ประมาณเวลาเที่ยงก็บังเกิดท้องฟ้าดำทมิฬอย่างฉันพลัน
ณ ท้องทะเล แผ่นเปลือกโลกปรากฎรอยปริแยกออก มันเคลื่อนที่กระทบกันอย่างรุนแรงและโก่งตัวขึ้น เสียงฉีกผ้าดังถึงหูบดินทร์ เขาตั้งตัวตรง
"หืม นั่นอะไรน่ะ" ก้าวหน้าโผล่พ้นผิวน้ำมองดูฝูงนกนับหมื่นบินแตกฮือทั่วท้องฟ้า
"ฉันคิดว่ามีอะไรๆ แปลกๆ"
"ไม่ใช่แค่แปลกๆ แล้ว แต่นี่แปลกสุดๆ เลย" ก้าวหน้ามองดูฝูงปลากระโดดขึ้นมาเหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง
"ไม่ปรกติแล้ว"
บนบกสุนัขมีอาการตื่นตะหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น บางตัวเห่าและหอนอย่างผิดสังเกต
"นี่เกิดอะไรขึ้น"
เสียงกรี๊ดดังสนั่น พร้อมๆ กับหลายคนกระโดดหนีฝูงหนูที่วิ่งพล่านจ้าละหวั่นไปทั่วๆ จนติดกับดัก
"คงไม่ใช่ว่ากำลังจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ"
'พฤติการณ์ปรกติของสัตว์โดยปรกติแล้ว จะหลีกเลี่ยงให้ไกลจากมนุษย์ แต่ถ้าเมื่อไหร่พวกมันวิ่งเข้าหาแทนที่จะวิ่งหนี ก็ให้มนุษย์ระวังไว้เลยว่ากำลังมีอะไรบางอย่างสร้างอันตรายให้กับพวกมัน' นางราชพฤกษ์ คนเป็นแม่เคยอ่านหนังสือให้บดินทร์ฟัง
น้ำทะเลปั่นป่วน ไหลย้อนกลับไปถึงครึ่ง แต่ยังมีหลายคนลงไปวิ่งเล่นจับปลาอย่างสนุกสนาน
ช้างที่ตอนนี้มีเด็กหญิงต่างชาตินั่งเอาขาคร่อมอยู่บนหลัง มีท่าทางตื่นตระหนกตกใจ มันวิ่งหนีห่างจากชายฝั่ง มุ่งหน้าเข้าหาหาดทราย โดยไม่หยุดฟังเสียงของควาญช้างที่ตะโกนห้ามมาจากด้านหลัง
พ่อ-แม่ของเด็กหญิงขวัญเสีย พยายามฉุดลูกลงพื้นก็ไม่สำเร็จ เด็กหญิงก็เกาะหลังช้างแน่นเพราะกลัวตก พ่อ-แม่วิ่งตามช้างอย่างรีบเร่ง
แต่ช้างก็พยายามวิ่งหนีขึ้นไปบนภูเขาที่สูงที่สุดเท่าที่มันจะสามารถขึ้นไปได้
พอเห็นน้ำเริ่มขึ้น ยังมีหลายคนยืนถ่ายรูปกัน
"ไปที่บกกันเถอะ" ก้าวหน้าโพล่ง แต่สายเกินไป