง กำลังเตรียมพร้อมไม่ว่าหายนะอะไรจะเกิดขึ้น

ในตอนนี้เวลาผ่านไปช้าได้ดูสิ้นหวังกว่าทุกครั้งเข็มนาฬิกาค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆ

และในที่สุดสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนเตรียมพร้อมและรอคอยก็ได้เกิดขึ้น

เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที

เหตุการณ์หายนะมากมายเกิดขึ้นพร้อมๆกัน

"เจ้าพาเหล่าอัครเทวทูตไปช่วยผู้คนก่อน Gabriel! ข้าจะหาตัวภูตมรณะเอง!" Michael พูดออกคําสั่ง เสียงของเขาดังแทรกออกมาจากเสียงกรีดร้องอันแสนโกลาหล

Gabriel พยักหน้าก่อนที่จะมุ่งหน้าไปหาเหล่าอัครเทวทูต

Michael หยิบดาบสวรรค์ของเขาออกมา กํามันแน่นดูเหมือนว่าเขาจะไม่ประมาทกับศัตรูที่เขาเจอ

เขาเดินสำรวจในห้างอยู่สักพักก่อนที่จะพบเห็นสิ่งที่เขาตามหา

ชายหนุ่มใส่ชุดสูทสีดำทมิฬตาสีแดงฉานเรืองแสงกำลังนั่งอยู่ในร้านพิซซ่าและดูเหมือนว่าเขากำลังรอใครอยู่สักคน

Michael รีบพุ่งตรงไปในทิศทางนั้นและเปิดประตูร้านออก "ในที่สุดก็หาจนเจอ...ร่างมนุษย์แกดูหนุ่มกว่าที่ฉันคิดนะ...ภูตมรณะ" Michael มองไปรอบๆสักพักก่อนจะยกดาบสวรรค์ขึ้นเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้น "แหมๆ โดนจับได้แล้วสิเรา~"

เขาดีดนิ้วหนึ่งทีและในชั่วพริบตา Michael ก็มานั่งบนเก้าอี้แล้ว

"วางดาบลงก่อนแล้วมาคุยกันหน่อยฟังดูดีไหมละ~?" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาขยายใหญ่ขึ้น ตาแดงฉันเขาเริ่มเรืองแสงมากขึ้นเรื่อยๆ

Michael มองไปรอบๆพยายามจะคว้าดายสวรรค์บนโต๊ะแต่ว่าก็ถูกขัดจังหวะไว้ก่อน

ชายหนุ่มรีบคว้าดาบสวรรค์และเอามันจ่อไปที่คอของ Michael "อย่าขยับดีกว่าน่ะ Michael ไม่งั้นดาบนี่ใด้ฆ่าตัวเจ้าของเองแน่"

ชายหนุ่มดีดนิ้วอีกหนึ่งทีและจู่ๆก็มีพิซซ่าวางอยู่บนโต๊ะ

เขาเอื้อมมือมาหยิบหนึ่งชิ้นสําหรับตัวเอง และอีกหนึ่งชิ้นวางไปที่จานของ Michael

"กินซะสิ Michael" เขาเงียบสักพักก่อนสังเกตเห็นความตึงเครียดบนใบหน้าของ Michael "ไม่เอาน่า อย่าเครียดไปหน่อยเลย"

เขาลุกขึ้นยื่นพิซซ่ามาตรงปากของ Michael พยายามที่จะป้อนเขา "อ้าม~"

Michael ไม่เปิดปากแม้แต่น้อย

"แหม...ดื้อเหมือนกับพ่อแกเลยนะ" ชายหนุ่มโยนพิซซ่าทิ้งไปข้างหลัง และเอนตัวมานั่งบนเก้าอี้ของเขาอีกครั้ง

"เข้าประเด็นสักที...Satan ส่งแกมาทำไม?" Michael พูดกับชายหนุ่ม

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขากว้างขึ้นก่อนจะบอกว่า

"ก็นะ...เขาอยากจะมาเดินเล่นบนนี้แบบเฟรนลี่สักหน่อย" เขาพูดต่อ "แต่มันมีใครบางคนมือบอนไปผนึกเขาไว้ในนรกซะใด้เนี่ยสิ~" เขารีบเอามือปิดปากตัวเองและขําอย่างสะใจ ตาของ Michael เบิกกว้างรู้ได้ทันทีว่าภูตมรณะกำลังพูดถึงใคร

"โอ๊ะโอ...ท่อนนั้นไม่อนุญาตให้พูดนี่นา~" เขาหยุดขําตบปากตัวเองเล็กน้อยก่อนพูดต่อ "ยังไงก็ตาม...เขาจะขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อ...วันสิ้นโลกเกิดขึ้น...วันที่ประตูทั้ง 3 เปิดออก"

จบตอนที่ 8