Chereads / Miracle Violator / Chapter 6 - บรรยากาศที่หนาวเย็น

Chapter 6 - บรรยากาศที่หนาวเย็น

ชายร่างกำยำผู้เหนื่อยหอบหันคมดาบพุ่งตรงมาทางชายซูบผอม เพียงเสี้ยวความคิดที่โง่เขลาชุดเกราะโลหะหนาก็ไม่สามารถปกป้องชีวิตจากความตายที่ง่ายดาย

แสงสว่างสาดส่องลบเลือนความมืด แสงสว่างหนึ่งจุดสาดแสงออกผ่านอาณาเขตอันไร้ที่สิ้นสุดจากจุดหนึ่งสู่อีกฟากของส่วนโค้งโลก

ผ่านทะลุหมอกหนาทึบสีมืดนับล้านกลุ่มก้อนโดยรอบชั้นบรรยากาศที่ถูกปิดกั้นทุกทิศทาง

อัศวินบางคนจุดไฟขึ้นเหนือดาบ บางคนสร้างความทนทานต่อการโจมตีที่เหนือธรรมชาติ ทุกสิ่งที่แสดงออกมาล้วนไร้ค่า

แม้คนหนึ่งชี้ดาบมาที่ภัยร้ายโดยไม่หวาดกลัวสิ่งใดภาพสุดท้ายก็จบลงด้วยผลลัพธ์ที่แน่นอน

คนนับร้อยอาบแสงที่สว่างยิ่งกว่าพระอาทิตย์ การจ้องมองสามารถเห็นกระทั่งกระดูกของตนก่อนที่จะตาบอดไปพร้อมกับสมองที่หยุดทำงาน

เส้นผมสีเหลืองทองสยายขึ้นเหนืออากาศ ร่างหนึ่งพุ่งลงสู่ความมืดหลายห้วงชั้น ภายใต้ความมืดที่ถูกรุกรานไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดชายซูบผอม

ดวงตาสีแดงนับหมื่นดวงจับจ้องผ่านความมืด บางสิ่งขนาดยักษ์พยายามสอดแทรกหนวดขนาดใหญ่ของมันผ่านหมอกมืด แต่การร่วงหล่นของชายซูบผอมนั้นรวดเร็วและพุ่งทะยานดั่งการร่วงหล่นของดวงดาว

แสงที่เปล่งประกายทำให้ทุกชีวิตตาบอด ในขณะที่แสงไฟจากคบเพลิงนับหมื่นจนถึงแสนโดยรอบตกอยู่ในความประหลาดใจบนเส้นทางบันไดทางเดินหินขอบเส้นทาง

ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นสร้างการเผาไหม้ไปทั่วอากาศ หนึ่งชั้นผ่านพ้น สิบชั้นผ่านพ้น ร้อยชั้นผ่านพ้น..

"ข้าได้ยินเสียงของมัน..! มันใกล้ขึ้นเรื่อยๆ!!"

จิตวิญญาณที่บ้าคลั่งนำพาแสงสว่างลงมาสู่พื้นหินเย็นยะเยือกหลายพันชั้นใต้พื้นโลก

ภายใต้ความมืดที่ไร้แววแสงส่อง รากต้นไม้มหึมาพันเกี่ยวไปทั่วอากาศรกร้างและไร้สรรพชีวิต

"นี่สินะจุดเริ่มต้นของมนุษย์.. มันต้องไม่ใช่ที่นี่สิ! มันจะต้องลึกกว่านี้และมีบางสิ่งส่องสว่าง ที่นี่ไม่ใช่ที่สิ้นสุด..ตามบันทึกของ นาธาน เฮอราจ.."

เพียงครู่หนึ่งเสียงของชายชราก็ดังขึ้น

"แกก็อ่านมันสินะ บันทึกโบราณ..ความใฝ่ฝันและความก้าวหน้า แกคงได้ยินเสียงเรียกร้องหนึ่งมาโดยตลอด…"

ชายซูบผอมหันไปตามเสียงนั้นด้วยใบหน้าถอดสี ร่างกายของเขาสั่นเทาและถูกจุดประกายไปด้วยแสงส่องสว่างที่กระจายออกเป็นประกายระยิบระยับ

"เจ้า! แสงแรกแห่งองค์กรดันเจี้ยน!!!!"

