เทพอู่เฉินมีภาระหน้าที่มากมายบนเทวโลก ทั้งเรื่องการปรองดองของเหล่าเทพและปีศาจ ทั้งการรักษาสมดุลของสายน้ำในทิศอุดร ด้วยเหตุว่าสายน้ำทุกแห่งหนบนเทวโลกชั้นน้ำมีอิทธิพลต่อเทวโลกชั้นอื่น ๆ และโลกมนุษย์ด้วยเช่นกัน ภาระหน้าที่เหล่านี้จึงเป็นงานสำคัญของเทพฝั่งสายน้ำ
ปัจจุบันก็มีเทพอู่เฉิน ใต้เท้าจีกง ผู้ปักหลักในภพภูมิแห่งน้ำ
"เหล่าเทพถือกำเนิดพร้อมภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง ต่อให้ผู้นั้นถูกปลดจากการเป็นเทพ ทว่าพลังของเทพ โชคชะตาของการเป็นเทพยังส่งผลต่อเทวโลก รวมถึงโลกมนุษย์..."
เทพอารักขาในเรือนบิดามังกรบอกเล่าเรื่องราวมากมายของเทพปีศาจผู้ถือกำเนิดจากมังกรแห่งสายน้ำ และปีศาจอสรพิษผู้ทรงพลังแห่งเพลิงอัคคี
หลังจากการจับกุมตัวนางเฟยอี๋ครานั้น เทพมังกรผู้ซึ่งอายุน้อยที่สุดถูกปลดจากภาระหน้าที่ของเทพทุกอย่าง พร้อมคำสั่งให้ย้ายมาพำนักอาศัยเรือนมังกรในเทวโลกชั้นดิน โดยไม่ต้องทำอะไร จะมีสารมาจากราชาแห่งสวรรค์ เพื่อวานขอให้ท่านเป็นธุระช่วยเหลือบ้างก็นาน ๆ ครั้ง ท่านยังคงถูกเรียกว่าเป็น 'บิดามังกร' ด้วยความที่เหล่าเทพมังกรไม่มีผู้ใดมีบุตร นอกเสียจากท่านฮ่าวหราน พวกเขาล้วนจุติขึ้นมาจากลูกแก้วแห่งราชาสวรรค์ตามวาระแห่งเทพ
บริเวณระเบียงทางเดินของเรือนไม้สีแดง อาเป้ยยังคงตั้งใจฟัง ขณะมองผ่านไปทางบิดาและบุตรชายด้านนอกลานกว้าง ซึ่งยังไม่เลิกรากับการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจ บิดามังกรนำของวิเศษหลายอย่างจากเทวโลกมาฝึกฝนบุตรชาย นางเห็นว่ามีลูกบอลหน้าตาประหลาดที่วิ่งไล่ตามเทพได้ สัตว์วิเศษแห่งเมืองเทพอย่างปักษาตระกูลไฟ เทพหลิ่งฟางผู้มีอีกร่างเป็นม้าน้ำยังแวะเวียนมาประลองฝีมือกับเทพอู่เฉินในบ่อน้ำมรกต
"เทพส่วนใหญ่มิได้ถือกำเนิดจากครรภ์มารดา ตามธรรมเนียมแล้วเหล่าเทพเราไม่เสพสังวาส ไม่มีความสัมพันธ์ฉันหนุ่มสาว มีเพียงมิตรภาพ มิตรสหาย เหล่าเทพทั้งหลายล้วนถือกำเนิดมาจากพลังลูกแก้วแห่งชีวิตของราชาสวรรค์ มีบ้างที่อาจเป็นดวงวิญญาณผู้สำเร็จเป็นเทพเซียนขึ้นมาอาศัยบนเทวโลก"
"อ้อ ข้าเข้าใจแล้วล่ะ อย่างเช่นพวกท่าน อย่างเช่นเทพสตรีในเรือนเทพฟางเหนียง" อาเป้ยเออออตาม นางคงไม่กล้ากล่าวถึงบุตรชายของใต้เท้าจีกง พวกเขาเองก็ไม่ได้พูดให้นางฟัง
เหล่าเทพไม่ชื่นชอบการนินทาอีกด้วย การพูดถึงบุคคลที่สามในทางไม่ดีพวกเขาไม่ทำ นิสัยสอดรู้สอดเห็นเยี่ยงนาง ก็ไม่มีผู้ใดทำ
สองบุรุษเทพในฝั่งตรงกันข้ามนางสวมอาภรณ์สีขาวปักด้วยลวดลายมังกรผงาดกรงเล็บบนท้องนภา ถึงแม้ว่าจะเป็นบุรุษเทพชั้นผู้น้อยก็ยังมีภาระหน้าที่ มิใช่เพียงอำนวยความสะดวกให้เทพฮ่าวหรานอย่างเดียวเท่านั้น
รุ่งอรุณนี้เทพอารักขานำอาภรณ์สีขาวมาให้นาง จึงแอบตามไปดูด้านหลังเรือนเทพมังกร เห็นว่าเหล่าเทพคอยช่วยเหลือการงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรือน ส่งสารถึงราชาแห่งสวรรค์และเรือนใหญ่ของเทพมังกรในเทวโลกชั้นฟ้า
ไม่ต่างจากผู้สอดแนมในคราบผู้ช่วยเหลือรับใช้ อาเป้ยเห็นท่านฮ่าวหรานไปไหนมาไหน ทำอะไรด้วยตัวท่านเองไม่รบกวนใครด้วยซ้ำ นางคงไม่กล้าพูดออกไป
"ครานั้น... เทพอู่เฉินถือกำเนิดจากครรภ์ของนางเฟยอี๋ เกาะอันไกลโพ้นจมหายลงไปในทะเล พื้นแผ่นดินกลับกลายเป็นผืนน้ำ ประชากรบนโลกมนุษย์ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่านางจะคลอดบุตรชายในนทีอันธการ ในนรกภูมิชั้นลึกที่สุด"
"ท่านกำลังจะบอกกับข้าว่าสภาวะทางอารมณ์ของเทพอู่เฉินเป็นเรื่องสำคัญ"
"สำคัญยิ่งแม่นาง เจ้าสังเกตไหมเล่าว่าท่านเงียบสงบและสุขุม ท่านพยายามควบคุมสติสัมปชัญญะเพื่อควบคุมพลัง ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของทุกสรรพสิ่ง เทพอู่เฉินเป็นเทพผู้มีสติปัญญาดี ทั้งทักษะการใช้เวทเซียน การควบคุมอารมณ์ก็เป็นเลิศ"
สายตาหลายคู่เต็มเปี่ยมด้วยความเคารพชื่นชม ข้ารับใช้ในเรือนยังแอบเฝ้ามองการฝึกวิชาของเทพอู่เฉิน หลังจากที่ท่านสูญเสียมันไปชั่วขณะหนึ่งเพราะนาง
เทพชั้นผู้น้อยยังเล่าอีกด้วยว่าเทพอู่เฉินเคยได้ขึ้นไปอาศัยอยู่บนเทวโลกชั้นฟ้าชั้นดิน กับเทพเซียนอาวุโสท่านหนึ่งผู้ได้ฝึกสอนเหล่าเทพมากมาย บัดนี้ก็ยังไม่นับว่าสอบตกในบททดสอบของเทพเหมือนผู้เป็นบิดาอย่างฮ่าวหราน ซึ่งพ่ายแพ้ราบคาบให้กับปีศาจสาวงามในร่างจำแลง
"แม่นางควรวางตัวให้เหมาะสม เป็นไปได้ ก็อย่าให้เทพอู่เฉินต้องเป็นกังวลเพราะเจ้า"
อาเป้ยถอนหายใจออกมา "เฮ้อ... ข้าอยู่ของข้าดี ๆ กลายเป็นข้าดันถูกเหล่าเทพอบรมสั่งสอนเสียได้"
ใครมาเข้มงวดกับนางคงต้องบ่น ในเมื่อตัวนางกับเจ้าอสูรช่างเกียจคร้าน กิน ๆ นอน ๆ เดินไปเดินมาในห้องทำตัวเปล่าประโยชน์ บ้างลุกขึ้นมาเย็บผ้าหน้าตาประหลาดให้เทพอู่เฉิน นางไม่ได้ทำเรื่องอันใดเป็นชิ้นเป็นอันเพราะนางไม่รู้จะทำอะไร แถมเรือนแห่งเทพมังกรนี้เงียบสงบ ไร้การพูดจา สตรีในเรือนเพียงสองก็ปิดวาจาไม่พูดกับผู้ใด
วันก่อนนางเดินสวนกับสตรีเทพผู้หนึ่งไม่ทักทายนาง ถลึงตามองอสูรอัคคีด้วยสายตาไม่เป็นมิตร มองอย่างเคียดแค้น ทั้งที่ปกติแล้วพวกเขายิ้มแย้มแจ่มใส มีความคิดอันบริสุทธิ์เยี่ยงเทพสวรรค์
คงเป็นจริงดังว่า...
เหล่าเทพในเวลานี้ไม่พึงพอใจปีศาจและอสูรเป็นอย่างมาก เมื่ออีกฝ่ายมาหาเรื่องระรานอยู่เป็นนิจ ความบาดหมางในครานี้ยิ่งใหญ่ เกินความคาดคิดของอาเป้ยผู้ไม่ได้รู้เรื่องราว นางขึ้นมาจุติบนเทวโลกผิดเวลา
เมื่อบุรุษเทพขอตัวไปจัดการงานของตน เรื่องดูแลความสะอาดของเรือนบิดามังกร นางค่อยเดินเลี่ยงออกไปกับเจ้าเหลียนเหลียน หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่เพื่อคอยสังเกตการณ์
อาเป้ยกำลังสงสัยว่า... ท่านฮ่าวหรานเคยมีความรักต่อนางเฟยอี๋หรือไม่?
"ครั้งหนึ่งข้าถูกพิษจากแมงมุม ท่านแม่ของเจ้า... สลายพิษเหล่านั้นจากผิวกายของข้าด้วยมือเพียงข้างเดียว"
'รักต้องห้ามของเทพและปีศาจ! สายตาของข้ามองไม่ผิดไปแน่ ๆ ล่ะ'
นางคิดเรื่องนี้มาหลายวัน โดยที่นางเองก็ไม่เข้าใจว่าด้วยอันเหตุใดนางจึงชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น!
"อาเป้ย..."