วีรภัทราที่โดนป้านุชเรียกกลับบ้านเพราะรับรู้เรื่องราวมาจากคุณหญิงวิไลรัตน์ ในตอนแรกป้าก็โมโหที่เธอทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่พอเห็นเธออุ้มท้องมาด้วย ก็ใจอ่อนขึ้นมาทันทีเพราะเห็นแก่เหลนคนแรกของบ้าน
"หลานวีมานั่งนี่จ้ะ" ป้านุชแตะที่เบาะโซฟาเบา ๆ หลังจากเห็นหน้าวีรภัทราที่เดินเข้ามาอย่างอ่อนเพลียจากอาการแพ้ท้อง
"ค่ะ" วีรภัทราตอบกลับสั้น ๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งมารยาทอันงดงามที่ถูกป้านุชบ่มเพาะมาแต่เด็ก
"ไหน ลองเล่าเรื่องให้ป้าฟังหน่อย ทำไมหลานวีถึงตัดสินใจแบบนั้น" ป้านุชถามกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"วี..." วีรภัทรารู้สึกฝืนใจที่จะต้องเล่าให้ป้านุชฟัง เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยปรึกษาเรื่องความรักกับป้าเลยสักครั้ง
"เล่ามาเถอะจ้ะ ป้าพร้อมรับฟังทุกอย่าง" ป้านุชพูดพลางยิ้มน้อย ๆ ไปด้วยเพื่อทำให้วีรภัทรารู้สึกผ่อนคลายขึ้น
"คุณคินน์เข้าใจผิดเรื่องคุณนนท์ค่ะ เขาคิดว่าวีนอกใจ ทั้ง ๆ ที่วีไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลยค่ะ" วีรภัทราพูดความทุกข์ที่อยู่ในใจออกไปให้ป้านุชฟัง
"แล้วหลานวีอธิบายให้คินน์ฟังหรือเปล่าจ้ะ" ป้านุชถามกลับทีละนิด
"อธิบายแล้วค่ะ แต่คุณคินน์ไม่เชื่อวีเลย เอาแต่พูดจาด้วยอารมณ์ วีเลยคิดว่า หากพยายามทนอยู่กับสิ่งนี้ต่อไป วีคงไม่ไหวแน่ วีจึงเลือกที่จะเดินออกมาเองค่ะ" วีรภัทราพูดอธิบายพลางปาดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยความรู้สึกเศร้าจับใจเพราะยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดีไม่เคยลืม
"หลานวีไม่คิดจะให้อภัยหรือแม้กระทั่งปรับตัวกับคินน์เลยใช่ไหมจ้ะ" ป้านุชยิงคำถามกลับไปอย่างตรงประเด็น
"ก็ไม่เชิงค่ะ เพียงแต่วีไม่พร้อมที่จะคุยให้ชัดเจนตอนนี้" วีรภัทราพูดด้วยความสับสนที่มีอยู่ในใจออกไป
"แล้วเมื่อไรล่ะที่จะพร้อม" ป้านุชถามกลับทันทีเพราะเห็นว่ายิ่งปล่อยทิ้งไว้นาน ปัญหาก็จะยิ่งแก้ยากขึ้นกว่าเดิม
"ไม่นานหรอกค่ะ วีอยากคุยกับคุณคินน์หลังจากคลอดลูกแล้ว ตอนนี้วีอยากดูแลลูกให้ดีที่สุดก่อนค่ะ" วีรภัทราตอบกลับด้วยเหตุผลที่ผ่านการคิดมาอย่างดีแล้ว
"จ้ะ หวังว่าจะไม่สายเกินไปนะ" ป้านุชพูดสะกิดใจวีรภัทราไว้
"ค่ะป้า" วีรภัทราตอบกลับเสียงนิ่ง ๆ แต่แววตายังคงแฝงไปด้วยความกังวลที่มีอยู่ในใจ
"ป้าอยากเห็นหลานมีความสุขในทุกเส้นทางที่เลือกนะ ไม่ว่าจะเลือกอะไรป้ายังอยู่ตรงนี้" ป้านุชพูดย้ำให้วีรภัทราได้ยินเพราะเห็นสีหน้าของเธอแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา พลางลูบหัวด้วยความเอ็นดูไปด้วย
"ค่ะป้า ขอบคุณมาก ๆ นะคะ" วีรภัทราตอบรับและไม่ลืมที่จะยิ้มให้ป้านุชสบายใจ
"ไปเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านกับป้ากันหลานวี" ป้านุชชวนวีรภัทราไปเดินเล่นเพื่อจะได้ผ่อนคลายและมีเวลาคิดทบทวนกับตัวเอง
หลังจากเดินเล่นกันไปสักพัก วีรภัทราก็เริ่มชวนคุยก่อน เพราะเธอคิดไม่ตกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับอัคราวิชญ์ ถึงแม้เธอจะตอบอย่างมั่นใจกับป้านุชว่าเธอจะแก้ปัญหาหลังคลอดลูก แต่ก็กังวลอยู่ดี กลัวจะเจอเรื่องอะไรก่อนที่จะได้วางแผนแก้ปัญหาจริง ๆ
"ป้าคะ วีอยากขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ" วีรภัทราพูดขึ้นกลางความเงียบและเสียงลมพัดผ่านอย่างแผ่วเบา
"ปรึกษาเรื่องอะไรจ้ะหลานวี" ป้านุชถามกลับอย่างสนอกสนใจเพราะเป็นครั้งแรกที่วีรภัทราเอ่ยปากก่อนที่ป้าจะเสนอตัวให้คำปรึกษาเอง
"คือ...วีไม่แน่ใจกับการต้องใช้ชีวิตร่วมกับคุณคินน์ค่ะ วีคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเราโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน เลยทำให้เราเข้าใจกันยากหรือเปล่าคะ" วีรภัทรายกประเด็นที่อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเป็นที่มาของปัญหานี้
"ก็มีส่วนนะจ้ะ แต่ว่าคนเราก็ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้และปรับตัว ดูอย่างปู่ธนเดชสิ แต่งงานกับบ้านคุณหญิงไม่ต่างจากที่หลานวีแต่ง แต่เพราะทิฐิและความถือตัว ยอมไม่ได้เลยทำให้ปัญหาที่แก้ได้กลายเป็นแก้ไม่ได้เลยนะ" ป้านุชชี้ความจริงให้วีรภัทราได้เห็น
"ป้ากำลังจะบอกให้วียอมลดทิฐิที่มีอยู่ในใจเหรอคะ" วีรภัทราถามกลับอย่างตรงไปตรงมา
"ถ้าหลานวีทำได้ ป้าก็จะดีใจมาก แต่เรื่องแบบนี้ป้าบังคับหลานไม่ได้หรอกจ้ะ" ป้านุชตอบตรง แต่ก็ยังสงวนท่าทีไว้นิดหนึ่ง
"ค่ะ วีจะลองเก็บไปคิดดูค่ะ" วีรภัทราตอบกลับไปอย่างเข้าใจในเจตนาลึก ๆ ที่ป้านุชต้องการ
"หลานวีเข้าบ้านไปกินข้าวกับป้าก่อนกลับนะจ้ะ" ป้านุชชวนวีรภัทรากินข้าวเย็นเพราะอยากบำรุงเหลน
"ค่ะป้า" วีรภัทราตอบรับทันที
ขณะที่ป้านุชและวีรภัทรากำลังเดินกลับเข้าบ้าน ในจังหวะที่วีจับลูกบิดประตูเพื่อเปิดนั้น ก็ได้ยินเสียงถากถางของผู้หญิงคนหนึ่งมาแต่ไกล
"มีความสุขดีไหม" กัลย์กมลแหกปากและเดินเข้ามาประชิดตัววีรภัทรา พอป้านุชเห็นผู้หญิงร้ายคนเดิมที่คุ้นเคยเข้ามาหาเรื่องหลานของตัวเองก็รู้สึกทนไม่ได้ รีบเดินมาขวางด้านหน้าเพราะกลัวว่าจะได้รับอันตราย
"มาทำอะไรที่นี่ ใครเชิญ" ป้านุชพูดตวาดกลับไปอย่างไม่ไว้หน้า
"ไม่มีใครเชิญ แต่อยากมาสมน้ำหน้าให้กับคนที่ถูกผู้ชายทอดทิ้ง" กัลย์กมลพูดเยาะเย้ยเสร็จก็ขำจนท้องแข็ง พลางกุมท้องตัวเองไปด้วย
"ไปกันหลานวี ไม่ต้องไปฟัง" ป้านุชที่เห็นกัลย์กมลพูดเหมือนคนบ้า ก็รีบหันไปจับมือวีรภัทราไว้ ส่วนวีก็พาป้าเดินเข้าบ้านทันที
"เดี๋ยวก่อน ยังพูดไม่จบเลยนะ" กัลย์กมลพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขึ้นมาเพราะเห็นว่าทำให้อีกฝ่ายโมโหไม่ได้
"มีอะไรอีก" วีรภัทราที่เงียบมาสักพัก ก็หันไปพูดด้วยความรำคาญ แล้วก็กลับมาพาป้านุชไปยืนในมุมที่ไม่ต้องปะทะกับกัลย์กมลโดยตรง
"ฉันก็มัวแต่อิจฉาที่วีได้แต่งงานกับคนรวย น่าจะมีชีวิตที่ดี แต่ที่ไหนได้ พนักงานในบริษัทนินทากันไปทั่วว่า วีถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว" กัลย์กมลพูดด้วยน้ำเสียงปนขำ พลางแสยะยิ้มไปด้วย
"ฟังมาแค่ครึ่งเดียวก็เหมารวมไปหมด หูเบาจริง ๆ" วีรภัทราพูดตอกกลับใส่หน้ากัลย์กมลอย่างไม่สนใจอะไร
"ทำมาเป็นเก๊ก คนเขารู้ความจริงกันหมดแล้ว" กัลย์กมลยังไม่ยอมลดละความพยายามในการทำลายความรู้สึกวีรภัทรา
"ต้องการอะไรจากฉันอีก รอบที่แล้วก็ข่มขู่เรื่องภาพ รอบนี้จะเอาอะไรอีก" วีรภัทราพูดอย่างเหลืออด
"ตลกจัง" กัลย์กมลพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วขำในลำคอ และก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
"เสียใจมากไหม ที่ไม่มีใครอยากเอาด้วย" กัลย์กมลพูดพลางใช้สายตาไล่มองเรือนร่างของวีรภัทราไปด้วย
"ไหน ๆ ไม่เห็นเขามาง้อวีเลย" กัลย์กมลพูดต่อ พลางชะเง้อหน้าหาสามีของวีรภัทราไปด้วย และก็หันกลับมายิ้มเย้ยหยันใส่
วีรภัทราที่รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเพราะสายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนถูกโดนแก้ผ้าอยู่ตอนนี้ี คนอะไรช่างรู้จุดอ่อนเธอไปได้หมดซะทุกอย่าง
"เป็นอะไร ทำไมไม่ตอบ" กัลย์กมลพูดแหย่วีรภัทรา หวังให้เธอแสดงท่าทางโกรธออกมา
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" วีรภัทราพยายามพูดเสียงให้นิ่งที่สุดเพื่อไม่ให้กัลย์กมลจับความรู้สึกที่กลัวอยู่ลึก ๆ ของเธอได้
"หึ" กัลย์กมลปล่อยเสียงจากลำคอและยิ้มมุมปากไปด้วย
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็กลับไปได้แล้ว ต่างคนต่างอยู่เถอะ" วีรภัทราพูดอย่างเหนื่อยใจ
"ไม่ ฉันยังพูดไม่จบ วีเป็นคนทำลายชีวิตฉัน จะให้ฉันปล่อยไปได้ไง ต้องรู้จักโดนกระทำบ้าง" กัลย์กมลพูดอย่างกับตัวเองเป็นผู้เสียหาย ทั้ง ๆ ที่ตลอดมาวีรภัทราเป็นคนถูกกระทำ และไม่เคยคิดจะเอาเรื่องเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่มีกันมานาน
"แล้วแต่เลยละกัน" วีรภัทราพูดอย่างปลง ๆ กับการกระทำของกัลย์กมล
วีรภัทราพูดเสร็จก็หันหลังจะเดินกลับเข้าบ้านไปพร้อมป้านุช พอก้าวขาไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกกัลย์กมลผลักจากด้านหลังจนล้มลง ป้าที่เห็นเหตุการณ์นั้นก็รีบก้าวขาเข้ามาแต่ก็ไม่ทันแล้ว ส่วนอัคราวิชญ์ที่ขับรถมาหาป้าเพราะต้องการจะขอโทษกับการกระทำที่ผิดไปแล้ว และเขาก็รู้สึกสำนึกผิดจริง ๆ จึงได้มาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ทำให้เขาเดินเร็วเข้าไปกระชากกัลย์กมลให้ออกห่างจากตัวของวีรภัทราทันที
"มาที่นี่ทำไม" อัคราวิชญ์พูดด้วยความโมโห พลางย่อตัวลงไปประคองวีรภัทราให้ยืนขึ้น และกำลังจะพาเธอไปขึ้นรถตัวเองเพื่อพาไปหาหมอ
"เดี๋ยวก่อนสิ จะพาวีไปไหน" วีรภัทราโวยวายขึ้นมาพร้อมดันตัวอัคราวิชญ์ออก
"จะพาไปหาหมอไง เมื่อกี้ล้มแรงมาก ไม่รู้ว่าลูกจะเป็นยังไงบ้าง" อัคราวิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงพลางก้มมองที่ท้องของวีรภัทราไปด้วย
"ไม่ต้อง เดี๋ยววีไปเอง" วีรภัทราปฏิเสธทันควัน
"ไม่ได้ ผมเป็นสามีของวีนะ" อัคราวิชญ์พยายามยกเหตุผลด้วยการอ้างสถานะความสัมพันธ์ของตัวเองขึ้นมา
"ไม่จำเป็นหรอกค่ะ" วีรภัทราปฏิเสธอีกครั้ง ในขณะที่ป้านุชยืนมองอยู่นาน และทนไม่ไหว จึงพูดขึ้นว่า
"หลานวีไปกับคินน์เถอะจ้ะ อย่าดื้อโดยไม่มีเหตุผลสิ" ป้านุชเตือนสติวีรภัทรา ทำให้เธอยอมไปแต่โดยดี
กัลย์กมลที่ยืนมองอึ้งในเหตุการณ์เพราะไม่รู้ว่าวีรภัทราท้องอยู่ แต่ก็หมั่นไส้ในท่าทีที่วีแสดงออกไป จึงพูดกระแนะกระแหนขึ้นมา
"ทำตัวเหมือนตัวเองสำคัญมากสินะ น่าสงสารผู้ชายจริง ๆ ที่ต้องมาเจอคนอย่างมึง" กัลย์กมลพูดใส่อารมณ์เสร็จก็ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา
"เดี๋ยวก่อนนะ พูดจาดี ๆ ไม่เป็นเหรอ" วีรภัทราพูดกลับพลางไม่เชื่อหูตัวเองเพราะสรรพนามที่ถูกกัลย์กมลเรียกเธอนั้นเปลี่ยนไป
"พูดจาดีที่สุดแล้วนะ" กัลย์กมลพูดพลางยักคิ้วใส่วีรภัทรา
อัคราวิชญ์ที่เห็นทั้งคู่ยังเถียงกันไม่จบ จึงแอบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดที่อัดเสียง แล้วก็ใช้คำพูดที่ล่อให้กัลย์กมลสารภาพความผิดที่ทำกับวีรภัทราเมื่อกี้
"คุณกัลย์กมล ผมว่าเราก็อยู่ในวงการธุรกิจเดียวกัน แต่คุณไม่ปรานีกับภรรยาผมเลยนะ เมื่อกี้ก็ทำแรงไปนะครับ" อัคราวิชญ์พูดเปิดประเด็นอย่างมีชั้นเชิง
"แรงตรงไหน แค่ผลักวีล้มเอง ไม่ได้ทำให้ถึงตายสักหน่อย" กัลย์กมลเถียงกลับ
"ไม่ถึงตายได้ยังไงครับ วีท้องลูกของผมอยู่นะครับ" อัคราวิชญ์พูดต่อเพื่อให้กัลย์กมลโต้ตอบกลับมา
"เรื่องนั้นฉันไม่รู้นะ คุณจะมากล่าวหาไม่ได้" กัลย์กมลเถียงกลับเพราะเรื่องนี้เธอไม่รู้จริง ๆ ทำให้อัคราวิชญ์รู้สึกเซ็งที่ลากไปถึงเรื่องนั้นไม่ได้ เลยหาประเด็นใหม่
"แล้วที่คุณมาหาเรื่องวีที่นี่วันนี้ ไม่ใช่ต้องการจะทำร้ายหรือต้องการเอาวีให้ถึงตายเหรอ เมื่อกี้ผมเห็นนะว่าคุณกำลังจะตบภรรยาผม ถ้าผมมาไม่ทัน วีคงแท้งลูกผมไปแล้ว" อัคราวิชญ์พูดตรงประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม
"ก็ใช่ไง ถึงได้มา ฉันล่ะเกลียดจนถึงอยากให้มันตายเลยล่ะ แต่ที่ทำได้ก็มีแค่ผลักมันล้มและกระชากตบนี่แหละ เพราะถ้าทำมากกว่านี้ฉันก็ติดคุกน่ะสิ" กัลย์กมลพูดเผยธาตุแท้ออกมา
"ยอมรับแล้วสินะ" อัคราวิชญ์และวีรภัทราพูดออกมาพร้อมกัน
"แล้วไง" กัลย์กมลพูดออกมาอย่างไม่แยแส
"ผมไม่น่าปล่อยให้คุณมาร่วมลงทุนกับโครงการในบริษัทผมเลย ทั้ง ๆ ที่ผมก็เห็นการกระทำแย่ ๆ ของคุณหลายอย่างที่ทำกับวี แต่ผมก็ยอมมองข้าม ไม่เอาเรื่องคุณ แต่ในเมื่อคุณทำมาขนาดนี้แล้ว เตรียมตัวรอทนายความที่ผมส่งไปได้เลย" อัคราวิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังแบบเอาเรื่องกัลย์กมลอย่างถึงที่สุด
"ไม่กลัวหรอก" กัลย์กมลพูดพลางแบะปากใส่ และก็ยักไหล่แบบไม่เกรงกลัว จากนั้นก็เดินสะบัดก้นไปขึ้นรถตัวเอง แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
"ไปกันครับวี เดี๋ยวค่อยจัดการเรื่องนี้กัน" อัคราวิชญ์พูดเสียงนุ่มนวลพลางพยุงตัววีรภัทราพาไปขึ้นรถเขา
"เดี๋ยวไว้วีกลับมาหาป้าใหม่นะคะ" วีรภัทราหันหน้าไปบอกป้านุชก่อนเดินไป
"ไว้ผมกลับมาเยี่ยมป้านุชใหม่นะครับ" อัคราวิชญ์พูดต่อจากวีรภัทราอย่างสุภาพ