........
...ภาพที่ไม่คุ้นเคย วิวทิวทัศน์ที่ไม่รู้จัก คนที่อยู่ตรงหน้าในนั้นคือใคร? ตัวเองเป็นใคร? แล้วภาพเหล่านี้เป็นของใคร?
...ภาพเหล่านั้นเรียงรายทับซ้อนไหลเข้ามาในหัวไม่หยุด ความดีใจเสียใจ ความรู้สึกเจ็บปวด ทรมานหรือแม้กระทั่งความตาย ฉันสัมผัสมันได้ทั้งหมด
...หลังจากนี้ตัวฉันควรจะทำอย่างไรต่อดี?
...
ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับภาพเพดานที่ไม่คุ้นเคย ความรู้สึกสัมผัสนุ่มๆที่หลัง ความสบายที่รู้สึกได้ผ่านผิวหนัง พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ สภาพสีผิวสีขาวซีดเผือกก็กลับมาเป็นปกติ แถมที่มือตอนนี้ก็มีสัญลักษณ์แปลกๆขึ้นมาแทนหมายเลข ตราสัญลักษณ์รูปร่างคล้ายคลึงกับมงกุฎสีแดง
เมื่อมองไปรอบๆก็สังเกตเห็นสาวสวยในชุดเมดยืนเรียงรายนับหลายสิบคน พวกเธอดูดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นฉันฟื้น มีเมดคนหนึ่งวิ่งออกไปข้างนอกด้วยท่าทีที่ดีใจเหมือนจะไปเรียกใครมา...
"ตื่นแล้วอย่างนั้นหรอคะ? ท่านราชา"
พวกเขาเรียกฉันว่า "ราชา" อย่างนั้นหรอ? แสดงว่าการคัดเลือกได้สิ้นสุดลงแล้วสินะ?
"ต้องการให้พวกเรารับใช้สิ่งใดไหมคะ?"
"ไม่ล่ะ...ไม่เป็นไร"
ทันใดนั้นเมดคนที่วิ่งออกไปก็เข้ามาพร้อมกับพูดส่งเสียงดัง
"ไปตามท่านดีลเลอร์มาแล้วค่ะ" ดูเหมือนว่าคนที่เมดคนนั้นไปตามไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นดีลเลอร์ คนรับใช้คนสนิทอดีตราชาคนก่อน
"ก่อนอื่นกระผมดีใจที่ท่านตื่นได้เสียที" พอพูดจบดีลเลอร์ก็ส่งสัญญาณให้เหล่าเมดออกไปรอข้างนอก
หลังจากเมดเดินออกไปกันจนหมดแล้ว จินก้ขึ้นมาถามมาก่อนว่า...
"นี่ฉัน...หลับไปนานแค่ไหนกัน?"
"ไม่นานหรอกครับ แค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นเอง ซึ่งในระหว่างที่ท่านหลับไปนั้นพวกเราก็ได้ทำการซ่อมแซมเมืองและทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนอย่างปกติแล้วครับ สบายใจได้"
"ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว"
"ท่านต้องการถามอะไรต่ออีกไหมครับ?"
"ไม่! ตอนนี้ยัง"
หลังจากนั้นจินก็หันไปมองวิวทิวทัศน์ที่หน้าต่าง จนบรรยากาศภายในห้องนั้นเริ่มอึดอัด ดีลเลอร์เลยพยายามที่จะขอตัวออกไป
"ถ้าอย่างนั้นกระผมไม่รบกวนท่านแล้ว เชิญพักผ่อนได้ตามสบาย หากต้องการให้บริการอะไรเชิญเรียกใช้เหล่าเมดได้ตามที่ท่านประสงค์เลย"
"เดี๋ยว...!" จินพูดขึ้นห้ามดีลเลอร์ที่กำลังจะเดินออกไป "ช่วยพาฉันเดินชราชวังหน่อยได้ไหม?"
"...ตามบัญชาครับ ถ้าอย่างนั้นกระผมจะเรียกเมดหนึ่งคนให้พาท่านเดินชมราชวังเอง"
"ไม่จำเป็น...เพราะว่าฉันมีคนที่รู้จักราชวังนี้อยู่ตรงหน้าแล้วไงล่ะ" จินมองไปที่ดีลเลอร์
"แต่ว่าผมค่อนข้างยุ่ง เลยไม่ว่างที่จะพาเดินชมสักเท่าไหร่"
"คนอย่างนายขัดคำสั่งของฉันได้ด้วยอย่างนั้นหรอ?"
ดีลเลอร์ถึงกับนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งทำท่าทางเหมือนลำบากในการตัดสินใจ ก่อนจะตอบกลับมาว่า
"รับทราบครับ ให้กระผมผู้นี้นำทางท่านชมราชวังแห่งนี้เอง"
จินลุกขึ้นจากเตียงหยิบผ้าคลุมที่แขวนเข้าสวม ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับดีลเลอร์ ทันทีที่เปิดประตูออกไปก็มีเมดยืนรอเรียงแถวต้อนรับกันเป็นแนวยาว
"พวกเธอไปทำงานกันตามปกติ ฉันจะพาท่านราชาองค์ใหม่เดินชมสถานที่นี้เอง"
"ค่ะ!" แล้วพวกเธอก็แยกย้ายกันไปจนเหลือแค่จินกับดีลเลอร์
"ถ้าอย่างนั้นเชิญทางนี้เลยครับ"
จินเดินตามคำเชิญของดีลเลอร์ ในขณะที่เดินไปทั้งสองคนก็พูดคุยกันไปด้วย
"พวก 13 ตระกูลใหญ่เป็นอย่างไงบ้างแล้ว?"
"หลังจากที่การคัดเลือกสิ้นสุดลง ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครคัดค้านผลที่ออกมานะครับ"
"ตระกูลอูทูสล่ะ"
"ผลจากการที่ท่านชนะนั้นทำให้ทางตระกูลอูทูสนั้นได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมากจากการที่สนับสนุนท่านในการคัดเลือกก่อนหน้านี้"
"แล้วเรื่อง..."
ดีลเลอร์ที่รู้ว่าทางราชากำลังจะพูดถามอะไร แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา เขาก็เลยชิงพูดก่อน
"ถ้าเรื่องคนงานของทางอูทูสที่ท่านอยากจะรู้แหละก็ พวกเธอสบายดี"
"...อย่างนั้นก็ดีแล้ว"
ตอนนี้ทั้งสองก็เดินมากันจนถึงที่ห้องอาหารที่อยู่ในราชวัง ที่มีเมดหลายคนกำลังทำงานกันจ้าละหวั่นและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างก็มีเมดอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำความสะอาด ตกแต่งสวนขนาดใหญ่ที่อยู่รอบราชวัง
"สุดยอดไปเลยไหมครับ พวกเธอคือมนุษย์ที่พวกเราภูมิใจสร้างขึ้นเองกับมือ โฮมุนครุส(Homunculus) พวกเธอถูกตั้งโปรแกรมให้จงรักภักดีต่อผู้เป็นนายอย่างถึงที่สุด เป็นแรงงานที่ไม่รู้จักเหนื่อย หิว หรือต้องการพักผ่อน แต่ต่อให้จะพูดอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับเรานักหรอกครับ"
"หมายความว่าอย่างไง?"
"ที่พวกเธอทำอยู่นั้นนอกจากอาหารของพวกเราแล้ว ก็ยังมีอาหารของพวกเธออยู่ด้วย ที่ราชวังนี้ก็ยังมีห้องให้พวกเธอได้นอนหลับพักผ่อน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อไม่ให้จิตใจของพวกเธอพังทลาย เพราะแต่เดิมแล้วพวกเธอก็มีต้นแบบทีมาจากแหล่งคล้ายคลึงกัน"
"คล้ายคลึงกัน?"
"เซลล์จากมนุษย์ไงละครับ...แต่เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงพวกเราไม่ได้ไปฆ่าใครหรือบังคับฝืนใจใครและนำมาทดลองแต่อย่างใด ทั้งหมดนี้ก็มาจากความสมัครใจล้วนๆ"
พอพูดจบแล้วดีลเลอร์ก็เดินนำทางไปต่อ.....แล้วจู่ๆจินก็ถามขึ้นว่า
"ทำไมร่างกายของฉันถึงกลับมาเป็นแบบเดิมได้ แล้วตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนมือนี่คืออะไร?"
"นั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันยังไงล่ะครับ ว่าท่านคือราชา หลังจากที่การคัดเลือกจบลงแล้วมีผู้ที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายตราสัญลักษณ์ก็จะเกิดขึ้นบนผ่ามือแทนที่อันเก่าที่เป็นหมายเลข"
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีหญิงสาวสูงวัยเดินเมาหยุดที่ตรงหน้าของทั้งสอง เธอทำความเคารพจินอย่างสุภาพและตามด้วยดีลเลอร์
"ถวายบังคมท่านราชา กับท่านดีลเลอร์คนรับใช้คนสนิท"
"คุณไวท์ ไม่ต้องน้อมน้อมขนาดนั้นก็ได้ครับ" ทางดีลเลอร์รีบเข้าพยุงตัวของเธอขึ้น "นี่คือคุณไวท์ เธอคือคนรับใช้ของราชาองค์ก่อนหน้านี้และยังเป็นหัวหน้าเมดที่คอยสอนสั่งการปรนนิบัติต่างๆให้กับพวกเธออีกด้วย"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณไวท์"
"ว่าแต่คุรมีเรื่องอะไรหรือครับ?"
"ดิฉันว่าอยากจะลาออกจากการเป็นหัวหน้าเมดแล้วค่ะ"
"แบบนั้นน่าเสียดายนะครับ คุณเป็นบุคคลสำคัญถ้าขาดคุรไปแล้วพวกเธอเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันครับ"
"ตอนแรกฉันเองก็แอบห่วงเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นภาพตอนนี้ พวกเธอดูเติบโตจนไม่ต้องให้ดิฉันสอนแล้ว อีกอย่างท่านราชาคนก่อนก็เสียไปแล้ว คงไม่มีเหตุผลที่ตัวฉันจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว"
"แล้วคุณจะไปทำอะไรต่อจากนี้ล่ะครับ"
"ท่านดีลเลอร์ดิฉันก็อายุได้ 80 กว่าๆแล้ว คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ส่วนเรื่องเงินนั้นไม่ต้องห่วง ฉันทำงานที่นี่มานานก็พอจะมีเงินเก็บใช้จนตายได้อย่างไม่มีปัญญาหาอะไร"
"ถ้าคุณยืนยันอย่างนั้นผมก็ไม่ว่าอะไร ขอให้โชคดีนะครับ"
ก่อนหน้านั้นไวท์ได้เข้ามาหาทางจินแล้วก็พูดขึ้นว่า "ขอให้ท่านราชาปกครองประเทศนี้ด้วยความเที่ยงธรรม และได้โปรดอย่าได้ลืมสิ่งที่เป็นอยู่ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัว"
"......" ซึ่งทางจินได้แต่เพียงพยักหน้าตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกลับไป
หลังจากนั้นไวท์ก้มหัวทำความเคารพกับทั้งสองก่อนจะเดินจากไป ในระหว่างที่เธอเดินจากไปนั้นเหล่าเมดก็เข้ามากอดพร้อมกับบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย...
"ทั้งที่เป็นมนุษย์แท้ แต่กลับปฏิบัติกับพวกเธอราวเป็นครอบครัว ไม่ได้รังเกียจที่พวกเธอเหล่านั้นเป็นโฮมุนครุส น่าแปลกใจดีนะครับ"
"งั้นหรอ?"
