Chapter 32 - [หินกิลด์]

"หินอัญมณีสูง 30 ฟุตตรงหน้านี้ก็คือ 'ซิทรินอเมทิสคริสตัลควอตซ์คลัสเตอร์' สีเหลืองอำพัน..." ไนท์ฮอว์กกล่าว

"...."

"หิน... อเม... ควอตซ์... อะไรนะครับ?"

ไนท์ฮอว์กถอนหายใจทีหนึ่ง "อืมม์ ชื่อแม่งยาวแท้ เอาเป็นว่าทุกคนรู้จักกันในชื่อ 'หินกิลด์' ยังไงล่ะ"

"โอ้ หินกิลด์นั่นเอง เหมือนในเกมที่ผมรู้จักสมัยก่อนเลย"

"เรื่องราวประวัติศาสตร์ของหินกิลด์มีอยู่มากมาย แต่มันเป็นหนึ่งในผลึกแร่ที่เร้นลับและทรงอานุภาพที่สุดของโลก ที่สำคัญหินก้อนนี้ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาหินกิลด์ทั้งหมดของอาณาจักรคาเอลุม"

ผมรู้สึกว่าไนท์ฮอว์กเวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ เขาแฝงด้วยอารมณ์ที่ภาคภูมิใจ ผมเพิ่งเคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเขาเป็นครั้งแรก

"แหม~! ไม่โม้ไปด้วยเลยละว่าเอ็งเป็นคนค้นพบมันด้วยตนเอง" เจลค์กล่าวแซวขึ้นมา ขณะที่ยังนั่งง่วนอยู่ตรงด้านล่างบริเวณฐานของหินกิลด์

"เชอะ! อวดเด็กมันบ้างจะเป็นไรไป ฝีมือข้าทั้งนั้นแหละว้อย เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก"

ผมหันไปมองเขา พลางส่งสายตาวิงวอนอยากให้เล่าต่อ แต่

ไนท์ฮอว์กจ้องกลับมาและพูดว่า

"เรื่องมันยาวขี้เกียจเล่า!"

"...."

"แล้วนี่พวกเราแค่ตีหินกิลด์ให้แตก แค่นั้นก็จบงานเลยใช่ไหมครับ?"

"ใช่ จบเลย… ชีวิตแกเนี่ยจบแน่นอน!" ไนท์ฮอว์กหันมาเขกหัวผมดังโป๊ก

"โอ๊ย! ทำอะไรครับ"

"อย่าได้บังอาจทำแบบนั้นเด็ดขาด หินก้อนนี้ถือเป็นหนึ่งในมรดกของเมืองและของโลก อย่าได้คิดจะสาดสกิลกากๆ ของแกมาโดนเชียว ไม่งั้นข้าฆ่าแกแน่"

"โอเค ไม่ทำครับไม่ทำ งั้นก็ช่วยอธิบายอะไรบ้างเถอะ ผมจะได้ไม่ต้องเดาไปเรื่อย ตาแก่งี่เง่าจอมขี้เกียจเอ๊ย!"

"ไอ้เด็กนี่ เออ! ข้าอธิบายก็ได้วะ หินกิลด์น่ะเปรียบเสมือนหัวใจของกิลด์เลยก็ว่าได้ สามารถเปิดใช้งานคำสั่งเวทมนตร์กิลด์ได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวอาคาร บัพค่าพลังให้สมาชิกทุกคน หรือบวกโบนัสค่าประสบการณ์เมื่อทำเควสจากกิลด์สำเร็จ รวมไปถึง

อัลติเมทไม้ตายขั้นสูงสุดก็คือเวทประสานหมู่จากคนทั้งกิลด์"

ไนท์ฮอว์กทิ้งช่วงให้ผมย่อยข้อมูล และพูดต่อว่า

"รวมไปถึงควบคุมทุกระบบภายในกิลด์ สั่งปิดไฟในห้องน้ำที่ใครลืมเปิดทิ้งไว้หลังใช้เสร็จ สั่งจำกัดน้ำใช้เพื่อประหยัดน้ำรณรงค์รักษ์โลกตามแคมเปญ 'น้ำทุกหยดมีค่า'..."

ทำไมรู้สึกว่าเขายกตัวอย่างมาแปลกๆ

"และสำคัญที่สุดเลยก็คือ หินกิลด์นี้จะบันทึกทุกเควสที่สมาชิกออกปฏิบัติงาน ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดของเควสนั้นๆ บัญชีรายรับรายจ่ายของกิลด์ รายการไอเท็มทุกชิ้นที่อยู่ในโกดังเก็บของ บัญชีเดินสินค้าทั้งหมดก็ด้วย"

"...."

