1เดือนต่อมา
มังกรขาวเวลเทียร์อาศัยที่ภูเขาสูงกลางผืนป่าใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยสัตว์ร้ายอันตรายนานาชนิด มากไปด้วยกับดักจากพืชพรรณที่หากพลาดแม้สักนิดชีวิตอาจกุดไม่รู้ตัว
เวลเทียร์มีอายุมาเป็นร้อยปีและเธอโสด ไม่เคยมีคู่ครองและถือพรหมจรรย์มาโดยตลอด เธอชอบบินออกไปปล้นชิงของมีค่าที่ระยิบระยับอย่างทองคำ ไข่มุก หรือสิ่งของสวยงามอย่างผ้าไหม เครื่องเรือนของชนชั้นสูง หากหามาไม่ครบตามที่กำหนดเมืองแห่งนั้นจะถูกเผาจนวอดวาย
มีเมืองห้าแห่งที่ตกเป็นเหยื่อโดยเฉพาะเมืองท่าที่แทนจะกลายเป็นจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ กลับต้องพังไม่เป็นท่าจากการกรรโชกของมังกรขาวเวลเดียร์ อาณาจักรและชาวเมืองสูญเสียมูลค่าทางทรัพย์สินไปมากในครั้งนี้ จึงได้มีการระดมเงินเป็นค่าหัวจำนวนมหาศาล แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครพิชิตได้
เพราะนอกจากผืนป่าที่อันตรายแล้ว เวลเทียร์ยังอาศัยในถ้ำที่ภูเขาสีขาว มีไวเวิร์นนับสิบคอยเฝ้าทางขึ้น มีม่านพลังอันแข็งแกร่งที่ไม่เคยถูกทำลายมาร่วมร้อยปี ไหนจะกับดักทำลายล้างที่จะทำงานเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามา มีน้อยคนนักที่จะเข้ามาหาเวลเทียร์ได้ถึงที่หมาย แต่ต่อให้มาถึง ก็ถูกนางขย้ำจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ อยู่ดี
แต่ว่า เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
โครม!!!
เสียงดังที่คล้ายกับมีบางสิ่งดังมลายสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ชนิดอยู่ห่างจากจุดเกิดเสียงสักสิบกิโลเมตรก็ยังคงได้ยินชัดเจน ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอย่างมังกร เวลเทียร์กระดิกหูก่อนจะลืมตาตื่นจากห้วงนิทราภายในห้องแห่งหนึ่ง เธอลงจากเตียงและรีบวิ่งออกไปดูที่ทางเข้าถ้ำก็ต้องพบกับเรื่องน่าเหลือเชื่อ
บุรุษสวมเกราะเหล็กทั่วทั้งตัวปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีเขียวถือดาบขนาดใหญ่พอดีมือ เดินเข้ามาภายในถ้ำของเธอพร้อมสะพายกระเป๋าใบโต ซึ่งพื้นหลังคือป่าที่ลุกทั่วไปด้วยทะเลเพลิงอันร้อนระอุ
"มังกรขาวเวลเทียร์ใช่ไหม" เสียงของชายหนุ่มที่แสนรื่นหูดังออกมาจากร่างชายสวมเกราะ
คนตรงหน้าเป็นหญิงสาวผมสีขาวยาวถึงสะโพก สวมชุดผ้าไหมสุดหรูสีดำลายผีเสื้อดูมากราคา รูปร่างมีเสน่ห์เย้ายวนดึงดูดสายตาเพศบุรุษทุกคน โดยเฉพาะส่วนของเนินอกที่ใหญ่โตขาวที่เห็นผ่านหน้าไหมบางๆ กับใบหน้างดงามราวนางในฝัน
สิ่งที่ผิดแปลกจากหญิงสาวทั่วไปคือเขาสีดำที่ประดับงอกระหว่างหน้าบากบนศีรษะ มันมีขนาดใหญ่และน่าเกรงขาม สัมผัสได้ถึงพลังงานที่เอ่อล้นได้อย่างไม่ยากเย็น
"เจ้าบังอาจบุกรุกเข้ามาในบ้านของช้างั้นรึ มนุษย์" เวลเทียร์หรี่สายตาสีเงินลงมองด้วยความไม่สบอารมณ์
"ใช่ ข้าแรนดอน ไวทีเรียท์ ตัวแทนจากอาณาจักรมาขอกำจัดมังกรขาวเวลเทียร์ ด้วยข้อหาทำลายบ้านเมืองสิบเอ็ดครั้ง เผาผืนป่าสามสิบเจ็ดครั้ง ฆ่าชีวิตประชาชนสองพันเจ็ดร้อยสี่สิบสองคน รวมมูลค่าความเสียหายหนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าล้านเหรียญทอง เป็นภัยต่ออาณาจักรอย่างใหญ่หลวง"
"หึ ไร้สาระ" เวลเทียร์พ่นลมผ่านจมูกด้วยท่าทีไม่หยี่ระ
"ทางอาณาจักรได้ยื่นทางเลือกให้สองทาง ระหว่างตายกับ-"
"ขี้เกียจฟังจนเบื่อแล้ว" เวลเทียร์เอ่ยพลันมือเปล่งแสงขึ้น ก่อนจะเกิดระเบิดดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ ฝุ่นควันตลบอบอวลเต็มไปหมดด้วยคลื่นความร้อน พบว่าตรงหน้าไม่เหลือร่างของชายสวมเกราะอีกต่อไปเธอพลันหัวเราะเยาะเย้ย
"เป็นมนุษย์ริอาจมาทำตัวเหนือมังกร ไม่เจียมเนื้อเจียมตัวเอาเสียเลย"
"มังกรต่างหากที่ริอาจอย่ามาอวดเกินหน้าเกินตามนุษย์" เสียงของชายหนุ่มคนเดิมเอ่ยขึ้นที่ด้านหลังของเธอ เวลเทียร์เบิกตาโพลตกใจก่อนที่จะได้ทำอะไร มือสวมเกราะพลันจับที่หน้าอกของเธอจากด้านหลัง
"เป็นมังกรที่แปรงร่างเป็นมนุษย์ได้ลามกจริงๆ พอจะบอกเหตุผลให้ข้าฟังได้ไหมว่าเพราะอะไร"
"เจ้ามนุษย์โสโครก!" เวลเทียร์หน้าแดงก่ำตะโกนด่าแรนดอนเสียงดัง หมุนตัวถีบชายหนุ่มกระเด็นไปหลายเมตร
"บังอาจล่วงเกินข้างั้นรึ จงกลายเป็นเท้าธุลีซะเถอะ!" เวลเทียร์ตะโกนด่าทอออกมา ยกมือเสกบอลแสงนับร้อยลูกขึ้นที่กลางอากาศ มันถูกอัดด้วยพลังงานสีขาวจำนวนมหาศาลและพร้อมจะระเบิดทำลายสรระสิ่งตรงหน้า
"ตายซะ!" เวลเทียร์ออกคำสั่งพลันนั้นเอง บอลแสงนับร้อยก็พุ่งแหวกอากาศตามแรนดอนไป เกิดเสียงระเบิดและแสงกระพริบต่อเนื่องราวดอกไม้ไฟในยามเทศกาล ไม่มีทางที่มนุษย์ธรรมดาจะมีชีวิตรอดไปได้โดยเด็ดขาด
"นี่คือโทษที่บังอาจดูหมิ่นเรา เจ้ามนุษย์"
"อะไรกัน รับความจริงไม่ได้งั้นรึ"
"!" เมื่อเสียงเดิมดังขึ้นเวลเทียร์ตกใจสุดขีด เมื่อฝุ่นควันจางลงอีกคราวพบร่างสวมเกราะยืนด้วยท่าทีไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บใดๆ พร้อมก้าวเข้ามาหาเธออย่างน่าเกรงขาม สร้างความฉงนใจให้แม่สาวมังกรขาวอย่างมาก
"ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย!"
