( … )
" นี่ เรย์ มานาเธอเหลือพอจะใช้บัพอยู่อีกกี่ครั้ง "
( เรย์… )
" น่าจะประมาณ 1 ครั้งต่อบัพ 1 อัน "
( … )
" โอเค เดี๋ยวเค้าจะเข้าไปปิดดาเมจบอสเอง ที่เหลือฝากเธอด้วยนะ "
( เรย์… )
" วางใจได้เลย "
[ เปิดใช้งานสกิลปัดเป่าคำสาป 9 ชั้น ]
[ เปิดใช้งานสกิลภูติคุ้มกาย ]
[ เปิดใช้งานสกิลทวยเทพสถิตกาย ]
[ เปิดใช้งานสกิลธงรบราชาศึก ]
[ เปิดใช้งานสกิลมานารวมศูนย์ ]
( ... )
[ คำสาปทุกประเภทจะไม่มีผลกับท่านเป็นเวลา 5 วินาที / 9 ครั้ง ]
[ พลังป้องกันทั้งหมดของท่าน + 50 และมีโอกาส 5% ในการสะท้อนดาเมจกลับไปใส่เป้าหมาย 5% + พลังโจมตี ]
[ ทุกๆ การใช้สกิลของท่าน + พลังโจมตี 5% ซ้อนทับกันได้ 10 ชั้น ]
[ พลังโจมตีทั้งหมดของท่าน + 100% ]
[ มานาของท่านจะไม่ลดลงเป็นเวลา 5 วินาที ]
" หมดเวลาเล่นสนุกกันแล้ว ราชาผีมนต์ดำ "
[ เปิดใช้งานสกิลดาบเดียวหวนคืนสู่ดวงดาว ]
ดาบคาตานะที่เฉือนอากาศราวกับสายฟ้าฟาด ราชาผีมนต์ดำยังไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกดาบคมฟันเข้าไปกลางลำตัวอย่างแม่นยำ
ร่างกายมหึมาของมันสั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนจะนิ่งสนิท เพียงเสี้ยววินาที รอยแยกมิติปรากฏขึ้น ลากยาวจากด้านบนลงมาถึงด้านล่าง
เหมือนกับมีเส้นคมๆ กรีดผ่านเนื้อหนังและกระดูก ร่างกายของราชาผีมนต์ดำถูกแยกออกเป็นสองท่อน อย่างช้าๆ และสลายหายไป
ความเงียบสงัดปกคลุมพื้นที่ เหลือไว้เพียงร่องรอยของการต่อสู้ การสลายเป็นของราชาผีมนต์ดำเป็นเครื่องยืนยันถึงชัยชนะในครั้งนี้
( ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เรย์ฮันนา, รินเมอร์ฟี้ ที่ได้ทำการสังหาร ราชาผีมนต์ดำ เป็นกลุ่มแรก )
[ สิทธิ์ในการสลักข้อความบนแผ่นหินจัดอันดับ ราชาผีมนต์ดำ x1 ]
[ ฉายา ผู้ชำระล้างมนต์ดำ x1 ]
[ ไม้เท้านักปราชญ์ x1 ]
[ เสื้อคลุมชำระล้าง x1 ]
[ แหวนแห่งปราชญ์ x1 ]
[ มงกุฎชำระล้าง x1 ]
( … )
" ราชาผีมนต์ดำ ก็แอบตึงมือเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็คุ้มค่ากันกับไอเทมที่ได้มาอยู่ ถือว่าโอเค "
( เรย์… )
" เหนื่อยแย่เลยนะ ริน "
" ขอบคุณนะ ที่มาช่วยเค้าหาไอเทม "
( ริน… )
" ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง "
" อย่างน้อยมันก็เป็นความทรงจำดีๆ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน "
( เรย์… )
" อื้อ ขอบคุณนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง "
" ช่วงเวลาที่เค้าได้อยู่กับเธอมันเป็นช่วงเวลาที่เค้ามีความสุขที่สุดเลย "
น้ำตาของเรย์ค่อยๆ ไหลอาบแก้มช้าๆ เหมือนปลดปล่อยความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในใจมาหลายเดือน
เรย์พยายามเก็บมันไว้ พยายามอย่างสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว มันมากเกินไป ความรู้สึกที่แหลกสลาย เหมือนโลกทั้งใบกำลังพังครืนลงตรงหน้า
เรย์รู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก สำคัญจนหาคำพูดมาบรรยายไม่ถูก เจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออก
เรย์ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอ่อนแอขนาดนี้มาก่อนเลย
" ขอโทษนะริน เค้าขอโทษ "
รินเดินเข้ามาใกล้ๆ เรย์อย่างช้าๆ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเข้าใจ
รินค่อยๆ ยื่นมือออกไป ลูบหัวเรย์เบาๆ เหมือนกับการปลอบโยนที่ไม่ต้องใช้คำพูด สัมผัสของเขานุ่มนวลและอบอุ่น เหมือนกับการส่งผ่านความเข้าใจและความรู้สึกที่มีให้
เรย์ที่กำลังสะอื้น ร้องไห้ ก็ค่อยๆ หยุดลง ราวกับว่าสัมผัสของรินเป็นการเยียวยาสำหรับหัวใจที่กำลังเหนื่อยล้า ความรู้สึกของการได้รับการสนับสนุนแบบไม่มีเงื่อนไข ทำให้เรย์รู้สึกปลอดภัย
เหมือนกับว่าทุกอย่างรอบตัวถูกห่อหุ้มด้วยความรักที่ไม่มีข้อแม้ แม้แต่การสัมผัสที่แผ่วเบาก็ยังเต็มไปด้วยความหมายที่ยากจะลืมเลือน
( ริน… )
" อื้อ เค้าเข้าใจเธอนะเรย์ "
" เค้าก็ต้องขอบคุณเธอมากเลย เธอคือความสุขของในทุกๆ วัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา "
" เค้าเคารพในการตัดสินใจของเธอนะ "
" ไม่ร้องนะครับ คนเก่งของเค้า "
เรย์ก้าวเข้าไปหาริน ยืนนิ่งๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของริน รินยิ้มให้เขา แต่รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะจางหายไป เมื่อเขาเห็นแววตาของริน
เรย์เพียงแค่ก้าวเข้าไปกอดรินแน่น รินตกใจเล็กน้อย แต่ก็เอื้อมมือไปโอบกอดเรย์ตอบ
เรย์กอดรินแน่นขึ้น รู้สึกถึงความอบอุ่นของร่างกายของริน ความคิดถึงที่พวกเขากำลังจะห่างไกลกัน เขาเป็นห่วงความรู้สึกของริน กับการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้
รินรู้ว่าการตัดสินใจของเรย์นั้นถูกต้อง แต่เขาก็อดที่จะรู้สึกเศร้าไม่ได้ หวังเพียงให้เรย์อยู่ในความทรงจำของเขาไปตลอด
( ริน… )
" เค้าจะรอเธออยู่ตรงนี้ "
" สู้ๆ นะ คนเก่งของเค้า "
" อย่าลังเลกับการตัดสินใจของตัวเธอเอง "
" ขอให้เธอโชคดี "
" เอาไว้สักวันเราค่อยมาเจอกันใหม่นะ "
( เรย์… )
" อื้อ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างจริงๆ นะ ริน "
" เค้ารักเธอนะ "
" เอาไว้เรามาเจอกันใหม่อีกครั้ง "
[ ท่านต้องการที่จะออกจากระบบหรือไม่ / ใช่ ]
" ใช่ "
( ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เรย์ฮันนา ที่สำเร็จเควสลับ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ - เพียงผู้เดียว ความสำเร็จของท่านจะถูกจารึกเอาไว้เพื่อเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ตลาดกาล )
( ริน… )
[ เปิดใช้งานสิทธิ์ในการสลักข้อความบนแผ่นหินจัดอันดับ ราชาผีมนต์ดำ ]
" สายลมพัดพา กาลเวลาหวนคืน ธาราบรรจบ พบเจอกันใหม่ "
[ ยืนยันการสลักข้อความ ยืนยัน / ยกเลิก ]
" ยืนยัน "
ร่างของเรย์ค่อยๆโปร่งแสง เหมือนภาพลวงตาที่กำลังจะจางหายไป แม้ร่างกายของเธอจะกำลังสลายไป แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับสดใส และอ่อนโยน