"ดวงดาวย่อมตามหาดวงดาวบนอวกาศ แสงอาทิตย์ย่อมตามหาพระอาทิตย์ ทุกสิ่งต้องมีจุดจบการหยุดยั้งท้องฟ้าครามไม่มีวันเกิดขึ้นและมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรท้าทาย…"

ร่างของชายชราแตกสลายและกลายเป็นผุยผงเจือปนเหนืออากาศ ความตายของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ทิ้งความค้างคาภายใต้ห้วงความคิดของชายซูบผอม

ทันใดนั้นร่างของชายสวมเกราะนับสิบนับร้อยก็โผล่ออกมาจากความมืด ใต้แสงไฟที่ส่องประกายมันสาดแสงกลบเลือนความมืดทั้งหมดในพริบตาและปรากฏให้เห็นร่างของอัศวินสวมเกราะและชายสวมเสื้อคลุมยาวนับล้านคนที่ห้อมล้อมชายซูบผอมไว้

แม้กระทั่งบันไดวนทอดยาวไปตามขอบของห้วงลึกยังเต็มไปด้วยแสงไฟจากคบเพลิง

"พวกมันรอข้ามาโดยตลอด..สถานการณ์ของข้ากลายเป็นไม่ต่างจากหิ่งห้อยบินเข้ากองไฟ…."

ชายซูบผอมกร่นเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มือซ้ายตวัดผ่านไปโดยรอบสร้างประกายแสง

ทางเดินอิฐกว้างกลายเป็นโล่งเปล่าและอ้างว้างภายใต้พระจันทร์ยามพลบค่ำที่แปรเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีมืดกลมกลืนไปกับชั้นฟ้าสีม่วง

ร้านอาหารล้วนเงียบกริบและปกคลุมไปด้วยความมืด ทว่าเสียงหนึ่งยังคงดังขึ้นมันเป็นเสียงของเกวียนที่เคลื่อนตัวผ่านเป็นครั้งคราว ถูกคลุมด้วยผ้าหนาและแฝงด้วยความลึกลับ

ตรอกหมายเลขหกอยู่อีกไม่ไกล

ในช่วงเวลานี้เขายังไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการตามหาที่พักอาศัย แต่เมื่อห้องสมุดของมหาวิทยาลัยไม่มีใครคอยตรวจสอบจึงเหมาะสมที่จะเป็นที่พักชั่วคราว

ทุกก้าวที่เงียบสงบเขาเริ่มไตร่ตรองเรื่องราวที่ตนได้อ่าน มันเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่แต่ยังคงน่าประหลาด

การหายตัวไปของกษัตริย์ของทุกดินแดนแสดงถึงเบื้องหลังที่น่าหวาดกลัวของโลกใบนี้

เสียงฝีเท้าหยุดลงหน้าตรอกมืด วิคเตอร์ชายตามองไปเบื้องหลังและไม่ก้าวเดินตรงไปที่ตรอกหมายเลขหกแต่เบี่ยงเส้นทางกลายเป็นก้าวต่อไปสู่อีกฝั่งของถนนอิฐ

มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นซ้อนอยู่เสมอ แต่มันหยุดลงในช่วงเวลาที่เท้าของเขาหยุดนิ่ง

มีเพียงแสงไฟจากโคมตะเกียงที่ส่องสลัวไปทั่วถนน ผู้คนที่เดินสวนทางเริ่มน้อยลงจนไม่เหลือผู้ใดบนเส้นทาง

ไอเย็นกระจายตัวออกมาผ่านริมฝีปาก บรรยากาศที่หนาวเย็นแฝงไปด้วยความน่าหวาดผวาเสียงหยดน้ำหยดติงและเสียงอีกาบินผ่านเป็นเสียงเดียวที่หลงเหลือยามค่ำคืน

แม้ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยความมืดแต่เหนือชั้นขึ้นไปปรากฏท้องฟ้าสีม่วงกับท้องฟ้าสีครามซึ่งไม่พบเศษเสี้ยวของพระจันทร์ทำให้ไม่มีแสงสาดลงบนความมืดนอกจากโคมตะเกียงที่ส่องสลัวโดยรอบเส้นทาง

จากการกระทำที่โง่เขลาของตนเพื่อทดสอบสิ่งที่ได้อ่านมา เขารีบกระทำการเกินไปการรู้ในสิ่งที่ไม่ควรอาจเป็นจุดจบที่ไม่สวยงาม

ในเมื่อเป็นธุรกิจขนส่งมวลชนก็จำเป็นต้องมีคนประจำการอยู่โดยรอบสาธารณรัฐ แต่ถ้าการที่เขาเดินตรงเข้าไปในตรอกหมายเลขหกอาจเป็นวิธีการกำจัดคนนอกอย่างวิคเตอร์ที่ดีที่สุด

แต่กลับส่งคนออกมาเดินตาม นั่นไม่ใช่วิธีการที่ทำให้เขาออกนอกเส้นทางงั้นหรือ

วิคเตอร์ครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่งแต่ไม่สามารถออกอาการใดๆ ความนิ่งเงียบและมารยาทมาดเข้มผ่านการเดินตัวตรงแขนตึงคือตัวกำหนดไม่ให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นเร็ว

ในเมื่อการเดินหน้าต่อไปไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องและการเผชิญหน้าเป็นความผิดพลาด วิคเตอร์จึงเลี้ยวเข้าหน้าร้านแห่งหนึ่งที่ปิดอยู่และเคาะประตูเสียงดังพร้อมตะโกนโหวกเหวก

"คุณครับ! ช่วยเปิดร้านได้ไหมครับ!! ผมต้องการสูทหนึ่งชุดในเวลานี้จริงๆ ได้โปรดเปิดร้านให้ผมเถอะครับ!"

เสียงเปิดประตูดังขึ้นด้วยท่าทางหงุดหงิด ชายผอมแห้งหนวดเคราสวยในชุดนอนแขนขายาวบ่นพึมพำเล็กน้อยขณะเปิดประตู

แต่เมื่อมองตรงมาที่วิคเตอร์และเงยหน้าขึ้นสบตาของเขาชายคนนั้นจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นยิ้มแย้มขณะมือสองข้างประกบกันพลางหัวเราะเบาๆ

"ท่านสุภาพบุรุษดึกดื่นป่านนี้ท่านต้องการสิ่งใดหรือขอรับ!"

"ผมต้องการชุดสูทพอดีตัวสีดำสำหรับออกงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้น่ะครับ มันค่อนข้างเร่งด่วน"

"เอ๊ะ! งานอะไรหรือครับ ผมไม่ทราบเรื่องงานเลี้ยงที่ใดเลย"

วิคเตอร์กระแอมในลำคอ

"คือว่ามันเป็นงานส่วนตัวของบริษัทที่ผมทำงานน่ะครับ"

"ขออภัยท่านสุภาพบุรุษที่ผมชอบสอดรู้สอดเห็น คงต้องวัดตัวกันก่อนอาจจะใช้เวลานานไม่แน่อาจจะไม่มีชุดที่ขนาดตัวเหมาะสมกับท่าน แต่กระผมมั่นใจว่าร้านของผมจะต้องมอบสิ่งที่ท่านต้องการได้เป็นแน่"

เจ้าของร้านเดินตรงนำวิคเตอร์เข้ามาด้านใน ภายในร้านคือร้านตัดชุดอย่างแท้จริงมันประดับไปด้วยหุ่นลองชุดที่สวมชุดสูทหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเดรสงามของเหล่าสตรีที่ดูมีความละเมียดละไมทางการออกแบบ

วิคเตอร์เดินเข้ามาลึกขึ้นและเอ่ยถามบางสิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาจากภายนอก

"ขออนุญาตเข้าใช้ห้องน้ำที่นี่ได้ไหมครับ"

"ได้สิๆ ท่านสามารถเข้าไปใช้ห้องน้ำภายในชั้นสองที่เป็นที่พักของข้าได้เลยไม่ต้องเกรงใจไปท่านสุภาพบุรุษ!"

