Chereads / ฺBangkok in a sense 2 ( Eleventh and the kingdom twins) / Chapter 4 - ก่อนไปรับตัวประกัน

Chapter 4 - ก่อนไปรับตัวประกัน

เมดิสันรีบร้อนเดินเข้าไปผลักประตูห้องทำงาน แต่คาร์เตอร์ที่กำลังตั้งใจจดจ่ออยู่ที่หน้าจอประมวลผลแบบโปร่งแสงบนพนังห้องทำงานที่เป็นกระจก เพราะภาพถ่ายจากสัญญาณดาวเทียมที่กำลังจับภาพเจ้าหน้าที่ของอังกฤษที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในขบวนรถไฟสายอังกฤษไปยุโรป

ในขณะที่อิเลฟเวนท์กับนักฆ่ารับจ้างมืออาชีพ อย่าง เฮนดริกส์ได้แต่ยืนมองเจ้าหน้าที่ของเขาอยู่เฉยๆ

" แล้ว..ที่นี้ !! " คาร์เตอร์รีบร้อนหันหน้ามาตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่จนเสียงดัง

" นายจะอธิบาย...เรื่องนี้ ! "

"...ของเธอมาว่าอะไรอีก "

" เมดิสัน ! " คาเตอร์ที่ต้องการคำอธิบายอย่างถึงที่สุด แต่ว่าเมดิสันที่คอยแต่เข้ามายืนก้มหน้าและยังต้องคอยหลบสายตาของเขา

เพราะฉะนั้นคาเตอร์ถึงได้จ้องแต่จะตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ

" ตอนนี้ !!! "

" เป็นเวลาที่นาย...เมดิสัน !"

"นาย !! มีความจำเป็นที่จะต้องอธิบายเหตุผลของเธอมาทั้งหมดให้ฉันเข้าใจอย่างง่ายๆ ได้สักที !

" ว่า.. !! " และคาเตอร์ที่คราวนี้พยายามที่จะตั้งคำถามเสียงดังใส่เมดิสันขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

"ทำไม !! "

" เพื่อนของนาย.!! "

อีเลฟเวนท์ "

" เธอ....ถึงได้จงใจเดินเข้าไปติดกับ ! ของผู้ก่อการร้ายพวกนั้น !! "

"แล้วทำไม...เฮนดริกส์ "

" แล้วทำไมอยู่ ๆ มือปืนระดับพระกาฬ อย่าง เขา !!! "

". ทำไม..เฮนดริกส์ !! "

" ถึงได้เดินดุ่ม ๆ เข้ามางัดตู้เซฟของเธอถึงที่นี้ "

" ทั้ง ๆ ที่....อีเลฟเวนท์ กับ เฮนดริกส์ !! "

" ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่า.. พวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนที่ดูสนิทสนมกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ! ก็ไม่รู้ !!! " คาเตอร์ที่ยังคงคอยตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องของเธอขึ้นมาซ้ำ ๆ

เมดิสันยอมตัดสินใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า และในระหว่างนั้นแววตาที่มองคาเตอร์ยังแสดงถึงความเชื่อมั่นอะไรบางอย่าง

"อีเลฟเวนท์ ! " และพยายามจะอธิบายถึงเหตุผลให้กับคาเตอร์

" เคย ! คิดที่จะจับกุมเฮนดริกส์ ที่บาฮามาสเมื่อ 4 ปี ที่แล้ว "

" แต่ว่า...ในที่สุด !!!

" เธอ....ก็เปลี่ยนใจ "

" เวลานี้... พวกเรารู้แค่ว่า ! "

" เธอรู้ !! ในสิ่งที่พวกเรายังไม่รู้ !! "

" และเธอก็รู้ !!! ในสิ่งที่พวกเรารู้ทั้งหมด ! " และเมดิสันแอบถอนหายใจเบาๆ อยู่ตลอดเวลาด้วยซ้ำในขณะที่พูดถึงอิเลฟเวนท์

" และเพราะแบบนี้ !! เรื่องทั้งหมดที่เธอรู้ !! "

" และทุก ๆ รัฐบาลที่รู้ว่า..เธอรู้ !! "

"พวกเรา !! จึงได้คอยพยายามที่จะแก่งแย่งในสิ่งที่...เธอรู้ !! "

" และเอามันมาจากเธอ !! " แต่ว่าเขาก็ยังอยากจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้กับหัวหน้าของตัวเองฟังอยู่ดี

คาเตอร์ที่ได้แต่ยืนฟังอยู่อย่างเงียบๆ บวกกับความสงสัยในตัวเมดิสันว่า ทำไม ! คนพวกนี้ถึงได้แต่เชื่อเรื่องไร้สาระของอิเลฟเวนท์

" เอาละ " คาเตอร์ที่แสร้างทำใจเย็น

"ถ้าอย่างนั้นตอนนี้."

" ฉัน !! ก็ขอบอกกับนายเอาไว้ก่อนเลยนะว่า..."

" เมดิสัน ! "

" ถ้าหากว่า.... เจ้าหน้าที่ของเราเป็นอะไรไป !! "

" เพื่อนของนาย... อีเลฟเวนท์ !! "

" ฉันก็คงจำเป็นที่จะต้องตั้งข้อหาให้กับเธอ " คาเตอร์พยายามที่จะขู่ให้กลัว แต่ดูเหมือนว่าเมดิสันจะยังคงเชื่อมั่นในตัวของผู้หญิงไทยคนนั้นซะเหลือเกิน

" เพราะฉะนั้นนี้.... ก็คือ เหตุผลที่ว่า ! " เมดิสันที่พยายามมองหาเหตุผลซ้ำ ๆ กลับขึ้นมาอธิบายให้คาเตอร์ฟังอีกครั้ง

" ทำไม !! "

" ถึงมีเพียงคนไม่กี่คนที่รู้ว่า..เธอรู้ !!! " เมดิสันที่ยังคงยืนยันคำเดิม

คาเตอร์พยายามจะเดินเข้าไปใกล้ๆ เมดิสัน และยังคอยมองจ้องหน้าที่เจ้าหน้าที่ของตัวเองแทบจะเฉือนเลือดออกมาและกิน

" และส่วนนาย...ถ้ายังอยากจะทำงานอยู่ที่นี้ !!! "

" ก็อย่าให้ฉัน... !! "

"ต้องปลดนายออกจากการเป็น "

" หัวหน้าทีม....แผนกเทคโนโลยีของเรา !! " คาเตอร์ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของพวกเขาที่ก็แค่อยากจะหาทางป้องกันเอาไว้ก่อนก็เท่านั้น

แต่ว่าในขณะที่เมดิสันกำลังจะหันหลังกลับ

" ที่..ซีเรีย ! "

" ตอนที่....พวกเราออกไปทำภารกิจเสี่ยงตายกันที่นั่น !! "

" อีเลฟเวนท์ ! พยายามที่จะใช้ตัวเองมารับลูกกระสุนแทนผม.. !! " จนสุดท้ายเมดิสันที่อธิบายด้วยน้ำเสียงที่ดูสั่นเครือ

" ทั้งๆ ที่พวกเรา "

" ตอนนั้นนะ"

" พวกเราสักคน ! ยังไม่เคยมีใครรู้จักกับเธอมาก่อนด้วยซ้ำ !!! " เมดิสันที่ยังตั้งใจและแสดงถึงเจตนาว่า พวกเขาได้รู้จักอิเลฟเวนท์มาแบบไหนเพื่อให้คาเตอร์ได้รับรับรู้ !

เสียงเพลงแจสที่ดังออกมาจากร้านอาหารอิตาเลี่ยน แถวๆ ย่านประตู Arc Du Triomphe แถวๆ ประตูชัยของนครปารีสในฝรั่งเศส

อีเลฟเวนท์สวมเดรสกระโปรงยาวและเสื้อแขนกระบอกสีแดงๆ ค่ำคืนนี้เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีครีมๆ และนั่งอยู่ที่ตรงบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ของร้าน และดูเหมือนเธอที่เพิ่งจะกดวางสายโทรศัพท์มือถือและหย่อนพวกมันกลับลงไปในกระเป๋าหนังสีขาวทรงสี่เหลี่ยมคางหมู กระเป๋าที่ปักชื่อยี่ห้อราคาแสนแพงเป็นตัวอักษรสีแพลตตินัม และที่มิหนำซ้ำแก้วไวน์แดงชั้นเลิศพวกมันที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนแก้วมาวางอยู่ตรงหน้าซ้ำๆ และก็จ้องมองสีสันของไวน์เบอร์กันดีสีเข็มในแก้วไวน์ทรงสูง ที่ๆ พวกมันค่อยๆ เหือดหายเข้าไปอยู่ในเส้นเลือดของเธอเองมากขึ้นไปทุกทีและทุกที

