"นั่นเป็นเพียงข่าวลือที่แพร่สะพัดออกมาเท่านั้น คุณหนูยังไม่รู้เลยนะคะว่าจริงไหม" เสียงทุ้มนุ่มอย่างใจเย็นของหญิงวัยกลางคน ปารีส กรีน เธอมีผมสีน้ำตาล มือทั้งสองประสานกันไม่ต่ำกว่าสะดืออย่างคนมีกริยาที่ถือว่าสุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ
และแล้วขาของแคสซิโอเปียพลันยกขึ้นมาโอบรัดเอวของปารีสเอาไว้ราวกับโคอาลาเกาะต้นโคล่า "แววกังวลฉายชัดซะขนาดนี้ คุณแม่บ้านเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าลูกของเจ้านายตัวเองจะรอดกลับไปที่บ้านหรือไปตายที่ไหน!"
มือของปารีสพยายามแกะขาของแคสซิโอเปียออกจากเอวของตนเอง นิ้วเท้าสุดท้ายออกไปแล้ว เเต่นิ้วมือราวกับลิงเกาะต้นมะพร้าวเข้าแทนที่
"ถ้าแคทตายไป แล้วใครจะทำลูกเหมือนแคทมาคืนพ่อกับแม่ได้, คุณแม่บ้านก็โสดมาตั้งแต่เกิด!"
เส้นเลือดที่ขมับของคุณแม่บ้านเต้นตุบๆ
"หนูไม่อยากเรียนที่นั่น หนูทำผิดอะไรตระกูลกรีกถึงจะส่งหนูไปเรียนที่นั่น ตระกูลกรีกตั้งใจจะส่งหนูไปตายเหรอ"
ถึงตรงนี้ แม่บ้านของเด็กหญิงรีบเอามือปิดปากของเธอ "ชู่ว..." มองซ้าย มองขวา "ถ้าศาสตราจารย์ใหญ่ได้ยิน คุณหนูไม่ถึงตายหรอกค่ะ แต่ชื่อเสียงของตระกูลกรีกหลายร้อยปีคงตายจริงแน่"
"ก็แค่ยายแก่หงำเหงือก เดินงกๆ เงิ่นๆ คนหนึ่งมีอะไรให้น่ากลัวกัน"
"เรื่องดีๆ มีไม่จำ เเละคำพูดยังไม่นึกถึงความรู้สึกคนฟัง" เสียงเยียบเย็นชวนสันหลังตั้ง "ใครๆ ก็พูดกันว่า ถ้าเข้าศึกษาที่ไกลกังวล แม้แต่คนที่ไม่เอาไหนก็สามารถกลายเป็นคนที่เก่งกาจได้เช่นกันครับ" ศาสตราจารย์สุเมอเรียน เมโสโปเตเมีย (ซูเมอร์) รองศาสตราจารย์ใหญ่
แม่บ้านหาย
"ฉันไม่อยากไปโรงเรียน! ใครหน้าไหนก็ห้ามฉันไม่ได้!"
"ผมเชื่อว่าเพราะเงินเดือนของคนในบ้านที่ได้รับจากพ่อของเธอทำให้ไม่มีใครห้ามเธอได้หรอก" ศาสตราจารย์ส่งสัญญาณเรียก 'เผ่าพันธุ์ผีดิบจีน' สองตน ตนหนึ่งชื่อ 'ฮุ่ย เป่า' อีกตนหนึ่งชื่อ 'ฝู อ้ายเสิน'
นัยน์ตาสีดำคล้ายมีความเย็นเยือกเเละว่างเปล่า ทำให้นึกถึงอุโมงค์ที่มืดสนิท มองนิ่งที่เเคสซิโอเปีย "เพียงแต่ว่าเธอลืมไปแล้ว ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ"