Chereads / echoes of the divine / Chapter 10 - ตอนที่ 9 พลังแห่งความสิ้นหวัง

Chapter 10 - ตอนที่ 9 พลังแห่งความสิ้นหวัง

(ณ Arizona เวลา 21:00 น. ที่ห้องพักเก่า)

Seraphiel กําลังเอามือจับหูตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บจากอาการช็อตของโทรศัพท์

"ให้ตายเถอะ...พวกปีศาจนี่วางสายดีๆไม่เป็นใช่ไหม!?" Seraphiel พูดอย่างหัวเสีย

"ค-คุณเป็นอะไรไหม Seraph?" Azel ถามพร้อมกับเดินไปดู Seraphiel

"เฮ้!...ก็บอกว่าเดี๋ยวแผลฉีกไงจะเดินทําไมของเธอเนี่ย?" Seraphiel พูดจบก็เอามือที่กุมหูออกให้ Azel ดู

Azel ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ "แล้วเมื่อกี้คุณคุยกับใครว่ายังไงกันแน่?"

"ก็นะจู่ๆ Satan ก็บอกตําแหน่งของ Mira ให้เฉยเลยน่ะ" Seraphiel พูดพร้อมกับนํ้าเสียงที่ฟังดูเหมือนเขากําลังเล่นมุกอยู่แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน

"Satan เหรอ? คนปัจจุบันคือใครนะ?" Azel ถาม (ระบบของ Satan จะเหมือนกับนายกเทศมนตรีแต่เปลี่ยนไปอยู่ในนรก)

"เอาจริงๆแล้ว...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ คนใหม่นี่มาแปลก ปกครองมาใด้ตั้งนานแล้วยังไม่เคยใด้ยินชื่อจริงเลย" Seraphiel ตอบพร้อมกับเอามือขึ้นมากอดอก

"Satan ที่ไม่เปิดเผยชื่ออย่างงั้นเหรอ?" Azel คิดอยู่สักพักก่อนพูดต่อ "ผมไม่เคยใด้ยินเรื่องแบบนั้นเหมือนกันแฮะ"

"ว่าแต่...คุณเชื่อเขารึเปล่า Seraph?" Azel ถามด้วยความสงสัย

"เชื่อเหรอ?! ไม่มีทางอยู่แล้ว!" เขาเงียบสักพักก่อนพูดต่อ ".....เอาจริงๆ...ฉันว่าเราควรลองดูนะ Azel"

"ถามจริงดิ!? นี่คุณจะเชื่อใจ Satan เหรอ-" ก่อนที่เขาจะพูดจบ Seraphiel เอามือมาปิดปากเขาและยกร่างที่บาดเจ็บของเขาขึ้น

"ชู่ววว...เชื่อฉันสักครั้งนะ Azel" Seraphiel พูดก่อนที่จะยื่นมือข้างหนึ่งไปแตะที่หน้าผากของ Azel ทําให้เขาสลบในอ้อมแขนของเขา

Seraphiel ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะแบกร่างไร้สติของ Azel ขึ้นไปบนรถ

เขาวาง Azel ลงบนฝั่งข้างคนขับอย่างเบามือและปิดประตู หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นฝั่งคนขับ

(ณ Arizona เวลา 21:15 น. ที่ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองที่เดียวกับที่ที่ Michael อยู่)

Azel รู้สึกถึงแรงเขย่าที่แขนของเขา ดาวตาของเขาเปิดขึ้นอย่างช้าๆ กระพิบตาสองสามทีเพื่อปรับแสง

"เฮ้อ~...หลับเป็นเด็กเลยนะเธอน่ะ" Seraphiel พูดอย่างหยอกล้อพร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มแก้ของ Azel ด้วยความเอ็นดู

Azel เอามือไปปัดนิ้วของ Seraphiel ออกด้วยความไม่พอใจ

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพูดว่า "คุณนี่มันดื้อด้านจริงไปเลยนะ Seraph" Azel ส่ายหัวก่อนเปิดประตูออกไปจากรถ

"เอาเหอะ... ยังไงผมก็คงทำอะไรกับเรื่องนั้นไม่ได้อยู่แล้ว" Azel พูดพร้อมมองเข้าไปในห้างที่เต็มไปด้วยความโกลาหล

Seraphiel เปิดประตูลงรถมาแล้วเริ่มพร้อมสังเกตไปในห้าง

"ที่แบบนี้แหละเหมาะกับแม่มดหน่อย...โกลาหลซะไม่มี" Seraphiel พูดก่อนจะเดินเข้าไปทางประตูห้าง

"นี่...ล่าสุดเธอบาดเจ็บแค่ที่หลังไม่ใช่หรือไง? ตามมาสิ Azel" Seraphiel พูดพร้อมกับโบกมือเรียก Azel ให้เดินตามไป

Azel สูดหายใจก่อนจะเดินเข้าประตูห้างไปพร้อมกับ Seraphiel

Seraphiel มองไปรอบๆและเริ่มสํารวจ

"S-Seraph" Azel เรียก Seraphiel ด้วยเสียงที่สั่นเครือและดูตกใจ

Seraphiel หันกลับมาทางเขา

"ผ-ผมว่าผมรู้สึกถึง พวกอัครเทวทูต" Azel พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

"หะ? เดี๋ยวสิ... เธอยังไม่ได้ใช้พลังของเธอเลยนะ... ท-ทําไมพวกเขาถึง...?" Seraphiel พูดด้วยความสงสัย นํ้าเสียงของเขาฟังดูกระวนกระวาย

"ผ-ผมไม่รู้... บางทีพวกเขาอาจจะมีภารกิจบางอย่างที่นี่" Azel พยายามคิดถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เป็นไปใด้

(ณ Arizona เวลา 21:25 ที่ร้านพิซซ่าในห้างสรรพสินค้ากลางเมือง)

"หืม~ พอจะเดาออกรึยังล่ะ Michael ว่า Satan คนใหม่นี่คือใคร~?" ภูตมรณะยังคงพูดล้อเลียน "ขอโทษนะ... พอดีลืมไปว่าเจ้ามีปมเรื่องน้องชาย~"

"พูดพล่ามอะไรของแกไม่ทราบ?" เสียงของ Michael สั่งเครือด้วยความโกรธแค้น กําลังหาจังหวะชิงดาบสวรรค์คืน

มือของเขากําขอบโต๊ะไว้แน่น

"ฉัน-ไม่สิ-พวกเรา... พวกเราจะไม่มีวันยอมแพ้ให้แผนสกปรกของพวกแกหรอก! วันสิ้นโลกจะไม่มีวัน และ ไม่มีทางเกิดขึ้น!" Michael พูดอย่างมีความหวัง เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งร้าน

ภูตมรณะขําอย่างเยาะเย้ย, วางดาบสวรรค์ลงไว้ที่ข้างโต๊ะก่อนที่จะหันไปทางอื่น "ก็นะ... ถ้านั่นมันช่วยปลอบใจเจ้าก็พูดต่อไปเถอะ... ศึกครั้งนี้มันถูกตัดสินแพ้ชนะมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ"

ในขณะที่ภูตมรณะกําลังพูดอยู่นั้น Michael ก็ใด้เอามือที่กําขอบโต๊ะอยู่พลิกโต๊ะไปทางภูตมรณะ

มืออีกข้างของเขาหยิบดาบสวรรค์กลับขึ้นมือของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ฟันไปที่ไหล่ของภูตมรณะ

ตัวของเขาขาดครึ่งและแยกเป็นสองส่วน

เสียงของเขาหายไปก่อนที่ร่างของเขาที่ขาดเป็นสองส่วนจะร่วงลงกับพื้น

Michael ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่ประตูร้าน

"แหม~ นั่นเจ็บชะมัดเลยนะ Michael~"

ตาของ Michael เบิกกว้างก่อนที่เขาจะหันกลับไปทางต้นตอของเสียง

ร่างทั้งสองส่วนขยับเข้าหากันและค่อยเชื่อมต่อกันอีกครั้งด้วยนํ้าเมือกสีดำที่เหมือนจะเป็นของภูตมรณะ

"นี่... จะบอกอะไรให้ฟังนะ Michael" ภูตมรณะพูดระหว่างที่ร่างกายของเขากําลังฟื้นฟู "มันจะมีอยู่ สองถึงสาม สิ่งที่ดาบสวรรค์ของเจ้าทําอะไรไม่ได้"

"หนึ่งเลย... สิ่งที่สูงส่งเทียบเคียงหรือมากกว่าพระเจ้า... ซึ่งนั่นมันแทบเป็นไปไม่ใด้เลยถูกไหม?" เมือกสีดำรักษาบาดแผลของเขาจนหายไปหมดแล้ว ร่างกายของเขาตอนนี้ต่อกันอีกครั้งอย่างสมบูรณ์แบบ

"และอย่างที่สอง... 'สิ่งมีชีวิตไร้วิญญาณ'..."

สิ่งมีชีวิตไร้วิญญาณ (Soulless Beings) คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มีจิตวิญญาณเหมือนเทวดา ปีศาจ หรือมนุษย์

พวกมันเกิดจากพลังงานบริสุทธิ์ที่หลุดรอดจากการสร้างโลก เช่น เศษพลังแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า (หรือพลังแห่งความว่างเปล่าในจักรวาล)

พวกมันไม่มีวิญญาณหรือความผูกพันใด ๆ กับสวรรค์หรือนรก ทำให้ดาบสวรรค์ไม่สามารถผนึกพวกมันได้ เพราะพวกมันนั้นไม่มีวิญญาณให้ผนึก

"ซึ่งนั่นก็คือเหล่าภูตอาชา..." เขาพูดต่อ "ซึ่งจะมี... ภูตโรคระบาด... ภูตสงคราม... ภูตหิวกระหาย และสุดท้าย... ภูตมรณะ" เขาพูดรอยยิ้มอันหยิ่งผยองและเจ้าเล่ห์โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

"เอาเถอะยังไงก็ตาม... ข้าไม่ใด้มีหน้าที่มาอธิบายอะไรแบบนี้ให้เจ้าฟังซะหน่อยนี่" เขาพูดก่อนที่จะเริ่มมีเมือกสีดำก่อเตัวขึ้นในมือของเขา "ข้ามีหน้าที่มาสร้างความโกลาหล... เพื่อที่จะให้วันสิ้นโลกเกิดขึ้น... เพราะงั้น... จะไม่เสียเวลาอีกแล้ว"

เมือกสีดําในมือของเขาก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างและกลายเป็นอาวุธ

ค้อนขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา มันมีหัวกระโหลกสีทองที่บิดเบี้ยวและแหลมคม ดูเหมือนจะยิ้มเยาะทุกชีวิตที่มันจะสัมผัส

ตัวค้อนมีปีกข้างๆด้ามจับที่ดูเหมือนกับคันเร่งของมอเตอร์ไซค์

ภูตมรณะยื่นมืออีกข้างหนึ่งของเขาไปบิดคันเร่งนั้น และในทันที หัวค้อนที่ดูเหมือนกะโหลกก็เริ่มร้อนขึ้น พ่นแสงสีทองราวกับลาวา ไหลออกจากรูเล็กๆ บนกระโหลก ร่างของมันอาบไปด้วยอำนาจที่เกินความเข้าใจ

ภูตมรณะกระแอมก่อนกล่าวเสียงดังลั่น

"ขอแนะนำ 'วิญญาณมรณะ' (Soulcrusher)... มาปิดงานนี้กันเลยดีกว่า~"

ภูตมรณะพูด แสยะยิ้มก่อนพุ่งไปทาง Michael พร้อมกับค้อนในมือ

จบตอนที่ 9