บรรยากาศยามเช้าของเดือนพฤศจิกายน หน้าหนาวเข้ามาแล้วสินะ อากาศเริ่มเย็นหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเย็นมากอากาศเย็นกำลังดีฉันอยู่ในชุดนักศึกษากำลังเดินไปหน้าบ้านเพื่อไปมหาลัย
"อรุณสวัสดิ์ไลลา"เสียงผู้ชายข้างบ้านทัก ฉันรีบหันไปยิ้มหวานให้เขาทันที
"รอนานไหม...มิโน่"เขาคือเพื่อนบ้านของฉันเองแหละ แล้วก็เป็นแฟนฉันด้วย
"สำหรับไลลาแล้ว...นานแค่ไหน โน่ก็รอได้" มิโน่พูดพร้อมกับส่งยิ้มพิมใจมาให้
"ทำเป็นพูดดี" ฉันส่งยิ้มแบบขำๆ ไปให้
"เชิญครับ...คุณหนูไลลา" มิโน่พูดพร้อมกับเปิดประตูรถยนต์ให้
"เวอร์น่า..." ฉันได้แต่ขำกับความขี้เล่นของมิโน่
ทันทีที่ฉันเข้ามานั่งภายในรถเรียบร้อย มิโน่ก็รีบขึ้นมานั่งฝั่งคนขับแต่ก็ไม่ยอมออกรถสักที ฉันหันหน้าไปมองมิโน่ด้วยความสงสัยซึ่งมิโน่ก็มองหน้าฉันอยู่ก่อนแล้ว
"อะไร" ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความไม่เข้าใจ
"จริงๆ เลย..."มิโน่พูดพร้อมกับเอื้อมมือมาโอบตัวฉันเพื่อดึงเข็มขัดนิรภัยข้างประตูรถ
จังหวะที่มิโน่เอี้ยวตัวมานั้นเหมือนมิโน่จงใจหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองสบตาฉัน ฉันได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าขยับตัว มิโน่ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาเพื่อให้ริมฝีปากของเราตรงกัน ฉันกลั้นหายใจไปชั่วขณะพร้อมกับหลับตาปี๋ ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะสัมผัสกัน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน
คลื่น.....คลื่น.....คลื่น.....
เสียงโทรศัพท์ของฉันเอง มิโน่จึงถอยกลับไปนั่งที่คนขับเหมือนเดิมพร้อมกับดึงสายเข็มขัดนิรภัยไปล็อกให้ฉันด้วย ฉันกดรับสายกรอกเสียงลงไปคุยกับคนที่อยู่ในสาย
"ว่าไง..เฌอรีน" เพื่อนฉันเองแหละคุณหนูเฌอรีน
"ทำอะไรอยู่จ๊ะ...ทำไมรับสายฉันช้าจัง"น้ำเสียงอารมณ์ดีมาจากคนปลายสาย
"ไม่ได้ทำไร...กำลังจะไปมหาลัย" ฉันตอบเฌอรีนพร้อมกับแอบหันไปมองคนข้างๆ ซึ่งกำลังนั่งอมยิ้มล้อเลียนฉันอยู่ ฉันเลยแกล้งทำหน้าง้อใส่มิโน่ อยากแกล้งฉันดีนักเดี๋ยวจะงอนซะให้เข็ด
"แล้วแกมายังไง...มากับมิโน่หรอ"เฌอรีนถามขึ้น
"ใช่จ้ะ" ฉันตอบ "งั้นรีบเลย...ฉันรออยู่แค่นี้แหระบาย" เฌอรีนพูดพร้อมกดวางสายไป ฉันรีบหันไปมองหน้าคนขี้แกล้งทันที
"จะยิ้มอะไรนักหนา มิโน่ ออกรถได้แล้ว" ฉันทำเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก
"รู้นะ...ว่าเขินอ่ะ" สิ่งที่มิโน่พูดออกมาทำให้หน้าเห่อแดงเหมือนลูกตำลึงสุก
"ตั้งใจขับรถไปเลย...คนบ้า" มิโน่ยิ้มอย่างล้อเลียน ทำให้ฉันไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาอีก ก็เลยหันไปมองทางข้างหน้าแทน