นีเทียนต้าเซินไม่คิดว่าภรรยาจะฝังคมเขี้ยวที่น่ารักใคร่ลงบนบ่าขวาจนโลหิตไหลซึม เขาก้มมองรูเล็ก ๆ เหมือนเขี้ยวงูด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
เขี้ยวผีเสื้อไม่ต่างจากเขี้ยวอสรพิษ แม้เป็นบุรุษร่างกำยำก็อาจได้รับผลข้างเคียง เจ็บชากล้ามเนื้อ หลับใหลในห้วงนิทราของพวกนาง ปีศาจราตรียั่วยวนบุรุษ กัดเหยื่อระหว่างร่วมสัมพันธ์เพื่อสูบพลังวิญญาณ
ปีศาจไม่เลือกวิธีดับกระหาย ไม่รู้ดีชั่ว เรื่องเลวทรามเป็นกมลสันดาน นีเทียนต้าเซินชิงชังชาติกำเนิดนางในคราแรกเพราะนางเหมือนมารดา! เขาพิพากษานางก่อนเรียนรู้ตัวตนอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของนาง
บัดนี้เขาห่มกายนางด้วยอ้อมกอดเร่าร้อนอ่อนหวาน สบนัยน์ตาสีชาดใต้แสงจากเปลวเทียนด้วยอารมณ์หลงใหลคลั่งไคล้
สองร่างบนฟูกคับแคบเบียดเสียดผิวกายอุ่นร้อน แนบชิดจนเกือบจะกลายเป็นเนื้อเดียว
ผิวกายละเอียดของสามีปรากฏรอยกัดไม่นานก็หายไป ภรรยากัดสามีนับสิบแผลเมื่อเขาท้าทายนาง ถึงแม้ว่าพิษปีศาจราตรีน้อยไม่สามารถทำอันตรายเทพปีศาจตบะแข็งแกร่งกว่านางหลายหมื่นปี เขี้ยวเล็ก ๆ ของนางรังแต่จะทำให้เขาคึกคะนอง ทั้งอาการมึนศีรษะเล็กน้อยจากพิษเจือจาง เสมือนการดื่มสุรารสเลิศก่อนร่วมสัมพันธ์
"สามี... คือข้า... ไม่เคยทำเรื่องพรรค์นี้ ให้ข้าเตรียมใจ..."
"ไม่จำเป็น" สามีเอ่ยเสียงเข้มเด็ดขาด ขยับปลายลิ้นไปตามซอกคอขาวเนียน "แต่หากว่าเจ้าต่อต้านสำเร็จ ข้าจะยอมปล่อยเจ้า" พูดเพียงเท่านั้นก็ไม่รีรอ สูดกลิ่นหอมอ่อนจากผิวกายขาวละเอียด ไม่ต่างจากว่านางเป็นบุปผชาติงามที่งอกเงยในนครมรณา
คราวนี้นางฝังคมเขี้ยวบนหัวไหล่และต้นแขนของเขาด้วยหน้าตาดุดันก้าวร้าว ดูอย่างไรก็น่ารักน่าชัง
สามีหัวเราะนาง ชื่นชมปีศาจน้อยด้วยคำหวาน ไม่รู้มาก่อนเลยว่าผีเสื้อสาวในเรือนใต้จะกลิ่นหอมเย้ายั่วใจถึงเพียงนี้ นางต่อว่าเขารังแกนาง พอเขาจูบนางก็ตอบรับอย่างว่าง่าย...
หัวสมองของนางขาวโพลนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปลายนิ้วเรียวยาวสอดเข้ามาในร่างกาย ผ่านช่องทางเล็กแคบที่เปียกชโลม ดึงเข้าออก นางส่งเสียงประหลาด เผยอริมฝีปากตามจุมพิตหิวกระหาย เขาป้อนพลังสีชาดให้นางดื่มด่ำ เฉกเช่นการร่วมสัมพันธ์อันเร่าร้อนของเหล่าปีศาจ
การหยุดยั้งสัญชาตญาณปีศาจช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี ครู่นั้นเรียวขาทั้งสองข้างถูกกระชากดึงไว ๆ นางหวีดร้องเสียงหลง มองตามบุรุษร่างกำยำมุดหายลงไปในผ้าห่มผืนเก่า