ดวงตาของเธอส่องประกายด้วยความรัก ความสุข แม้จะกำลังจากไป แต่เธอก็ยังคงมองมาที่รินด้วยสายตาที่อ่อนโยนที่สุด
( เรย์… )
" เค้าเลิกร้องไห้แล้วนะ "
และแล้ว ร่างของเรย์ก็สลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความว่างเปล่า และความเงียบสงัด ทิ้งไว้เพียงความทรงจำ
[ ตัวละคร เรย์ฮันนา ออฟไลน์ ]
( ริน… )
" หึ ยัยบ๊อง เธอก็ยังคงเป็นเธอ "
" ลึกๆ แล้ว เธอก็ร้องไห้อยู่นั้นแหละ "
[ ท่านต้องการที่จะออกจากระบบหรือไม่ / ใช่ ]
" ใช่ "
[ ตัวละคร รินเมอร์ฟี้ ออฟไลน์ ]
…
( ข่าวสาร คอมมูนิตี้ รายงานประจำวัน ล่าสุด )
[ ! การอำลาวงการของสองผู้เล่นระดับแนวหน้า เรย์ฮันนาและรินเมอร์ฟี้ ]
( … )
" น่าเสียดาย แต่ฉันก็เคารพการตัดสินใจของพวกเขานะ พวกเขาเองก็ต้องออกไปใช้ชีวิตในแบบของพวกเขาบ้าง จะให้เล่นเกมส์ไปตลอดก็ไม่ได้ "
" ฉันก็คิดจะอำลาวงการเหมือนพวกเขานะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเข้ามาเล่นด้วยสิ "
" ระดับแรงค์กิ้งช่วงนี้ปั่นปวนแน่ๆ สองผู้เล่นในหัวตารางอันดับหายไป "
" พวกแกนะ รอดูชื่อของฉันได้เลย ท๊อปสิบอันดับต้องมีชื่อฉัน "
" เห้อ เจอพวกขี้โม้อีกแล้ว รีบขึ้นมานะ ฉันรอตบแกลงไปอีกรอบอยู่ "
…
เวอร์ชวลเรียลลิตี้ฟูลไดร์ หรือ VRF เทคโนโลยีเสมือนจริงที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล การก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
เทคโนโลยี VRF ไม่ใช่แค่การสร้างภาพเสมือนจริงธรรมดา แต่เป็นการสร้างโลกเสมือนจริงที่สมบูรณ์แบบ ที่ผู้ใช้งานสามารถสัมผัส ได้กลิ่น ได้ยิน และรู้สึกได้เหมือนจริง
เทคโนโลยี VRF ไม่ได้แค่เปลี่ยนวงการเกม แต่มันเปลี่ยนทุกอย่าง ในโรงพยาบาลแพทย์ใช้ VRF ฝึกฝนการผ่าตัด จำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้คำปรึกษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ใช้ VRF สำรวจอวกาศ ศึกษาโครงสร้างโมเลกุล และทำการวิจัยที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
นักกีฬาใช้ VRF ฝึกฝนทักษะ วิเคราะห์กลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการเล่น แม้แต่การสื่อสารก็เปลี่ยนไป การประชุมทางไกล การทัศนศึกษาเสมือนจริง ทุกอย่างดูสมจริงและน่าตื่นเต้นกว่าเดิม
แต่สิ่งที่ VRF มีอิทธิพลมากที่สุดก็คือเกมออนไลน์ เกมที่เคยจำกัดอยู่แค่หน้าจอแสดงผล กลายมาเป็นโลกที่คุณสามารถเข้าไปมีชีวิตอยู่ได้
เราสามารถเป็นใครก็ได้ ทำอะไรก็ได้ และพบเจอผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกในโลกเสมือนจริงนี้ เกมออนไลน์กลายเป็นสังคมเสมือนจริง ที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ด้วยกัน สร้างมิตรภาพ และสร้างความทรงจำร่วมกัน
แต่ในโลกเสมือนจริงที่สมบูรณ์แบบ ก็มีด้านมืดเช่นกัน บางคนติดอยู่ในโลก VRF จนลืมโลกความเป็นจริง
บางคนใช้ VRF ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ในโลกจริง ความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี ก็เป็นปัญหาใหญ่ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึง VRF ได้
