แสงแดดที่อบอุ่นส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างก่อนตกกระทบลงบนเตียงนอนของเด็กชายเสียงขับกล่อมอันไพเราะจากเหล่านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวน้อยที่ทำรังอยู่ด้านนอกเป็นเหมือนนาฬิกาปลุกยามเช้าที่สดใสดอกไม้และสมุนไพรส่งกลิ่นหอมล่องลอยตามสายลมทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นของมันรู้สึกผ่อนคลายเต็มไปด้วยพลังงาน
หากเป็นนิยายโรแมนซ์ที่อบอวลไปด้วยความสุขและตอนจบที่สมหวังประโยคด้านบนคงสามารถใช้บรรยายเช้าวันใหม่ที่แสนสดใสได้ดีเลยทีเดียว
ช่างน่าเสียดายที่เรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา . .
ในที่อับชื้นและมืดมนแห่งนี้ยังคงไร้ซึ่งแสงที่อบอุ่นของดวงอาทิตย์ลอดผ่านเข้ามาจากช่องทางหน้าต่างมีเพียงหมอกหนาวเย็นปกคลุมขึ้นสูงจนไม่อาจทราบเวลาที่แน่ชัดได้
เสียงของสายลมที่พัดผ่านเสียดสีกิ่งไม้ในป่าดังขึ้นเป็นครั้งคราวคล้ายกับเสียงกรีดร้องของปีศาจจากขุมนรกกลิ่นคาวเลือดเหม็นหืนของซากสัตว์ลอยมาพร้อมกลุ่มหมอกหนาทึบส่งกลิ่นความตายไปทั่วทั้งอณาเขตของป่า
ใต้หม้อปรุงยาสีดำใบใหญ่มีกองไฟสีม่วงที่ดูลึกลับถูกจุดไว้เพื่อมอบความอบอุ่นในค่ำคืนที่ผ่านมา
วิคตัสลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆเมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลบนร่างกายที่ส่งอาการประท้วงอย่างรุนแรง
ร่องรอยบางจุดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำจากผลกระทบของพืชพิษในป่า หลังจากร่างกายที่อ่อนเพลียได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ตลอดทั้งคืนตอนนี้กลับเต็มไปด้วยพลังงานอีกครั้ง
วิคตัสค่อยๆพยุงร่างกายของเขาอย่างทุลักทุเลมองลอดอออกไปทางหน้าต่างก่อนบ่นพึมพำเบาๆ
" หมอกลงหนาจนมองไม่เห็นท้องฟ้าเลยแฮะ "
เห็นได้ชัดว่าเขาหลับไปเป็นเวลานานเพื่อฟื้นพลังของร่างกายและเวลานี้ควรเป็นช่วงเที่ยงวันที่แสงอาทิตย์ส่องสว่างมากที่สุดแต่บรรยากาศภายในป่ากลับดูมืดครึ้มไม่ต่างจากกลางคืนเท่าไหร่นัก
แม้ช่วงกลางวันจะสว่างขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ถูกหมอกหนาพวกนี้ปิดกั้นแสงอาทิตย์อยู่ดีและดูเหมือนมันจะไม่ยอมหายไปง่ายๆด้วยเช่นกัน
มือบางยกสร้อยอัญมณีบนคอขึ้นด้วยความเคยชินราวกับว่าเขาต้องการบางสิ่งช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจในตอนนี้แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าเขาจึงรีบก้มมองดูด้วยความตกใจ
อัญมณีหายไป!!
สายตาเริ่มสำรวจบนพื้นอย่างรวดเร็วนอกจากไม้คทาที่ถูกวางทิ้งไว้ตรงพื้นพร้อมกับหม้อปรุงยาที่มีเพียงน้ำต้มเดือดก็ไม่พบสิ่งอื่นใด
วิคตัสหน้าซีดราวกับว่าวิญญาณของเขากำลังจะหลุดลอยออกจากร่าง
ถ้าอัญมณีหายไปแล้วสิ่งของด้านในนั้นล่ะ ??
มีดกริช โพชั่น...คัมภีร์สมุนไพร !!
คัมภีร์แห่งเงา คือตำราคู่มือประจำตัวของเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์เพื่อใช้บันทึกคาถา การปรุงยา ขั้นตอนการทำคำสาปหรือแม้แต่มนต์ขับไล่ชำระล้าง สิ่งนี้เป็นเสมือนสมบัติที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของพ่อมดแม่มดและมีพลังมากจึงไม่อาจสูญหายหรือถูกทำลายด้วยมือผู้อื่นได้พวกเขาสามารถเรียกใช้มันได้ทุกเมื่อเพียงแค่นึกคิด
แต่ คัมภีร์สมุนไพร นั้นแตกต่างกันตำราเวทย์เล่มนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากของวิคตัสทั้งยังมีข้อมูลสมุนไพรจำนวนมากที่เขาเก็บบันทึกไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เพียงสิ้นสุดความคิดที่วุ่นวาย อุปกรณ์ที่เขานึกถึงพร้อมกับคัมภีร์สมุนไพรเก่าแก่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้นห้องอีกครั้ง
หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นระรัวด้วยความตกใจราวกับนั่งรถไฟเหาะ
เกิดอะไรขึ้นกับของพวกนั้น? พวกมันออกมาจากที่ไหนกัน? แล้วถ้าข้าต้องการจะเก็บ....
.
.
...
..
โอ้ะ หายไปแล้ว??
..
.. .. .
.
.
เพียงชั่วพริบตาของทั้งหมดตรงหน้าก็หายไปอีกครั้ง!
ท่ามกลางความเงียบของกระท่อมที่ทรุดโทรมตอนนี้มีเด็กชายยืนเปลือยกายจ้องมองพื้นที่ว่างเปล่าด้วยความสับสน
สิ่งของพวกนี้ควรถูกเก็บไว้ในอัญมณีเก็บของและหากต้องการใช้พวกมันร่างกายของเขาต้องสัมผัสกับอัญมณีก่อนเพื่อเปิดใช้งาน
เห็นได้ชัดว่าอัญมณีนั้นหายไปแต่สิ่งของยังคงถูกควบคุมได้อย่างอิสระ อีกทั้งพลังเวทย์ของกระท่อมหลังนี้ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะสร้างพื้นมิติเพื่อใช้เก็บของได้อย่างแน่นอน
" นี่มันไม่ถูกต้อง? อาจมีบางอย่างผิดพลาดแต่ของพวกนี้ออกมาจากที่ไหนกันล่ะ? "
อัญมณีหายไปและกระท่อมแห่งความฝันก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
. . ถ้ามีพื้นที่เก็บของที่อื่นอีกข้าต้องเคยเห็นมันสิ
สิ้นสุดความคิดนั้นร่างของวิคตัสก็หายไปจากมุมห้องที่เขาเคยยืนอยู่ เหลือเพียงไม้คทาและหม้อปรุงยาที่เต็มไปด้วยน้ำต้มเดือด *ปุด ปุด* ถูกวางทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว
วิคตัส : ....!!
แสงสว่างที่เจิดจ้าแต่กลับไร้ซึ่งดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าที่หยุดนิ่งทำให้เขาตกตะลึง เด็กชายยืนมองภาพตรงหน้าเขาด้วยตาและปากที่อ้ากว้างไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้
เครื่องมือและส่วนผสมต่างๆวางกองเรียงกันบนพื้น ไม่มีต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากหญ้าที่ขึ้นกระจัดกระจายบนพื้นดินและบ่อน้ำตกขนาดเล็กคล้ายของประดับสวนทางด้านขวามือจากจุดที่เขายืนอยู่
ใช้เวลาสักพักก่อนที่วิคตัสจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
หลังจากทดลองเข้า-ออกพื้นที่ลึกลับนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เขายังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรแต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจได้เป็นอย่างดีคือมันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอัญมณีบนสร้อยที่หายไปอย่างแน่นอน
. . .ไม่แปลกใจเลยที่มันถูกผู้ร่วมประมูลแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้
หลังออกจากพื้นที่มิติเขาก็เต็มไปด้วยพลังงานที่สดชื่นการเริ่มต้นวันใหม่กับเรื่องราวน่าตื่นเต้นเช่นนี้เป็นสัญญาณที่ดีอย่างแน่นอนบางทีการมีชีวิตอยู่ต่อไปอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
...เอาล่ะ! ขอให้วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ดีด้วยเถอะ!!
เด็กหนุ่มก้าวเท้าออกนอกประตูอย่างมีชีวิตชีวาเมื่อลมหนาวพัดกระทบใบหน้าเป็นเสมือนถังน้ำเย็นที่ปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากภาพมโนพร้อมกับบรรยากาศด้านนอกกระท่อมที่ดูเหมือนจะสวนทางกับสภาพจิตใจที่สดใสของเขาเสียเหลือเกิน
" เฮ้อ..ช่างเป็นป่าที่มืดมนจริงๆงั้นเริ่มจากการชำระล้างก็แล้วกัน "
วิคตัสเริ่มเดินสำรวจพื้นที่รอบกระท่อมก่อนตัดสินใจสร้าง อาณาเขตเวทย์ เพื่อขับไล่และป้องกันพลังชั่วร้ายที่อาจแทรกซึมเข้ามา
ทันทีที่เขาเริ่มร่ายคาถาเพื่อเสริมพลังความรู้สึกแปลกๆก็เกิดขึ้นในใจของเขาพลังจากคาถาดูเหมือนจะไม่ก่อผลตามที่คาดไว้
"ทำไมคาถาขับไล่ถึงอ่อนแอลงแบบนี้ .. . "
วิคตัสพึมพำขณะมองเส้นแสงที่เลือนรางของอาณาเขตเวทย์ที่เขาร่ายมนต์ไว้ พลังความมืดที่แข็งแกร่งของป่านี้รุนแรงเกินกว่าที่คิดไว้จริงๆ
พลังป้องกันของคาถากระท่อมแห่งความฝันดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าพลังชั่วร้ายในป่าแห่งนี้ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อคืนเขาถูกครอบงำได้อย่างง่ายดาย หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าอีกไม่นานเขาอาจถูกความมืดเหล่านั้นครอบงำเข้าสักวัน
เงาดำพาดผ่านต้นไม้จนดูเหมือนกำลังล้อมพื้นที่กระท่อมคล้ายกับว่าความมืดมิดรอบตัวต้องการท้าทายผู้ที่เข้ามาเยือน
วิคตัสขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของพลังแปลกๆในป่าแห่งนี้
. . . .ต้องหาวิธีเสริมอาณาเขตก่อนที่จะมีบางสิ่งเล็ดลอดเข้ามา
เมื่อนึกได้ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบส่วนผสมมากมายออกมาเศษคริสตัลสีดำและผงดอกไม้ดินแดนศักสิทธิ์ที่เหลืออยู่ไม่มากนักกลิ่นของพลังบริสุทธิ์อาจพอช่วยต่อต้านความมืิดมิดไปได้บ้าง
หลังจากจัดวางอุปกรณ์และส่วนผสมที่หลงเหลืออยู่ในกระเป๋าของเขาอย่างระมัดระวังตามขั้นตอนการทำพิธีชำระล้างที่ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนาน วิคตัสยกไม้คทาขึ้นมาก่อนหยุดยืนอยู่หน้ากระท่อมของเขาและเริ่มทำสมาธิหมุนเวียนพลังเวทย์ในร่างกายอย่างมีสติ
บรรยากาศรอบตัวยังคงเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ กลิ่นเน่าเหม็นที่ลอยอยู่กลางอากาศยังคงส่งผ่านออกมาให้เขารับรู้ได้เป็นครั้งคราวพื้นดินสีดำตรงหน้าต่างไร้วี่แววของพืชพันธุ์ไม่มีแม้แต่หญ้าสักต้นอย่างเช่นเคย
พลังงานชั่วร้ายที่ตกค้างในบริเวณรอบกระท่อมควรถูกกำจัดออกไปโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดคิดในอนาคต
เขาอาจต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีกสักพักการสร้างความปลอดภัยที่แน่นหนาจึงเป็นสิ่งสำคัญและเร่งด่วนที่สุดของแผนการในวันนี้
วิคตัสหยุดยืนกลางพื้นที่และปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆก่อนยกไม้คทาขึ้นเหนือศีรษะ
พลังเวทย์ธรรมชาติเริ่มไหลผ่านปลายนิ้วของเขาราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่รอคอยการปลดปล่อยก่อนกระจายออกจากคทาสร้างวงเวทย์สีเขียวมรกตหมุนวนรอบตัวเขา
แสงรูปร่างผีเสื้อที่บินไปมาในอากาศค่อยๆโบยบินออกไปยังทิศทางต่างๆอย่างเป็นระเบียบทันทีที่เขาร่ายมนต์คาถาออกมา
.
