เก้าพันปีที่แล้ว...
'นางเป็นกระดูกไปแล้ว เหลือเพียงซากกระดูก... ฮ่า ๆ'
เสียงแหลมเล็กของนางมารหัวเราะเหยียดหยันฝ่าไอหยิน ปีศาจอสรพิษลอยไปมาผ่านไอวิญญาณสีดำสนิทนับล้านตนในหุบเหว
แท้จริงแล้วเป็นแผนการของเผ่าปีศาจ ตั้งใจมาแย่งชิงหินศิลาซึ่งซุกซ่อนอยู่ในสำนักเซียวเหยา จึงเฝ้ารอการตัดสินโทษของอาจารย์ยินเฟิง เพื่อขจัดเสี้ยนหนามตัวฉกาจให้พ้นทางไปเสียก่อน ค่อยกลับมานำของสำคัญในภายหลังเมื่อไม่มีผู้ขัดขวาง
แผนการชั่วร้ายของปีศาจไม่อาจสำเร็จลุล่วง เมื่อไป๋เหม่ยหลานทรยศสำนักเซียวเหยาด้วยคำสารภาพของนาง ทำให้ท่านอาจารย์เป็นผู้บริสุทธิ์ รอดพ้นทุกข้อกล่าวหา
หากไป๋เหม่ยหลานไม่ยอมรับผิดเพียงฝ่ายเดียว เหล่าเซียนอาวุโสขอให้มีการไต่สวนความจริง นางและอาจารย์ยินเฟิงจะถูกขังในห้องใต้ดินเป็นอันดับแรก
ด้วยร่างกายของยินเฟิงซึ่งถูกพิษเหมันต์ ตอนรับหน้าที่จากผู้อาวุโส ให้ไปนำของวิเศษจากปีศาจราตรีกลับคืนเทวโลก นับว่าหนักหนาสาหัสในสถานที่คุมขัง เขาจำเป็นต้องอยู่ใกล้เตาไฟ ขจัดลมปราณเย็นออกจากร่างกายทุกเช้าค่า เมื่อใดไร้ความอบอุ่น เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานสาหัส ความหนาวเย็นกัดกินผิวกาย แม้ในกระแสโลหิตก็เต็มไปด้วยละอองเหมันต์
ไป๋เหม่ยหลาประกาศตนว่านางคิดกับท่านอาจารย์เกินศิษย์ มิได้มีปีศาจบุกรุกเข้ามาแต่อย่างใด นางวางแผนทุกอย่างและลงมือด้วยตัวของนางเอง
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นไม่นาน สมบัติสำคัญได้ถูกสลับเปลี่ยนเป็นของลอกเลียน ปีศาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยเท่ากับอาจารย์ยินเฟิงผู้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังวันตัดสินโทษไป๋เหม่ยหลาน ไม่มีผู้ใดพบเห็นอาจารย์ยินเฟิง
จะมีได้อย่างไร?
ยินเฟิงจะไปที่ไหนไกล
ร่างผ่ายผอมในอาภรณ์ขาดวิ่น ชุดขาวสะอาดบัดนี้เปรอะเปื้อนดิน โลหิตและเศษเนื้อ แก้มซูบตอบ เบ้าตากลวงลึก สภาพใกล้เคียงโครงกระดูกในอ้อมแขน ความเข้มแข็งของร่างกายค่อย ๆ หายไปเมื่ออยู่ในสถานที่รกร้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายอาฆาตแค้นของปีศาจนับล้านตนนานยิ่งขึ้น
ลำแสงสีนิลสนิทคอยกัดกินเนื้อหนังซึ่งสามารถฟื้นฟูได้แม้บาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยตบะที่บำเพ็ญเพียรมาเนิ่นนานนับแสนปีเทวโลก
เซียนระดับปรมาจารย์อาจรอดพ้นจากหุบเหวมารหรือไม่ แม้กระทั่งตัวของเขาเอง มิอาจล่วงรู้ชะตา
ยินเฟิงจำต้องเลือกสักทางหนึ่ง ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจเมื่อมองเห็นบุรุษเทพผู้หนึ่งฝ่าฝูงปีศาจลงมาครึ่งหุบเหว แต่ไม่อาจลงมาลึกกว่า อี้เจ๋อกลับกลายเป็นเทพปักษา ในร่างนกนางนวลพยายามอ้าปากร้องขอบางสิ่ง
'ดวงวิญญาณของไป๋เหม่ยหลาน!'
การสกัดวิญญาณสักดวงให้ออกจากร่างทิพย์ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แถมจากร่างโครงกระดูกยิ่งเป็นไปได้ยาก ยินเฟิงอยู่ในหุบเหวแห่งมารร้ายมาเนิ่นนาน พละกำลังถดถอยไปมาก ร่างผ่ายผอมสั่นสะท้านด้วยความหนาวจากพิษบาดแผลเดิม ทั่วทั้งใบหน้าหล่อเหลารู้สึกเพียงความหนาวเย็นของเหมันต์
อะไรทำให้เขายืนหยัดอยู่ได้ หากมิใช่เยื่อใยที่มีต่อนาง
กระทั่งน้ำเสียงแหบพร่าอ่อนโยนพร่ำเรียกหานาง วนเวียนอยู่เช่นนั้น "ไป่ไป๋..."
"ไป๋เหม่ยหลาน"
"ภรรยา"
นึกถึงตอนที่ลั่นวาจาว่านางมิใช่ศิษย์อีกต่อไป เขาไม่ได้โกหกนาง
ไป๋เหม่ยหลานมิได้เป็นเพียงศิษย์คนโปรด เขาไม่เคยมองนางเป็นศิษย์แม้สักครั้งหนึ่ง
แม้นนัยน์ตาคู่สวยเศร้าหมอง มองกลับมาอย่างตัดพ้อต่อว่าเขาใจร้ายกับนางนัก เขาสมควรตบปากตัวเอง รึจะตายตามนางไป สิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ค่าไร้ความหมาย
'ท่านอาจารย์ ได้โปรดเร่งมือ ผู้อาวุโสสำนักเซียวเหยากำลังมา พวกเขารู้เรื่องท่านแล้ว'
ไป๋เหม่ยหลานไม่อาจรอดพ้นจากหุบเหว นางอาจไม่เหลือแม้ดวงวิญญาณด้วยซ้ำ ทว่าเหล่าเซียนสำนักเซียวเหยาล่วงรู้ว่าเขาพยายามสกัดดวงวิญญาณของนางจากร่างโครงกระดูกได้อย่างไร ไม่ใช่เวลามาถกเถียง
ยินเฟิงสกัดวิญญาณสีขาวสะอาดได้ในที่สุด ท่ามกลางปีศาจผู้หิวโหย กัดกินได้ทุกสิ่งแม้กระทั่งไอหยางสีขาวบริสุทธิ์ มันพร้อมทำลายจนไม่เหลือซาก
ครู่นั้นดวงวิญญาณสีขาวสะอาดลอยไปถึงมือเทพปักษา ก่อนที่เหล่าเซียนจะมาถึง อี้เจ๋อใช้จะงอยปากคาบลูกแก้ว โผปีกบินไปจากหุบเหวร้าง
'หนึ่งเกล็ดอสรพิษ ข้าแบ่งให้... แลกกับชีวิตท่านดีไหม? ท่านอาจารย์'
ยินเฟิงรับข้อเสนอปีศาจอสรพิษ ในวันที่ลมหายใจรวยรินกอดร่างโครงกระดูกในอ้อมแขน ริมฝีปากกลบด้วยโลหิตเฝ้าเรียกหานาง ไป่ไป๋...
ร่างบาดเจ็บสาหัสอยู่ในหุบเหวมาร มองไม่เห็นเป็นบุรุษเทพอีกต่อไป
เมื่อเขารอดพ้นจากความตาย จำต้องรักษาสัญญา กลับมาสำนักเหยียนเก๋อ เก็บตัวเงียบเชียบบนหุบเขาลึกลับ ที่พำนักอาศัยของเหล่าศิษย์ปีศาจ
"คารวะท่านอาจารย์" สตรีร่างบอบบางในอาภรณ์สีนิลก้มศีรษะทำความเคารพ เหลือบตามองบุรุษร่างกำยำ อาภรณ์งดงามนั้นถักทอด้วยด้ายทองคำราวผู้สูงศักดิ์บนเมืองมนุษย์ ทว่านัยน์ตาสีชาดและน้ำเสียงก้าวร้าวต่อว่า
"เจ้ามาช้าไป..."
"ขออภัยที่ให้ท่านต้องรอ ท่านอาจารย์ พวกข้าพบบุรุษเทพแปลกหน้าระหว่างการเดินทาง เขาผู้นั้นมีฝีมือร้ายกาจมาก"
"ของที่ข้าให้ไป ใช้ไม่ได้หรือ?"
"ไม่ได้ผลดีนัก..."
งานอดิเรกของยินเฟิงคือการเสกสร้างสรรพาวุธ เขาสามารถทำได้แม้การผสมยาพิษใส่ไว้ในลูกแก้วเล็กกลมเพื่อใช้จัดการกับเทพที่ชอบเข้ามาขวางทาง
ใช่แล้ว... เทพ... เซียนผู้บำเพ็ญตนช่างลวงโลก โสมม คลั่งระเบียบวินัย พวกนั้นทำร้ายไป๋เหม่ยหลาน เท่ากับเป็นศัตรูของยินเฟิง!