หืม.....!! น้ำเสียงของการถอนหายใจของพวกเธอที่ทยอยดังขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ จนนับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั้งทำให้คนบางคนได้ยิน

อิเลฟเวนท์ชำเลืองหันมองไปทางขวาที่เก้าอี้บาตัวสูงข้างๆ ที่เหมือนเพิ่งจะมีเด็กหนุ่ม และรู้สึกว่าจะเป็นหนุ่มน้อยชาวญี่ปุ่นรูปร่างหน้าตาใช้ได้ที่กำลังเดินเข้ามา และเด็กผู้ชายคนนั้นก็กำลังถอดเสื้อโค้ทกันหนาวสีดำสนิทที่ทับชุดสูทสีน้ำเงินออกมาวางพาดบนพนักเก้าอี้บาร์ทรงสูงและหย่อนก้นลงนั่งใกล้ ๆ

" ใครอนุญาตให้เธอ ! " อิเลฟเวนท์เบือนหน้าหนีทันทีที่เขาเข้ามานั่งใกล้ๆ

" มาที่นี้ !! "

" มาซายูกิ !!! " และเธอก็บ่นด้วยน้ำเสียงที่แข็งทื่อและไม่ค่อยจะสบอารมณ์

แต่ไม่ว่าเธอจะเบือนหน้าหนีเด็กผู้ชายญี่ปุ่นคนนั้น คนที่เธอเรียกชื่อเขาว่า มาซายูกิก็ไม่ยอมจะเข้าใจ

มาซายูกิยังคอยชำเลืองมองอิเลฟเวนท์ผ่านแก้วไวน์ที่เธอไว้ในมือ

" นานแล้วที่..... "

"....คุณไม่ได้ออกมาดื่มคนเดียวแบบนี้ ! " มาซายูกิพยายามที่จะชวนคุย และเขาก็อยากให้อิเลฟเวนท์หายอารมณ์ขุ่น ๆ แต่ยังไงๆ ก็ดูเหมือนว่าเธออยากจะหันมาเอ็ดเขาซะมากว่า

" มาซายูกิ !! " อิเลฟเวนท์คราวนี้ที่หันมาดุ

" จะให้ฉัน..."

" บอกเธออีกกี่ร้อยกี่พันครั้งกันนะว่า ! "

" หน้าที่ของเธอคืออะไร !! " เธอที่ไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ก็เท่านั้น และก็หันไปกระดกไวน์ที่เหลือในแก้วต่อจนเกือบหมด

แต่ว่ามาซายูกิที่ก็ไม่เคยคิดที่จะสนใจ

" ใช่ !! " และเขายังคอยแอบมองเธออยู่เรื่อยๆ

" แต่ว่า.. "

" ผมก็ไม่ใช่ว่า... จะไม่ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ซะเมื่อไหร่ " เขาเลียบๆ เคียงๆ เถียงเธอออกไปซะอย่างงั้น

" หึๆ " ีอิเลฟเวนท์ได้แต่หัวเราะในลำคอและเผลอยิ้มออกมาจนได้

และอีกอย่างที่ตอนนี้แก้วไวน์สีเบอร์กันดีใบใหม่ก็เพิ่งจะถูกนำเสิร์ฟ แต่เขากลับยื่นมือเข้าคว้าแย่งเอาแก้วไวน์ในมือของเธอไป

" ตอนนี้ ! พวกเรารู้แล้วว่า..." มาซายูกิที่คอยหมุนแก้วไวน์เบาๆ และพลางพูดกับเธอไปด้วย

" พวกคนที่ !! "

"แอบขโมยอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ไปเมื่อหลายเดือนก่อน.... ."

" เป็นใคร !! " มาซายูกิพยายามที่จะชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุย

เพราะยังไงๆ ซะเขาก็รู้ว่า อิเลฟเวนท์ไม่ชอบที่จะเห็นเขามาใกล้ชิดเธอในที่แบบนี้ และมาซายูกิที่เพิ่งจะจิบไวนน์และก็เพ่งไปที่คราบไวน์ที่เหลือติดอยู่ก้นแก้ว

"และ.... "

" ถึงผมจะไม่บอกไปว่า... คนที่พยายามจะขโมยอาวุธนิวเคลียร์มาขายให้พวกผู้ก่อการร้ายเป็นใคร ! "

" เพราะว่า...ตอนนี้ ! "

" คุณก็คงได้เจอกับพวกเขาแล้ว !! " แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ต้องส่งข้อความถึงเธอ

อิเลฟเวนท์คอยแต่จะเบือนหน้าหนีแต่มาซายูกิซะอย่างนั้น และเธอยังหันไปเรียกหาแก้วเครื่องดื่มใบใหม่จากคนดูแลบาร์เครื่องดื่มจนเสียงดัง แต่ว่าแก้วไวน์สีเบอร์กันดีของพวกเธอที่กำลังถูกนำมาเสิร์ฟใหม่แต่ก็ยังถูกมาซายูกิแย่งแก้วไวน์ของเธอไปอีกอยู่ดี

" ไทระ มาซายูกิ ! " อิเลฟเวนท์จ้องตามตาเป็นมัน

แต่ในระหว่างที่พวกเธอกำลังยื้อแย่งแก้วไวน์กับมาซายูกิ อยู่ๆ ก็มีผู้ชายเข้ามาแย่งแก้วไวน์แก้วนั้นไป

ทั้งเธอทั้งมาซายูกิที่ทำได้แค่นั่งมองคน ๆ นั้นจิบไวน์ของพวกเธอจนเกลี้ยง ผู้ชายที่ดูยังไงๆ ก็เหมือนเป็นลูกครึ่งเกาหลีบวกญี่ปุ่น

" ไวน์ที่นี้. !! "

" นี่มัน ...!! เด็ดชะมัดยาด !! " และผู้ชายคนนั้นก็ยังทำท่าทางมีความสุขสุด ๆ ต่อหน้าพวกเธอ

แต่มาซายูกิที่อยู่ๆ ก็รีบลุกพรวดขึ้นและคอยเข้ามายืนขวาง

" ผมจะพาคุณไปส่งที่โรงแรม " และเขาก็หันมาชวนอิเลฟเวนท์ให้ออกไปจากที่นี้

" มาซา..ยูกิ ! " แต่ทว่าลูกครึ่งเกาหลีคนนั้นก็กลับพูดแทรกและยังจะเดินเข้ามาแทรกตรงกลาง

" นายนี่มัน... "

" นับวัน.... นายก็ชักจะกลายเป็นเด็กดื้อด้านขึ้นทุกวันๆ แล้วนะห๊ะ "

" รู้ตัวอยู่หรือเปล่า !! " ผู้ชายลูกครึ่งเกาหลีจดๆ จ้องๆ มาซายูกิ แต่ทว่าพวกเขาก็ดันถูกอิเลฟเวนท์ที่รีบลุกขึ้นมาและขวางทางกันเอาไว้

อิเลฟเวนท์ตั้งใจเดินเข้ามาและแทรกยืนอยู่ตรงกลาง แต่มิหนำซ้ำเธอยังแทบพุ่งเข้าไปเกาะแขนของผู้ชายเกาหลีด้วยซ้ำ

" นี่ ! อี ยองซุก !! " อิเลฟเวนท์เรียกชื่อเขา

" นี่นายจะเบาๆ กับเขาหน่อยไม่ได้หรือยังไง "

" ฉันอุตส่าห์โทรหาเธอตั้งนาน.... ! "

"แล้วทำไมป่านนี้ !! เพิ่งยอมโผล่หัว !! " และเธอก็เปลี่ยนเรื่อง

"อ่า...หะ " อี ยองซูกยอมเออออไปด้วย

" ก็ใครใช้ให้....เธอ ! "

" มาที่ปารีสปุ๊บปั๊บแบบนี้ !! "

" เชอะ !! "

" แล้วนี่...!! "

" ฉันก็อุตส่าห์....เคลียร์งานเสร็จปุ๊บก็รีบมาหาเธอที่นี้ปั๊บเลยนะรู้หรือไหมห๊ะ... !!"

" จะใจร้อนไปถึงไหนกัน ! "

" ยายเพี้ยน !! " อี ยองซุกประชด และยังต้องหันกลับมาและช่วยหยิบเอากระเป๋าสีขาว ๆ ของพวกเธอใบนั้นขึ้นมายื่นให้มาซายูกิช่วยถือเอาไว้

แต่ว่ามาซายูกิที่จำใจรับเอาไว้ แม้ว่าลึกๆ แล้วเขาก็แทบอยากจะพุ่งไปหักคอของอี ยองซุก ซะตอนนี้ให้ได้ !!