.
.
Lux Aeternum, ab omnibus malis liberate !
แสงนิรันดร์ขอให้พื้นที่ข้าพ้นจากความชั่วร้ายทั้งปวง ! ให้ความมืดจงจากไปเสียงของความชั่วจงหลีกหนี โลกกลับคืนสู่แสงสว่าง, ด้วยมนตร์คุ้มกันอันศักสิทธิ์ท่ามกลางบทเพลงของข้าที่ก้องกังวาลความมืดมนทั้งหมดจงจากไป !!
เมื่อสร้างเจตจำนงและความต้องการเสร็จสิ้นพ่อมดหนุ่มจึงค่อยๆยกเท้าเดินวนรอบกระท่อมไม้ของเขาพร้อมเริ่มร่ายคาถายาวเหยียดในปาก
ไม้คทาในมือวิคตัสโบกขึ้นลงตามจังหวะการก้าวขาคล้ายงานเต้นรำที่ดูลึกลับและน่าประหลาดใจแต่ทุกการเคลื่อนไหวกลับเต็มไปด้วยพลังที่แฝงอยู่ในท่าทางของเขา ทุกย่างก้าวทวนเข็มนาฬิกาเป็นจังหวะที่ถูกคำนวณไว้ตามพิธีกรรมชำระล้างตั้งแต่สมัยโบราณ
เพียงไม่นานเส้นแบ่งเขตแดนของอาณาเขตคุ้มกันก็ค่อยๆสูงขึ้นจากพื้นพร้อมขยายตัวปกคลุมพื้นที่กระท่อมเหมือนกับโดมโปร่งแสงขนาดใหญ่ แสงสีเขียวมรกตสะท้อนในอากาศส่องประกายเจิดจ้าจนแสบตาอยู่ชั่วครู่
จนกระทั่งวิคตัสสามารถรับรู้ได้ถึงพลังป้องกันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนจากทุกทิศทางเขาจึงค่อยๆลืมตาแม้แต่ลมและเสียงต่างๆรอบตัวดูเหมือนจะลดลงไปชั่วขณะ
วิคตัสยังคงรู้ดีถึงข้อจำกัดในพลังของเขา ถึงแม้จะสามารถสร้างมนต์ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยมแต่พลังเวทย์ระดับ 3 ของเขายังคงไม่สูงพอที่จะทำลายชั้นหมอกหนาทึบที่ลอยอยู่เหนือป่าได้
" คงต้องรีบหาทางเพิ่มพลังให้มากขึ้น ....."
วิคตัสพูดกับตัวเองพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
หลังจากเห็นแสงสว่างของมนตร์คุ้มกันส่องทะลุขึ้นสู่ท้องฟ้าวิคตัสก็ลดไม้คทาของเขาลงอย่างช้าๆ
ในพิธีครั้งนี้เขาใช้เกลือขาว หินแห่งแสง น้ำบริสุทธิ์ของคืนพระจันทร์เต็มดวงและสมุนไพรบางอย่างอีก 8 ชนิด เทียนสีขาวดำตัวแทนของการปกป้องและการชำระล้างถูกวางลงตรงกลางวงแหวนเวทย์รูปทรงเพนทาเคิล
โดยปกติทั่วไปหากเป็นป่านอกเมืองที่ตระกูลของเขาอาศัยอยู่ ทุกครั้งของการชำระล้างแม่ของเขาจะเก็บรวบรวมเครื่องทำพิธีใส่ขวดโหลแก้วก่อนฝังไว้รอบคฤหาสน์อีกครั้งเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับคาถาคุ้มกัน
แต่เมื่อมองเห็นสภาพของส่วนผสมทั้งหมดวิคตัสก็รู้สึกขนลุกด้วยความกลัว
เกลือและหินสีขาวสะอาดถูกบดขยี้กลายเป็นผงฝุ่นสีดำกองอยู่ น้ำฟูลมูนในถ้วยทองเหลืองแห้งเหือดราวกับว่ามันไม่เคยมีมาก่อนสมุนไพรถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน
สัญญาณรุนแรงของส่วนผสมในพิธีกรรมบ่งบอกได้ถึงระดับความชั่วร้ายที่ตกค้างอยู่ในอาณาเขตนี้ได้เป็นอย่างดี
โชคดีที่เปลวไฟจากเทียนที่ถูกจุดไว้ยังคงส่องสว่างไม่ดับไปง่ายๆแสงของมันสร้างความอบอุ่นและทำให้วิคตัสรู้สึกวางใจได้บ้าง
แม้จะสูญเสียส่วนผสมไปเป็นจำนวนมากแต่เขารู้ว่าพิธีกรรมครั้งนี้ได้ประสบความสำเร็จ
บรรยากาศภายในบริเวณเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ เมื่อพลังจากพิธีกรรมเริ่มทำงาน การไหลเวียนของคาถาเริ่มส่งผลให้ทุกสิ่งที่เคยหยุดนิ่งเริ่มมีการเคลื่อนไหวช้าๆราวกับมันได้รับการชำระล้างและปลุกขึ้นใหม่จากความมืดมิด
ดวงตาสีสวยของวิคตัสเปล่งประกายขึ้นด้วยความยินดีในขณะที่เขาลงมือร่ายคาถาบทใหม่
ออกไป
"Vinea Murum Ensetto!"