ปลายลิ้นชุ่มฉ่ำกระหวัดเลียยอดเกสรงาม ดื่มกลืนรสชาติอันหอมหวานจากกายสตรี นางปิดป้องปากตนเองไว้ไม่ให้มีเสียงหลุดรอด แม้สุดแสนทรมาน นางแอ่นหน้าท้องแบนราบ จิกผ้าปูเต็มกำมือโดยไร้สำนึกรู้
ครั้งหนึ่งนางใช้ดวงตาแนบรูเล็กตามกำแพง หลังพบทาสในเรือนลักลอบดูการร่วมสัมพันธ์ของเจ้านาย นอกเสียจากไม่มีผู้ใดว่า กลับกลายเป็นเรื่องน่าชื่นชมยกย่อง การหลับนอนกับบุรุษมากหน้าหลายตาเป็นเรื่องปกติกิจวัตรของปีศาจสาวผู้มีใบหน้าอันงดงามและกลิ่นกายทรงเสน่ห์ พวกนางแลดูภาคภูมิใจกับการล่อลวงบุรุษ ทั้งยังมักมากในกามารมณ์
พี่สาวสั่งสอนนางว่าห้ามมิให้เกิดความรักใคร่ เพียงแลกเปลี่ยนพลังวิญญาณ ปีศาจร่วมสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมดา นางจะได้ลิ้มรสวิญญาณอันบุรุษมอบให้สตรี พวกเขาก้าวร้าวป่าเถื่อนทว่าเอาใจเก่ง ปลายลิ้นและปลายนิ้วที่ไร้กรงเล็บแหลมคมนั่นทำเรื่องประหลาดเอามาก ๆ
"นีเทียนต้าเซิน... อ๊ะ สามี..." นางเรียกเขาด้วยลำคอแห้งผากแทบไร้เสียง รับรู้ถึงยาขมที่กลืนลงไปบาดคอนาง กระทั่งนัยน์ตาสีชาดขยับขึ้นสบประสานอีกครา สามีตรึงข้อมือน้อยทั้งสองไขว้กันเหนือศีรษะ
กลิ่นอายความชั่วร้ายในสถานที่ของปีศาจน่าอึดอัดเสียจนอารมณ์เกรี้ยวกราดเข้าครอบงำจิตใจเทพมรณา แต่เมื่อน้ำเสียงกระจุ๋งกระจิ๋งว่าเขาใช่ผู้ใจเร็วด่วนได้เสียเมื่อไร วันมงคลเช่นนี้ นางไม่อยากให้มารดาและท่านปู่ดุนาง เรื่องอดีตเจ้าบ่าวนางไม่ใช่ปัญหาของนาง การได้ตบแต่งกับบุรุษผู้เป็นความใฝ่ฝันของนางต่างหากเป็นเรื่องสำคัญ นางคาดหวังให้ปีศาจในเรือนใต้ไม่รังเกียจเดียดฉันท์สามีนางมากนัก จึงควรทำตามใจพวกเขา
"เจ้าไม่เห็นสายตาชั่วร้ายเจ้าเล่ห์นั่นรึ? ครอบครัวเจ้าดูแคลนเหยียดหยามเราสอง พวกเขาไม่สนใจเจ้าด้วยซ้ำไป หากมิใช่เพราะเกรงกลัวมารดาผู้เป็นจ้าวปีศาจ"
"สามี... ได้โปรดระงับความเคียดแค้นชิงชังปีศาจลงเสียหน่อย ข้าเองก็เป็นปีศาจ"
"ได้"
แม้ตอบตกลง ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมอบอิสรภาพให้นาง สามียิ้มหยัน เงี่ยหูฟังเสียงเรียกหาปีศาจน้อยใต้พันธนาการ อีกฝ่ายร้องขอให้นางออกไปเจรจา ตัดพ้อนางสารพัดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเจือโทสะ
'ถิงถิง... พันปีของข้า... ไม่มีค่าพอให้เจ้าจดจำเลยหรือ? ข้าเฝ้ารอเจ้า เห่าหอนลำพังเหมือนสุนัขบ้า ทำไมเจ้าไม่ออกมาคุยกับข้าให้รู้เรื่อง เจ้าจะแต่งงานกับผู้อื่นได้อย่างไร ในเมื่อเจ้ารับปากข้า...'
