"ผมอยากกลับบ้าน"
คุณตาชะงักกึก
"น่าเสียดายที่แม้แต่เทพประทานพรก็มีข้อจำกัดทางความสามารถหลายข้อ"
"ผมอยากกลับบ้าน"
"ผมอยากกลับบ้าน"
"ผมอยากกลับบ้าน"
"ผมอยากกลับบ้าน"
"ผมอยาก..."
ปฏิเสธไม่ได้ว่าคาถาปิดปาก ที่คนส่วนมากจากดินแดนเวทมนตร์หรืออีกหลายหลากเผ่าพันธุ์ใช้ก็มีประโยชน์
คุณตาถอนหายใจ "หลานไม่ได้อยู่ในที่ที่อยากอยู่ รู้สึกว่าที่จริงแล้วตัวเองควรอยู่ที่อื่น"
บดินทร์พูดไม่ออก เขาเพียงแต่คิดถึงบ้าน
"นึกเอาว่า หลานดีดนิ้วแล้วหายตัวไปในที่ที่อยากอยู่ เชื่อว่าหลานก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่ดี ที่นี่ไม่ใช่ที่ของฉัน"
บดินทร์นิ่งเงียบ
"ประเด็นก็คือ หลานอย่ามัวโหยหาที่ที่ต้องการอยู่ จนหลานลืมเต็มที่กับที่ที่อยู่ปัจจุบัน"
"ตาจะบอกว่า" บดินทร์อ้าปาก หุบปาก อ้าปากอีกหน แล้วหุบปากอีกที เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไร
"ปล่อยวางกับสารพัดเรื่องที่มนุษย์ควบคุมไม่ได้ แล้วสนุกกับชีวิตให้มีความสุขดีกว่า" สายตาคุณตาสื่อความหมายแทนร้อยล้านคำพูด
"ดึกมากแล้ว รีบนอนพักซะล่ะ พรุ่งนี้หลานต้องทำอะไรอีกเยอะ" คุณตาบอก
"ต้องเข้าไปในเมือง ซื้อหนังสือ ทำความรู้จักผู้คน แล้วก็อะไรๆ อีกมาก" เขาดันหลังของบดินทร์เดิน เมื่อบดินทร์หันกลับมาก็เวลาเดียวกับที่ประตูปิดต่อหน้า
บดินทร์กลับมาล้มตัวลงนอน แปลก! ที่ตอนนี้ 'ไม่ลืมเศร้า แต่ไม่ใช่คิดซ้ำไปซ้ำมาจนไม่สามารถทำอย่างอื่น' เขาเริ่มผ่อนคลาย และอยากจะหลับจริงๆ
"เอ๊ะ!" บดินทร์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะมีคนออกมาจากรูปภาพ เเล้วเป่าเทียนจนดับ
'ให้ตายเถอะ เกือบจะหลับแล้วเชียว' เขาสบถในใจ ก่อนจะหรี่ตา
หือ บดินทร์จำได้ว่าเคยเห็นหน้าที่ไหนสักแห่ง หนังสือใช่ไหมนะ ก่อนจะเบิกตากว้าง 'โทมัส อัลวา เอดิสัน!'
ชายในภาพราวกับอ่านใจบดินทร์ออก "ดินแดนภาพวาดมีหลายสถานที่กำลังเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมครับ"
"ช่างเถอะ อยู่แปลกที่แปลกทาง ยังไงผมก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว"
"'งั้นผมอยู่เป็นเพื่อนคุยกับคุณทั้งคืนก็แล้วกันครับ"
โทมัสตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมากที่ในที่สุดก็จะมีคนพูดคุยกับเขา เขาถึงกับหันไปชูกล้องถ่ายภาพยนตร์ของ ค.ศ.1889 ให้ดู
แต่บดินทร์หลับสนิท