กงจู้ทั้งหัวใจผูกพันอยู่กับหลิวอวี้เฉิน แต่ไม่ยอมรับความอับอายที่ถูกหย่า จึงพุ่งศีรษะชนกำแพงจนสิ้นใจ
...
"ฟงรู่ชิง เจ้าช่างโง่เขลาเสียจริง" ฟงรู่ชิงย่อยความทรงจำในสมอง เธอถอนหายใจเบาๆ "เขาไม่ได้รักเจ้า แล้วทำไมต้องไปขัดขวางคู่รักด้วย สมควรแล้วที่ได้รับกรรมเช่นนี้"
สิ่งที่ฟงรู่ชิงเกลียดที่สุดคือการใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่นและการขัดขวางคู่รัก แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นคนแบบนั้น
ส่วนกงจู้คนนี้... บังเอิญเหลือเกินที่ชื่อฟงรู่ชิงเหมือนกัน ทำให้ไม่ต้องยุ่งยากเปลี่ยนชื่อ
แต่ไม่รู้ว่าร่างของเธอที่หัวเซียตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อวิญญาณมาถึงทวีปชางหยว่แล้ว นั่นหมายความว่าเธอคงตายไปแล้วที่หัวเซีย ไม่รู้ว่าน้องชายจะรับข่าวนี้ได้หรือไม่
ดวงตาหม่นลง ฟงรู่ชิงเม้มปากเงียบ
ที่หัวเซีย น้องชายเป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ หลังจากที่เธอถูกแม่เลี้ยงวางยาจนเป็นใบ้ น้องชายก็พาเธอออกจากบ้านนั้นโดยไม่ลังเล และทำงานหนักเพื่อหาเงินให้เธอมีชีวิตที่ดี
ในที่สุดเขาก็ทำได้ แต่ร่างกายของเธอก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ จนต้องเข้าพักที่สถานพักฟื้น แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถฝ่าฟันไปได้...
"หลายปีที่ผ่านมา ฉันใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย คงเป็นเพราะเทพฟ้าทนดูไม่ได้ จึงให้โอกาสฉันได้เกิดใหม่ แต่ฉันยังไม่รู้ว่ากงจู้คนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร"
สำนวนว่า อยู่อย่างทุกข์ยากยังดีกว่าตาย การข้ามภพยังดีกว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อน
โชคดีที่ในห้องมีกระจกทองเหลือง เธอหยิบขึ้นมาดูได้ทันที แต่เมื่อเห็นภาพสะท้อนในกระจก ฟงรู่ชิงตกใจจนมือสั่น ทำกระจกหล่นใส่ตัว
ใครจะบอกเธอได้บ้างว่าคนอ้วนในกระจกคือใคร?
รูปร่างสวยๆ ของเธอหายไปไหน?
ฟงรู่ชิงแทบจะร้องไห้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมหลิวอวี้เฉินถึงได้รังเกียจเธอ
กงจู้คนนี้ไม่เพียงแต่หยิ่งผยองและมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี แถมยังเป็นคนอ้วนมหึมา
ข้อดีเพียงอย่างเดียวของเธอคือผิวขาวจนเปล่งประกาย
น่าเสียดาย ผิวขาวอาจกลบความอัปลักษณ์ได้สามส่วน แต่ความอ้วนทำลายทุกอย่าง!
มีรูปร่างแบบนี้ ต่อให้ขาวแค่ไหนก็ปิดบังความน่าเกลียดไม่ได้!
"ชิงเอ๋อร์"
ขณะที่ฟงรู่ชิงกำลังครุ่นคิดถึงแผนลดน้ำหนัก ก็มีเสียงดีใจดังมาจากนอกประตู
เธอหันไปมอง เห็นชายในเสื้อคลุมมังกรสีเหลืองทองรีบเดินเข้ามา
ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าคมคายดั่งสลักจากหิน คิ้วคมเข้มทอดยาวจรดขมับ ดวงตาอ่อนโยนดุจสายน้ำ ราวกับแสงอาทิตย์อบอุ่นที่ส่องเข้ามาในหัวใจของฟงรู่ชิงทันที
"ชิงเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไร เจ้าไม่เป็นไรจริงๆ ช่างดีเหลือเกิน หากเจ้าเป็นอะไรไป เราจะ... ไปตอบพระพักตร์พระมารดาของเจ้าได้อย่างไร?"
ชายในเสื้อคลุมมังกรกุมมือฟงรู่ชิงแน่น เสียงของเขาสั่นเครือ
ฟงรู่ชิงเอียงคอมองชายในเสื้อคลุมมังกรไม่กะพริบตา
ชายคนนี้... คือกษัตริย์พ่อฟงเทียนอวี้ของร่างเดิมสินะ?
หากไม่มีร่างเดิม ชายคนนี้คงเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่น่าเสียดายที่เขารักและตามใจร่างเดิมโดยไม่มีหลักการ ทั้งยังไม่แยกแยะผิดถูก
"พระเจ้าอยู่หัว หม่อมฉันเคยทูลแล้วว่าชิงเอ๋อร์จะต้องปลอดภัยแน่นอน"
เสียงไพเราะอ่อนหวานดังมาจากด้านข้าง
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟงรู่ชิงจึงเห็นว่ามีสตรีคนหนึ่งยืนอยู่ข้างฟงเทียนอวี้
สตรีสวมชุดผ้าโปร่งสีม่วง ประดับหวีหยก ท่าทางสง่างาม ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ชิงเอ๋อร์ คราวหน้าเจ้าอย่าได้ใจร้อนเช่นนี้อีก มารดาทราบว่าเจ้าฟื้นแล้ว จึงสั่งให้คนเตรียมขาหมูที่เจ้าชอบไว้ เดี๋ยวจะให้คนนำมา"