…
ลมหนาวแรกของธันวาฯ พัดผ่านมา แสงแดดอุ่นๆ ลอดช่องหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน เสียนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้น บนเตียงนุ่มๆ เหมือนจะมีอะไรขยับเล็กน้อย
มือที่หนักอึ้ง เหมือนมีน้ำหนักเป็นกิโล คว้าหาโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างๆ เสียงนาฬิกาปลุกก็ยังคงดังไม่หยุด
จนรินต้องลุกขึ้นมาจัดการ เขาขยี้ตา เบลอๆ มองเห็นแสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ก็เพียงพอที่จะช่วยให้สมองเริ่มทำงานได้บ้าง
มือของรินยังคงค่อยๆ เลื่อนไปบนโต๊ะข้างเตียง สัมผัสได้ถึงความเย็นของวัสดุ จนกระทั่งนิ้วสัมผัสกับโทรศัพท์ที่เย็นเฉียบ เหมือนน้ำแข็ง
ปุ่มนาฬิกาปลุกก็ถูกปิด ความเงียบได้เข้ามาแทนที่ แต่ความง่วงของเขาก็ยังคงอยู่ สมองยังไม่ค่อยสั่งการร่างกายได้ดีนัก
แต่ก็ดีกว่าตอนที่เสียงนาฬิกาปลุกดังกระหน่ำ อย่างน้อยตอนนี้ก็สงบลงแล้ว
( ริน… )
" แปดโมงเช้าแล้วหรอเนี่ย "
" รีบลุกไปอาบน้ำดีกว่า ถ้าไปสายคราวนี้โดนสวดยับแน่ๆ "
รินลุกขึ้นจากเตียงนุ่มๆ ผ้าห่มปลิวไหวตามแรงดึงเบาๆ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ วันพักผ่อนที่เขาเฝ้ารอคอยมาทั้งอาทิตย์
รินเดินไปเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นๆ สบาย ปล่อยให้สายน้ำชำระล้างความง่วงซึมออกไป
หลังจากอาบน้ำเสร็จ รินก็แต่งตัวด้วยเสื้อยืดแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์สีดำ และรองเท้าบาสเก็ตบอลสีดำ เป็นชุดที่ใส่สบาย เหมาะกับการออกไปเที่ยวในช่วงแรกเริ่มของฤดูหนาว
จากนั้น รินก็เริ่มเก็บของเขา กุญแจรถยนต์ คีย์การ์ดห้อง กระเป๋าเป้ใบโปรดของเขาถูกหยิบขึ้นมา เขาหยิบหนังสือเล่มโปรด โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ใส่ลงไป
ตรวจสอบอีกครั้งว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
( ริน… )
" ปิดอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว "
" เท่านี้ก็ไม่น่าจะลืมอะไรแล้วนะ "
" เริ่มออกเดินทางเลยดีกว่า "
ก่อนที่รินจะก้าวขึ้นรถ เขาก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปหาเพื่อนของเขาก่อน เพื่อให้เพื่อนของเขารู้ว่า เขากำลังจะออกเดินทางไปยังที่หมาย ตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้
รินค่อยๆ ขับรถออกไปอย่างช้าๆ ชมวิวระหว่างทาง เปิดเพลงฟังเบาๆ ปล่อยให้เสียงเพลงคลอเคลียไปกับจังหวะการจราจรที่ค่อยๆ ไหลไป
แม้จะใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติ เพราะการจราจรที่ติดขัดเล็กน้อย แต่เขาก็รู้สึกมีความสุข เพราะการเดินทางของเขามาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย
[ แชท ]
( ริน… )
" ถึงแล้วนะ กำลังจะขึ้นไปหา "
( … )
" โอเค ว่าแต่แกกินข้าวมายัง "
" แวะไปหาอะไรกินที่ชั้นสามเป็นเพื่อนหน่อย "
( ริน… )
