'บลัดอีสทิกเกอร์แธนวอเตอร์' คือสกิลที่ทุกคนในกลุ่มผมเคยเห็นพลังของมันมาแล้วหลายครั้ง สกิลนี้ทำให้ผู้ครอบครองแข็งแกร่งขึ้นเมื่อต่อสู้ร่วมกับผู้ร่วมสายเลือด แต่ดั้งเดิมคนที่แสดงพลังของสกิลนี้ให้เห็นมาตลอดคือมายา เมย์และไมรา
นั่นก็คือแต่เดิมสกิลนี้ส่งผลกับแค่คนสองคน ไม่นับตัวผู้ใช้ แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป ที่ตรงนี้มีพี่ชายสองคนของแฝดสามอยู่ด้วย สกิลที่เคยทรงพลังอยู่แล้วจึงทรงพลังขึ้นอีกจนเกิดภาพไม่น่าเชื่ออย่างการที่ทั้งห้าสามารถสู้สูสีกับสัตว์ประหลาดอย่างเจ้ามัมมี่ได้
ผมไม่คิดว่าฝ่ายเรากำลังได้เปรียบ สกิลที่แข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวแปรที่เปลี่ยนไปย่อมสามารถเป็นไปได้ทั้งด้านบวกและลบ หากพี่น้องตระกูลวอร์ฟิลด์คนใดคนหนึ่งล้มลงไป เงื่อนไขของสกิลจะทำให้คนที่เหลืออ่อนแอลง แล้วสุดท้ายพวกเราจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
…ไม่มีวิธีไหนจะเอาชนะได้เลยเหรอ…
…เดี๋ยวสิ เรามีของที่ใช้ได้นี่…
คิดได้แบบนั้น ผมก็เปิดหน้าคลังการ์ด มีการ์ดใบหนึ่งที่ผมเล็งไว้อยู่ ผมเปลี่ยนการ์ด 'กำไลทำมือของเมย์' มาเป็นกำไลจริง ๆ
"จะ จะทำอะไรน่ะคะ คุณคามิล" หน้าเมย์แดงแปร๊ดตอนที่ได้เห็นผมใส่มัน
"ขอโทษทีนะเมย์ ขอทดสอบหน่อย"
กำไลทำมือของเมย์ เป็นการ์ดพิเศษที่ผมได้มาจากการใช้เฟิร์สเพอร์เซินวิวกับเธอหลายครั้ง การ์ดนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนเมย์เป็นระดับมิทธิคอลแรร์
ความจริงแล้วผมควรจะเก็บการ์ดนี้เอาไว้ก่อน แต่เพราะโชคดีได้มาเกินความจำเป็นหนึ่งใบ จึงตัดสินใจว่าผมควรต้องใช้หนึ่งใบในตอนนี้เลย
[ข้อมูลไอเท็ม]
[ชื่อ: กำไลทำมือของเมย์]
[ระดับ: R (แรร์)]
[รายละเอียด: กำไลจากหินแร่ที่ทำขึ้นโดยเมย์ วอร์ฟิลด์ เธอตั้งใจทำมันขึ้นมาเพื่อมอบให้กับเพื่อนสนิทของครอบครัวที่กำลังจะย้ายไปต่างประเทศและอาจไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก เมย์เชื่อว่ากำไลนี้เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าคน ๆ นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลวอร์ฟิลด์ แม้ระยะทางจะแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน]
คำอธิบายของกำไลไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวกับสกิลพิเศษ ผมแค่สังหรณ์ว่ามันอาจมีความลับซ่อนอยู่ ซึ่งผมอยากลองเสี่ยงกับมันดู
มันได้ผล! ทันทีที่ผมสวมกำไล ความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของพี่น้องวอร์ฟิลด์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น ตัวกำไลเองไม่ได้มีสกิลบลัดอีสทิกเกอร์แธนวอเตอร์กำกับไว้ แต่ดูเหมือนว่าเมื่อผมใส่ ผมจะถูกนับว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งของครอบครัวเช่นกัน
ไมรา เมย์และแมกซ์ช่วยกันสกัดการโจมตีเป็นพัลวัน มาร์กฉวยจังหวะกระแทกศอกใส่จนเจ้ามัมมี่ถึงกับสะเทือน ส่วนมายาก็ฝากแผลใหญ่ไว้ที่กลางหลังของศัตรู
ผมเองก็พยายามเข้าไปคลุกวงในด้วย แม้ดาบราชาจากต่างโลกจะหักเหลือแค่ครึ่งแต่นี่คืออาวุธที่มีพลังทำลายสูงที่สุดที่ผมมีอยู่ในตอนนี้
แอบคาดหวังเล็ก ๆ ว่าพวกแอนที่อยู่ชั้นบนของสถานีหรือพวกแก๊งเซอร์ไววัลแพ็คทรีหกคนจะช่วยจัดการกับซอมบีจนสองแฝดเลเวลอัพขึ้นอีก
ไม่สามารถไปคาดหวังมากเกินไป ช่วงแรกที่ทั้งสองเลเวลน้อย ซอมบีแค่ไม่กี่ตัวก็อาจทำให้เลเวลเพิ่มขึ้นได้ แต่ยิ่งพวกเขาเลเวลสูงขึ้น การเพิ่มเลเวลมันก็ยิ่งต้องใช้เวลา
…เจ้ามัมมีช้าลง…
กระแสของการต่อสู้กำลังมาทางฝ่ายเรา ศัตรูได้รับบาดเจ็บสะสมมากขึ้นในทุกวินาทีที่ผ่านไป นอกจากนั้นดาบของมายาก็กำลังสำแดงอานุภาพ พลังของดาบนิทราไร้ผลกับซอมบี แต่คงเพราะเจ้ามัมมีเป็นคาแรคเตอร์ ยาที่เคลือบไว้ที่ดาบจึงเริ่มส่งผลกับมัน
แสงแห่งความหวังเกิดเจิดจ้าขึ้นได้ไม่นาน มันก็กลับมาริบหรี่อีกครั้ง อย่างที่เคยว่าไว้ว่าการประสานของสกิลบลัดอีสทิกเกอร์แธนวอเตอร์จะลดประสิทธิภาพลงตามจำนวนคนที่ตรงตามเงื่อนไข
"พี่คะ" ไมราตะโกนเรียกพี่ชาย
"มาร์ก บ้าจริง"
แมกซ์และมายาเห็นพี่ชายทรุดลงและกำลังสลายไปก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้า แทนที่จะรอคนที่เหลือพร้อม พวกเขาพุ่งเข้าไปเพียงสองคนเท่านั้น แมกซ์ใช้ความเร็วของมวยหย่งชุนประเคนหมัดใส่เจ้ามัมมี่ไปชุดใหญ่แต่ก็ถูกสวนกลับมาแทบจะในทันที ส่วนมายาเธอหลบลูกเตะของเจ้ามัมมี่ได้ฉิวเฉียดแต่การโจมตีของเธอก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย
ถ้าใครอีกสักคนหายไป พวกเราจะไม่เหลือโอกาสชนะ การโจมตีครั้งนี้จึงอาจเป็นโอกาสสุดท้าย
ทุกคนพุ่งเข้าไปพร้อมกัน ผมใจหายวาบตอนที่เห็นแมกซ์ถูกเตะเข้าที่หน้าด้วยความแรงที่ไม่ต้องสงสัยว่าจะรอดหรือไม่ แต่มันก็ไม่ได้สิ้นหวังเสียทีเดียว ดาบนิทราของมายาคราวนี้ไม่เพียงแค่ฟันสร้างแผลให้ศัตรู แต่มันถึงกับแทงทะลุอกของอีกฝ่ายจนเกือบมิดเล่ม
ศัตรูชะงักไป ไม่รู้เป็นเพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลหรือผลจากดาบนิทรา ไม่มีใครรอดูว่าอีกฝ่ายจะล้มลงไปหรือไม่ พวกเราพร้อมใจกันประเคนทุกอย่างที่มีใส่เข้าไปเพิ่ม
คาราเต้ของเมย์ ยิวยิตสูของไมรา ดาบราชาต่างโลกหักครึ่งของผม แม้แต่มายาก็พยายามดึงดาบที่ยังปักทะลุร่างอีกฝ่ายออกเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่ม