ทันทีที่คำร่ายสิ้นสุดลง เถาวัลย์พืชสีเขียวสดใสก็โผล่ขึ้นจากพื้นดินรอบๆอย่างกระตือรือร้น
เถาไม้ที่ยืดยาวเหล่านั้นเริ่มขุดพรวนดินอย่างขยันขันแข็งราวกับว่ามีชีวิตก่อนจะเริ่มจับพันกันเป็นกิ่งก้านขนาดใหญ่ที่แข็งแรง
พวกมันเติบโตได้อย่างเร็วเกินคาดและฝังรากทิ่มลึกลงในดินอย่างรวดเร็วเพื่อแผ่ขยายพื้นที่ที่เขาต้องการเสริมความมั่นคงภายในอาณาเขตคุ้มกัน
วิคตัสยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นผลลัพธ์ของการร่ายคาถา
เขาปล่อยให้ที่อยู่อาศัยดูมืดมนเช่นนี้ต่อไปไม่ได้จริงๆจึงตั้งใจเปลี่ยนพื้นดินรอบๆกระท่อมให้เป็นแปลงปลูกสมุนไพรโดยใช้เมล็ดที่หลงเหลืออยู่ในมิติของเขา
การฝึกฝนเพื่อเพิ่มพลังของต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทน อีกทั้งยังต้องการส่วนผสมต่างๆที่มีค่าและจำเป็นสำหรับการเสริมพลังของเขา การรวบรวมสมุนไพรและวัตถุดิบเวทย์แต่ละชนิดจึงไม่ง่ายดายอย่างที่คิด
เมื่อถึงตอนนั้นวัตถุดิบสมุนไพรที่เก็บไว้จะถูกใช้ออกไปเป็นจำนวนมากอีกทั้งพืชบางชนิดก็ไม่สามารถหาซื้อได้ภายใต้สถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่ในขณะนี้
หลังจากผ่านไปเพียง 15 นาที พื้นที่รอบๆทั้งหมดได้ถูกปรับสภาพหน้าดินอย่างสม่ำเสมอเส้นทางที่เถาวัลย์ได้สัมผัสต่างเต็มไปด้วยพลังชีวิตที่ถูกกระตุ้นขึ้นจากคาถาที่วิคตัสร่ายออกไป
ทันทีที่เสร็จสิ้นเถาวัลย์สีเขียวสดใสก็เริ่มขยับตัวอีกครั้งอย่างมีชีวิตชีวา
ราวกับว่ามันได้รับคำสั่งจากวิคตัสและเริ่มขดตัวซ้อนทับกันไปมาล้อมรอบอาณาเขตจนกลายเป็นกำแพงธรรมชาติที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก คล้ายกับงูยักษ์ที่กำลังเฝ้าระวังปกป้องพื้นที่จากภัยคุกคาม
วิคตัสมองดูผลงานด้วยความพึงพอใจก่อนสัมผัสได้ถึงพลังธรรมชาติที่ก่อกำเนิดขึ้นมาอย่างช้าๆ
กลิ่นของดินอุดมสมบูรณ์ได้เกิดขึ้นแล้วสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการพัฒนาต่อไปในอนาคต
อีกไม่นานดินแดนนี้คงกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง . .
...
..
.
.
...
.
.