" ได้สิ ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยเหมือนกัน "
" งั้นเจอกันชั้นสามนะ "
( … )
" จัดไป ตามนั้น "
หลังจากรินปิดประตูรถ เขาได้เดินไปยังลิฟต์ เมื่อเขาใกล้จะถึงบริเวณหน้าประตูลิฟต์ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ก้มหน้าจ้องโทรศัพท์มือถืออยู่ เดินตรงเข้ามาชนกับเขาเต็มๆ
( ริน… )
" ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรไหมครับ "
รินมองดูเธอ สาวสวยคนนี้แต่งตัวเรียบร้อย แต่ดูเหมือนจะรีบร้อน ผมยาวสีดำเข้มปลิวไปตามแรงลม ที่พัดมาจากทางประตูลิฟต์ ใบหน้าเล็กๆ ดวงตาโต ความน่ารักของเธอที่เห็นได้เด่นชัด
( … )
" ไม่เป็นอะไรค่ะ "
" ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ "
" ขอโทษด้วยนะคะ ที่ฉันเดินไม่ดูทางเลย "
( ริน… )
" อ่อ ไม่เป็นไรครับ "
" คราวหลังก็เดินระวังๆ ด้วยนะครับ "
( … )
" ค่ะ คราวหลังฉันจะระวังให้มากกว่านี้ "
จากนั้นเธอก็มายืนรอลิฟต์ ห่างจากรินเล็กน้อย สายตาของเธอยังคงจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือ เหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรบางอย่าง ที่เธอกำลังรออยู่
เมื่อลิฟต์มาถึง ทั้งคู่ต่างก็เข้าไป ความเงียบปกคลุมภายในห้องแคบๆ ได้ยินแค่เสียงแผ่วเบาของเครื่องจักรที่ทำงานอยู่ และเสียงหายใจของพวกเขาเท่านั้น
( ริน… )
" คุณจะขึ้นไปชั้นไหนหรอครับ เดี๋ยวผมกดให้ "
( … )
" ชั้น 5 ค่ะ ขอบคุณนะคะ "
( ริน… )
" ครับ ไม่เป็นไร "
รินมองผู้หญิงคนนั้น เธอดูเหมือนจะใจลอย มือยังคงกุมโทรศัพท์มือถือ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ โดยที่เธอไม่รู้สึกตัวเลยว่า รินกำลังมองเธออยู่
ไม่นานเสียงลิฟต์ได้ดังขึ้น ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดออกที่ชั้นสาม รินเดินออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของเธออีก
สายตาของรินก็เหลือบมองซ้ายมองขวา หาเพื่อนของเขาที่ได้มารอเขาอยู่ชั้นนี้ก่อนหน้าแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเพื่อนของเขา
ระหว่างที่รินกำลังมองหาเพื่อน ประตูลิฟต์ก็ค่อยๆ ปิดลง และเคลื่อนที่ขึ้นไปยังชั้นถัดไป
[ แชท ]
( ริน… )
" ถึงแล้วนะ นาโนแกอยู่ไหน "
( นาโน… )
" อยู่ที่โซนอาหาร กำลังเดินออกไปหา "
" รออยู่ตรงนั้นแหละ "
( ริน… )
" โอเค "
ไม่นาน รินก็ได้สังเกตเห็นนาโน ที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา พร้อมทั้งโบกมือให้ อยู่ไม่ไกล
( นาโน… )
" ริน ทางนี้ๆ เพื่อน "
" หิวข้าวจะแย่แล้ว ไปหาอะไรกินกัน "
( ริน… )
" แล้วทำไมไม่หาอะไรกินไปก่อน จะรอทำไม "
( นาโน… )
" ก็กินพร้อมมันอร่อยกว่านี่นา "
( ริน… )
" จริงๆเลยนะ แกน่ะ "
" งั้นนำทางไปเลย ฉันก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน "
( นาโน… )
" จัดไปเพื่อน "
" เขาว่ากันว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำเนื้อตุ๋นที่นี่ อร่อยมาก แถมสั่งเครื่องเคียงเพิ่มอีกได้ด้วยนะ "
( ริน… )
" น่าสนใจ งั้นกินอันนี้แหละ "
" งานก็ใกล้จะเริ่มแล้ว "
( นาโน… )
" โอเค "
ทั้งคู่ได้เดินฝ่ากลุ่มคนพลุกพล่านเข้าไปในโซนอาหาร เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้ว เสียงเพลงจากร้านค้าต่างๆ และกลิ่นหอมยั่วๆ จากร้านอาหารต่างๆ โอบล้อมพวกเขาไว้
หลังจากที่ทั้งคู่เดินกันมาสักพัก พวกเขาก็เจอเข้ากับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของโซนอาหาร ดูสะอาดตา มีโต๊ะและเก้าอี้เรียงราย
ควันร้อนๆ ลอยฟุ้งออกมาพร้อมกลิ่นหอมกรุ่นของเครื่องเทศและเนื้อตุ๋น ชวนให้น้ำลายสอ ลูกค้าบางส่วนนั่งรับประทานอยู่ บางส่วนก็กำลังนั่งรอ บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
รินกับนาโน ทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในร้าน เลือกที่จะนั่งโต๊ะบริเวณริมหน้าต่าง มองเห็นถึงวิวภายนอก ก่อนที่จะเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร
( นาโน… )
" ผมเอา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นพิเศษเพิ่มเอ็น หนึ่งที่ ครับ "
( ริน… )
" ผมเอาแบบเดียวกันกับเขาเลยครับ "
( … )
" โอเคค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ "
ระหว่างรอ ทั้งคู่ก็คุยกันเรื่องของงานเปิดตัวที่กำลังจะจัดขึ้นในวันนี้ และวางแผนกันเอาไว้ก่อน ว่าพวกเขาจะไปเดินดูอะไรบ้าง
( นาโน… )
" นี่ ริน ฉันได้ยินข่าวมาว่า Empire Fallen Ex ที่กำลังจะเปิดตัวครั้งนี้ ถูกพัฒนามาจาก Ex Fallen ที่แกเคยเล่นมาก่อนด้วยแหละ "
( ริน… )
" ฉันก็พอรู้มาบ้าง แต่ที่น่าสนใจคือระบบทั้งหมดของเกมส์นี้ถูกสร้างด้วย AI นี่แหละ "
" ระบบที่จะดำเนินการได้ในตัวของมันเอง และไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงระบบได้ "
" มันจะออกมาคุ้มค่ากับการรอคอยไหม นี่สิ "
( นาโน… )
" จะคุ้มค่ากับการรอไหม วันนี้พวกเราก็จะได้รู้กันแล้ว อีกแค่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง "
" แต่ฉันก็อิจฉาแกนะ ที่มีเคยเล่น Ex Fallen มาแล้ว แถมแกยังเป็นอดีตผู้เล่นแนวหน้าของเกมส์อีก ต่างจากฉันลิบลับ "
( ริน… )
" ก็ไม่แน่หรอก ระบบอาจจะเปลี่ยนใหม่หมดเลยก็ได้ เรายังแน่ใจไม่ได้ว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม อย่างมากก็แค่คล้ายแหละ "
" อีกอย่างฉันเลิกเล่นมานานมากแล้ว ฝีมือคงไม่เหมือนเมื่อก่อนหรอก "
( นาโน… )
" ได้ยินแบบนี้ก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย นึกว่าฉันจะมาสู้กับสัตว์ประหลาดอย่างแก "
( ริน… )
" แกก็โอเวอร์เกินไป เหนือฟ้ายังมีฟ้า "
( นาโน… )
" งั้น ถ้างานเริ่ม พวกเราไปลองเทสเล่นจริงกันเลยไหม ถือว่าเป็นการวอมก่อนเกมส์เปิดเซิร์ฟเวอร์ "
( ริน… )
" ดูเหมือนว่าจะมีคนเลือดร้อนแล้วนะ "
" เอาตามนั้นก็ได้ ฉันไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้ว "
( นาโน… )
" ตอนนี้ก็ไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอก ที่เลือดร้อน "
" แกว่างั้นไหม ริน "
( ริน… )
" ไม่รู้ๆ "