ศัตรูอ่อนแรงลงแต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ มันใช้เรี่ยวแรงและความเร็วเหนือมนุษย์สะบัดเอาคนที่พัวพันอยู่รอบตัวกระเด็นกระดอนกันไปคนละทาง คนที่เหลือเป็นคนสุดท้ายมีแค่ผมเท่านั้น
…ยังฆ่าได้… ผมคิดแบบนั้น ตอนที่เจ้ามัมมี่สะบัดตัว ผมอ่านการเคลื่อนไหวของมันออก เจ้านี่เหลือความเร็วไม่ถึงหนึ่งในสี่จากตอนแรก
ดาบที่หักครึ่งถูกเหวี่ยงออกไป ผมเล็งมันไปที่คออีกฝ่าย ครั้งนี้ถ้าสำเร็จได้ อีกฝ่ายต้องล้มลงอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่ ผมก็ไม่เหลือวิธีพลิกเกมอีกแล้ว
ไม่เคยคิดว่าเจ้ามัมมี่เองก็ยังเหลือไพ่ตายอยู่ มันมีสกิลเพิ่มการหลบหลีกด้วย ผมเห็นภาพสโลว์โมชันของดาบตัวเองที่กำลังเหวี่ยงไป ส่วนอีกฝ่ายก็กำลังจะเบี่ยงคอหลบ
มันคือพริบตาแห่งปาฏิหาริย์ ผมไม่ทันสังเกตว่าขณะที่เหวี่ยงดาบออกไป ดาบที่หักจนเหลือแค่ครึ่งเดียวกำลังแปล่งแสงอยู่ นี่คือปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นตอนที่ดาบวิวัฒนาการ
เกือบลืมไปแล้วว่าดาบเล่มนี้ทำแบบนั้นได้ เหมือนว่าจะมีข้อความยืนยันจากระบบกระเด้งขึ้นมาถามด้วย แต่ผมกดยืนยันไปโดยยังไม่ทันอ่าน เดาว่าการวิวัฒนาการดาบครั้งนี้อาจเป็นทางเลือกหรือมีคำเตือนว่าไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีก แต่ของแบบนั้นคงไม่สำคัญอีกแล้วถ้าไม่รอดจนอยู่เห็นผล
เจ้ามัมมี่เองก็คงไม่คิดว่าดาบที่หักไปแล้วจะกลับมาเป็นดาบสมบูรณ์ได้อีกครั้ง ระยะที่มันเบี่ยงหลบเป็นระยะที่เพียงพอแล้วสำหรับดาบที่เหลือครึ่งเดียว กว่าที่มันจะรู้ตัวว่าพลาดไป ดาบเล่มใหม่ของผมก็ฟันเข้าที่ลำคอพอดิบพอดี
[คาแรคเตอร์ไม่ระบุฝ่ายถูกกำจัด คุณได้รับ 1000 คะแนน]
…ชนะแล้ว ไม่น่าเชื่อแต่ก็เอาชนะได้แล้ว ว่าแต่เก่งขนาดนี้ให้แค่ 1000 คะแนนเองเรอะ…
มัมมี่ถูกปราบไป แต่การต่อสู้ยังไม่จบ ยังมีซอมบีอื่น ๆ อีกนับพันนับหมื่นอยู่ข้างหน้า ผมรู้ว่าจะวางใจได้ก็ต่อเมื่อบริเวณนี้ไม่มีซอมบีเหลืออีกแล้ว
แต่ถึงรู้แบบนั้นก็ยังห้ามความอยากรู้ของตัวเองไว้ไม่ได้ ผมแอบดูข้อมูลของดาบเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มาก่อน
[ข้อมูลไอเท็ม]
[ชื่อ: ดาบโรสเซท]
[ระดับ: MR (มิทธิคอลแรร์)]
[รายละเอียด: ดาบในตำนานจากโลกอื่น ถูกสร้างขึ้นโดยเทพแห่งช่างด้วยการใช้โลหะชนิดพิเศษที่ไม่มีทางถูกทำลายรวมทั้งหลอมขึ้นใหม่โดยฝีมือของช่างทั่วไป สามารถเก็บกลับไปการ์ดได้เหมือนกับดาบราชาจากต่างโลก]
รู้สึกประหลาดอย่างกับเคยเห็นดาบเล่มสีแดงสดนี่ที่ไหนนะ ไม่สิ คงคิดไปเองแหละ อาวุธที่เหมือนหลุดมาจากโลกแฟนตาซีแบบนี้ไม่น่าจะเป็นของที่มีอยู่จริงได้หรอก
"คามิล อย่ามัวแต่เหม่อสิ พวกมันมาเพิ่มแล้วนะ"
"เฮ้อ… วันนี้ไม่จบไม่สิ้นง่าย ๆ แน่"