อควอมารีนยิ้มกว้างถึงหู "คืออย่างนี้ ในน้ำลึกและบนที่สูงนั้นมีแรงดันอากาศเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ใช่ พื้นที่ที่พวกเราอยู่ตอนนี้มีความกดบรรยากาศน้อย แต่พื้นที่ข้างนอกนั่นน่ะ ตรงกันข้ามเลยล่ะ"
บดินทร์พยายามมองหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก แต่ไร้วี่แวว
"ไม่เคยมีใครรอดชีวิตเมื่อตั้งใจฝ่าฝืนกฎ ไม่มีสักคน แล้วจะบอกให้ มหาสมุทรน่ะ ฆ่าคนที่เก่งๆ มาแล้วตั้งเยอะ -- พวกเผ่าพันธุ์เงือกเอย พวกเผ่าพันธุ์เพลสิโอซอร์เอย พวกสัตว์ทะเล... – แล้วพวกเธอน่ะเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา"
ฟ้าประทานอดใจต่อไปไม่ไหว "เกิดอะไรขึ้นกับคนล่าสุดที่ยื่นศีรษะออกไปเหรอคะ"
"ภาวะปอดรั่วจากแรงดันอากาศ เจ็บหน้าอกข้างเดียว แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก เมื่อสอดท่อหรือเข็มเข้าไปในช่องปอดเพื่อระบายลมส่วนเกินออกไม่ทัน เธอพอจะเดาได้ว่าไหมว่าเกิดอะไรต่อจากนั้น"
แล้วเด็กๆ ก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อแคสซิโอเปียร้องกรี๊ด
"ไม่ใช่ว่าระเบิดเป็นเศษเล็กเศษน้อยหรอกนะ -- สยดสยองจริงๆ"
เด็กๆ ดูตกใจมาก ตาของบางคนเบิกกว้าง หน้าของบางคนซีดเหมือนไก่ต้มค้างคืน คนเดียวที่บดินทร์เห็นนิ่งเฉย วิลเลี่ยม
"นายมีความรู้สึกไหมเนี่ย" บดินทร์พึมพำเสียงเบา แต่วิลเลี่ยมอยู่ใกล้พอที่จะได้ยิน
อควอมารีนยิ้มอย่างมีความสุข "ฟันใหญ่คือพาหนะควรค่าที่จะได้รับความเชื่อใจ" เธอพูดต่อ "ฟันใหญ่ไม่เคยมีประวัติกระทำผิดกฎหมาย เลขทะเบียน, รหัสโครงกระดูก... สามารถตรวจสอบข้อมูลกับกรมเจ้าท่าได้"
ตอนแรกเด็กๆ ก็เกร็งแขนทันทีที่ฟันใหญ่บรรทุกผู้โดยสารพุ่งดิ่งอย่างเรื่อย ๆ ลงลึก ลงลึก ความรู้สึกโหวง ๆ เกิดขึ้นในท้องเหมือนกับรถที่นั่งอยู่ลงสะพาน
พวกเขาลงลึกมากขึ้นอีก ฟันใหญ่เร่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างแรงและรวดเร็ว กระแสน้ำซัดกระหน่ำผิวกระดูกพาหนะ แรงลมคำรามเสียงดังอื้ออึง
และแล้วขณะที่บดินทร์ยังไม่ทันกะพริบตา ฟันใหญ่ก็ค่อย ๆ ชะลอมุ่งหน้าต่อไปด้วยความเร็วปกติ บรรยากาศรอบ ๆ มืดมิด หนาวเย็นยะเยือกจนเกล็ดน้ำแข็งเกาะขนแขนที่ตั้งชูชัน