วิคเตอร์เดินตรงเข้าไปด้านในขึ้นบันไดมาสู่ชั้นสองของตัวอาคาร การตกแต่งที่พักอาศัยสวยงามและหรูหราราวกับอาชีพตัดชุดได้รับรายได้มหาศาล ไม่ว่าจะพรมหนังสัตว์ขนาดใหญ่หรือรูปภาพครอบครัวที่ทอดยาวออกเป็นรุ่น

เพียงไม่นานขณะสังเกตโดยรอบเสียงปืนก็ดังขึ้นสนั่นรอบบริเวณแต่แว่วเสียงเริ่มต้นมันดังขึ้นมาจากด้านล่าง

เขารีบวิ่งตรงหาหน้าต่างบานต่างๆ และพยายามปลดล็อกเปิดมันออก แต่เสียงฝีเท้าหนักก็ดังขึ้นมาจากบันไดทีละก้าว

ซึ่งในวินาทีที่สามารถเปิดหน้าต่างพื้นที่ภายนอกโดยรอบถนนตามตรอกต่างๆ กลับเต็มไปด้วยพวกมัน ทำให้วิคเตอร์ชะงักหยุดคิดขึ้น

ตั้งแต่ต้นมันสามารถจับเขาแต่พวกมันกลับไม่กระทำและเพียงส่งคนออกมาเดินตาม มันไม่ใช่เกมกระดานไล่จับและไม่ใช่การต้อนสัตว์ในเล้าแต่เปรียบเสมือนการทดสอบหรือสังเกตพฤติกรรม

เมื่อวิคเตอร์ตระหนักได้เช่นนั้นเขารีบหลบเข้าไปในห้องนอนของชายเจ้าของร้านและค้นทุกสิ่งอย่างกระจัดกระจายผ่านลิ้นชักสู่ตู้เสื้อผ้าจวบจนกระทั่งใต้โครงเตียงหรู

นอกจากอุปกรณ์ตัดชุดกับชุดสุภาพก็ไม่มีสิ่งใดอื่น เสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นภายนอกห้องมันเริ่มจากเปิดประตูห้องอื่นจึงยังมีเวลาเหลืออีกมาก

เหงื่อหยดไหลจากใบหน้า ความร้อนภายในจิตใจส่งผลต่อร่างกายในทันทีแม้จะไม่เข้าใจในหลายๆ สิ่งแต่ถ้าเขาไม่รอดชีวิตจากที่นี่ก็ไม่มีทางได้ตามหาความจริงที่ตนเองต้องเผชิญทั้งหมด

มันไม่ยุติธรรม..

ไม่มีสิ่งใดที่เหมาะสมในการใช้เป็นอาวุธอีกแล้วนอกจากกรรไกรแหลมสำหรับตัดชุด แนบหลังชนกำแพงกลั้นเสียงหายใจที่ร้อนรนและจ้องเขม็งไปที่ประตู

วิธีการมากมายในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้กลายเป็นศูนย์ เหงื่อที่ไหลนองอาบลำคอรวมถึงเสียงของหัวใจที่เต้นระรัวสั่นเทาไปตามฝ่ามือทำให้ความคิดของเขาตื้นเขิน

ประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาอย่างรุนแรง ชายสูงใหญ่รูปร่างคล้ายคลึงกับวิคเตอร์เดินถือปืนไรเฟิลยาวเข้ามาอย่างเชื่องช้าทุกก้าวที่สัมผัสทำให้พื้นไม้ต่างต้องสะเทือนสั่นไหว

เมื่อชายถือปืนกวาดสายตามองไปโดยรอบห้องมืด วิคเตอร์พุ่งกายนำมือขวาจับปลายกระบอกปืนเบี่ยงทิศทางและแทงกรรไกรเข้าที่กลางลำคอด้วยมือซ้าย

ร่างของวิคเตอร์ถูกศอกกระแทงร่วงล้มลงสู่พื้น กรรไกรขนาดเล็กไม่อาจแทงทะลุจนเกิดแผลลึกแต่มันเพียงสร้างความเจ็บปวดในบริเวณที่อ่อนไหว

แต่นั่นก็ทำให้ชายถือปืนเกิดอาการโซเซเล็กน้อย

วิคเตอร์ในสภาพที่มึนหัวรีบฝืนกายลุกขึ้นพุ่งเข้ายื้อแย่งปืนอย่างบ้าคลั่ง สัญชาตญาณสุดท้ายเป็นเพียงตัวกำหนดแรงกระทำที่มากขึ้นแต่เมื่อเสียงปืนดังขึ้นและเกิดแสงสว่างวาบอยู่หลายครั้ง

หูของเขาไม่สามารับรู้เสียงใดๆ ภาพทั้งหมดสั่นไหวไปพร้อมกับสติที่เริ่มเวิ่นเว้อ ชายคนนั้นกระชากกระบอกปืนได้สำเร็จและฟาดมันเข้าที่หน้าของวิคเตอร์ตามด้วยส่งแรงถีบร่างของเขาให้ร่วงลงหน้าปลายเตียง

ไร้ซึ่งคำกล่าวชายคนนั้นพาดปืนไว้บนบ่าและดึงกรรไกรออกจากลำคอพลางหยิบขวดยาขนาดเล็กออกมาพลางดื่มมัน

บาดแผลที่เกิดขึ้นค่อยๆ แปรสภาพอย่างน่าประหลาดและกลับกลายเป็นปกติ

การฟื้นฟูอย่างน่าประหลาดทำให้วิคเตอร์ตกอยู่ในอาการตกใจ ภาพตรงหน้าราวกับหยุดค้างเป็นระยะเวลานานแม้จะพยายามคิดหาวิธีต่อกรเพียงใด

ความประหลาดเบื้องหน้าก็เป็นสิ่งกำหนดผลลัพธ์

ขณะที่สติของเขายังคงอยู่วิคเตอร์รีบพยุงกายของตนลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยรอยยิ้มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของตนที่ไหล่เอ่อออกมาจากช่องปาก

"เจ้าไม่คิดที่จะเจรจากันก่อนหรือครับ ผมไม่มีสิ่งใดให้คุณและผมเกรงว่าไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กัน"

ชายถือปืนเอ่ยปากขึ้น

"การพูดคุยคือวิธีการแก้ปัญหาของปัญญาชน"

"ถูกต้อง หมายความว่าพวกเราตกลงกันได้ถึงที่มาของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น"

วิคเตอร์พยายามกดน้ำเสียงของตนลงและเริ่มเจรจาอย่างประนีประนอมเพื่อให้ตนเองไม่ได้กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

"แต่ข้าไม่ได้เป็นปัญญาชน!! ฮ่าๆ!"

เสียงหัวเราะปรับเปลี่ยนสถานการณ์ไม่มีทางวิคเตอร์จะกลายเป็นฝ่ายเหนือกว่าทางความคิดเพราะมันเป็นสิ่งที่แน่นอน หมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกกำหนดไว้แล้วด้วยแผนการ

มันไม่ใช่การปล้นหรือการทำร้ายร่างกายโดยคนวิกลจริต แต่เป็นการไล่ล่าจากกลุ่มคนที่มีรูปแบบแผนและครอบคลุมไปทั่วทุกที่

การใช้ความคิดโดยปกติไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีสำหรับเรื่องนี้ วิคเตอร์เริ่มพยายามเข้าใจสถานการณ์ของตนเองและถอยร่นไปที่หัวเตียง

ชายถือปืนเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ทีละก้าวอย่างเชื่องช้าจนเหลือเพียงไม่กี่ก้าว วิคเตอร์ผ่อนลมหายใจเขาควบคุมสติของตนอย่างสงบและรอคอยทุกฝีก้าว พยายามแสดงท่าทางตัวสั่นราวกับนกน้อยที่กำลังเผชิญหน้ากับอินทรีย์

ทันใดนั้นในห้วงวินาทีที่แสนสั้นวิคเตอร์คว้าผ้าห่มบนเตียงเขวี้ยงมันขึ้นเหนืออากาศบดบังทัศนวิสัยในระยะเวลาสั้นๆ เขาพุ่งตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าใกล้มือและออกแรงดันจนมันเอนลงมาทับชายถือปืน

แม้การกระทำนั้นจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ชายถือปืนก็อยู่ในสภาพคลานอยู่กับพื้นโดยเผยรอยยิ้มอย่างไม่หวาดหวั่น ตู้เสื้อผ้าที่ล้มลงส่วนหนึ่งยังคงถูกยับยั้งโดยส่วนหนึ่งของเตียง

ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ วิคเตอร์ก็แอบคาดหวังให้ตู้เสื้อผ้ากระแทกเข้ากับศีรษะแต่เขาคาดการณ์ความสามารถของชายคนนั้นต่ำไป

ความเชื่องช้าที่ถูกแสดงออกมาเป็นเพียงการแสดงตบตาที่เสริมความน่ากลัวประกอบฉาก

แต่ถึงกระนั้นกว่าชายคนนั้นจะลุกขึ้นก็จำเป็นต้องใช้เวลา วิคเตอร์รีบวิ่งตรงออกจากห้องนอนลงบันไดไม้และเปิดประตูด้านหลังของร้านออกมา

มันเชื่อมต่อกับตรอกมืดที่เต็มไปด้วยท่อน้ำกับถังขยะ แอ่งน้ำมากมายสะท้อนแสงเจือจางภายนอกตรอกที่เชื่อมต่อกัน

บรรยากาศที่หนาวเย็นกลับมาอีกครั้ง

เสยเส้นผมขึ้นประคองลมหายใจที่เหนื่อยหอบและออกวิ่งไปตามทิศทางที่ตนจากมา เพื่อหลอกพวกมันตามความคิดของเขาการหลบหนีของคนทั่วไปจำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนสู่ทิศทางใหม่หรือทิศทางอื่นที่ทำให้ขอบเขตการตามล่าไกลยิ่งขึ้น

ขณะออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตภาพตรงหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นความมืด พื้นหินที่เย็นยะเยือกเปิดออกเป็นหลุมขนาดใหญ่นำพาร่างของวิคเตอร์ให้ร่วงหล่นลงไป

แสงไฟมากมายส่องสว่างเป็นระยะและจบลงด้วยร่างกายของเขาที่นอนอยู่ในน้ำเน่าเหม็นภายในท่อระบายที่สาดส่องไปด้วยคบเพลิงทอดยาวออกเป็นเส้นทางมากมาย

"ที่นี่มันที่ไหนกัน!!"

วิคเตอร์ลุกขึ้นแหงนมองเพดานแต่กลับไม่เห็นถึงรูหรือช่องทางที่เขาร่วงหล่นลงมา เรื่องประหลาดเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งเขารีบจัดระเบียบเครื่องแต่งกายของตนสำรวจของที่พกติดตัว

ในตอนนี้สมุดบันทึกต่างเปียกโชกรวมถึงกระดาษที่เขาจดถึงตรอกต่างๆ ของเขตเมือง ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจที่จะทิ้งสิ่งของเหล่านั้นไว้ที่นี่

การสำรวจเริ่มต้นขึ้นชายผมดำร่างกายใหญ่ในสภาพเปียกโชกคว้าคบเพลิงเดินไปตามเส้นทางของท่อระบายน้ำ

แสงไฟจากคบเพลิงสั่นไหวราวกับมันไม่สามารถประคองแสงสว่างแม้จะไร้ซึ่งลมพัด

มันเริ่มดับลงและส่องสว่างขึ้นตัดสลับไปมา

สุดปลายเส้นทางของท่อระบายน้ำ น้ำถูกระบายลงสู่พื้นที่เบื้องล่างที่กว้างใหญ่ท่อมากมายพันเกี่ยวกันเหนือสถานที่แห่งหนึ่ง แสงไฟสว่างขนาดเล็กมากมายเบื้องล่างแสดงถึงการรวมตัวของคนมากมาย

ลมแรงกรรโชกจนแทบจะพัดพาให้วิคเตอร์ร่วงลงมาจากท่อระบายน้ำไปตามกระแสน้ำเจือจางที่ไร้จุดสิ้นสุด

ช่วงเวลาสั้นๆ ที่จ้องมองภาพเบื้องล่างนิ้วบางนิ้วหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำที่มืดมัวปรากฏร่างของหญิงสาวที่บิดเบี้ยวจนก่อรูปกลายเป็นเรือนร่างผ่องใสภายใต้เส้นผมตรงยาวสีดำ

วิคเตอร์พยายามถอยหลังด้วยความหวาดกลัวแต่เมื่อหันกลับไปแสงไฟจึงดับลงและภาพโดยรอบกลายเป็นขีดความมืดที่พุ่งตรงไปยังทิศทางเดียวกันเปรียบเสมือนการผลัดเปลี่ยนสถานที่สู่การเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง

….