Chereads / Nick & Nite / Chapter 32 - ตอนที่  30 อยู่ที่นี่

Chapter 32 - ตอนที่  30 อยู่ที่นี่

[ การโจมตีถึงเป้าหมาย ]

[ ยืนยันเป้าหมายถูกทำลาย ]

จุดที่แสดงตำแหน่งของสถานีอวกาศหน้าอดีตของดาว Abell 209 กะพริบหนึ่งครั้งแล้วหายไปจากแผนที่ทรงกระบอกอวกาศตรงหน้าผม

อาเบล ชาร์ล...และเมเรส

"นายทำอะไรลงไป..."

ผมแทบจะหมดแรงยืนเมื่อเห็นลำแสงพลังงานสูงพุ่งตัดผ่านจักรวาลไปยังเป้าหมายตามพิกัดดวงดาว พวกเขาจะต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆ กำลังล้อมจับเมเรสเอาไว้ พวกเขาทั้งหมด...

เวอร์ชูวไม่มีสีหน้าของความสำนึกผิดใดๆเลย เขายักไหล่

"อัลฟ่าที่นั่นไม่ได้มาด้วยตัวจริงกันหรอก แต่ถึงเป็นตัวจริง กว่าปืนจะยิงก็ใช้เวลา พวกมันคงเปิดสะพานข้ามดาราหนีกันทัน ตามปกติอาวุธที่มีดีเลย์แบบนี้จะยิงวัตถุที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทันที เช่น ดวงดาว หรือสถานีอวกาศ ครั้งนี้ผมก็แค่ขู่ไปเท่านั้นเอง"

เวอร์ชูวเอ่ยอย่างเย็นชา และแสยะยิ้มกดลึก

"แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ..."

ผมไม่เข้าใจว่าเขาเอ่ยถึงอะไร แต่พอได้ยินว่าทุกคนน่าจะยังปลอดภัยผมก็รีบหายจากภาวะซึมเศร้า เลิกคิดต่อว่าด่าทอคนไร้สำนึกแล้วเปิดสะพานข้ามดาราไปยังพิกัดนั้นทันที

ห้วงอวกาศว่างเปล่า สถานที่ที่ผมเพิ่งเห็นดวงดาวแหลกสลายเป็นฝุ่นผง เคียงข้างด้วยแท่นยืนชมดาวขนาดใหญ่ บัดนี้กลับไม่เหลือสิ่งใดแล้ว นอกจาก...เมเรส

ไม่มีใครสนใจจับตัวประหลาดที่พยายามจะหนีออกจากสนามพลังที่สลายไปจากคลื่นการโจมตี อัลฟ่าคนอื่นๆล้วนรีบหนีไปกันหมดตั้งแต่รับรู้ได้ถึงการล็อกเป้าการโจมตีโดย 'เอซิสอาย' ที่พวกเขาเพิ่งเห็นพลังทำลายล้างไปจะจะตา

อาเบล และชาร์ลก็หลบไปแล้วเช่นกัน ผมดีใจที่พวกเขาปลอดภัยอย่างที่เวอร์ชูวบอก แต่เชื่อเลยว่าอาเบลคงจะตกตะลึง และกำลังวุ่นวายกับการหาว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานที่อาเบลจะโยงมาถึงรหัสที่ไนท์ได้รับมา และเมื่อนั้นความซวยก็จะหล่นมาถึงหัวผม

แค่คิดถึงตอนนั้นผมก็ตัวสั่นแล้ว นี่ผมจะเอาตัวรอดได้ยังไงกัน หรือผมควรจะบอกไปตรงๆเลยว่าเวอร์ชูวเป็นคนทำ แล้วปล่อยให้อาเบลประกาศสงครามกับปีกสันติภาพ กลายเป็นมหาสงครามถล่มจักรวาล?

ไม่ดี แต่จะให้อาเบลโผล่มาเหยียบย่ำผมเพื่อรีดความจริง นี่ก็ไม่ดีเหมือนกัน

ผมจะทำยังไงดี?

ขณะที่ผมกำลังกลัดกลุ้มก้อนสสารสีดำที่ถูกปล่อยเกาะให้ล่องลอยก็พลันขยับเขยื้อนคลืบคลานอย่างเชื่องช้าสู่อิสรภาพ ผมหันไปสนใจมันเป็นครั้งแรกด้วยความระแวงว่ามันกำลังทำอะไร หวังว่ามันจะไม่เข้ามาโจมตีผมหรอกนะ แต่สิ่งที่ผมเห็นก็เป็นเพียงแค่ สิ่งๆหนึ่งที่พยายามจะมีชีวิต...แม้จะไร้นิยามในจักรวาลนี้

เมเรส...

นายมาเพื่อช่วยโอเมก้า เพื่อกินเหล่าอัลฟ่า ที่ผ่านมานายยังคงตามหาวิธีแก้แค้นไนท์อยู่หรือเปล่า ไนท์ที่ทำร้ายนายและปล่อยนายเป็นอิสระ

ผมพยายามทรงตัวไว้ไม่ให้ถูกคลื่นลมสุริยะในจักรวาลพัดไป และพาตัวเองเข้าไปใกล้มัน มันเองก็เหมือนรู้สึกถึงผมได้ จึงหยุดการเคลื่อนที่และรอคอย

"ไนท์..."