แสงไฟส่องสว่างจากประตูชัยของฝรั่งเศสเลยไปถึงบริเวณสวนสาธารณะ Parc Moncea แสงไฟที่กลางเป็นเสมือนแสงไฟใช้ส่องทางให้ทั้งอิเลฟเวนท์ อี ยองซุก และมาซายูกิได้พากันเดินทอดน่องไปด้วยกันเรื่อยๆ โดยมีแสงไฟและหอไอเฟลเป็นฉากหลัง

" อีเลฟเวนท์ " อี ยองซุกที่คราวนี้ชวนเธอคุยเป็นภาษาเกาหลีที่พวกเขาถนัด

"เธอ ! ยังจำตอนที่...พวกเราเจอกันครั้งแรกได้หรือเปล่า ! "

" คืนนั้น...ที่โมรอกโค !! " อี ยองซุกพูดไปด้วยและยิ้ม ๆ ให้กันไปด้วย

อิเลฟเวนท์ที่ยังคงหันมากอดแขนของอี ยองซุกให้แน่นๆ ขึ้นกว่าเดิม

"แล้วตอนนี้ที่. ! ฉันยังเดินควงแขนกับนายแบบนี้ " และเธอก็ยังต้องคอยรับสารภาพ

" อี ยองซุก !! "

" แล้วทีนี้... ! "

" นายยังจะคิดกับฉันแบบนั้นอยู่อีกหรือเปล่า ! " เธอที่ยิ่งนึกย้อนอดีตไปทีไรก็ยังรู้สึกขำ ๆ กันไม่หาย

" อืม...ม !" และอี ยองซุกที่พอคิดไปคิดมาก็เอาแต่สายหัวอยู่ลูกเดียว

" เห้อ... "

" ถ้าเป็นตอนนี้...เนี้ยนะ "

" ต่อให้เธอ...มายืนแก้ผ้าและคอยเต้นยั่วต่อหน้าฉัน "

" หรือไม่ก็....ถูกเธอวางยาปลุกเซ๊กส์ "

" ฉันก็จะขอเอาหินมาผูกขาตัวเอง และถ่วงน้ำให้ตายๆ ไปซะยังจะดีกว่าเลย !" อี ยองซุกที่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เอาด้วยแน่

" อ้อ.....เหรอ !! " เธอแกล้งทำน้ำเสียงประชด

" ฮ่าๆ " เสียงหัวเราะของทั้งอิเลฟเวนท์ กับ อี ยองซุกที่ดังขึ้นมาพร้อม ๆ กัน จนทำให้มาซายูกิที่คอยเดินตามหลังยังต้องเบือนหน้าหนี

"เธอนี่... มันจริงๆ เลยนะ " แต่ว่า อี ยองซุกที่ยิ่งคิดย้อนไปตอนนั้นก็ยิ่งคิดดีกับเธอไม่ได้เลยจริงๆ

"แต่จะว่าก็ว่าละนะ ! "

" เพราะว่า.. ตอนนั้นนะ "

" ฉันอยากจะฆ่าเธอให้ตาย ๆ ไปซะให้รู้แล้วรู้รอด "

" ฉันเอง...ถึงขนาดไม่อยากให้เธอมีชื่ออยู่ในฐานทะเบียนราษฎร์ของที่ไหนๆ เลยด้วยซ้ำไป " อี ยองซุกที่พอยิ่งนึกก็ยิ่งจะกลับมาหงุดหงิดใส่เธอ

"เพราะตอนนั้น...ฉันไม่รู้ว่าทำไม "

" เธอ ! ถึงได้พยายามที่จะช่วยลีโอนิคส์มากถึงขนาดนั้น! " คราวนี้ที่ทั้งอี ยองซุก และก็เธอก็ต่างพากันนึกถึงคน ๆ หนึ่งขึ้นมา

" เห้อ... !! " เสียงถอนหายใจเข้าๆ ออก ๆของอี ยองซุกที่ยังคงดังตามมาติด ๆ เพราะว่า พวกเขายังอดคิดถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับเธออย่างไม่มีวันลืม

"แต่พอ...ฉันมารู้ทีหลังว่า ! "

" เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส "

" ฉันขอบอกเธอตามตรง "

" ถ้าหากว่า..ฉันเป็นเธอในตอนนั้น "

" ฉันเอง... "

" ก็คงจะสงสารเขาจับใจจนทำอะไรไม่ถูกไปเลยก็ได้! " อี ยองซุก ที่พอได้ย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องวันนั้นก็ยังอดสลดหดหู่ไม่ไหวจริงๆ