ทางจินนั้นไม่ได้สนใจในสิ่งที่ดีลเลอร์พูดมาแต่อย่างใด เขาจ้องมองไปทิศทางที่ไวท์เดินจากไปอย่างไม่ลดสายตาลง ดีลเลอร์ที่เห็นแบบนั้นเลยพูดว่า
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปทำธุระก่อนจะได้ไหมครับ"
"อืม...แต่ช่วยเตรียมรถให้ที ฉันจะออกไปข้างนอก"
"ได้ครับ"
จินเดินทางออกไปนอกราชวังพร้อมกับบอดี้การ์ดจำนวนหนึ่ง ออกจากเซนเตอร์พุ่งตรงไปยังที่ที่หนึ่ง เป็นบ้านที่อยู่ทางทิศนอร์ บ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่ก็เพียงพอที่จะอยู่ได้ครอบครัวหนึ่ง เขากดกริ่ง ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกมาด้วยความร้อนรน ผมดูกระเซอะกระเซิง รอบๆดวงตาขอบดำคล้ำ วินาทีที่เธอเห็นจินก็รีบโผเข้ามา ซึ่งในตอนที่วิ่งเข้ามานั้นทางบอดี้การ์ดพยายามจะกันไม่ให้เข้าถึงตัวฉัน
"ไม่เป็นไร ปล่อยให้เธอเข้ามาเถอะ" พอทางบอดี้การ์ดได้ยินแบบนั้นจึงปล่อยตัวเธอออกมา หญิงคนนั้นพุ่งตรงเข้ามาเขยั่วจินอย่างแรง เธอทะท้วงคำสัญญาออกมา
"ลูกของฉัน ไหนล่ะลูกของฉัน? เขาอยู่ไหน? ตอนนี้เขาสบายดีไหม? ทำไมเขาถึงยังไม่กลับมาหาฉัน?"
ในตอนนั้นจินเอามือของเธอออกพร้อมกับแสดวงสีหน้าเศร้าสร้อยออกมา จนทางแม่ของเฮนรี่นั้นรู้ได้อย่างทันทีผ่านสีหน้า
"ไม่จริง!? ไม่จริง!! ไม่จริง!!! ไหนบอกสัญญาแล้วไงว่าจะช่วยลูกของฉัน ไหนบอกว่าจะปกป้องเขา ไหนบอกว่าจะพา...เขากลับมา..." เธอเริ่มทุบทำร้ายตบที่ใบหน้าของจินจิกเล็บข่วนจนเกิดบาดแผลมีเลือดไหลซึมออกมา ทางบอดี้การ์ดเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยจะเข้ามาดึงตัวเธอออก แต่ทางจินก็ห้ามไว้
"ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร"
"แต่ว่าท่าน..."
"ฉันบอกว่าไม่เป็นไร!" จินตะคอกเสียงออกจนทางบอดี้การ์ดถอยออกไป
แม่เฮนรี่นั้นยังไม่ยอมหยุดเข้าไปในบ้านแล้ววิ่งออกมาใหม่พร้อมกับมีดทำครัว เข้าแทงที่ท้องของจินซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"แกทำแบบนี้กับเขาใช่ไหม!? ทำแบบนี้ใช่ไหม!? เฮนรี่ที่แสนน่ารักของฉัน ที่เขาต้องตายก็เพราะแก! มันไม่ใช่เพื่อนของเขา! แกมันก็เป็นแค่ฆาตกร!!! เอาเขาคืนมา เอาเขาคืนมา! เอาเขาคืนมา!!!" ในขณะที่พูดไปนั้นมือของเธอก็ยังคงจ้วงแทงไปที่ท้องอย่างไม่หยุด จนมือของเธอชุ่มไปด้วยเลือด แต่ถึงอย่างนั้นทางจินก้ไม่แม้จะตอบโต้หรือพูดอะไรเพียงแต่ยืนเงียบให้เธอกระทำทั้งอย่างนั้น
เธอทิ้งมีดแล้วทรุดตัวลงคุกเข่าพร้อมร้องไห้ออกมา พยายามดึงเขย่าที่ต้นขาของจินทั้งในสภาพแบบนั้น
"ได้โปรดอย่าพรากเขาไปจากฉันอีกคน ขอร้องแหละ...พระเจ้า" แล้วเธอก็หมดสติไป
บอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้กับจิน "เอาอย่างไรดีครับท่าน?"
"เรียกรถพยาบาลที...ว่ามีคนล้มหมดสติตรงนี้"
"แต่เกี่ยวกับบาดแผลของท่านละครับ?"
"ฉันบอกให้ทำตามที่ฉันสั่ง!...แค่นี้ฉันไม่ตายหรอก"
"ครับ!"
หลังจากนั้นไม่นานนักก็มีรถพยาบาลเข้ามารับตัวของเธอไปรักษา อาการทางด้านร่างกายไม่มีอะไรมากก็แค่มีอาการเครียดสะสมกับพักผ่อนน้อยก็เท่านั้น แต่..อาการทางใจในตอนนี้เธอย่ำแย่มาก เธอเอาแต่ยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียว ไม่กินอาหารและดื่มน้ำ
จนทางพยาบาลได้นำตุ๊กตาแกะน้อยไปให้เธอ เธอดูดีใจเป็นอย่างมาก เธอเริ่มปฏิบัติกับตุ๊กตาราวกับมันเป็นลูกชายของตัวเอง นอนกอดไม่ยอมให้ห่างตัว และท้ายที่สุดทางหมอได้ตัดสินใจย้ายเธอไปที่โรงพยาบาลทางจิตเพื่อรับการรักษา ซึ่งแน่นอนทางฉันนั้นได้ออกค่ารักษากับค่าดูแลให้ทั้งหมด และคอยกำชับด้วยว่าให้ดูแลเธออย่างดีที่สุด นี่อาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำให้กับเธอได้ ไม่สิ! อาจจะเพื่อตัวฉันเอง....
ณ ที่ตึกของอูทูส
เวลาเย็นวันนั้นทางอูลได้มานั่งดื่มสังสรรค์กับโลแกนที่ห้องหลังจากที่เสร็จงาน
"จะว่าไปฉันไม่ได้ดื่มกับนายมานานแค่ไหนแล้วนะ?" อูลเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา
"นับตั้งแต่ที่พ่อนายเสียไป แล้วนายต้องขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลละมั้ง?"
"ช่วงนั้นเองหรอ? จะว่าก็ลำบากมากเลย พวกเราตระกูลที่เกิดทีหลังนั้นต่างก็โดนเอารัดเอาเปรียบเสมอเลย โยนงานที่ไม่ใช่ของตัวเองมาให้ทำ แถมยังโดนจำกัดงบสร้างเมืองอย่างจำกัดโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้คำนึงถึงค่าแรงงานอีก ต้องควักเนื้อตัวเองจ่ายอีกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่?"
"แต่ตอนนี้ก็...ไม่ต้องห่วงเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกแล้ว"
"ใช่! ฉันเองก็หวังว่าพวกที่เหลือจะเกรงใจในการกระทำของพวกเขามากขึ้น"
ในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยอยู่นั้นก็มีจิลและเซร่าเข้ามาในห้องพร้อมกัน โลแกนเลยถามกับทั้งสองไปว่า...
"พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?"
"ฉันเรียกพวกเธอมาเองแหละ ยิ่งคนเยอะมันยิ่งดีไม่ใช่หรอ? อีกอย่างพวกเรานั้นยังไม่ได้ฉลองให้กับชัยชนะของราชาองค์ใหม่เลย"
จิลเลยพูดอย่างอารมณ์เสียใส่โลแกนไป "หัวหน้าก็แค่จะเก็บเหล้าแพงๆไว้กินเองไม่ใช่หรือไง?"
"ฉันห่วงว่าจะมีข่าวซุบซบเกี่ยวกับพวกเธอต่างหากล่ะ!"