เสียงในความยาวคลื่นที่แปลกประหลาดเปล่งออกมาเบาๆ มันพยายามเอ่ยเรียกใครคนหนึ่ง

"ไนท์ไม่อยู่แล้ว" ผมตอบออกไป เสียงของผมเองก็เบาหวิวเมื่อเอ่ยประโยคนี้ ทุกๆคำลอยค้างในใจผม และสะท้อนก้องไปมาคล้ายจิตใจส่วนลึกของผมต้องการให้มันช่วยย้ำเตือนความจริง

ไนท์สลายไปแล้วเพื่อมอบพลังให้กับผม ท่านน่ะจากไปที่ไหนสักแห่งที่ผมไม่รู้ อัลฟ่าที่ทำผิดต่อกฎของพระเจ้าจะต้องจากไปที่ใดกัน จะสามารถกลับไปสู่พระเจ้าเหมือนคนอื่นๆได้หรือไม่? ผมไม่รู้เลย...

"…"

ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาอีก เส้นผ่านศูนย์กลางของมันตอนนี้ไม่เกินสองฟุตเดี๋ยวหดเดี๋ยวขยาย เป็นกลุ่มก้อนหมอกสีดำที่กลืนไปกับจักรวาล เพียงแค่ข้างในของมันไม่มีแสงจากดวงดาวระยิบระยับเหมือนบรรยากาศรอบๆ

ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับมันดี หากปล่อยไว้ตรงนี้ภาคีก็คงมาทำลายมัน หรือหากให้หนีไป มันก็จะไปทำลายคนอื่น โอเมก้าที่ถูกปลดปล่อย และกลายเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่มีนิยามในจักรวาลมาก่อน นี่ไม่ใช่ความผิดของมันหรอก แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถูกทำลายไปอย่างนั้นหรือ?

หรือผมควรเอามันไปซ่อน พามันหนีไปให้ไกลจากการตามล่าของภาคี จากผู้คนที่คิดใช้ประโยชน์จากมัน ผมคิดหนักเท่าที่สมองน้อยๆของผมจะเอื้ออำนวย ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้น

เพราะผมเชื่อว่าท่านไนท์คงไม่อยากให้เมเรสตาย ท่านอยากให้เมเรสได้มีชีวิตใหม่ ชดเชยกับสิ่งที่ท่านได้ทำไว้กับโอเมก้าน้อยตัวนั้น

"…"

มันเปล่งวลีที่ฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาอีกครั้ง ผมพยายามเงี่ยหูฟังขณะคิดจะเปิดสะพานข้ามดาราส่งมันไปที่ใดที่หนึ่งที่ปลอดภัย

นี่อาจเป็นแค่การถ่วงเวลา แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

"นิ…"

มันยังคงปล่อยคลื่นแรงสั่นสะเทือนออกมา เพื่อให้ใครก็ตามที่รับรู้ได้แปลงสัญญาณคลื่นนี้เป็นคำๆหนึ่ง

"นิก"

หา?

ผมตกใจแทบช็อกเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองถูกเอ่ยขึ้น ผมไม่ได้หูฝาดไปอีกแล้วใช่มั้ย

"นายรู้จักผมงั้นเรอะ?"

ผมเอ่ยถามอย่างโง่งม เพ่งมองเข้าไปในสสารสีดำที่บิดเบี้ยวแล้วรู้สึกเย็นว่าบไปทั้งตัว

"…"

ไม่มีอะไรตอบกลับมา

"นายรู้จักผมได้ยังไง?"

ผมไม่เคยเจอเมเรส เราไม่เคยเจอกันมาก่อน ช่วงเวลาที่เมเรสมาอยู่กับท่านไนท์ก็ย้อนกลับไปนานมากก่อนที่ผมจะมา อยู่ที่นี่ แล้วทำไมมันถึงเรียกชื่อของผม ชื่อที่มีแค่คนดาวเฟลม่าไม่กี่คนที่รู้

"ไนท์...อยู่...ที่...ไหน" เสียงแหบต่ำของมันเอ่ยออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีบางสิ่งคุ้นเคยที่ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้

ปากของผมอ้ากว้าง แต่พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

'เมื่อเจ้าทำผิดบทบัญญัติของพระเจ้า ย่อมกลายเป็นบางสิ่งที่ไม่มีใครนิยามได้'

ไม่...จริง

ดวงตาคู่กลมเบิกกว้างยิ่งกว่าครั้งใดๆ ใจของผมสั่นรัวเหมือนพร้อมจะทลายทรวงอกออกมาข้างนอก หัวสมองผมปวดแปล๊บ หวนนึกไปถึงคำกล่าวข้างต้น แล้วความเย็นเยือกก็กรีดแทงไปถึงกระดูก ผมกำลังสะพรึงถึงบางสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ บางสิ่งที่ผมลืมนึกถึงไป

บางสิ่งที่เป็นไปแล้ว

หากโอเมก้าที่เป็นอิสระได้กลายเป็นสิ่งที่ไร้นิยาม แล้วคนที่ปลดปล่อยโอเมก้าให้เป็นอิสระ ยกพลังอัลฟ่าให้กับโอเมก้า พระเจ้าจะให้เขากลายเป็นสิ่งใดหลังจากนั้นหรือ...?

"ไนท์..."

มันเอ่ยอีกครั้งอย่างเลื่อนลอย แต่คราวนี้ผมกลับยื่นมือออกไปพยายามจะคว้าละอองฝุ่นสีดำไว้ในอุ้งมือ

"อยู่ที่นี่..."

ผมกระซิบบอกตัวเอง พร้อมกับน้ำตาร้อนๆที่เอ่อล้นข้างแก้ม

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแน่ใจ ครั้งแรกที่ผมเลือกเชื่อสัญชาตญาณมากกว่าความจริง

มันเหมือนความฝัน เป็นฝันดีที่สุดที่ผมเคยมี

"ไนท์อยู่ที่นี่..."

ท่านอยู่ตรงหน้าผม

ท่านจำชื่อของตัวเองได้ และก็ชื่อของผมที่ท่านตั้งให้

ไนท์ยังมีชีวิตอยู่

ท่านยังไม่ได้หายไปจากผม