"อ๋อ! งั้น…! งั้นๆ ถ้าพวกเราดึงข้อมูลออกมาได้… งั้นก็…!" ในที่สุดผมก็ถึงบางอ้อจนได้

"ถูกต้องแล้ว บ๊ะ! กว่าจะนึกออกนะ ไอ้สมองไร้รอยหยัก"

"...."

ผมเดินไปดูที่เจลค์ดีกว่า ถามอะไรไนท์ฮอว์กทีไร โดนเขาหลอกด่าทุกที

เมื่อผมเข้าไปใกล้เจลค์ เลยได้เห็นว่าเขากำลังนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่และตั้งอกตั้งใจสะเดาะกุญแจตู้เซฟที่ฝังกับฐานรองหินกิลด์อยู่นั่นเอง มันเป็นตู้เซฟขนาดใหญ่ สูงประมาณเกือบถึงหน้าอกของผม

กริ๊ก.. กริ๊ก.. แกร๊ก.. แกร๊ก..

"ตรงนี้มันต้องแบบนี้" เจลค์พึมพำเบาๆ ส่วนมือสองข้างกำเครื่องมือล็อคพิคอยู่หลายชิ้น รวมถึงที่ปากก็คาบเอาไว้ด้วย

"ไอ้หนู!" เจลค์หันมาเรียกผม

"ครับ!"

"มาช่วยจับตรงนี้สิ จับเอาไว้เฉยๆ นิ่งๆ นะ"

"เอ่อ… ให้ผมจับอันไหนครับ" ผมถามเพราะงงจริงๆ คือตอนนี้ที่ตู้เซฟมีเครื่องมืออยู่หลายชิ้นมาก สอดไว้ตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมด

"เออ โทษทีๆ อันที่เป็นหกเหลี่ยมสีทองน่ะ จับค้างไว้นะ อย่าขยับ"

ผมรีบทำตามที่เขาว่า และเจลค์ฝุบหน้าเอาหูข้างหนึ่งลงไปแนบกับตู้เซฟอย่างรวดเร็ว และพึมพัมว่า

"เปิดใช้งานสกิล [หูเทพ]"

หูของเจลค์มีแสงสีขาวรูปร่างคล้ายปีกเทวดาส่องออกมาวูบหนึ่ง ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นสกิลระดับ A ของเขาที่เป็นต้นแบบสกิล [หูเกือบเทพ] ที่ผมได้รับถ่ายทอดมา

"เปิดใช้งานสกิล [มือนิ่ง] เอาล่ะ พวกเอ็งเงียบๆ ก่อนนะ..."

มือของเจลค์หมุนรหัสลูกบิดไปด้วยช้าๆ ค่อยๆ บิดมันอย่างนุ่มนวล

กริ๊ก.. กริ๊ก.. กริ๊ก.. กริ๊ก.. แกร๊ก.. "นั่น! ดีมากลูกพ่อ"

กริ๊ก.. กริ๊ก.. แกร๊ก.. "ว่านอนสอนง่ายนะลูก"

กริ๊ก.. กริ๊ก.. กริ๊ก.. แกร๊ก.. "เด็กดีๆ"

กริ๊ก.. กริ๊ก.. กริ๊ก.. กริ๊ก.. กริ๊ก.. แกร๊ก.. "รักนะเบบี๋"

"เอ้า! ไม่ดื้อไม่ซนนะ ฮึ้บ!" เจลค์ใช้สองมือดึงสุดแรง

ปึง! ตู้เซฟเปิดผ่างออกพร้อมกับมีลูกแก้วสีดำฝังอยู่ในแท่นหินสี่เหลี่ยมจตุรัสก็ค่อยๆ เลื่อนจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเรา

เจลค์เอามือแตะที่ลูกแก้ว หน้าต่างโฮโลแกรมสีเหลืองใสขนาด 30*30 ซม. ก็โผล่ขึ้นมา

[กรุณาใส่พาสเวิร์ดค่ะ]

[ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _]

"เอาล่ะ! ไนท์ฮอว์กตาเอ็งแล้ว หรือจะบอกรหัสข้ามาเลย"

"ไม่บอกเว้ย ข้าจะใส่เอง" ไนท์ฮอว์กแยกเขี้ยวและเดินเข้าไปที่วินโดวส์สีเหลืองนั้น

ระหว่างที่ไนท์ฮอว์กกำลังเงอะงะกับการใช้นิ้วจิ้มพิมพ์รหัสใส่ในคียบอร์ดโฮโลแกรมสีเหลืองโปร่งแสง ผมแอบชะโงกหัวดูทางด้านหลัง ซึ่งเจลค์ก็ทำแบบเดียวกันอยู่ พวกเราหันมาอมยิ้มให้กันเล็กน้อย เขาพิมพ์ไปว่า…

[ N I G H T H A W K g g ]

ติ๊ง!

