"อย่าวิ่งลงบันไดสิ"
"เดี๋ยวเจ็บตัว อันตรายออก"
"อ๊ะ" บดินทร์ร้องขึ้นเมื่อมือตนเองถลาไปกระแทกพระพุทธรูปจนกลิ้งหลุนๆ เป็นลูกบอล แจกันหล่นลงไปแตกที่พื้นบันได น้ำสีใสเอ่อนองเต็มพื้น
บดินทร์ร้องไห้ในใจ แจกันไม่ได้ราคาแพง แต่หน้าของเขากำลังจะจิ้มคมแหลมของเศษกระเบื้อง
และแล้วบดินทร์เองก็ลมหายใจสะดุดไปหนึ่งจังหวะทันทีที่ลืมตา บรรยากาศรอบข้างเหมือนหยุดนิ่ง ปลายแหลมของเศษกระเบื้องอยู่ห่างจากนัยน์ตาของเขาไม่ถึงคืบ
เศษแจกันที่แตกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดบนพื้นเวลานี้ค่อยๆ ลอยขึ้น ก่อนจะประกอบกลับเป็นแจกันตั้งที่เดิมข้างๆ พระพุทธรูป พร้อมๆ บดินทร์พลิกตัวกลางอากาศ เขาทรงตัวยืนที่พื้นได้อย่างน่าประหลาดใจ
หลังจากฟื้นคืนสติเต็มที่ บดินทร์แทบไม่อยากเชื่อสายตา
ชายชรามีผมสีขาวโพลน ท่าทางแสบซ่าคนหนึ่ง เขาสวมชุดราชปะแตน คือ เครื่องแต่งกายชายไทย ประกอบด้วยเสื้อสูทสีขาว คอตั้งสูง และมีกระดุมห้าเม็ด โจงกระเบน สวมถุงเท้ายาวถึงเข่า และรองเท้าหุ้มส้น
ข้างหลังเขามีชายหนุ่มอีกคน อายุประมาณ 24 ปี
ผมและคิ้วสีขาวสว่าง จมูกเป็นสันเด่น ริมฝีปากสุขภาพดียิ้มน้อยๆ เขาสวมชุดสูทอย่างพิธีการ อย่างเครื่องแบบข้าราชการขาว แขนยาวทรงกระบอก รองเท้าหนังสีดำแบบผูกเชือก
ทั้งสองคนใบหน้าดูใจดี และดู...หล่อคนละแบบ
"ผมชื่อ พิทักษ์กาล สันติสหพันธุ์พิทักษ์ เทวทูต 1 ใน 4 ทูตปกครองประจำจิตวิญญาณสีขาว
บดินทร์ อัครบดินทรเดชา ครับ"
เขาหัวเราะหน้าตาอย่างคนงงๆยังไม่รู้เรื่องของบดินทร์ ก่อนจะคลี่ม้วนกระดาษใบลาน แล้วอ่าน
อัตชีวประวัติ [บดินทร์ อัครบดินทรเดชา]
[ลื่นล้มในห้องน้ำ]
[มอเตอร์ไซค์ล้ม]...
"ก็รู้อยู่หรอกนะว่า เขาผ่านอะไรมาบ้าง แต่ก็จำได้ไม่หมด นี่เขาผ่านเรื่องทั้งหมดนั่น โดยที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ยังไงเนี่ย"
ทั้งหมดนั่น เป็นเหตุการณ์ที่บดินทร์นึกย้อนไปถึงเวลาที่เขาได้รับอันตราย และเขาก็อธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงยังมีอวัยวะครบแบบนี้
บดินทร์เริ่มหัวหมุนเมื่อพิทักษ์กาลอ่านผ่านมา 15 นาทีแล้ว
แต่แค่หยุดคิด เขาก็คิดได้ว่า อย่างน้อยๆ พิทักษ์กาลก็เพิ่งจะช่วยให้เขาไม่ต้องกระดูกคอหักตายในวันเกิดของตัวเอง คำว่า คนดี ที่แม่หมายถึงน่าจะจำกัดความเป็นเขาได้กระมัง
"ทั่วจักรวาลตอนนี้ คนที่สะสมประสบการณ์เฉียดตายมากถึงขั้นนี้ เกรงว่าจะนับคนได้เลยนะครับ"
"ฟังดูไม่น่าสะสมเท่าไหร่"
สองตัวตนเหนือธรรมชาติคุยเหมือนรู้จักกันมานานมาก