ความเปียกชื้นที่แขนของก้าวหน้าเรียกเขาหันมอง เป็นบดินทร์ที่กำลังสะอึกสะอื้น เสียงสั่นเครือ "แต่นายยังสมบูรณ์ทุกอย่าง" ฟองน้ำลายเต็มปาก ฟังเกือบจะไม่ได้ศัพท์ "นายยังไม่ตาย"
"ฉันจะกลายเป็นศพ ถ้าแม่บัวไม่ช่วยฉัน"
ที่แปลกประหลาดที่สุดคือ ก้าวหน้าพกผ้าเช็ดหน้า เเละเขาส่งมันให้บดินทร์ "เช็ดน้ำมูกก่อนเถอะ อย่าลืมล้างมือ-ฟอกสบู่ คนอื่นๆ ยังต้องกินอาหาร"
"ไม่ล้างมือ-ฟอกสบู่ก่อนเตรียมอาหารให้เด็กๆ ได้ไหม"
"ฉันถามแม่ของนายให้ได้นะ"
"ใจร้าย ฉันยังอยากกลับบ้าน"
ที่นี่ต้อนรับเด็กๆ ทุกคนที่ถูกสละให้โรงพยาบาล มีเพียงข้อแม้เดียว เด็กทุกคนต้องเปลี่ยนชื่อและนามสกุล เพื่อตัดขาดความเป็นผู้ปกครองอย่างสมบูรณ์ สิ่งเดียวที่ใช้ยืนยันความสัมพันธ์กับครอบครัวเดิมคือ ตั๋ว
ซึ่งเป็นสิ่งของที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเด็ก
ตั๋ว ของเด็กแต่ละคนจะเป็นอะไร ก็ขึ้นอยู่กับคนที่นำเด็กมาสละให้
นางราชพฤกษ์กับบัวช่วยกันยกกล่องพลาสติกเดินเข้ามาใกล้โต๊ะยาวพร้อมกับเด็กๆ ซึ่งช่วยยกสิ่งของจำนวนมาก
"ขนมไทยชนิดนี้เรียกว่า ขนมลืมกลืน" เด็กๆ หลายคนทำหน้างงเพราะไม่เคยได้ยิน พวกเขามองขนมชิ้นเล็กๆ ที่มีสีฟ้าใส หน้ากะทิเป็นรูปดอกไม้ 5 กลีบ โรยถั่วเขียวเลาะเปลือกซึ่งมีสีเหลือง ขนาดพอดีคำกินง่ายๆ
"ขนมสัมปันนี" รูปร่างคล้ายดอกไม้มีสีสันสวยงาม หอมกลิ่นควันเทียน เมื่อรับประทานเข้าไป เนื้อขนมจะละลายในปาก รสหวาน มีทั้งสูตรกรอบและนุ่มให้เลือกรับประทาน
เด็กๆ ต่อแถวรอเลือกไอศกรีมแอปเปิ้ล แครนเบอร์รี่ ซอร์เบ, ชาเขียว ถั่วแดง ซอร์เบ, ช็อกโกแลต กล้วย ลูกเกด ซอร์เบ, มะพร้าว สับปะรด ซอร์เบ, สตรอเบอร์รี่ กีวี ซอร์เบ, มะนาว ราสป์เบอร์รี่ ส้ม ซอร์เบ...
เสียงหัวเราะหยอกล้อจากบริเวณโรงอาหารสร้างความสุขแก่คนชอบทำอาหาร
บริเวณลานกิจกรรม นายยุทธนา บดินทร์ และก้าวหน้าทำฉลากจำนวนมากแขวนห้อยไว้ตามกิ่งไม้
มันปลิวไป-มาราวกับเต้นตามเสียงเพลงจังหวะสนุกๆ เด็กๆ ใช้ไม้สอยฉลากลงมา
ก่อนจะได้รับของขวัญตามหมายเลขที่ฉลาก...
เทวราชเล่านิทาน ส่วนเนื้อทองและเด็กๆ แสดงบทบาทสมมติหุ่นนิ้วมือทำเอง...