อิเลฟเวนท์ที่ก็เลยได้แต่ผงกหัวขึ้นและลงตามเบาๆ

"ฉันถึงได้...เคยบอกพวกเราทุกคนยังไงละว่า "

" คนเรา... มีโอกาสให้เลือกไม่มากนักหรอก " เธอที่นึกอยากที่จะพูดมันขึ้นมา

" แล้ว....เธอ " อี ยองซุกที่ฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที

" ก็ ! เคยบอกกับพวกเราอีกเรื่องหนึ่งด้วยไม่ใช่หรือยังไงว่า.. "

" โอกาสที่เราจะทำความดี !! "

" ไม่จำเป็นต้องมองหาวิธี ! แต่ขอให้ไม่ผิดเท่านั้นเป็นใช้ได้ !! " อี ยองซุกตาเป็นประกายเมื่อยู่ต่อหน้า

และอิเลฟเวนท์ที่หันมาพยักหน้า

" ขอบใจนะที่ยังจำได้ !! " เพราะว่าเธอก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ

"แล้วนี่....อาการของเธอเป็นยังไงบ้าง ! " อี ยองซุกถามต่อ

" ฉันได้ข่าวมาว่า....ช่วงก่อนที่งานประชุมขององค์การอนามัยโลก "

"เธอเองก็แทบที่จะไม่มีเวลาพักเอาซะเลยไม่ใช่หรือไง ! " อี ยองซุกรู้สึกเป็นห่วง และพอเห็น อิเฟลเวนท์ทำได้แค่พยักหน้ารับแบบครึ่งๆ กลาง ๆ

" เอาน่า.... "

" ถ้าหากว่า...เธอเป็นอะไรไปอีก "

" ฉัน ! ชินซู ! แล้วก็แฮริสัน !! "

" พวกเรา 3 คน ก็จะช่วยกันดูแลเธอเหมือนเดิมเองนั่นแหละ " อี ยองซุกที่กำลังหาทางปลอบ

" ไม่ว่าจะวันนี้ !! "

" หรือว่า.. วันสุดท้ายในชีวิตของเธอ " อี ยองซุกที่พูดมาถึงตอนนี้ก็ยังต้องคอยแอบเบือนหน้าหนีเธอไปเหมือนๆ กัน

อิเลฟเวนท์ที่พอฟังแล้วกลายเป็นเรื่องขำขันไปซะแล้วสำหรับเธอ

" ฉันถึงเคยบอกพวกเธอยังไงละว่า..."

" พวกนาย 3 คน !! "

" เป็นผู้ชาย....ที่โชคร้ายที่สุดในโลก !! "

" อี ยองซุก ! พัค ชินซู ! แฮริสัน ! " เธอขอบคุณพวกเขาอยู่เรื่อยๆ

"นั่นนะซินะ !! " อี ยองซุกจำใจพยักหน้า

"จะว่าไปแล้ว... "

" ทุกวันนี้พวกเราก็เหมือน กำลังเดินเล่นอยู่กับ.. "

" พญา !!! ของพญามัจจุราชอยู่แล้วนี่.. ! "

"ใช่หรือเปล่า " อี ยองซุกเฝ้าถาม

จนกระทั้งพวกเขาสามคนกำลังเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูของโรงแรมหรูย่านประตูชัยของประเทศฝรั่งเศสจนได้

อิเลฟเวนท์ที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนของอี ยองซุก และเธอก็ยังแอบหันไปชำเลืองมอง ไทระ มาซายูกิที่ๆ ยังทำหน้าเหมือนบอกบุญไม่รับคอยเดินตามกันอยู่ข้างหลัง

และอี ยองซุกที่มองตาม

" แล้วนี่.. !! " และกระซิบกระซาบกับเธออยู่ต่อ

" เจ้าเด็กญี่ปุ่นของเธอ... "

" เมื่อไหร่เขาจะกลับ !! " เพราะว่าเขาก็แค่ไม่อยากจะเป็นห่วงพวกเธอเท่านั้น

และอิเลฟเวนท์กำลังกระซิบกลับ

" เขาจะกลับ "

" ก็ต่อเมื่อ.... "

" เธอ ! อี ยองซุก "

" เดินออกจากประตูห้องนอนของฉันไปแล้ว !" อิเลฟเวนท์ที่ใช้นิ้วจิ้มๆ ที่แผงหน้าอกของอี ยองซุกเพื่อยืนยันว่าเขาต้องทำอะไรต่อจากนี้

" อ่อ.....อย่างงี้เองซินะ " อี ยองซุกพยักหน้าแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ว่าเขาก็ยังมีแอบ ๆ ชำเลืองมองอารมณ์ฉุนเฉียวของมาซายูกิที่แทบจะแผ่รังสีอำมหิตเข้ามาใกล้ๆ

" ถ้างั้น...ไหนๆ ก็ไหนแล้ว " อี ยองซุกที่อยู่ ๆ ก็หันมาพูดเสียงดังขึ้นมา

" ฉันอุตส่าห์..บินมาตั้งไกล "

" สงสัยคืนนี้...ฉันก็คงจะต้อง "

" นอนที่นี้ "

" กับเธอซะแล้ว !! " และอี ยองซุกก็แสร้งครึ้มอกครึ้มใจอย่างออกนอกหน้า และคอยทำทีหันหลังและกลับไปโบกไม้โบกมือให้กับมาซายูกิ

แต่ว่ามาซายูกิที่พยายามแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และเขายังต้องรีบเดินถือกระเป๋าของอิเลฟเวนท์กลับเข้าไปในโรงแรม

" นี่จะปล่อยฉันได้หรือยัง "

อี ยองซุกบอกให้อิเลฟเวนท์ปล่อยแขนของเขาสักทีทันทีที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่เธอก็ยอมผละออกจากเขาทันทีด้วยเหมือนๆ กัน

มิหนำซ้ำอิเลฟเวนท์ก็กำลังเดินกลับเข้าห้องไปในห้องและล้มตัวลงนอนบนเตียงของพวกเธอทันที โดยที่ไม่ยอมแม้แต่จะถอดรองเท้าคัทชูส้นสูงสีครีมด้วยซ้ำ

แต่ว่าอี ยองซุกก็เลยทำได้แค่มองอิเลฟเวนท์พยายามที่จะซุกตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างไม่ลืมหูลืมตา และลืมแม้กระทั่งคำขอบคุณ

" นี่ๆ ๆ แม่คุณ ! " อี ยองซุกแซวเธอเป็นภาษาไทย เพราะภาพที่เห็นแล้วบาดอารมณ์ทางจิต เพราะว่าเธอก็เหมือนผู้หญิงขี้เมาบ้านๆ ชัด ๆ

" ให้มันได้อย่างนี้ซิน่า... !!! " และยังคอยบ่นเธอด้วยภาษาเกาหลีตามกันไปติด ๆ

" พอถึงห้องนอนของตัวเองทีไร !! "

" พวกฉันก็หมดความหมายกับเธอตลอด !! "

" เป็นแบบนี้ทุกครั้งกันเลยซินะ ! "

" ยายเพี้ยน !!! " อี ยองซุกได้แต่ยืนบ่นอยู่ใกล้ๆ

แลเแม้ว่าเขาจะยังคิดชั่งใจกับเรื่องอะไรสักอย่างอยู่ในหัวอยู่ก็ตาม เพราะฉะนั้นเขาถึงได้แต่ยืนมองเธออยู่ใกล้ๆ และก็เฝ้ารอจนกว่าอิเลฟเวนท์จะหลับไปแล้วจริงๆ

อี ยองซุกค่อยๆ เดินเข้าไปหาอิเลฟเวนท์ที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง และนั่งลงหันไปถอดรองเท้าสีครีม ๆ คู่นั้นและวางลงข้างๆ เตียงอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นบาดแผลที่ถูกรองเท้าส้นสูงกัดที่หลังข้อเท้าของพวกเธอทยอยจืดจางลงไปมาก

และเขายังคอยแอบมองเวลาที่เธอนอนหลับ

" บอกว่าจะงดๆ "

"สุดท้าย.....ก็เป็นแบบนี้ทุกทีเลย "

" เมื่อไหร่.....เธอจะยอมเข้าใจสักทีนะว่า "

" ฉันก็เป็นผู้ชายทั้งแท่ง !! " อี ยองซุกส่ายหัวไปๆ มา ๆ ให้กับความคิดของตัวเองอยู่ตรงนั้น

" และฉันเอง !

