สิ่งสุดท้ายที่บดินทร์เห็นก่อนที่เเม่มดเเห่งคำทำนายจะพูดกับเขาคือห้องโถงที่เต็มไปด้วยคนที่ยืนพากันเขย่งเท้าเพื่อมองเห็นเขาให้ชัด และคนที่นั่งพากันชะเง้อคอเพื่อจะได้มองดูเขาให้เห็น
ก่อนจะเดินไปถึงแป้นสูง เขากลับสะดุด หัวพุ่งไป ขาไขว้กันจนล้ม ล้มคว่ำเอามือลงไปยันพื้นเเข็งๆ จนเป็นแผลเปิดเพราะไม่ทันระวังตัว
อะลีฟลุกขึ้นยืน พร้อมๆ กับทีป์สุรธเนส แต่เจนเนตรกับดีแลนด์ทำให้ทั้งสองคนสงบ
บดินทร์หันมองไปรอบๆ ตัวเองว่าสะดุดอะไรสักอย่างบนพื้น แม้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่าเดินสะดุดอะไร เสียจังหวะยังไง เพราะพื้นก็ไม่ได้มีรอยแตกรอยทรุดให้สะดุดได้
บดินทร์ไม่ทันสังเกตเห็นอเล็กซานเดอร์ที่พยักเพยิดไปทางข้างหลังของเขา เสียงหัวเราะเยาะเชิญชวนบดินทร์ลุกขึ้นยืน มนุษย์มนาอย่างเขาที่เริ่มเจ็บเข่า แสบตรงแผลที่ถลอกจนเลือดออกซิบๆ ไม่มีแก่ใจนึกว่าคนอื่นจะมองยังไง
ไฟกัลป์ยิ้มเป็นเชิงเย้ยหยัน
"นายขัดขาฉันเหรอ"
"นายเห็นเหรอ"
หลายคนในห้องโถงยกมือขึ้น "แต่ฉันเห็น" แคสซิโอเปียเป็นคนแรกที่พูดออกมา
"และฉันเป็นคนหนึ่งจากพยานหลายๆ คน" ศาสตราจารย์รุจีสีหน้าเรียบเฉย แสงระยิบระยับที่มีเสมอในนัยน์ตาของเธอหายไป "หลังเสร็จสิ้นพิธีการ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังไม่มีการหักคะแนนบ้านของเธอ และหวังยิ่งกว่าว่าเธอจะไม่ทำอะไรที่ทำให้ 'ทุกคน' ในบ้านของเธอเสียแต้มความดีเป็นครั้งแรก"
เจ็บมือยังไม่เท่าเจ็บใจ ช้ำที่เข่ายังไม่เท่าช้ำที่ความรู้สึก แต่บดินทร์ได้สติแล้ว เขาปัดฝุ่นที่มือ เช็กสภาพร่างกาย ก่อนจะเดินต่อ ทุกคนเสียเวลาไม่น้อยแล้ว
บดินทร์เดินโขยกเขยกขึ้นแป้นต่างระดับอย่างรวดร้าว เข่าของเขาเจ็บแปล๊บๆ และกำลังจะบวมในอีกไม่ช้า แต่เจนเนตรใช้ที่รัดเข่าพร้อมแผ่นเจลสำหรับประคบเย็นลูกสะบ้าหัวเข่าลดบวมบรรเทาปวดให้เขา
อีกวินาทีต่อมา บดินทร์ก็กำลังรอคอย