“เท่าที่จำได้ ข้าไม่พบหลี่หวังหยาง ตอนนี้มารดาเจ้าเป็นผู้นำตระกูล อ้อ... ไม่สิ พวกเขากำลังหาผู้สืบทอดใหม่หลังจากที่ข้าสังหารนาง”
“ข้าก็พอจำได้ สามีข้าเกรี้ยวกราดเพราะมารดาจะแย่งชิงปีกข้าไปสะสมในขวดโหลโง่ ๆ หรือเจ้าคะ” นางยกมือป้องปากหัวเราะ ไม่ได้ใส่ใจปีศาจในเรือนใต้ว่าเป็นอย่างไร สามีบอกนางว่าโลกภายนอกนั้นพวกเขาอาจเพียงล้มป่วย สูญเสียพลังปีศาจบางส่วน
“ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้ เจ้าพักผ่อนเสีย เจ้านอนมาก ๆ เติมท้องให้เต็ม ข้าไปดูพวกปีศาจแล้วจะรีบมา”
“ข้านอนไม่หลับแล้วล่ะ ข้าว่า... นอนมากไปก็ไม่ดี”
“เจ้าพักผ่อนเสีย ยังไงเจ้าก็ต้องพัก ข้าไม่อยากใช้เวทแห่งการหลับใหลเลยภรรยา แต่เจ้าต้องนอน” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ มองนางทำแก้มป่อง
ถิงถิงไม่ถกเถียงสามีต่อ เขาบังคับนางให้นอนแม้นางไม่รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่นานนักก็มีสตรีปีศาจในอาภรณ์สีนิลยกถาดยาและอาหารเข้ามา สามีชิมข้าวปลาอาหารก่อนจะส่งให้นาง เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย นางยกถ้วยยาดื่มจนหมดแล้ววางบนโต๊ะ นึกถึงสตรีจิ้งจอกเรือนร่างเย้ายั่วด้วยใจริษยา
“จะว่าไปแล้วพวกนางก็งามนัก งามไม่แพ้ปีศาจราตรีเช่นข้า ในตำราเล่มนี้ท่านมีหญิงงามเคียงข้างมากมายไม่ซ้ำหน้า ข้าได้ยินมาว่าท่านหลับนอนกับพวกนาง”
“เจ้าหยุดเลย อย่าเอาใจเจ้าเข้าไปพัวพันกับตำราโง่เง่านี่ ตั้งใจสร้างเรื่องให้สามีภรรยาผิดใจกัน” เขาหยิกจมูกนาง ยกมือขึ้นลูบจมูก หน้าตายู่ยี่
“ข้าเจ็บนะ”
“เจ้าหาเรื่องข้า เจ้าปีศาจเลือดเย็น ข้าสิต้องโกรธเจ้า ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นเจ้าถิงถิง กล้าดียังไงไล่สามีไปนอนบนพื้นเย็นเฉียบ เจ้ากับชู้รักของเจ้ายังตามมาหลอกหลอนข้าในห้วงนิทรา”
“ข้า... ทำลายความไว้วางใจท่าน” นางพูดเสียงอ่อน ประสานมือโขกศีรษะเหมือนคำนับอาวุโส สามีเมินหน้าหนีนางที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน นางไม่ชวนเขาทะเลาะอีก นางรู้สึกผิดมหันต์เมื่อนึกถึงเสียงร้องไห้คร่ำครวญ รอบกายเทพมรณาเต็มไปด้วยไอหยิน พลังปีศาจห้อมล้อมอาภรณ์สีนิล เขากอดร่างไร้สติของนาง มอบคำสาบานว่าจะสังหารชู้รักของนางและนางให้ตายตกไปตามกัน
งานวิวาห์ของนางและฮู่โหมวกลายเป็นวิวาห์เลือด พรรณพฤกษาอันงดงามในเรือนบุปผาสาดชโลมด้วยโลหิตปีศาจ ชิ้นส่วนศีรษะและเศษเนื้อกระจัดกระจายไปทั่ว ก่อนที่เขาจะพบว่าตนกลายเป็นปีศาจจิ้งจอก
“เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ภรรยา” เขาดึงนางเข้ากอดแนบกาย จับศีรษะน้อยให้ซุกลงบนอาภรณ์
กลิ่นดอกปี่อั้นทำให้นางสำนึกรู้ว่าอยู่ในอ้อมกอดอันปลอดภัยของเทพมรณา แววตาคู่นี้ร้อนแรงเหมือนดวงตะวัน หากให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายราววสันตฤดู นางเม้มริมฝีปากเมื่อเขาก้มมองนางนาน ๆ
“เจ้าหายเจ็บรึยัง?”
“ข้าสบายดี ไม่ดื่มยาก็หายได้”
“ข้าหมายถึงที่ตรงนั้น...” เขาก้มลงกระซิบข้างหูนาง จูบแก้มแดงซ่านที่ร้อนผ่าวไปถึงใบหู “ถึงเวลาที่เราควรปรับความเข้าใจ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าจากอ้อมแขนสักเค่อหนึ่ง”
ถิงถิงเบิกตากว้างตกใจ เมื่อเขาหยอกล้อนางด้วยคำพูดประหลาด นางมองไปทางประตูที่เปิดอ้ากว้าง ป่าพฤกษาในเรือนจิ้งจอกมีแสงกะพริบคล้ายกับว่าเป็นดวงตาหลายคู่ จ้องมองมาในห้องนอนกว้างขวาง
“ขออภัยท่านจางหลิง มีแขกมารอพบท่านในห้องอาบน้ำ”
สตรีในอาภรณ์เนื้อผ้าเบาบางมองเห็นเนินอกอวบอิ่มเข้ามาขัดจังหวะทั้งสอง สตรีจิ้งจอกคุกเข่าลงบนพื้นเยียบเย็น รอรับคำสั่งบริเวณประตู ไม่ล่วงล้ำอาณาเขต
บุรุษจิ้งจอกยอมผละจากร่างนุ่มนิ่มกลิ่นหอมบนฟูก ยืนเอามือไพล่หลัง หลุบตามองร่างสั่นเทา ทาสระดับล่างไม่สามารถต้านทานไอปีศาจรุนแรงของจิ้งจอกเก้าหาง
“ไล่พวกนางไปให้หมด หากประตูบานนี้ไม่เปิดออกด้วยมือข้า ห้ามไม่ให้ใครเข้ามารบกวนเป็นอันขาด”
“ขอประทานโทษท่านจางหลิง หากข้าเสียมารยาทเกินไป ผู้อาวุโสกำชับข้าเรื่องการดื่มด่ำพรหมจรรย์สตรีในคืนเดือนเพ็ญเพื่อเพิ่มพูนพลัง ไม่แน่ใจว่าข่าวลือเรื่องปีศาจน้อยถิงถิงเป็นความจริงหรือไม่?”
“เจ้าคิดว่าปีศาจระดับข้า... จำเป็นต้องพึ่งพาสตรีพรหมจรรย์ในคืนเดือนเพ็ญงั้นหรือ?” เขาเลิกคิ้วขึ้นถาม พลันหัวเราะเย้ยหยัน
ทาสสตรีรู้ดีว่าจิ้งจอกเก้าหางผู้นี้แข็งแกร่งที่สุดในภพภูมิปีศาจ แถมเข่นฆ่าโดยไร้เหตุผล ไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นสบนัยน์ตาสีชาดซึ่งฉายประกายขุ่นเคือง
“หามิได้เจ้าค่ะ เพียงแต่ผู้อาวุโส...”
“ไปบอกปีศาจเฒ่าพวกนั้นว่าข้าจะแจ้งข่าวก่อนรุ่งอรุณ รีบไป!” เสียงเข้มตะคอก ทาสในเรือนจิ้งจอกรักตัวกลัวตาย หายไปในเวหาเยือกเย็น
แววตาที่น่าสะพรึงกลัวกลับมาอ่อนโยนอีกครา ทันทีที่ประตูไม้ปิดลง บุรุษจิ้งจอกนั่งลงบนฟูก เอื้อมมือไปลูบแก้มเย็นเฉียบ นางหน้าตาบึ้งตึง
“ท่านจะไม่ไปบอกลาจิ้งจอกสตรีในห้องอาบน้ำรึเจ้าคะ? ท่านเป็นคนบอกข้าเองว่าเรื่องราวในตำราเล่มนี้สำคัญ...”
“ถิงถิง” เขาปรามเสียงเข้ม นางกลับส่ายหน้าหนี ล้มตัวลงนอน มือปัดผ้าห่มขึ้นคลุมกาย เมื่อหัวใจดวงน้อยสุมด้วยไฟริษยาอาฆาต
“ข้าจะเข้านอนแล้ว”
“ภรรยา... เจ้าอย่าเพิ่งนอน ห้องอาบน้ำที่นี่กว้างขวางกว่าเรือนมรณา ทำไมไม่ลองไปดูเสียหน่อย”
“ข้าจะนอน”
ท่าทีเง้างอนของปีศาจสาวเรียกเสียงหัวเราะดังไปทั่วเรือน บุรุษร่างกำยำแทรกกายเข้าผ้าห่มผืนโต โอบกอดเอวบางจากข้างหลัง นางดิ้นขลุกขลักยืนกรานว่านางจะนอน นางจะปฏิบัติตามคำสั่ง เขาเป็นผู้บังคับนางให้พักผ่อนนอนหลับ
เพียงแต่...
พรรณพฤกษาใต้กลิ่นกายอวลอ่อนจากเนื้อนางคอยวนเวียนอยู่ปลายจมูกเช่นนี้ ในร่างปีศาจจิ้งจอกมากตัณหาราคะ จะข่มตาหลับลงได้อย่างไร?
ไม่มีทาง!
นีเทียนต้าเซินไม่ศิโรราบต่อนางง่ายดายนัก เขาจูบหัวไหล่นาง ฝังปลายจมูกบนผิวกายขาวละเอียด มืออุ่นร้อนลูบผ่าหน้าขา ลอดผ่านอาภรณ์น้อยชิ้นไปถึงเนินอกอวบอิ่ม นางดิ้นขลุกขลักทว่าคงไม่นานนัก นางพ่ายแพ้ต่อความเอาใจของสามี จนเขากับนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ปีศาจน้อย ข้าเป็นใคร ในเรือนนี้ทุกคนต้องเชื่อฟังข้า ตอนนี้ข้าไม่ให้เจ้านอนแล้ว”