"ถ้าเรื่องนั้นนายไม่ต้องห่วง เพราะว่าทางภรรยาของฉัน เธอเองก็รู้จักกับสองคนนี้อยู่แล้ว ถ้าเกิดขืนฉันทำอะไรไม่ดีกับพวกเธอ ภรรยาของฉันเอาตายแน่"
"คุณหญิงโรสสินะ...จะว่าไปนายยังกลัวภรรยาไม่เลิกอีกอย่างนั้นหรอ?"
"ฉันไม่ได้กลัว ก็แค่เคารพเธอในฐานะที่เธอเป็นภรรยาของฉัน ก็เท่านั้น ความรู้สึกแบบนี้คนอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอก"
"ครับๆ"
"เอาล่ะ! มาดื่มฉลองให้กับราชาองค์ใหม่ของพวกเรา ชนแก้ว!" .
เวลาผ่านไปได้สักพักทางจิลก็เริ่มแสดงอาการเมาออกมา รวมถึงโลแกนด้วย ซึ่งทางอูลนั้นยังปกติดีทุกอย่างเพราะปกติแล้วเขาเป็นคนคอแข็ง
"ไอ้ราชาเฮ็งซวยนั่น! มันกล้าดียังไงถึงเมินพวกเราในตอนนั้น ไม่มีท่าทีที่อยากจะมาหาหรือให้เห็นเลยแม้แต่เงา" จิลนั้นเริ่มแสดงความในใจออกมา
"ผู้ช่วยเธอจะพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ...! แต่ก็ว่าตัวฉันเองก็ยังอากที่จะดื่มกับเขาอยู่เหมือนกัน"
"ทำไม!? ในเมื่อไม่เห็นหัวพวกเรา แต่อย่างน้อยควรจะมาหาเพื่อนของฉันก็ยังดี"
ทางเซร่าที่เห็นสภาพของจิลที่เมาพูดอะไรออกอย่างไร้สติมาเลยหยิบแก้วน้ำให้เธอดื่ม
"เอ้านี่! ดื่มน้ำก่อนนะ!"
"อะไรของเธอเนี่ย! เธอไม่เจ็บใจบ้างหรอที่หมอนั่นไม่เคยมาสนใจใยดีเธอเลย" ถึงแม้ว่าจิลจะพูดอย่างไรออกมาแต่ทางเซร่าก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ทางอูลที่เห็นท่าทีแบบนั้นเลยสงสัยและได้ถามไป "ตัวเธอเองไม่เป็นไรอย่างนั้นหรอ?"
"...ไม่เป็นไรก็คงจะว่าโกหก แต่สิ่งที่หมอนั่นทำลงไปมันจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน ฉันเชื่อแบบนั้น" เซร่าตอบกลับด้วยความมั่นใจ
จิลเลยพูดขึ้นมาแทรกว่า "บางที เขาอาจจะลืมเธอแล้วก็ได้นะ ก็ในราชวังนั้นมีสาวสวยรายล้อมตั้งขนาดนั้น เขาเองก็เป็นผู้ชายวัยกลัดมันจะกลายเป็นสัตว์ร้ายฉีกกระชากเสื้อของสาวเหล่านั้นแล้วก็ได้นะตอนนี้"
"มะ...ไม่มีทางที่หมอนั่นจะทำอะไรแบบนั้นหรอก" เซร่าเริ่มแสดงความไม่มั่นใจออกมา เธอเลยทำการกระดกเหล้าที่อยู่ในแก้วหมดในรวดเดียวทำให้เริ่มมีอาการเมาเล้กน้อยแต่ตัวเธอก็ยังตั้งสติได้
โลแกนเลยพูดเสริมไปอีกว่า "นี่มันคนที่กำลังจะหนีความจริงนี่หว่า"
"เอาน่าๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาดื่มกันจนกว่าจะเช้าเลยดีกว่า!" อูลพูดขึ้นมาอย่างดีใจ
"เห็นด้วย!!!" ทางจิลกับโลแกนพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน
"พรุ่งนี้ต้องทำงานไม่ใช่หรอ!!!?"
หลังจากที่เสียงแจ้งเตือนครั้งสุดท้ายดังขึ้น....