นางไม่เคยรับปากฮู่โหมวเลย เป็นเขาทึกทักเอาว่านางตกปากรับคำในรอยยิ้มไร้เดียงสา
ถิงถิงมองเห็นอารมณ์เหล่านั้นผ่านประกายตาสีชาด บุรุษร่างกำยำที่แนบชิดเหนือเรือนกายก้มหน้าลงจูบนาง จูบนางอีก... กระซิบข้างหู 'เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ภรรยา'
ฉับพลันนั้น ความเจ็บปวดสาหัสถาโถมเข้ามาในชั่วอึดใจ มัดกล้ามบนท่อนแขนไม่ขยับเคลื่อน มีเพียงร่างกายส่วนล่างเท่านั้น เขาทำให้นางเกิดความหวาดกลัวภายใต้อารมณ์ทรมานสาหัสสากรรจ์ ทว่าเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา
สามียังคงตรึงข้อมือนางจนเกิดรอยแดงช้ำ ลมหายใจสีชาดผ่อนเข้าออกเป็นละอองสาย เชื่อมถึงกัน นางพยายามหนีบต้นขาสั่นเทาด้วยแววตาเจ็บปวด
"ปีศาจน้อยของข้า... ข้าไม่ให้เจ้าไปกับจิ้งจอกนั่นอีก... มันจะไม่มีวันนั้น"
สามีส่งเสียงคำรามประหนึ่งสัตว์ป่า เขาติดพันในโพรงอุ่นร้อนที่บีบรัดแก่นกายบุรุษอย่างบ้าคลั่ง หลังยัดเยียดตัวตนเข้าสู่ถ้ำทางอันคับแคบชุ่มฉ่ำหวานปานมธุรส ยากขยับเคลื่อน
"ให้ข้ากอดท่าน ได้โปรด... สามี"
น้ำเสียงอ้อนวอนของนางในที่สุดก็บรรเทาความริษยาลงบ้าง เขาอ่อนโยนเมื่อนางร้องขอ ยอมปล่อยข้อมือนาง ทั้งกัดข่วนแผ่นหลังกว้างกำยำ กอดจูบเรือนร่างอันสมบูรณ์เช่นบุรุษนักรบ เมื่อไรที่เขาผละจากนาง ดวงตาเปียกปอนหยาดน้ำตาจับจ้องสีหน้าทรมานนั้นโดยไม่ละวาง
บุรุษเทพผู้เปี่ยมล้นพลังดั่งอาชาศึกขยับร่างกายตามใจปรารถนา นางโอบกอดเสี้ยวส่วนหนึ่งของร่างกายเขาด้วยช่องทางแห่งบุปผางาม ไม่คิดว่ามันจะโอฬารยิ่งใหญ่ ให้ความรู้สึกดี แต่ก็แสบสันเจ็บปวด มิอาจแยกความรู้สึกระหว่างเจ็บกับชอบได้เด็ดขาดชัดเจน น่าประหลาดจริง...
กระทั่งว่าเขาเติมเต็มเรือนกายรุ่มร้อนของนางจนปริ่มล้น ก้มหน้าจูบนาง มือลูบไล้เรียวขาสั่นเทา ราวกับว่าร่างกายของเขาและนางล่องลอยในเวหา กระแสน้ำวนในช่องท้องยังคงไม่จางหายไป สามีฟุบหน้าลงข้างแก้มแดงซ่าน สะโพกที่ขยับตลอดเวลาชะงักนิ่ง
"...ก็ไม่เห็นว่าจะเขาผู้นั้นจะหายจากการเป็นสุนัขบ้า ข้าขอโทษที่แย่งเจ้ามาจากคนรักเจ้า"
"ไยท่านพูดถึงผู้อื่นในที่ของเรา สามี ข้าเป็นของท่าน ข้าเป็นผีเสื้อสีชาดในแดนมรณา" นางปลอบประโลมใจริษยาของสามีผู้เป็นปีศาจเสียมากกว่าเทพ หลังจากที่เขาเงียบเสียงลง นางยกมือป้องปากหัวเราะเบา ๆ "ท่านทำเสียงดังนัก ไม่รู้ว่าข้างนอกจะได้ยินเสียงหรือไม่"
"ไม่ได้ยิน... แต่ถ้าเจ้าจะให้พวกเขาได้ยิน ย่อมได้"
"ไม่เจ้าค่ะ! ข้าชอบอยู่ในที่ลับตาคน ยิ่งเงียบยิ่งดี" นางโวยวาย ส่ายหน้ามองม่านน้ำซึ่งปิดกั้นโลกภายนอก เหมือนห้องนอนของนางในเมืองมรณา การใช้เวทจำลองสถานที่เป็นเรื่องถนัดของยมทูต นางไม่คิดว่าท่านผู้ยิ่งใหญ่จะนำเวทวิชามาใช้ประโยชน์ในทางนี้
"เจ้าเป็นยังไงบ้าง? ข้าทำเจ้าเจ็บ ข้าไม่ได้ตั้งใจ"
"ทีแรกเจ็บปวด หลัง ๆ ข้าว่าก็ดี..."
"เจ้าชอบหรือ?"
ถิงถิงพยักหน้า ทิ้งลมหายใจหอบเหนื่อย สองมือโอบกอดรอบคอสามี เขาฟุบหน้าลงฝังลมหายใจสีชาดบนแก้มเปียกชื้น
"ดวงตาไร้เดียงสาของเจ้าช่างน่ารักใคร่ เสียงครวญครางของเจ้า... ทำให้ข้าคลุ้มคลั่ง"
"สามี... ไม่ว่าท่านเป็นเช่นไร เป็นเทพมรณาผู้แสนดีหรือร้ายกาจกับข้านัก แม้ในยามที่ท่านดุร้ายป่าเถื่อน เกรี้ยวกราดข้าโดยไร้เหตุผล ข้าปรารถนาให้ท่านตอบสนองความรู้สึกตน ทุกสิ่งที่เป็นท่าน ข้ารับไหว..."
"เจ้าปากหวาน เชื่อถือไม่ได้ แล้วเจ้ารับไม่ไหวแน่"
"ไหวเจ้าค่ะ"
รอยยิ้มหวานบนใบหน้างามสั่นคลอนพญามัจจุราช เขาวางฝ่ามือบนแก้มนาง จรดสายตาเร่าร้อนลงบนนั้น...