หลังจากที่พี่วินและคุณแอมลากผมกับน้องสาวออกมาพวกเราก็ยังคงนั่งกันนิ่งๆอยู่ภายในห้องสมุด ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
แม้แต่ในหนังสือที่พูดถึงเรื่องคาดาฟที่ผมเคยได้อ่านสมัยยังเด็กๆ ก็ไม่แม้แต่จะพูดถึงว่าพวกมันจะมาร่วมมือกัน ไม่มีวี่แววที่บอกได้เลยว่าพวกมันจะวิวัฒนาการ แล้วทำไม ทำไมถึงต้องเป็นพ่อแม่ของผมล่ะ ทำไมผมถึงไม่ใช่คนที่เดินไปเอาอาหารพวกนั้นกันนะ
"เสียใจด้วยนะครับ" พี่วินพูดขึ้นหลังจากที่พวกเราทุกคนเงียบกันอยู่นาน ผมพยักหน้าเล็กน้อยตอบคำโตกว่าก่อนจะรู้สึกได้ว่าปลายฝนกำลังร้องไห้อยู่ ผมค่อยๆ เอนตัวเข้าไปกอดน้องสาวของผมค่อยๆ ลูบหัวเธอเบาๆ จนกระทั่งปลายฝนหลับไป การที่พ่อแม่ของตนตายไปต่อหน้าต่อตาคงไม่ใช่เรื่องที่เด็กคนหนึ่งจะรับไหว ตัวผมเองก็เช่นกัน
ผมวางปลายฝนลงอย่างเบามือก่อนจะเดินออกไปหาพี่วินและคุณแอมที่หน้าห้องสมุด
"พวกมันวิวัฒนาการเร็วมาก" คุณแอมเริ่มพูดทันทีเมื่อเห็นผมเดินมาถึง สีหน้าของนคุณครูที่มักจะยิ้มแย้มและมองโลกในแง่ดีได้แปลเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดูเคร่งเครียดกว่าใครในเวลานี้ การที่จะต้องมาเสียคนในกลุ่มเพิ่มอีกสองคนก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
พี่วินถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดว่า "เราคงต้องระวังกันให้มากขึ้นแล้วล่ะครับ" ผมกับคุณแอมไม่วายถอนหายใจออกมาด้วย
"ใช่ค่ะ จะว่าไปแล้ว น้องน้ำทิพย์เคยเจอคู่ชะตาในฝันบ้างหรือยังคะ" คุณแอมหันมาถามผม
จริงด้วย ผมยังไม่เคยแนะนำตัวเลยสินะ
ผม น้ำทิพย์หรือที่เรียกกันว่าน้ำนั่นแหละครับ อายุยี่สิบปี มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อปลายฝน ผมที่ไม่เคยเห็นคู่ชะตาเลยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งๆที่น้องผมเจอแล้วแท้ๆ หรือคู่ชะตาผมจะยังอายุไม่ถึงสิบแปดกันนะ
เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่อยู่ๆ เกาะเซล่าก็หายออกไปจากแผนที่ ผมและพี่ชายพยามหาคำตอบของเหตุการณ์นี้แต่ก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอย
"นายสิงหา ท่านพลโทเรียกพบ" เสียงประตูเปิดดังขึ้นพร้อมกับบุคคลที่เข้ามาใหม่ ผมหันไปมองตามเสียงนั้นก็ผมว่าเป็นจ่ารุ่งที่เข้ามาตามให้ผมไปพบพลโท คงจะโดนด่าเรียกเกาะเซล่าอีกแล้วสินะ แต่ผมมั่นใจมากว่ามันต้องมีเหตุผลที่อยู่ๆ เกาะนีัก็ถูกลบออกจากแผนที่ประเทศไกเซค ผมกับพี่ชายจึงดั้นด้นหาสาเหตุของการหายไปของเกาะนั้น ถึงแม้ว่าจะโดนสั่งลงโทษอีกกี่ครั้งก็ตาม
"มีอะไรหรือครับ" ผมเดินเข้ามาในห้องของพลโทแและถามออกไปทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าเหตุใดผมถึงถูกเรียกมา
"เมื่อไหร่จะเลิกตามหาเกาะบ้าๆ นั่นสักทีครับ" พลโทตอบกลับพร้อมกับชี้ให้ผมนั่งลงตรงหน้า
"ผมก็บอกไปแล้วไงครับว่าอยู่ๆ เกาะนี้มันก็หายไป พลโทไม่คิดบ้างเหรอครับ" ผมตอบออกไปตามความจริงก็อยู่ๆ มันก็หายไปนี่ครับ
"แล้วคุณสิงหาไม่เคยคิดบ้างเหรอครับว่ามันไม่มีคนบนเกาะนั้นย้ายมาอยู่ที่นี้เลย" พลโทพูดก่อนจะหยิบชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบเบาๆ นั่นสินะ ไม่เคยเห็นใครจากเกาะนั้นาที่อินแซงเลยแม้แต่คนเดียว หรือว่ามันจะ
ไม่เคยมีเกาะนั้นอยู่ตั้งแต่แรกกันนะ
ผมนอนไม่หลับมาหนึ่งปีแล้วครับหลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่ผมหลับตาลงก็จะเห็นภาพของพ่อกับแม่ที่ถูกเหล่าคาดาฟรุมอยู่ บางทีผมก็คิดนะว่าถ้าเป็นผมมันอาจจะดีกว่านี้
"พี่น้ำนอนได้แล้ว เดี๋ยงพรุ่งนี้เราต้องต่อเรือกันนะ" ปลายฝนกระซิบบอกผมที่นอนอยู่ข้างๆ เธอ
หลังจากที่พวกเราอยู่ที่นี่มาหนึ่งปี พวกเราก็ตัดสินใจที่จะต่อเรือไปยังอินแซง ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก พวกเราจะต่อเรือไปยังอินแซงครับ หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมถึงเพิ่งคิดได้ก็ต้องขอบอกเลยนะครับว่า ความจริงนี่เป็นควาคิดแรกๆ ที่เกิดขึ้นแต่ด้วยกระแสน้ำที่แรงและระยะทางที่ไกลขนาดนั้นทำให้ความคิดนี้ถูกปัดตกไปแต่ตอนนี้มัน
หมดหนทางแล้วจริงๆ ครับ
ผมพยายามข่มตาหลับตามที่ปลายฝนบอกถึงแม้ว่าผมจะหลับได้แค่ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตามทีเถอะ