Chereads / A Perfect System for a Perfectionist in the Post-Apocalypse World / Chapter 27 - เมืองแก๊สพิษ (5)

Chapter 27 - เมืองแก๊สพิษ (5)

รู้ว่าไม่ควรเสี่ยงไปมากกว่านี้ แต่ความอยากรู้อยากเห็นมีมากกว่าความกลัวตาย อีกอย่างผมเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าตัวเองเข้มแข็งพอจะก้าวข้ามจุดอ่อนของคาแร็คเตอร์ทั้งหลายที่สังเกตมาได้จากการอยู่ร่วมกันมาตลอด ดังนั้นผมจึงตัดสินใจใช้สกิลกับคาแรคเตอร์อย่างน้อยคนละครั้ง

สิ่งที่ได้รู้มาเพิ่มคือ 'ปัญหา' ของแต่ละคนมีความหนักเบาไม่เท่ากัน และมิชชันที่ต้องรับมือหลายครั้งอยู่ในรูปแบบของความทรงจำในอดีต

ของมายา เป็นแค่สิ่งที่ติดอยู่ในใจของเธอ นอกจากคลั่งซามูไรและดาบแล้ว เธอก็ยังแอบเป็นแฟนเกมสวมบทบาทเป็นมาเฟียด้วย มายามักจะคิดอยู่เสมอว่าถ้าเธอไม่ได้ฝึกฝนในเกมบูชิโดเบลดมาสเตอร์จนคว้าอันดับหนึ่งของโลกมาได้ แต่หันไปเล่นเกมวอร์ออฟมาเฟียแทน เธอจะเปลี่ยนไปหรือไม่

ผมยืนยันได้ตั้งแต่ยังไม่ได้รับมิชชัน เธอจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมากหรอก ก็แค่จากพวกคลั่งดาบ เปลี่ยนมาเป็นพวกคลั่งปืนแทน

อยากพูดเหมือนกันว่าการบ้าปืนน่าจะมีประโยชน์ในโลกซอมบีแบบนี้ แต่หลายครั้งหลายหนผมรอดมาได้เพราะดาบของมายา ดังนั้นก็คงไม่พูดหรอกว่าทักษะของเธอไร้ประโยชน์

ในความทรงจำของมายา ผมย้อนเวลากลับไปเป็นเธอ มายาเริ่มเล่นเกมวีอาร์ที่ชื่อวอร์ออฟมาเฟียแทนเกมเดิมที่เธอเล่นทุกวัน ผมไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ สวมบทเป็นเธอ เล่นเกมทุกเมื่อที่ว่างจากการเรียน รู้ตัวอีกครั้งทักษะปืนก็พัฒนาขึ้นแล้ว

[มิชชันพิเศษ: ฝึกฝนเกมวอร์ออฟมาเฟียในความทรงจำของมายา (1/1)]

[คุณทำมิชชันสำเร็จ]

[คุณได้รับสกิลชูตติง]

ชูตติงคือสกิลที่ด้อยกว่าแอดวานซ์ชูตติงที่อลิซาเบธมี แต่ถึงจะเป็นสกิลระดับต่ำกว่ามันก็ช่วยในการยิงปืนไม่น้อย เมื่อมายามีสกิลนี้ ต่อไปผมก็จะยิ่งฝากผีฝากไข้กับเธอได้มากขึ้น

สกิลของบางคนไม่ได้มีประโยชน์โดยตรงในการต่อสู้ แต่ผมไม่ปฏิเสธการไขว่คว้ามาครอบครอง เพราะมันทำให้การใช้ชีวิตในโลกนี้ง่ายขึ้น เมย์ที่มีสกิล 'คุกกิง' อยู่แล้ว เธอได้ 'แอดวานซ์คุกกิง' มา ทำให้ฝีมือการทำอาหารของเธอกลายเป็นได้อาหารระดับเดียวกับในภัตตาคาร ด้วยทักษะระดับนี้ผมจึงมอบหมายการทำอาหารเกือบทุกมื้อให้กับเธอได้

บางคนได้สกิลที่ดูไม่เกี่ยวกับความสามารถดั้งเดิมของตน ตอนที่สวมบทเป็นจอน ผมเห็นอดีตของเขาสมัยที่ยังเป็นอัยการ จอนเจอกับคดีหนึ่งที่เขามั่นใจว่าจำเลยคือผู้กระทำผิดจริงแต่หลักฐานที่เขามีเป็นหลักฐานปลอม จอนแกล้งทำเป็นไม่รับรู้และใช้หลักฐานนั้นจนกระทั่งเขาถูกจับได้และไม่สามารถทำงานเดิมได้อีก

ไม่รู้เหมือนกันว่าระบบใช้ตรรกะแบบไหนตัดสิน จอนได้สกิล 'พาวเวอร์บูสท์' ขึ้นมาเฉย ๆ พวกเวอร์บูสท์ช่วยเพิ่มพละกำลังให้จอนโดยตรง มันอาจจะเหมาะกับเขาที่ค่าสถานะไม่เพิ่มขึ้นจากก่อนเพิ่มระดับแรร์ริตี แต่ก็ทำให้ข้องใจอยู่ดีว่ามันเกี่ยวกับอดีตที่อุตส่าห์ย้อนมาให้ดูตรงไหน

ชาร์ลีและไมราได้ 'สปีดบูสท์' สกิลสายเดียวกับพาวเวอร์บูสท์ที่ไปเพิ่มค่าความว่องไว นอกจากได้สกิลเดียวกันมิชชันของทั้งคู่ก็เหมือนกันด้วย ผมแค่ต้องวิ่งให้เร็วถึงจุดหนึ่งเพื่อจบมิชชัน

ในระหว่างที่เก็บสกิลให้คาแรคเตอร์อย่างเมามัน

[มิชชันพิเศษ: ทำมิชชันสำหรับคาแรคเตอร์สำเร็จ (4/4)]

[คุณทำมิชชันสำเร็จ]

[รางวัล: 500 คะแนน]

รางวัล 500 คะแนนคุ้มค่า และยิ่งคุ้มมากขึ้นไปอีกเพราะเมื่อทำครบแล้วก็มีมิชชันพิเศษอันใหม่ขึ้นมา

[มิชชันพิเศษ: ทำมิชชันสำหรับคาแรคเตอร์สำเร็จ (0/4)]

[รายละเอียด: ใช้สกิล 'เฟิร์สเพอร์เซินวิว' ควบคุมคาแรคเตอร์ที่คุณมี หากเงื่อนไขครบถ้วนคุณจะได้รับมิชชันพิเศษที่เกี่ยวข้องกับคาแรคเตอร์คนนั้น คำเตือน อ่านรายละเอียดก่อน (ดูรายละเอียดสกิลเฟิร์สเพอร์เซินวิว)]

[รางวัล: 250 คะแนน]

มิชชันขึ้นมาเกือบจะเหมือนเดิมทุกประการ ยกเว้นเพียงรางวัลที่เหลือแค่ครึ่งเดียว แน่นอนว่าถึงจะแค่ครึ่งผมก็ไม่ปล่อยทิ้งไว้ มิชชันพิเศษของคาแรคเตอร์ถูกจัดการทีละอันจนกระทั่งผมได้รางวัล 250 คะแนน แล้วหลังจากนั้นผมดำเนินการทำมิชชันไปซ้ำ ๆ อีกหลายชุด หลายรอบ แต่ละรอบรางวัลที่เป็นคะแนนจะมีแต้มลดลง จนคะแนนลงลดมาเหลือแค่ 50 คะแนน

"ยังจะต่ออีกเหรอคะ"

"ขอโทษที ติดลมไปหน่อย" ผมชะงักมือที่กำลังจะกดรับมิชชันพิเศษอีกครั้ง

"อืม แต่ก็บ่นไม่ได้หรอกค่ะ พอได้สกิลใหม่ ๆ มาทุกคนก็เก่งขึ้นอีกเยอะ"

แอนเหลือบมองไปที่อลิซาเบธที่ผมยอมใช้การ์ดหนึ่งชุบชีวิตกลับมาและยังทำมิชชันของเธอสำเร็จ เธอได้สกิล 'โฟกัส' แบบเดียวกับเอมมา เมื่อนำมันมาใช้ร่วมกับ 'แอดวานซ์ชูตติง' อลิซาเบธก็ยิ่งแข็งแกร่งราวกับตัวเอกที่หลุดมาจากหนังแอคชันจริง ๆ

"นี่ถ้าเพิ่มระดับแรริตีให้คุณอลิซาเบธได้ด้วยล่ะก็…"

"อย่าพูดเหมือนง่ายสิ สเปเชียลซุปเปอร์แรร์ โอกาสได้น้อยแค่ไหนรู้ไหม ที่สำคัญคือต่อให้ได้มาจริงก็อัพเกรดไม่ได้หรอก" ผมเปิดหน้าต่างอื่นของระบบขึ้นมาดูเรื่อยเปื่อยหลังปิดหน้าต่างมิชชันพิเศษลงไป

