"คนที่ไกแซคไม่กลายร่างกันงั้นเหรอ มีแต่ที่นี่สินะ" เป็นคำที่ยังคงติดอยู่ในหัวผมหลังจากตื่นขึ้นมา กลายร่างงั้นเหรอ กลายเป็นอะไรกัน แล้วคู่ชะตาผมรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นคนไกเซค เพราะเครื่องแบบงั้นเหรอ แต่เครื่องแบบนี้มันมีแค่ชาวไกเซคที่รู้นี่ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคู่ชะตาของผม
เป็นชาวไกเซคเหมือนกันสินะ
ผมยันตัวขึ้นค่อยๆ ลุกขึ้นมองนาฬิกา 'ตีสาม' ทำไมคู่ชะตาผมถึงตื่นเร็วขนาดนี้ล่ะเนี่ย ตอนแรกผมว่าจะไปหาพี่กันต์แต่เดี๋ยวค่อยไปก็แล้วกัน
ผมตื่นขึ้นมาหลังจากที่เจอคู่ชะตา ผมหันไปมองนาฬิกาที่อยู่ในห้องสมุด 'ตีสาม' อา....ต่อให้เจอคู่ชะตาก็ไม่ได้ทำให้ผมนอนนานขึ้นเลยสินะ แต่อย่างน้อยผมก็เจอคู่ชะตาแล้ว และดูเหมือนคู่ชะตาผมจะเป็นชาวไกเซคเหมือนกันซะด้วยสิ ทหารงั้นสินะ ถ้าจากเครื่องแบบนี้มัน
ทหารอินแซงงั้นเหรอ
ไอ้พวกเวรที่ได้รับคำสั่งอะไรก็ทำถึงขนาดยิงประชาชนของตัวเองได้เนี่ยน่ะเหรอคู่ชะตาของผม ให้ตายสิ นี่เล่นตลกอะไรกันอยู่กันแน่ หงุดหงิดชะมัด ผมอยากจะออกไปเดินข้างนอกแต่มันทำได้ที่ไหนกัน ถ้าออกไปมีหวังได้เจออีกทีเป็นศพแน่ ผมพลิกตัวไปมาจนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเดินไปอ่านหนังสือที่มีในห้องสมุดจนเช้า
เมื่อผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเช้าผมก็รีบไปหาพี่กันต์ทันที
"พี่" ผมเดินมาหาคนที่ชื่อว่านายกรกันต์หรือที่ผมเรียกว่าพี่กันต์ หรือก็คือพี่ชายของผมนั่นแหละครับ พี่กันต์หันมาก่อนจะทำหน้าเบลอๆ ใส่ผม นี่พี่เพิ่งตื่นแล้วมาเข้าเวรเลยใช่ไหมเนี่ย
"ว่าไง" พี่กันต์หันมาถามผม "พี่เคยได้ยินข่าวเรื่องการกล่ายร่างหรืออะไรทำนองนี้บ้างไหมครับ" ผมตัดสินใจถามพี่กันต์เกี่ยวกับเรื่องที่ผมสงสัยตั้งแต่ตื่นขึ้นมาหลังจากเจอคู่ชะตา
"อะไรเนี่ย นี่นายฟังพ่อเล่านิทานเรื่องนั้นจนหลอนไปแล้วหรือไงฮ่าฮ่า" ผมรู้ได้ทันทีว่าพี่กันต์คงจะพูดถึงนิทานเรื่องคาดาฟที่พ่อชอบเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ ล่ะสิท่า แต่มันไม่ใช่ไงพี่กันต์ "คือพี่ ผมเจอคู่ชะตาแล้วนะ" พี่กันต์หันมาหาผมแบบทั้งตัวทันทีหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น
"เจอแล้วเหรอ เป็นไง น่ารักไหมคู่ชีวิตน้องพี่" พี่กันต์ถามคำถามผมไม่หยุด จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นล่ะเนี่ย ผมพลักพี่ชายของตนออกเบาๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่คู่ชะตาของผมเล่าเมื่อคืนให้เขาฟัง
"งั้นเหรอพี่ไม่เคยได้ยินว่าใครไม่เจอคู่ชะตาแล้วกลายร่างเป็นอะไรนะ แล้วรู้ไหมเขาอยู่ไหน" ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ "ผมว่าเขาน่าจะเป็นคนไกเซคเหมือนกัน"
"ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ลองถามเขาดูสิ ถึงเราจะจำชื่อเขาไม่ได้แต่เราจำเรื่องอื่นได้นะ" นี่แหละครับวันที่ผมรู้สึกว่าพี่ชายของผมฉลาด
"พี่น้ำ" เสียงของปลายฝนร้องเรียกผมที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ "ว่าไง" ผมเก็บหนังสือแล้วหันไปหาน้องสาวของตน "ไปที่หาดกันเถอะครับ" พี่วินพูดขึ้นขณะที่เจ้าตัวกำลังเช็คกระสุนที่เหลืออยู่น้อยนิด ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินตามปลายฝนออกไปหาพี่วินกับคุณแอมที่อยู่ตรงทางเข้าของห้องสมุดแล้ว
ตอนนี้เป็นตอนเช้าทำให้เราไม่เจอพวกคาดาฟป้วนเปี้ยนอยู่ตามถนน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องคอยระวังตัวจากพวกกับดักหรือพวกคาดาฟที่อยู่กันเป็นฝูงอยู่ดี
ครืด ครืด
อยู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนสัญญาณขัดข้องดังออกมาจากวิทยุสื่อสารที่พี่วินมักจะพกมันติดตัวเอาไว้ พี่วินหยุดเดินก่อนที่จะหยิบเอาวิทยุนั้นออกมา "มีใครได้ยินไหมครับ" พี่วินพูดผ่านวิทยุเครื่องนั้น แต่ก็
ไม่มีเสียงตอบอะไรกลับมาอีก
ความหวังอย่างงั้นเหรอ
เหมือนจะไม่เคยมีอยู่นะ
ก็ในเมื่อคู่ชะตาของผมยังเป็นพวกทหารเวรนั่น ก็คง...
ไม่มีใครมาช่วยเราไปจากที่นี่ได้แล้วล่ะ