[เข้าสู่ระบบสำเร็จค่ะ]

ไนท์ฮอว์กหันกลับมา ผมกับเจลค์ยืนห่างจากเขา 2 เมตรและทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้เรียบร้อยแล้ว

'เอ๊ะมันยังไง? รหัสเป็นชื่อ 'ไนท์ฮอว์ก' เนี่ยนะ แล้วไอ้ 'จีจี' ต่อท้ายนี่มันอะไร Good Game?'

"เจลค์ จัดการเลย ถึงเวลาอาหารจานหลักแล้ว"

เจลค์ยืดเส้นยืดสาย บิดไปมาและทำนิ้วมือยุกยิกอย่างรวดเร็วจนผมแทบมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของมันเลย เสร็จแล้วเขาตวัดนิ้วเรียกเก้าอี้ผู้บริหารออกมาหนึ่งตัว และนั่งลงที่หน้าลูกแก้วสีดำ

"ข้าเป็นต้องใช้มานาทั้งหมดกับตรงนี้ ดังนั้นข้าจะปลดสกิลกับดัก [สแตนด์ สติล] แล้วนะ" เจลค์หันมาถามผมกับไนท์ฮอว์ก

"อ้าว นึกว่าเสร็จแล้วซะอีก" ผมถาม

ไนท์ฮอว์กเปิดวินโดวส์ และหยิบขวดโพชั่นออกมากินหลายขวด

"ยังหรอกไอ้หนู หลังจากนี้สิของจริง สิ่งที่เราต้องการคือไฟล์ลับเฉพาะภายในหินกิลด์ทั้งหมด ซึ่งทุกไฟล์นั้นเข้ารหัสเอาไว้อีกที"

"บางไฟล์เป็นรหัสเวทมนตร์ด้วย" เจลค์พูดเสริม

"หน้าที่ของพวกเราทั้งสามคนคือ ถ่วงเวลาให้เจลค์แฮ็กไฟล์ลับออกมาให้หมด เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานการโค่นล้มอำนาจของไอ้เวรตะไลรอธฟิลด์ให้ได้ มันจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสมในข้อหาทำให้กิลด์นี้เสียชื่อเสียงและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนมากมาย"

"และแน่นอนว่าสมบัติในคลังกิลด์ของพวกมันจะหายไปบ้าง ทางสำนักฯ ก็คงไม่สังเกตุอะไรหรอก ถูกไหม?" เจลค์ยิ้มและพูดขึ้นอีกครั้ง

"ถูกต้อง!" ไนท์ฮอว์กตอบ

"เคี๊ยก! เคี๊ยก! เคี๊ยก! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!" พวกเขาหัวเราะพร้อมกัน

"...."

"เอาล่ะ พวกเอ็งพร้อมแล้วนะ?!"

"พร้อม!"

"ครับ พร้อมก็พร้อม!"

"พร้อม!"

ผมได้ยินเสียงแผ่วเบาจากใครสักคนดังจากข้างหลังผม เมื่อหันไปดูถึงได้รู้ว่าเป็นวิสเปอร์นั่นเอง สกิลตีนแมวของเธอคงเป็นขั้นสุดจริงๆ เพราะเธอไม่มีเสียงฝีเท้าเลยแม้แต่น้อย เธอเข้ามาด้านหลังได้โดยที่ผมไม่ทันรู้สึกตัวเลย

"ยกเลิกสกิล [สแตนด์ สติล!]" วู้~ม!

ทันทีที่เจลค์สั่งยกเลิกเสร็จ เขาถอดเสื้อออกและตะโกนว่า

"เปิดใช้งาน [โฟร์อาร์มพลัส!] เปิดใช้งาน [จิตสมาธิ!]"

ปิ๊ง! พรวด! มีแขนอีกสี่ข้างหรือแขนสองคู่งอกออกมาจากบริเวณซี่โครงของเขา พวกมันกำหมัดทักทายชนกันบนล่างซ้ายขวาและทำอีกสองถึงสามท่าคล้ายการทักทายของนักดนตรีฮิปฮอป ผมคิดว่าเหมือนเป็นการวอร์มมือนั่นแหละมั้ง

จากนั้นเขาก็เรียกแป้นพิมพ์โปร่งแสงจากระบบหินกิลด์ออกมาเพิ่มอีกสองอัน และรีบละเลงนิ้วรัวทั้งสามสิบนิ้วพิมพ์อย่างรวดเร็ว มีหน้าต่างทั้งน้อยใหญ่เด้งขึ้นมามากมาย ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

ผมรู้สึกทึ่งพอๆ กับประหลาดใจ เพราะก็อบลินแฮ็กเกอร์นั้นว่าแปลกแล้ว แต่ก็อบลินที่มีหกแขนกำลังนั่งแฮ็กระบบเนี่ยยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ เป็นภาพที่คุณไม่ได้เห็นทุกวันอย่างแน่นอน

...

ผมกับวิสเปอร์เดินตามไนท์ฮอว์กออกไปที่โถงทางเดินหน้าห้องหินกิลด์ ทางเดินนี้ทอดยาวเป็นระยะประมาณ 100 เมตร มีหน้าต่างทุกๆ 10 เมตร ผ้าม่านประดับสีแดงขอบสีทอง มีโซฟา โต๊ะเล็ก และเก้าอี้วางเรียงรายเป็นระยะเช่นกัน ส่วนฝาผนังเป็นรูปภาพใหญ่กรอบทองติดเอาไว้อยู่ประปราย

"ทางเดินยาวแบบนี้มันสวยงาม และสามารถเป็นภูมิศาสตร์อย่างดีในการรับมือผู้บุกรุก เราต้องระวังแค่ข้างหน้าเท่านั้น อย่าให้พวกมันล้อมได้เด็ดขาด"

"แล้วถ้าพวกเขากระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง อ้อมหลังพวกเราขณะสู้ล่ะครับ" ผมถาม

ไนท์ฮอว์กชี้นิ้วขึ้นข้างบน "รอเจลค์สำแดงฝีมือแป๊บหนึ่ง"

สักพักตัวอาคารกิลด์ไฮเอนด์ก็ส่องแสงสีเหลืองออกมาวูบหนึ่ง และมีเสียงผู้หญิงประกาศ

"คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด: 056 [ป้อมปราการเหล็กกล้า] เปิดใช้งานแล้วค่ะ!"

"คำสั่งกิลด์นี้จะปิดล็อคทุกทางเข้าออก คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า และเสริมความแข็งแกร่งอีกด้วย เท่านี้หน้าต่างและตัวอาคารจะไม่พังทลายง่ายๆ แล้ว จำเป็นต้องใช้สกิลระดับ S ขึ้นไปถึงจะสามารถทำได้" ไนท์ฮอว์กอธิบาย

"โอ้ เจ๋งเลย"

"และเดี๋ยวเจลค์น่าจะสั่งปิดการติดต่อด้วยวินโดวส์ทั้งภายในและภายนอกด้วย"

"คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด: 040 [ปิดกั้นเครือข่ายเวทมนตร์] เปิดใช้งานแล้วค่ะ!"

"คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด: 021 [เสริมค่าสถานะพื้นฐานสมาชิกกิลด์] ถูกยกเลิกแล้วค่ะ!"

"คำสั่งคุณสมบัติพิเศษ โค้ด: 009 [ระบบสาธารณูปโภคภายในกิลด์] ถูกยกเลิกแล้วค่ะ!"

ไฟดวงใหญ่ตามทางเดินดับลง เหลือเพียงไฟดวงเล็กสลัวๆ เท่านั้น ทำให้ตามทางเดินมืดลงเป็นอย่างมาก

"ยกเลิกน้ำไฟด้วยเรอะ ใครที่กำลังอึอยู่ตอนนี้ซวยหนักแน่นอน"

"คิก..."

ผมแอบได้ยินวิสเปอร์ยิ้มขำมุกของผมด้วย และจากนั้นเธอก็กางแขนทั้งสองข้างออกอย่างเชื่องช้าและพูดว่า

"เปิดใช้งาน [อาณาเขตคืนเดือนมืด]...!"