....หมายเลข 04 ไท (พิชัยศัตรู ชำนาญการ) ถูกกำจัดแล้ว....
07.00 น.
ผู้นำตระกูลทุกคนต่างพากันเข้าในเซนเตอร์ด้วยความรวดเร็ว ด้วยความบังเอิญหรือว่าโชคชะตาหรือป่าวก็ไม่มีใครรู้ทุกคนต่างไปยังที่ที่เดียวกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
เมื่อเดินเข้าไปในราชวังตรงหน้าของพวกเขาเป็นห้องที่ราชาคนปัจจุบันน่าจะอยู่อย่างแน่นอน ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปนั้นเอง ทางดีลเลอร์ก็เข้ามาขวางพวกเขาเสียก่อน
"จะเข้ามาขวางพวกเราทำไม?" หนึ่งในนั้นถามขึ้น
"คุกเข่าซะ! ต่อหน้าราชาองค์ใหม่นี้!"
ทันใดนั้นประตูบานใหญ่ได้เปิดออก ภาพตรงหน้าของพวกเขาเหล่านั้นแสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่าง เสดงให้เห็นบนบัลลังก์มีคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนนั้นอย่างองอาจ มองมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับมองสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่าตนเอง
หลังจากนั้นเหมือนว่าสัญชาติญาณมันสั่งพวกเขาให้ทำตามอย่างเคร่งครัด ก้มตัวลงคุกเข่าต่อหน้า...ราชาอย่างนอบน้อม
ในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน....
ดีลเลอรืที่พึ่งกลับมาราชวังกลังจากที่ตนเองทำธุระเสร็จแล้ว ก็ได้มีเมดหนึ่งคนเข้ามาหาพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า...
"ท่านดีลเลอร์คะ ท่านราชาต้องการพบท่านค่ะ"
"ตอนนี้เลยหรอ?"
"ใช่แล้วค่ะ! พอดีท่านราชามีเรื่องท่สำคัญมากจะคุยด้วย"
หลังจากที่ดีลเลอรืร็ว่าทางจินต้องการที่จะคุยเรื่องบางอย่างด้วย เขาจึงรีบตรงไปยังที่ห้องนั่นอย่างทันที
"ขออนุญาตครับ" พอพูดจบทันทีก็มีเสียงตอบกลับมา
"เข้ามาได้"
ภาพที่อยู่ตรงหน้าของดีลเลอร์ตอนนี้นั้นเป็นราชนาของเขาทีกำลังนั่งรอด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
"ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจุยกับผมอย่างนั้นหรอครับ?"
"นั่งลงก่อนสิ!"
ดีลเลอร์ตอบรับคำเชิญนั่งลงอย่างว่านอนสอนง่าย พอทางจินเห็นว่าอีกฝ่านนั่งเรียบร้อยดีแล้วก็พูดขึ้นมาว่า...
"วันนี้ฉันไปหาคนคนหนึ่งมา...เธอเป็นหญิงที่พึ่งจะสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักของเธอไป ตัวเธอนั้นสูญเสียสติไม่ยอมรับความจริงเหล่านั้น เข้าทำร้ายเพื่อนของลูกชายเธออย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดตัวเธอนั้นก็ไม่สามารถที่จะอยู่แบบนั้นได้เลยเลือกที่จะหนีความจริง อยู่ในโลกที่ตนเองสร้างขึ้น ในโลกที่ยังมีลูกของเธออยู่"
"ที่พูดหมายความว่ายังไงหรอครับ?" ทางดีลเลอร์นั้นยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ราชากำลังจะสื่อออกมา
"ถ้าอย่างนั้นเข้าเรื่องเลยนะ....นายเป็นใครกันแน่?"
"กระผมเป็นข้ารับใช้คนสนิทของราชาองค์ก่อน ซึ่งปัจจุบันเป็นข้ารับใช้ของท่านยังไงล่ะครับ"
"เฮ้อ.....! ฉันขอถามอีกครั้ง.......จะให้ฉันเรียกนายว่าอะไรดี?"
จบภาคชายผู้ตกต่ำ