" ก็ยังจะมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แบบพวกผู้หญิงอยู่ด้วยเหมือนกัน " อี ยองซุกบ่นๆ อยู่คนเดียวแม้ว่าบางครั้งสายตาของเขาที่ก็อยากจะคิดจะเป็นอย่างอื่น

จนกระทั่งเขาเพิ่งหันไปและสังเกตบนใบหน้าของอิเลฟเวนท์ที่ยังดูสดใสและเปล่งปลั่งแม้ว่าจะยามไหน ๆ และเขาก็อุตส่าห์ช่วยเอามือจับเส้นผมที่กำลังหล่นลงมาปิดบังใบหน้าของเธอออก และแม้ว่าบางครั้งเขาก็อาจจะเผลอชื่นชมผิวสวยๆ ของเธอจนเลยเถิดอยู่ก็ตาม

"ฉันเองก็เคยคิดนะว่า ! " และเขาที่เผลอคิดไปไกล

" อยากจะพาเธอหนีไปให้ไกลๆ "

" อีเลฟเวนท์ !! "

" เธอ....อยากจะปลูกผักและทำโรงแรมเล็ก ๆ อยู่บนภูเขาแบบนั้นใช่ไหม ! " เขาที่ยังคงคิด ๆ แต่พอเขายิ่งคิดไปไกลมากขึ้นเท่าไหร่ เขาเองมันก็แค่ อี ยองซุก สำหรับเธอ

" แต่ก็น่าเสียดาย..ตรงที่ว่า " เพราะฉะนั้นเขาถึงต้องพยายามจะหยุด

" เธอเจอแดดจัด ๆ ไม่ค่อยจะได้ซะด้วย !! "

" อีเลฟเวนท์ !! "

" นี่ฉัน ! อยากที่จะขอบอกอะไรเธอสักอย่าง "

" ยิ่ง..เธอทำกับเด็กคนนั้นแบบนี้ " เขาที่อยู่ๆ ก็นึกถึงหน้าของ ไทระ มาซายูกิ

" แต่ฉันว่า... เรื่องรักษาความรู้สึกของคนอื่น !! "

" เธอเองนั้นแหละที่เก่งกว่าใคร ๆ "

" เธอมันเก่งอยู่แล้วนี่ !! เรื่องแบบนี้ " อี ยองซุกที่เฝ้ามองเธอ

เปรี้ยง !!!!

ครึ้มมมมมม !!!!

เสียงฟ้าผ่าเสียงฟ้าร้องทยอยคำรามดังมากขึ้นเรื่อยๆ และเสียงฟ้าร้องก็พลอยทำให้อี ยองซุกต้องคอยหันไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ๆ สีขาว และก็เอาพวกมันมาคลุมตัวของอิเลฟเวนท์เอาไว้เพื่อช่วยให้เธอคลายหนาว

และอี ยองซุกที่ต้องยอมถอยออกมา เพราะเสียงฟ้าร้องที่เหมือนจะเตือนคนอย่างเขาให้ออกมาให้ไกลๆ จากเตียงอิเลฟเวนท์ได้แล้ว แต่ว่าพอจะเริ่มก้าวเท้าเริ่มถอยออกมาจากเตียง และเขาก็กำลังหันมาสะดุดตากับกล่องผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสกำมะหยีสีดำ ที่ ๆ พวกมันถูกนำวางเอาไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง

แสงไฟที่บริเวณกระจกหน้าต่างของโรงแรมค่อยๆ หรี่ลงไป และแม้ว่าสายฝนที่ทยอยตกลงมา และเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ อยู่บริเวณรอบโรงแรมแถวๆ ประตูชัยฝรั่งเศส

และมาซายูกิที่คงยืนอยู่มุมๆ หนึ่ง บริเวณตึกตรงกันข้ามกับโรงแรมที่อิเลฟเวนท์อยู่ และถึงแม้ว่ามาซายูกิจะต้องคอยยืนมองหาอิเลฟเวนท์ที่ไม่รู้ว่าป่านนนี้จะอยู่กับอี ยองซุกอยู่จริง ๆ หรือเปล่า

มาซายูกิได้แต่ยืนมองไปที่ๆ ข้างบนหน้าต่างบนห้องพักของอิเลฟเวนท์ซ้ำๆ และยิ่งเขามองมันนานเท่าไหร่ และยิ่งย้อนนึกถึงหน้าของอี ยองซุกที่คอยแสดงท่าทีสนิทสนม สิ่งเหล่านั้นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกขลาดกลัว !

และจนกระทั่ง มาซายูกิที่กำลังรู้สึกว่า ตัวเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกองไฟ และก็กำลังนอนเกลือกกลิ้งคอยกอดอยู่กับกองไฟกองนั่นไปซะแล้ว !!