เธอประกบมือทั้งสองข้างเข้าหากันอย่างเร็ว และบีบอัดก้อนพลังอะไรบางอย่างอยู่ตรงกลางมือ ก้อนพลังงานสีดำนั้นกำลังเกิดคลื่นหมุนวนในตัวเองอยู่ มันเริ่มเปล่งออร่าสีดำอมม่วงออกมาทีละน้อย

"จนกว่าวิสเปอร์จะร่ายสกิลเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 6 นาที พวกเราต้องยันเอาไว้ให้ได้"

ตึง! ตึง! ตึง!

จากนั้นที่สุดปลายทางเดิน ก็ได้เสียงการ์ดอัศวินชุดดำหลายสิบคนกำลังวิ่งตรงมาอย่างอึกทึกครึกโครม

"นั่นไง! พวกมันอยู่นั่น!"

"ผู้บุกรุกต้องตาย!"

"บังอาจมาก ไอ้พวกโจร!!"

"โอ้ววววววววว!!"

ผมกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ พลางคิดว่า 'ไหวไหมวะตู?' บอกตามตรงว่าปกติผมเป็นคนใจร้อน จะออกหมัดก่อนใช้สมองอยู่เสมอ แต่นั่นก็คือทะเลาะกันกับเด็กคนอื่นๆ ไม่ใช่อัศวินน่าเกรงขามชุดเกราะแน่น

ปึ้กแบบนี้ ศึกคราวก่อนผมยังรู้สึกสนุกที่ได้สู้กับมอนสเตอร์ แต่ครั้งนี้ต้องมาสู้กับมนุษย์ด้วยกัน ทำให้รู้สึกหวาดหวั่นในใจไม่ใช่น้อย

วู้ม! ผมเรียกเคียวจันทร์เสี้ยวออกมาถือไว้ทั้งสองมือ ทำให้รู้เลยว่าฝ่ามือตัวเองตอนนี้ชุ่มเหงื่อขนาดไหน

"ไอ้หนู!"

"...."

"แจ็ก!"

"ครับ ว่าไง?" นี่เป็นครั้งแรกที่ไนท์ฮอว์กเรียกชื่อของผม ผมหันไปมองเขาที่แสยะยิ้มกลับมาให้

"กลัวเหรอวะ?"

"เปล๊า! ไม่ได้กลัวสักหน่อย ผมน่ะลุยเป็นลุยอยู่แล้ว"

"คี๊ก คี๊ก แจ็ก… ตบหน้าข้าซิ"

"หา ทำไม?"

"เร็วๆ เซ่ บอกให้ตบก็ตบสิวะ ตบเลย! แรงๆ!"

เผียะ! ผมจัดให้ตามคำขอ หน้าของไนท์ฮอว์กสะบัดเล็กน้อย เขาถุยน้ำลายพร้อมเลือดออกมานิดหน่อย และตบผมคืนทันที

เผียะ! หน้าผมหันไปตามแรงตบเกือบ 90 องศา เลือดกลบปาก ผมถุยเลือดออกมาและหันหน้ากลับไปจะด่าตาแก่คนนี้ แต่จู่ๆ…

วู้มมมม ฟู่ว!

ติ๊ง!

พันธสัญญาชั่วคราวเสร็จสมบูรณ์ค่ะ!

คุณได้รับการแบ่งพลังจากสกิล: [อวตารแห่งราธ] "ระดับ S"

คำอธิบาย: คุณจะได้รับพลังและเจตจำนงของ 'ราธ' หนึ่งในบาปทั้งเจ็ด [บาปแห่งโทสะ]

ผลลัพธ์: เพิ่มพลังโจมตี (Str) 800%

เพิ่มค่าพลังป้องกัน (Vit) 800%

เพิ่มค่าความว่องไว (Agi) 800%

เพิ่มพลังจิตต่อสู้ (Ki) 800%

ลดค่าสติปัญญา (Int) เหลือ 0 หน่วย

ลดค่าประสาทสัมผัส เหลือ 0 หน่วย

Type: Auto ACTIVE (เป็นระยะเวลา 5 นาที)

MP cost: ใช้มานาทั้งหมดที่มี

Cooldown: 48 ชม. หลังจากเปิดใช้งาน

หมายเหตุ: คุณถูกบังคับติดสถานะ [บ้าคลั่ง] ตลอดเวลา

และอารมณ์โกรธจะยิ่งปะทุขึ้นเมื่อคุณได้รับบาดเจ็บ

ฟู่~~ว!