"เอ๋ ทำไมล่ะค่ะ หรือว่าเกี่ยวกับเลเวล"

"เลเวลสักวันก็ต้องเต็ม"

"จริงสิ มันต้องใช้การ์ดพิเศษด้วยในการอัพเกรดขั้นสุดท้าย" แอนเพิ่งนึกได้ว่าผมเคยอธิบายไปแล้ว

"ไม่รู้ว่าไอ้การ์ดพิเศษที่ว่ามันอยู่ในแพ็คไหน จนกว่าจะได้มันมา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนเก็บเลเวลหรือหาการ์ดซ้ำให้ครบหรอก"

แอนกุมคางครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนที่เธอจะพูดต่อ "นี่เป็นแค่การคาดเดานะคะ แต่ฉันมีข้อสงสัยค่ะ"

"กำลังนึกถึงเรื่องเดียวกับผมรึเปล่านะ"

"ฉันสงสัยมิชชันพิเศษของคาแรคเตอร์ค่ะ" เธอตอบ "คุณคามิลลองแล้วนี่คะ คุณสามารถใช้เฟิร์สเพอร์เซินวิวซ้ำกับคาแรคเตอร์คนเดิมได้ ถ้าเราวนทำแบบนี้ถึงจุดหนึ่ง ไม่แน่ว่ารางวัลอาจจะเปลี่ยนจากสกิล เป็นการ์ดที่ใช้เพื่อปลดล็อกขั้นสุดท้ายก็ได้นะคะ"

บางครั้งแอนดูเป็นคนใสซื่อ แต่เธอไม่ใช่คนโง่เลย ข้อสันนิษฐานของเธอตรงกับสิ่งที่ผมอยากทดสอบให้รู้ผล แม้ว่าผมยังไม่กล้าฟันธงว่า 'วัตถุดิบการอัพเกรด' จะเป็นรางวัลจริง ๆ ด้วยหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็มั่นใจว่ามันต้องมีรางวัลใหญ่รออยู่ในตอนท้ายของมิชชันสกิลเฟิร์สเพอร์เซินวิวอย่างแน่นอน

น่าเสียดายที่ผมต้องพักเรื่องการทดลองไปเรื่อย ๆ ไว้ก่อนจริง ๆ หลังจากความคิดว่าน่าจะลองดำเนินมิชชันพิเศษต่ออีกสักรอบหนึ่งผุดขึ้นมา แต่หนึ่งในสกิลใหม่ของจอน 'ดีเทคทีฟอินสติงต์' ดันยืนยันว่าพบกับบริเวณที่มีแก๊สเบาบางกว่าที่อื่น และที่นั่นคือที่ที่มีมนุษย์จริง ๆ ซ่อนตัวอยู่ด้วย พวกเราสงสัยว่าเป็นคนซึ่งพวกเรากำลังตามหาอยู่

สถานที่ซึ่งพวกเราบุกเข้าไปเป็นอาคารเก่า ๆ หลังหนึ่ง บริเวณนี้ของเมืองอยู่สูงกว่าจุดอื่นเล็กน้อย ผมลองใช้เครื่องวัดระดับแก๊สดูแล้วจึงแน่ใจว่าแถวนี้ปลอดภัย

จากร่องรอยก่อนหน้านี้ที่จอนพบ หลังผมส่งเขาออกไปทดสอบสกิล จอนวิเคราะห์เสร็จสิ้น อีกฝ่ายที่อยู่ที่นี่เป็นผู้หญิง เธอน่าจะอยู่ตามลำพัง

"อย่าเข้ามา ฉันมีอาวุธนะ" เธอตะโกนออกมาจากที่ซ่อนตัวเมื่อเราบุกเข้าไป

ผมมองหน้าต่างมิชชันตามหาคน ความคืบหน้าของภารกิจยังไม่เปลี่ยนจากเดิม มันมีได้สองกรณีคือผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่เราต้องตามหา หรือไม่อย่างนั้น การพูดคุยแบบไม่เห็นหน้าอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้มิชชันสมบูรณ์

"เราแค่อยากถามอะไรสักสองสามคำถาม คุณช่วยออกมาคุยก่อนได้ไหม"

"แต่ฉันไม่มีเรื่องอยากคุยด้วย มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย"