Episode 03 คืนแรก
ตกดึก
ด้วยความคุ้นชินคิดว่าตัวเองกำลังอยู่บ้านของตัวเองทำให้อลิชาเดินออกจากห้องน้ำมาในชุดนอนลายการ์ตูนสีฟ้าอ่อนเหมือนปกติจนลืมไปว่าตอนนี้เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในอยู่ ถึงแม้ว่ารามิลที่อยู่ด้วยจะมองไม่เห็นแต่ยังไงเขาก็ถือเป็นผู้ชายคนหนึ่ง
แต่เพราะห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน และต้องใช้ร่วมกันทำให้เธอไม่ได้หยิบชุดชั้นในติดมือมาตั้งแต่แรก สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือรีบกลับห้องนอนของตัวเอง และภาวนาไม่ให้รามิลเดินออกมา
"ลิชา"
"ขะ…คะ!" คนตัวเล็กที่กำลังเดินหย่องกลับห้องนอนของตัวเองขานรับเสียงเรียกจากชายหนุ่มด้วยความตกใจ เธอหันหลังไปหาเขาพร้อมกับเอามือกอดอกเอาไว้
"ได้ยินเสียงเดินน่ะเลยลองเรียกดู คงยังไม่ชินที่มีคนอื่นมาอยู่ด้วย"
"อ๋อ แล้วนี่พี่รามออกมาทำอะไรเหรอคะ มาเข้าห้องน้ำเหรอ" อลิชาถามด้วยความสงสัยเพราะนี่ก็ดึกพอสมควร
"ออกมาดื่มน้ำน่ะ พอดีน้ำในห้องหมด"
"งั้นพี่รามไปนั่งรอก่อนนะเดี๋ยวหนูเอาไปให้"
"ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่…"
"รอแป๊บหนึ่งนะคะ" คนตัวเล็กรีบบอกตัดบทแย่งขวดน้ำเก็บอุณหภูมิในมือของเขามาพร้อมกับกอดอกวิ่งไปที่ห้องครัวรินน้ำใส่แก้วมาให้เขา ส่วนแก้วเก็บอุณหภูมิเธอก็เต็มน้ำมาให้เต็มแก้วเพื่อที่กลางดึกเขาจะได้ไม่ต้องลุกออกมาเอาน้ำอีก
รามิลที่เดินไม่ทันคนตัวเล็กทำได้เพียงเดินไปนั่งรอคนตัวเล็กที่โซฟาเงียบๆ จนกระทั่งเธอนำน้ำมาให้
"ได้แล้วค่ะ"
"ขอบใจ"
"เดี๋ยวหนูไปเก็บให้" อลิชารับแก้วน้ำจากรามิลไปเก็บที่เดิม เนื่องจากไม่สามารถวางอะไรไว้ผิดตำแหน่งไม่ได้อาจทำให้รามิลที่ใช้ความคุ้นเคยในการจดจำตำแหน่งของสิ่งของ และทิศทางเกิดอันตรายได้
ทว่าระหว่างที่เธอเก็บแก้วน้ำเสร็จรีบกลับมาหาเขาก็หม่เห็นรามิลนั่งอยู่ที่เดิม เธอมองแผนหลังกว้างที่เดินไปไกลเกือบถึงประตูห้องนอนด้วยความตื่นตระหนกรีบวิ่งไม่ขว้างทางเขาเอาไว้ทำให้รามิลที่ไม่รู้ว่าเธอวิ่งมาขว้างชนเข้ากับหน้าอกของคนตัวเล็กอย่างจัง
"เออ…คือว่าให้หนูอ่านหนังสือให้ฟังไหม" อลิชาคิดหาวิธีที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา พร้อมกับถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวเว้นระยะห่างจากเขา
"พรุ่งนี้ไปทำงานวันแรกรีบไปนอนดีกว่าเดี๋ยวตื่นสาย"
"แต่ว่า…"
"พี่ง่วงแล้ว ฝันดี"
"ฝันดีค่ะ" เมื่อไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ได้เธอจึงทำได้เพียงโบกมือลาเขาถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นก็ตามที
และเมื่อรามิลเดินกลับเข้าห้องนอนไปจนลับตาแล้ว เธอจึงยกมือขึ้นหมายจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจตัวเอง ทว่ามันกลับทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในอยู่ แล้วเมื่อกี้ที่เธอเดินชนกับเขาก็หมายความว่า…
"โอ๊ย! ลิชาทำไมแกซื่อบื้อแบบนี้เนี่ย เมื่อกี้พี่รามเขาจะคิดว่ามาอ่อยเขารึเปล่านะ" อลิชาต่อว่าตัวเองด้วยความรู้สึกผิด และอับอายที่ผสมกันแล้วเดินหน้างอกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
ทางด้านรามิลทันทีที่กลับเข้ามาในห้องเขาก็รีบเปิดขวดน้ำกระดกน้ำขึ้นดื่มดับกระหายความกระวนกระวายในจิตใจจนเกือบหมดขวด สัมผัสนุ่มๆ ที่โดนตัวเขาเมื่อครู่คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากหน้าอกของเธอ เพียงแค่คิดใบหน้าคมคายก็แดงก่ำด้วยความเขินอาย อีกทั้งยังพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้จินตนาการต่อไปมากกว่านี้
เช้าวันต่อมา
อลิชารีบตื่นมาทำกับข้าวมื้อเช้ารอรามิลที่กำลังอาบน้ำแต่งตัวอยู่ ส่วนเธอจะไปอาบมาก่อนแล้วแต่จะไปเปลี่ยนชุดสำหรับไปทำงานทีหลังเพื่อไม่ให้กลิ่นกับข้าวติดชุดทำงานไป โดยชุดทำงานของเธอก็เป็นชุดไปรเวทสบายๆ ที่ต้องเรียบร้อยและสุภาพเหมาะสมกับการทำงาน เนื่องจากพอเข้าห้องแล็บไปเธอก็จะได้สวมชุดคลุมสำหรับเข้าห้องแล็บอยู่ดี
"อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ"
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปกินที่บริษัท" คำตอบที่ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับกรอกตาพ่นลมหายใจออก
"ยังไงพี่รามก็ต้องรอหนูอยู่ดีไม่ใช่เหรอคะ" เธอตอบกลับเข้าด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนเดินไปจับแขนเขาให้เดินมายังโต๊ะอาหาร
"แต่…"
"กินข้าวกันค่ะ" เธอบอกพร้อมกับดันเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ ตำแหน่งจานช้อนที่เธอได้เรียนรู้มาจากนาวาเลขาของเขาถูกวางตำแหน่งเดิมเป๊ะๆ ทำให้เขาหยิบอุปกรณ์อาหารขึ้นมาตักอาหารทานอย่างไม่มีปัญหา "อร่อยไหมคะ"
"อืม"
"วันนี้หนูจะไปฝึกงานวันแรกพี่รามอวยพรหนูเหมือนตอนที่หนูจะไปสอบได้ไหม" อลิชาร้องขอทั้งยังอ้างอิงเรื่องราวในอดีตเมื่อตอนที่เขายังมองเห็น ตอนนั้นเธอมักจะมาเล่นกับเขาที่บ้านอยู่เป็นประจำ และเธอก็จะขอให้เขาอวยพรให้เธอก่อนวันสอบทุกครั้ง
"พี่จำไม่ได้แล้ว" รามิลตอบปัดราวกับเรื่องที่เธอเล่ามาไม่ได้อยู่ในความทรงจำของเขาแล้ว ต่อให้ความจริงเขาจะจำทุกอย่างได้ไม่เคยลืมก็ตาม
ความน่ารัก ความสดใส รอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าเล็กตอนนี้คงโตขึ้นเป็นสาวสวยสะพรั่ง
"ก็ตอนนั้นเวลาหนูจะไปสอบหนูจะขอให้พี่รามอวยพรให้แล้วพี่รามก็จะบอกว่า…"
'เจ้าหญิงน้อยของพี่เก่งอยู่แล้ว'
"พี่อยากกินข้าวเงียบๆ" เขาเอ่ยขึ้นตัดบทสนทนาในขณะที่ภายในใจกับต่อประโยคที่เธอกำลังจะกล่าวถัดมาได้อย่างแม่นยำ
อลิชาสีหน้าเจื่อนลงทันที เขาคงจะรำคาญที่เธอเอาแต่พูดถึงเรื่องราวในอดีต แต่หากไม่พูดถึงเรื่องราวในอดีตเธอคงจะไม่มีหัวข้อสนทนาให้พูดกับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเขาเอาแต่หลบหน้าเธอ
ก่อนหน้านี้เธอเคยถามถึงอาการป่วยของเขาตอนที่เจอกันแรกๆ คำตอบที่ได้รับกลับมาจากเขาคือเขาไม่ต้องการความสงสารความเห็นใจจากใครทั้งนั้น โดยเฉพาะกับฉัน
'ไม่ต้องมาสงสาร ไม่ต้องมาเห็นใจ และก็ไม่ต้องรู้สึกผิดใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีต่อไปก็พอ ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรพี่ทั้งนั้น'
ประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอตอนเจอหน้ากันหลังจากที่เขากลับมาจากรักษาตัวที่ต่างประเทศเธอยังจดจำมันได้ดี หลังจากนั้นเธอจึงเลี่ยงที่จะให้ความช่วยเหลือที่ไม่จำเป็นกับเขา หรือถามเขาว่าทำได้ไหม เพราะเขาต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งพาตัวเอง แต่คาดไม่ถึงว่าแม้แต่เรื่องราวในอดีตที่เคยมีร่วมกันเขาก็ไม่อนุญาตให้เธอกล่าวถึง