"อะ.. อึ่ก"

บอกตามตรงว่าผมอ่านหน้าต่างสกิลที่ระบบแจ้งเตือนไม่ไหว เพราะผมสัมผัสได้ว่ารูขุมขนทั่วร่างเปิดออก ออร่าที่น่าขนลุกขนพองกำลังพวยพุ่งออกจากตัวของผม ผมเงยขึ้นมองด้านบน และตกใจที่ได้เห็นเปลวเพลิงสีดำที่ดูคล้ายใบหน้าปีศาจจากนรก ดวงตาสีแดงของมันส่องประกายวูบวาบ ปากของมันกำลังยิ้มกว้างและเริ่มกรีดร้องด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

"กรี๊---------------ซซซซ!!!"

"กรี๊---------------ซซซซ!!! เคี๊ย-----ก!! เคี๊ย-----ก!!"

การ์ดอัศวินทั้งหมดที่กำลังวิ่งหน้าตั้งมา ได้พร้อมใจกันเบรคเอี๊ยดกะทันหัน ไม่แปลกละนะ ลองเจอปีศาจอยู่สุดทางเดินแบบนี้ เป็นผมๆ

ก็ลังเลจะวิ่งเข้าหามัน และที่สำคัญใบหน้าของปีศาจไม่ได้มีตนเดียว แต่มีสองตนด้วยกัน ลอยอยู่บนหลังของผมและไนท์ฮอว์ก

"นี่มัน… อะไรกัน?!" ผมตะโกนถาม

"สกิลระดับ S ของข้าเอง ข้าแบ่งให้แกใช้!" ไนท์ฮอว์กตะโกนตอบกลับมา

"ไอ้หนู เลิกถามเซ้าซี้ได้แล้ว ปล่อยตัวไปตามสัญชาติญาณ! หน้าที่ของเราคืออัดทุกคนให้คว่ำ ใครแหยมเข้ามา อัดแม่งให้ยับ!!"

เมื่อไนท์ฮอว์กพูดจบใบหน้าปีศาจก็กรีดร้องอีกครั้ง และพุ่งวูบกลับเข้าสู่ร่างของพวกเราอย่างรวดเร็ว

"อึ่ก!" ร่างของผมเริ่มสั่นสะท้าน

ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!

หัวใจของผมเต้นโครมครามเสียงดัง เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อขมวดเกร็งแน่น ผมรู้สึกว่าทั่วร่างกายร้อนขึ้น ร้อนขึ้นจากภายในราวกับเลือดของผมแปรเปลี่ยนเป็นลาวาอันร้อนระอุ และมันกำลังไหลเวียนอยู่ทั่วร่างผมตอนนี้ อาการทั้งหมดพุ่งมาสิ้นสุดที่ศีรษะ เส้นเลือดที่หน้าผากปูดออกเต้นตุบๆ ผมเหลือบไปมองเงาตัวเองสะท้อนจากหน้าต่าง และได้เห็นว่าดวงตาที่สีขาวขุ่น ได้มีเส้นเลือดฟอยลุกลามจนทำให้ตอนนี้กลายเป็นสีแดงก่ำไปแล้ว อารมณ์ของผมพลุ่งพล่านแบบหยุดไม่อยู่ ราวกับมันใกล้จะระเบิดออกเต็มที ผมไม่ไหวแล้ว...

"อั่ก อ๊า.. อ๊าก..!"

"ปล่อยตัวไปตามสัญชาติญาณ"

ผมนึกถึงคำที่ไนท์ฮอว์กพูด และเริ่มทำตามนั้น ผมไม่พยายามฝืนรั้งอะไรอีกแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมจะทำตามอารมณ์ของตนเอง และอารมณ์ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวที่ผมมีตอนนี้นั่นก็คือ…

"ความโกรธ"

และความโกรธนี้จะไปลงที่ใครดี ผมมองไปยังเบื้องหน้าและเห็นกลุ่มการ์ดอัศวินที่ถืออาวุธอยู่

"พวกมัน... พวกมันเป็นต้นเหตุ..."

"พวกมันต้องตาย!!"

ผมกับไนท์ฮอว์กกระโดดพุ่งตัวออกไปเกือบจะพร้อมกัน พวกเราวิ่งตรงเข้ากลุ่มการ์ดอัศวินด้วยความบ้าคลั่งชนิดที่แม้แต่ตัวเองก็ยังคุม

ไม่อยู่

"อว๊ากกกกก!! ย้า------ก!!"