Chapter 5 - 3-1 เยื่อใย 牵连

เก้าพันปีที่แล้ว...

'นางเป็นกระดูกไปแล้ว เหลือเพียงซากกระดูก... ฮ่า ๆ'

เสียงแหลมเล็กของนางมารหัวเราะเหยียดหยันฝ่าไอหยิน ปีศาจอสรพิษลอยไปมาผ่านไอวิญญาณสีดำสนิทนับล้านตนในหุบเหว

แท้จริงแล้วเป็นแผนการของเผ่าปีศาจ ตั้งใจมาแย่งชิงหินศิลาซึ่งซุกซ่อนอยู่ในสำนักเซียวเหยา จึงเฝ้ารอการตัดสินโทษของอาจารย์ยินเฟิง เพื่อขจัดเสี้ยนหนามตัวฉกาจให้พ้นทางไปเสียก่อน ค่อยกลับมานำของสำคัญในภายหลังเมื่อไม่มีผู้ขัดขวาง

แผนการชั่วร้ายของปีศาจไม่อาจสำเร็จลุล่วง เมื่อไป๋เหม่ยหลานทรยศสำนักเซียวเหยาด้วยคำสารภาพของนาง ทำให้ท่านอาจารย์เป็นผู้บริสุทธิ์ รอดพ้นทุกข้อกล่าวหา

หากไป๋เหม่ยหลานไม่ยอมรับผิดเพียงฝ่ายเดียว เหล่าเซียนอาวุโสขอให้มีการไต่สวนความจริง นางและอาจารย์ยินเฟิงจะถูกขังในห้องใต้ดินเป็นอันดับแรก

ด้วยร่างกายของยินเฟิงซึ่งถูกพิษเหมันต์ ตอนรับหน้าที่จากผู้อาวุโส ให้ไปนำของวิเศษจากปีศาจราตรีกลับคืนเทวโลก นับว่าหนักหนาสาหัสในสถานที่คุมขัง เขาจำเป็นต้องอยู่ใกล้เตาไฟ ขจัดลมปราณเย็นออกจากร่างกายทุกเช้าค่า เมื่อใดไร้ความอบอุ่น เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานสาหัส ความหนาวเย็นกัดกินผิวกาย แม้ในกระแสโลหิตก็เต็มไปด้วยละอองเหมันต์

ไป๋เหม่ยหลาประกาศตนว่านางคิดกับท่านอาจารย์เกินศิษย์ มิได้มีปีศาจบุกรุกเข้ามาแต่อย่างใด นางวางแผนทุกอย่างและลงมือด้วยตัวของนางเอง

ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นไม่นาน สมบัติสำคัญได้ถูกสลับเปลี่ยนเป็นของลอกเลียน ปีศาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยเท่ากับอาจารย์ยินเฟิงผู้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังวันตัดสินโทษไป๋เหม่ยหลาน ไม่มีผู้ใดพบเห็นอาจารย์ยินเฟิง

จะมีได้อย่างไร?

ยินเฟิงจะไปที่ไหนไกล

ร่างผ่ายผอมในอาภรณ์ขาดวิ่น ชุดขาวสะอาดบัดนี้เปรอะเปื้อนดิน โลหิตและเศษเนื้อ แก้มซูบตอบ เบ้าตากลวงลึก สภาพใกล้เคียงโครงกระดูกในอ้อมแขน ความเข้มแข็งของร่างกายค่อย ๆ หายไปเมื่ออยู่ในสถานที่รกร้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายอาฆาตแค้นของปีศาจนับล้านตนนานยิ่งขึ้น

ลำแสงสีนิลสนิทคอยกัดกินเนื้อหนังซึ่งสามารถฟื้นฟูได้แม้บาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยตบะที่บำเพ็ญเพียรมาเนิ่นนานนับแสนปีเทวโลก

เซียนระดับปรมาจารย์อาจรอดพ้นจากหุบเหวมารหรือไม่ แม้กระทั่งตัวของเขาเอง มิอาจล่วงรู้ชะตา

ยินเฟิงจำต้องเลือกสักทางหนึ่ง ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจเมื่อมองเห็นบุรุษเทพผู้หนึ่งฝ่าฝูงปีศาจลงมาครึ่งหุบเหว แต่ไม่อาจลงมาลึกกว่า อี้เจ๋อกลับกลายเป็นเทพปักษา ในร่างนกนางนวลพยายามอ้าปากร้องขอบางสิ่ง

'ดวงวิญญาณของไป๋เหม่ยหลาน!'

การสกัดวิญญาณสักดวงให้ออกจากร่างทิพย์ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แถมจากร่างโครงกระดูกยิ่งเป็นไปได้ยาก ยินเฟิงอยู่ในหุบเหวแห่งมารร้ายมาเนิ่นนาน พละกำลังถดถอยไปมาก ร่างผ่ายผอมสั่นสะท้านด้วยความหนาวจากพิษบาดแผลเดิม ทั่วทั้งใบหน้าหล่อเหลารู้สึกเพียงความหนาวเย็นของเหมันต์

อะไรทำให้เขายืนหยัดอยู่ได้ หากมิใช่เยื่อใยที่มีต่อนาง

กระทั่งน้ำเสียงแหบพร่าอ่อนโยนพร่ำเรียกหานาง วนเวียนอยู่เช่นนั้น "ไป่ไป๋..."

"ไป๋เหม่ยหลาน"

"ภรรยา"

นึกถึงตอนที่ลั่นวาจาว่านางมิใช่ศิษย์อีกต่อไป เขาไม่ได้โกหกนาง

ไป๋เหม่ยหลานมิได้เป็นเพียงศิษย์คนโปรด เขาไม่เคยมองนางเป็นศิษย์แม้สักครั้งหนึ่ง

แม้นนัยน์ตาคู่สวยเศร้าหมอง มองกลับมาอย่างตัดพ้อต่อว่าเขาใจร้ายกับนางนัก เขาสมควรตบปากตัวเอง รึจะตายตามนางไป สิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ค่าไร้ความหมาย

'ท่านอาจารย์ ได้โปรดเร่งมือ ผู้อาวุโสสำนักเซียวเหยากำลังมา พวกเขารู้เรื่องท่านแล้ว'

ไป๋เหม่ยหลานไม่อาจรอดพ้นจากหุบเหว นางอาจไม่เหลือแม้ดวงวิญญาณด้วยซ้ำ ทว่าเหล่าเซียนสำนักเซียวเหยาล่วงรู้ว่าเขาพยายามสกัดดวงวิญญาณของนางจากร่างโครงกระดูกได้อย่างไร ไม่ใช่เวลามาถกเถียง

ยินเฟิงสกัดวิญญาณสีขาวสะอาดได้ในที่สุด ท่ามกลางปีศาจผู้หิวโหย กัดกินได้ทุกสิ่งแม้กระทั่งไอหยางสีขาวบริสุทธิ์ มันพร้อมทำลายจนไม่เหลือซาก

ครู่นั้นดวงวิญญาณสีขาวสะอาดลอยไปถึงมือเทพปักษา ก่อนที่เหล่าเซียนจะมาถึง อี้เจ๋อใช้จะงอยปากคาบลูกแก้ว โผปีกบินไปจากหุบเหวร้าง

 

'หนึ่งเกล็ดอสรพิษ ข้าแบ่งให้... แลกกับชีวิตท่านดีไหม? ท่านอาจารย์'

ยินเฟิงรับข้อเสนอปีศาจอสรพิษ ในวันที่ลมหายใจรวยรินกอดร่างโครงกระดูกในอ้อมแขน ริมฝีปากกลบด้วยโลหิตเฝ้าเรียกหานาง ไป่ไป๋...

ร่างบาดเจ็บสาหัสอยู่ในหุบเหวมาร มองไม่เห็นเป็นบุรุษเทพอีกต่อไป

เมื่อเขารอดพ้นจากความตาย จำต้องรักษาสัญญา กลับมาสำนักเหยียนเก๋อ เก็บตัวเงียบเชียบบนหุบเขาลึกลับ ที่พำนักอาศัยของเหล่าศิษย์ปีศาจ

"คารวะท่านอาจารย์" สตรีร่างบอบบางในอาภรณ์สีนิลก้มศีรษะทำความเคารพ เหลือบตามองบุรุษร่างกำยำ อาภรณ์งดงามนั้นถักทอด้วยด้ายทองคำราวผู้สูงศักดิ์บนเมืองมนุษย์ ทว่านัยน์ตาสีชาดและน้ำเสียงก้าวร้าวต่อว่า

"เจ้ามาช้าไป..."

"ขออภัยที่ให้ท่านต้องรอ ท่านอาจารย์ พวกข้าพบบุรุษเทพแปลกหน้าระหว่างการเดินทาง เขาผู้นั้นมีฝีมือร้ายกาจมาก"

"ของที่ข้าให้ไป ใช้ไม่ได้หรือ?"

"ไม่ได้ผลดีนัก..."

งานอดิเรกของยินเฟิงคือการเสกสร้างสรรพาวุธ เขาสามารถทำได้แม้การผสมยาพิษใส่ไว้ในลูกแก้วเล็กกลมเพื่อใช้จัดการกับเทพที่ชอบเข้ามาขวางทาง

ใช่แล้ว... เทพ... เซียนผู้บำเพ็ญตนช่างลวงโลก โสมม คลั่งระเบียบวินัย พวกนั้นทำร้ายไป๋เหม่ยหลาน เท่ากับเป็นศัตรูของยินเฟิง!