"ข้าเตรียมตัวมาดี เกราะของข้าถูกสร้างด้วยเกล็ดของมังกรแสงกับชั้นผิวหนังของมังกรความมืด ทำให้มีความคงทนต่อการโจมตีธาตุแสงอย่างมาก ถึงจะถูกสร้างจากมังกรชั้นต่ำแต่ก็ใช้ได้ไม่เลว"
"โกหก! แค่นั้นช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่แน่ ถึงจะมีเกราะแต่เจ้าก็ต้องได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ทำไมมนุษย์ถึงต้านทานการโจมตีของมังกรได้ บอกข้ามาซะ" เวลเทียร์ชี้นิ้วพูดก่อนที่ร่างของแรนดอนจะหายวับมาอยู่ตรงหน้าเธอ เขาจับดาบแน่นเตรียมฟันเข้าที่ร่างของมังกรสาว
"ดาบกระจอกทำอะไรผิวหนังของมังกรไม่ได้หรอก"
"ก็ไม่แน่" แรนดอนตอบด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ พริบตาที่เขาเหวี่ยงดาบเข้าใส่เวลเทียร์พลันยกแขนขึ้นมากัน ทว่า คมดาบแม้ตัดแขนไม่ขาดแต่พลันทำให้เกิดบาดแผลจนเลือดไหลชโลมออกมา พร้อมส่งร่างอันเย้ายวนกระเด็นไปกระแทกเข้าที่เพดานถ้ำเข้าอย่างแรง
ร่างของมังกรสาวร่วงหล่นลงมาเกิดเสียงดังตุบพร้อมกับหินย้อยบนเพดานที่ตกลงมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"ทำไม..ไม่น่ามีดาบที่สร้างบาดแผลให้มังกรได้นี่" ในหัวเวลเทียร์เต็มไปด้วยคำถาม พอมองไปยังชายสวมเกราะก็พลันเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นทีละน้อย ไม่เคยมีศัตรูหน้าไหนที่สร้างอันตรายให้เธอมากขนาดนี้มาก่อนในหกสิบปีมานี้
"ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เวลเทียร์" แรนดอนเอ่ยตอบ ก่อนที่ดวงตาสีแดงภายใต้หมวกเกราะจะส่องแสง เขายกดาบขึ้นมาให้มังกรสาวได้เพ่งพินิจให้ชัดๆ ก่อนเธอจะสัมผัสอะไรได้บางอย่างจึงเบิกตาขึ้นกว้าง
"หรือว่า!"
"มันถูกสร้างจากเขาของมังกรดำเมื่อพันปีก่อน โดยฝีมือของช่างตีเหล็กเผ่าคนแคระถึงหนึ่งร้อยคน ด้วยเพลิงของมังกรเพลิงชั้นต่ำตัวเต็มวัยสี่ตัว ใช้เวลา666วันจึงสำเร็จ ใช่..มันคือดาบที่มีไว้เพื่อสังหารมังกรโดยเฉพาะ"
"ไม่มีทาง! เขาของมังกรดำมีน้ำหนักเยอะมาก ไม่มีทางที่มนุษย์ธรรมดาจะถือไหว"
"เพราะข้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดายังไงล่ะ" แรนดอนเอ่ยก่อนจะปลดปล่อยพลังสีดำจำนวนมหาศาลออกมาจากร่าง มันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเป็นเงาขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายมังกรขนาดยักษ์ ดวงตาสีแดงของเงาจดจ้องมาที่เวลเทียร์ส่งผลให้เธอตัวสั่นสะท้าน
"นี่มันมังกรดำ นี่เจ้า..หรือว่า"
"ใช่" แรนดอนตอบในทันที
"เมื่อพันปีก่อนมนุษยชาติได้กำจัดมังกรตนแรกที่เข้าทำลายเมืองหลวงได้สำเร็จ ชื่อของวีรบุรุษคนนั้นคือคอนเน็ค เขาเป็นบรรพบุรุษของข้าและมังกรตนนั้นคือมังกรดำ เขาได้ถวายร่างของมันให้ราชวงศ์ไปจัดการ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาได้แอบเก็บอะไรเอาไว้บ้าง"
"....."
"เขาของมังกรดำหนึ่งข้าง เลือดสิบลิตร เกล็ดเก้าสิบเก้าชิ้น ผงกระดูกหนึ่งกิโลกรัม"
"นี่เจ้า!"
"ใช่ เขานั่นถูกนำมาทำเป็นดาบ เลือดและผงกระดูกถูกนำมาทำเป็นยา เกล็ดถูกนำมาทำเป็นส่วนประกอบของชุดเกราะ ข้าได้ดื่มยานั่นเข้าไปและได้รับพละกำลังมหาศาลเทียบเคียงมังกร มีอาวุธที่มีไว้ใช้สังหารมังกร และมีชุดเกราะที่ต้านทานการโจมตีของมังกร" แรนดอนกล่าวก่อนจะเริ่มตั้งท่าโจมตี เวลเทียร์เห็นท่าไม่ดีรีบหันกายหนีออกไปจากถ้ำโดยเร็วที่สุด แต่ก็เหมือนจะช้าไป
"ข้านี่แหละ Dragon Slayer"
บูม!
แรนดอนกระทืบเท้าหนึ่งทีก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าหามังกรสาวจนเกิดเสียงแหวกอากาศ ดาบใหญ่เหวี่ยงเข้ากลางหลังของเธอแบบปราศจากความลังเล เวลเทียร์ตกตะลึงให้แก่ความรวดเร็วนิ้แต่ในวินาทีสุดท้าย เธอเปลี่ยนร่างกายส่วนหลังคืนสู่สภาพเดิม
คมดาบใหญ่ฟันเข้าที่หลังที่เต็มไปด้วยเกล็ดแข็งและหนาสีขาวบริสุทธิ์ แต่แม้จะแข็งสักเท่าใดก็มิอาจต้านทานพลังของดาบสังหารมังกรได้ เกิดเป็นแผลฉกรรจ์ เต็มกลางหลังที่มีเลือดไหลออกมาเป็นสาย
ใบหน้าอันงดงามของเวลเทียร์บูดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดและขมขื่น ร่างกายอันไร้เทียมทานที่มั่นอกมั่นใจถูกมนุษย์ตัวจ้อยที่ตนดูแคลนและเหยียดหยามมาตลอดนับร้อยปีสร้างมลทินเอาไว้ นางกัดฟันข่มความเจ็บปวดกระพือปีกบินหนีออกจากถ้ำให้โดยเร็วที่สุด ขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตามมาได้ในทันที
เมื่อออกมาได้ก็เห็นทะเลเพลิงชัดเจนขึ้น เธอเบิกตากว้างด้วยความโทสะก่อนจะใช้พลังเวทในตัวเสกฝนพายุออกมาดับไฟให้มอดในไม่กี่อึดใจ แต่แม้อัคคีจะหายไปแล้วก็เหลือเพียงซากตะกอของพืชและสัตว์สีดำน่าเวทนาเท่านั้น
"เจ็บปวดงั้นเหรอ" เสียงของแรนดอนเอ่ยขึ้น กระตุกต่อมเกรี้ยวกราดของมังกรสาวได้เป็นอย่างดี
"ตามข้อมูลได้กล่าวเอาไว้ว่าเวลเทียร์เป็นมังกรที่รักอาณาเขตมาก ผืนป่าแห่งนี้ก็เป็นอาณาเขตที่ว่าด้วย"
"ทำไมเจ้าถึงต้องทำลายป่าของข้า!!!!" เสียงของมังกรสาวดังสนั่นราวเสียงของฟ้าผ่า หากเป็นคนทั่วไปจิตของหลุดสลายไม่ต่างจากร่างไร้วิญญาณไปแล้ว แต่แรนดอนกลับไม่สะทกสะท้านพร้อมมองผ่านหมวกเกราะด้วยสายตาสีแดงพร้อมกล่าวว่า
"แล้วทำไมพวกมังกรถึงได้เผาป่าของพวกเรา" แรนดอนเอ่ยพลางก้าวเท้าออกมา
"ทำไมมังกรจึงได้ทำลายบ้านเมืองของพวกเรา" ดาบยกขึ้นพาดหัวไหล่พลางยกตัวลงเล็กน้อย
"ในเมื่อมังกรพรากสิ่งที่พวกเรามี พวกเราเองก็จะพรากสิ่งที่มังกรมีเช่นกัน! นั่นคือกฎความเท่าเทียม" ร่างของแรนดอนพุ่งขึ้นสูงเข้าหาเวลเทียร์อย่างรวดเร็วอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอกลับยิ้มไม่กังวลเลยสักนิด
'เจ้าโง่ ข้าแค่หลบซะก็สิ้นเรื่อง' เวลเทียร์คิด วินาทีก่อนที่แรนดอนจะเข้ามาไม่กี่เมตร เธอกระพือปีกอย่างแรงหลบในเสี้ยววิส่งผลให้ร่างของชายสวมเกราะหลุดผ่านไป
ซะเมื่อไหร่..
ควับ!
ร่างของแรนดอนเลี้ยวหลังกลางอากาศเข้าฟันใส่ของเวลเทียร์อย่างผิดปกติ มังกรสาวทำหน้าเหวอสุดขีดก่อนจะกุมบาดแผลที่แขนด้วยความเจ็บปวดสุดจะทานทน
บาดแผลร้ายแรงถูกสร้างขึ้นไล่เลี่ยกันถึงสามจุด และที่สำคัญ มนุษย์นั่นทำได้เยี่ยงไรกัน!
สายตาสีเงินสบเข้ากับผ้าคลุมสีเขียวอ่อนที่ติดอยู่ด้านหลัง มันกระพือต้านทานแรงโต้ถ่วงแบบผิดปกติ และนั่นน่าจะเป็นสาเหตุของความสามารถอันน่าสะพรึงของแรนดอน
"ผ้าคลุมของข้าถูกทำจากปีกของมังกรลมตัวเต็มวัยหนึ่งตัว ข้าจึงสามารถเหาะเหินบนอากาศได้เช่นกัน"
"นี่เจ้า..ฆ่ามังกรไปเท่าไหร่แล้ว"
"พวกชั้นต่ำไม่เคยนับ แต่พวกชั้นสูงยังไม่เคยเลย"
"ว่าไงนะ?"
"มังกรชั้นสูงยังไม่เคยล่าสักครั้ง เจ้าเป็นตัวแรก"
"หึ! อย่าหวัง" เวลเทียร์โต้ตอบ เธอเสกลูกบอลสายฟ้าขนาดใหญ่ขึ้นมากมายก่อนจะถ่ายเทพลังเหล่านั้นลงที่ฝ่ามือ ไฟฟ้าพลังงานสูงถูกบีบอัดและเริ่มปะทุขึ้น
"ลองนี่หน่อยเป็นไง!" เวลเทียร์ตะโกนพร้อมปล่อยออกไป ลำแสงสายฟ้าพลังงานสูงที่สามารถมอดไหม้สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ให้เป็นขี้เถ้าได้กำลังพุ่งใส่ร่างของแรนดอน เขาไม่หยี่ระแตกตื่นคว้าเอาโล่แขนที่ซ่อนในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ออกมา
"เปล่าประโยชน์" แรนดอนยกโล่แขนขึ้นกระแทกใส่ลำแสง เมื่อพวกมันกระทบกันพลังงานสายฟ้าจำนวนมากพลันแตกตัวออกและดูดซับเข้าไปยังในร่างกายของเขาในทันที เปลี่ยนจากพลังงานที่จะทำร้ายร่างกายกลายเป็นพลังงานที่ใช้ฟื้นฟู ร่างของดราก้อนสเลเยอร์จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยอณูพลังที่เหลือเชื่อ
"เป็นไปไม่ได้!!" เวลเทียร์หัวเสียอย่างมาก
"โล่ชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นจากเกล็ดและกระดูกของมังกรสายฟ้า มีการลงอักษรรูนจากคนแคระและเอลฟ์ที่ร่วมกันสร้าง ยิ่งเจ้าใช้สายฟ้ามากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเพิ่นพูลพลังให้ข้ามากยิ่งขึ้น"
"ถ้างั้น-"
"ยอมแพ้ซะ คิดว่าข้าคิดอยากจะฆ่ามังกรก็ฆ่ารึไง การโจมตีด้วยพลังเวทย์ทุกรูปแบบ ช้าได้อ่านทางและเตรียมวิธีป้องกันเอาไว้หมดแล้ว"
"เหลวไหล! มังกรอย่างข้าไม่มีทางยอมแพ้มนุษย์ตัวจ้อย" เวลเทียร์คำราม เธองอกกรงเล็บอันแหลมคมออกมาที่มือก่อนจะบินเข้าสู้กับแรนดอน ด้วยความที่รวดเร็วมากกว่าจึงโจมตีได้เยอะขึ้นตามไปด้วย แถมเมื่อเคลื่อนที่กลางอากาศเข้าจริง อีกฝ่ายทำได้เพียงค่าสังเกตเท่านั้นไม่อาจตอบโต้ได้ทัน
"เป็นยังไงล่ะ! มนุษย์ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อบินบนฟ้า จะมาต่อสู้กับมังกรที่ใช้ปีกบินตั้งแต่เกิดได้ยังไง"
"ดาบจันทร์เสี้ยวทมิฬ" แรนดอนกำดาบกระชับก่อนที่ไอพลังสีดำจะแผ่ไปทั่วดาบสังหารมังกร ชายหนุ่มเหวี่ยงหมุนรอบตัวสร้างรัศมีพลังทำลายล้างขึ้น
เวลเทียร์เสมือนวิญญาณหลุดไปเสี้ยวพริบตา ร่างกายของเธอหล่นลงสู่พื้นดินโดยไร้การทรงตัว แรนดอนไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งตัวรีบพุ่งเข้ามาปักดาบใส่ปีกสีขาวบริสุทธิ์
"กรี้ดดดด!!" เวลเทียร์ส่งเสียงกรีดร้อง แรนดอนปิดปากของเธอในทันทีเพื่อไม่ให้ส่งเสียงแสบแก้วหู เพราะเสียงของมังกรดังจนได้ยินไปไกลอีกหลายกิโลเมตร
ยอมแพ้ซะ"
'ไม่..ข้าไม่ยอมแพ้'
ข้าจะ..ฆ่าเจ้าทิ้งซะ