แคทและเมย์หนีออกไปได้สำเร็จ ถึงจะยังวางใจไม่ได้ว่าปลอดภัยเพราะไม่รู้ว่าในเหมืองยังมีคาแรคเตอร์ที่แข็งแกร่งแบบเจ้ามัมมี่เหลืออยู่อีกไหม แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นว่าทั้งสองจะไม่ถูกลูกหลงจากการปะทะกันระหว่างผมกับโมแรนที่รุนแรงขึ้นในทุกขณะ
เมื่อโมแรนแน่ใจว่าผมจับจังหวะเปิดปิด 'อาณาเขตแห่งเทพ' ได้ เขาพยายามเปลี่ยนจังหวะหนี แต่นิสัยที่คุ้นชินไปแล้วไม่ได้แก้ไขกันได้ง่าย ๆ เมื่อเขาเปลี่ยนจังหวะไปได้ไม่เท่าไหร่ ผมก็จับจังหวะใหม่ออก
ปัญหาคือความเสียหายที่เจ้ามัมมี่เหลือไว้มีมากเกินไป ที่สู้อยู่ตอนนี้ก็แทบจะฝืนถึงที่สุดแล้ว บางทีหากถูกเล่นงานเบา ๆ อีกครั้งเดียว ผมอาจหมดสิทธิสู้ต่อ…
โมแรนคงรู้เรื่องนั้นเช่นกัน มันทำให้เขาไม่ได้รีบร้อนเผด็จศึก ที่เขากำลังทำเปรียบได้กับการฝังเขี้ยวลงที่คอเหยื่อและฉีดพิษเข้าไปอย่างช้า ๆ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงไปมากกว่านี้ ชัยชนะมันถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่ผมก็ไม่ใช่พวกที่ฝืนสู้ทั้งที่รู้ว่าจะแพ้ มันมีไพ่ใบสุดท้ายที่ผมอยากลองดู…
สกิลนี้ชื่อ ''แบงก์รัพ" สกิลชื่อประหลาดที่สามารถเพิ่มความเสียหายในการโจมตีโดยแลกกับคะแนนหรือซิลเวอร์พอยต์ ผมเคยทดสอบสกิลนี้มาก่อน หากยอมแลกคะแนนสัก 100 คะแนน มันจะได้พลังโจมตีเพิ่มขึ้นมาราว ๆ เท่าตัว
พลาดไปหน่อยที่ก่อนหน้านี้ผมใช้คะแนนไปมากมายกับการพยายามคืนชีพคาแรคเตอร์ทุกคน แต่ผมชดเชยส่วนนั้นด้วยการขายของไม่จำเป็นกลับมาเป็นซิลเวอร์พอยต์ หากคำนวณแบบคร่าว ๆ อย่างน้อยมันก็น่าจะเหลือพอเพิ่มพลังให้ผมราว ๆ ห้าสิบเท่า
เป็นการโจมตีที่อาจทำให้เกือบล้มละลายได้สมชื่อสกิล แต่ถ้ามันทำให้ชนะได้มันก็คุ้มแสนคุ้ม
…จะพลาดไม่ได้…
ผมแกล้งทำเป็นเสียจังหวะ เพื่อให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามาในระยะ โมแรนแม้จะระแวงระวังตัวแต่เขาเชื่อมั่นในตัวเองจนเกินไป จังหวะแบบนี้เขาจึงพุ่งตามเข้ามาแม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นกับดัก
ผมฟันสวนจากสภาพที่ยืนไม่มั่นคง เขาเบี่ยงหลบได้โดยฉับพลัน แต่นี่เป็นแค่กับดักชั้นแรก ดาบของผมยังไม่ตาย ผมตวัดดาบกลับมาได้ทั้งที่เท้าเกือบจะยืนไม่ติดพื้น
โมแรนคงไม่คิดว่าผมจะฟันสวนกลับมาได้อีกครั้งจากท่าทางพิสดารแบบนั้น ครั้งนี้เขาเบี่ยงหลบไม่ทัน ดาบของผมกระแทกถูกใบหน้าของเขาอย่างจัง
หน้ากากซอมบีสีขาวแตกละเอียดเป็นผุยผง ร่างของโมแรนกระเด็นลอยไปและปะทะกับสิ่งกีดขวางหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือเครื่องมือที่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร ก่อนที่มันจะลอยละลิ่วไปจนถึงผนังถ้ำ ไม่สิ ต้องบอกว่าร่างของเขาจมหายไปในผนังถ้ำเลยมากกว่า
ห้าสิบเท่าของค่าพลังโจมตีของผม ต่อให้เป็นรถถังก็น่าจะลอยลิ่วหายไปตกข้ามเมืองได้… น่าประหลาดที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้รุนแรงกับคู่ต่อสู้ขนาดนั้น
แกรก แกรก แกรก
เสียงหินและเศษดินร่วงกราว ร่างของเด็กหนุ่มกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในรอยแตกของผนัง ผมไม่อยากเชื่อตาและหูของตัวเอง เขายังไม่ตายได้อย่างไร
ไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกอย่างก็ชัดเจน โมแรนไม่เพียงแค่ยังไม่ตาย เขาพาตัวเองออกจากรอยแตกของกำแพงและเศษซากหินอย่างหน้าตาเฉย สิ่งที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้มีเพียงชุดที่เต็มไปด้วยฝุ่นกับหน้ากากที่หายไปแล้ว
"ไม่เลว…"
"ไม่เป็นอะไรเลยเหรอ"
โมแรนใช้มือปัดฝุ่นที่หน้าผาก เขาพบว่ามีเลือดไหลซึมจากแผลเล็ก ๆ ที่ผมฝากไว้ แทนที่จะตกใจ โกรธ หรือแสดงสีหน้ากังวล โมแรนกลับเผยรอยยิ้มให้เห็น
"เพิ่งมีคนทำแบบนี้ได้ครั้งแรก"
"งั้นเหรอ" ผมฝืนยิ้ม ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ตัวหรือไม่ว่านั่นคือไม้ตายก้นหีบของก้นหีบแล้ว
"ฉันชอบคนเก่ง" โมแรนหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อให้จบ "เอาแบบนี้ดีไหม เรื่องที่บุกเข้ามา ฉันไม่ถือสาก็ได้ นายมาทำงานให้ฉันดีกว่า"
"รวมไปถึงเรื่องที่คนของฉั…"
"ยกเว้นเรื่องที่ขู่จะระเบิดโมรานา แม้จะไม่ได้วางระเบิดไว้จริง ๆ ก็เถอะ"
"น่าเสียดาย คุยกันไม่รู้เรื่องสินะ"
"นั่นสิ… คงต้องสู้กันต่อ แต่คิดดีแล้วเหรอ สกิลเมื่อกี้ใช้ได้อีกรึเปล่า"
ผมมั่นใจว่าโมแรนไม่รู้ว่าผมทำอะไรได้จริง ๆ หรอก เขาอาจแค่อ่านสีหน้าผมออกหรือไม่ก็รับรู้โดยสัญชาตญาณว่าผมไม่มีทางโจมตีแบบนั้นได้อีก
ก่อนที่ผมจะคิดทางหนีทีไล่ได้ เขาก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
เงื่อนไขการต่อสู้ไม่ได้ต่างไปจากเดิม แค่โดนโมแรนสะกิด ชีวิตของผมอาจจบลงในพริบตานั้น ในขณะที่ผมเสียโอกาสโจมตีที่แรงเท่าเดิมไปแล้ว
[ปาร์ตีมิชชัน: ค้นหาเบาะแสและช่วยเหลือนักเดินทางในเหมืองซานเช (1/1)]
"เอ๋!"
[คุณทำมิชชันสำเร็จ]
"เอ๋!!"
[คุณได้ 10000 คะแนน]
"เอ๋!!!"
…ฝีมือแคทเธอรีนเรอะ ไม่ใช่สิ เธอเพิ่งหนีไป ไม่น่าจะบังเอิญไปช่วยเหลือคนที่ถูกจับตัวออกไปได้ ถ้าแบบนั้นคนที่ทำได้ก็ต้องเป็นแอน…
ไม่ว่าเหตุผลแท้จริงจะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ผมสนใจแค่คว้าโอกาสเอาไว้ ที่แสบที่สุดคือโมแรนเหมือนกับสัตว์ป่า เขารู้ตัวแล้วว่าผมได้โอกาสที่สองมาอยู่ในมือ เขาหยุดชะงัก ไม่ได้เข้ามาแบบสุดกำลัง
แต่เขาช้าไปแค่ครึ่งก้าว จังหวะที่สกิลกลับมาทำงานได้ ผมสืบเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับใช้พลังชี่ทั้งหมดถ่ายไปที่เท้า ผมลดระยะระหว่างเราสองคนจนเหลือศูนย์ในพริบตา
ดาบถูกฟันออกไปก่อน โมแรนรู้ว่ามันเป็นการฟันหลอกแต่เขาถูกบีบให้ต้องใช้มือรับมันไว้ เขาเห็นจะ ๆ ว่ากำปั้นผมพุ่งตามมาแต่เขาไม่อยู่ในสภาพที่หยุดได้
หมัดที่ใส่คะแนนทั้งหมดปะทะกับครึ่งปากครึ่งจมูก ต่อให้ทนทายาดขนาดไหน ตำแหน่งที่ถูกซัดเข้าไปก็เป็นตำแหน่งอันตราย หมัดนี้จะต้องสะเทือนไปถึงสมองของเขาอย่างแน่นอน
โมแรนลอยคว้างไปตามแรงส่ง สติของเขาหลุดลอยออกไปครู่หนึ่ง แต่ด้วยพลังในการพื้นตัวที่ราวกับปีศาจ เขาตีลังกากลับมานั่งคุกเข่าได้โดยที่ไม่ล้มฟาดไปกับพื้น
โมแรนคงตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อพบว่าเบื้องหน้าของเขา ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว