"ปี่หย๋าย อุ้มโหน่ย"เสียงเล็กๆของลูกชายคนสุดท้องเอ่ยขึ้น เจ้าตัวอ้วนกลมน่ารักน่าชังชูแขนขึ้นฟ้าหลังจากที่พี่ชายคนโตของบ้านกำลังประคองภรรยาที่แต่งงานมาหมาดๆได้ไม่กี่เดือนและกำลังตั้งครรภ์คนแรก
"มาๆ"หลงหนิงอ้ายประคองเสวียนจินเกอน้อยบ้านเสวียนที่ตามจีบหลายปีก่อนจะอุ้มเกอน้อยคนที่สิบของบ้านอย่างหลงหลินหลินหรือเสี่ยวหลินตัวน้อย
"ไม่อยากให้พี่อุ้มบ้างเหรอ"หลงหนิงฮวาพี่สาวคนโตของบ้าน ทายาทลำดับที่สามเดินกินองุ่นเอ่ยทักทายน้องคนเล็ก
"หรือจะให้พี่อุ้ม"หลงหนิงเหมยตะโกนจากชั้นสองของตัวบ้านจนบรรดาพี่น้องทั้งสามคนที่อยู่ในสนามต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนที่หลงหนิงอ้ายจะคิ้วขมวดถึงแม้จะเห็นภาพนี้บ่อยๆแต่มันไม่ชินจริงๆ
"เสวียนอี้หนิง ออกห่างน้องชายฉันเดี๋ยวนี้"เจ้าของชื่อทำเพียงยักไหล่ไม่แยแส ก่อนจะทักทายคนพูด
"พี่เมียน้องเขย อย่าโวยวายไม่งั้นฉันริบเสี่ยวจินคืนนะ บอกก่อน"เป็นความสัมพันธ์แบบแปลกๆคนพี่ได้คนน้องสลับกันสองบ้านระหว่างตระกูลหลงกับตระกูลเสวียน
"เหอะ"ระหว่างเมียกับน้อง หลงหนิงอ้ายเลือกเมียอยู่แล้ว
"ชิ"พอเห็นว่าตัวเองไม่ถูกเลือกหลงหนิงเหมยก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะเป็นเหตุให้ฝาแฝดสองคนหันมามองอย่างพร้อมเพรียง
หลงหนิงหลงทายาทคนที่สี่ของบ้านเป็นบุรุษที่องอาจไม่ต่างจากพ่อและพี่ชาย ข้างๆกันคือหลงหนิงเฟิ่งเกอคนที่สองของบ้านทายาทลำดับที่ห้ามีใบหน้าคล้ายคลึงพี่ชายแต่มีความอ่อนโยนและดวงตาที่กลมโตทำให้บรรยากาศรอบข้างไม่น่าอึดอัดเท่าพี่ชายฝาแฝด
"เด็กๆมากินข้าวกันครับ"เสียงตะโกนของคนพ่ออย่างหลงจือหยางที่ยามนี้ตัดสินใจทำหมันเพราะมีทายาทเพียงพอต่อความต้องการ ข้างๆกันคือคนรักอย่างเยว่ชิงที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุขหลังลูกๆคนที่หกถึงเก้ากำลังวิ่งวุ่นปิ้งย่างทะเลกันอยู่
"ของพี่หกเอากุ้งเยอะๆนะ"หลงซูเจียวสาวน้อยคนสุดท้ายของบ้านทายาทลำดับที่หกเอ่ยขึ้น เจ้าตัวเม้มปากแน่นหลังต้องมาจัดการปลาหมึกแทนที่จะเป็นกุ้ง เพราะเจ้าเก้าคนเดียวที่ร้องอยากทำ
"ของเขาจ้วย"หลงซูเซียวหรือเจ้าเก้าที่ตอนนี้อายุใกล้จะสี่ขวบปีแต่ยังพูดไม่ค่อยชัด เพราะมีน้องสิบที่พูดไม่ชัดเป็นเพื่อน ยกนิ้วชี้เข้าหาตัวเอง แย่งงานเขามาแล้วก็ยกงานตัวเองให้พี่แปดไป
หลงซูเมิ่งทายาทลำดับที่แปดที่จู่ๆต้องมายืนหน้าเตา ในมือถือที่คีบอย่างเหม่อลอย อะไร ทำไมและเกิดอะไรขึ้น ทำไมตัวเองต้องมายืนท่ามกลางพี่น้องที่ส่งสายตาฮึ่มๆใส่กัน เหตุเพราะกุ้ง
"พี่เจ็ด พี่แปดเมากาวแน่ๆ"ในฐานะน้องรักของบ้านที่แสบซนไม่แพ้เจ้าสิบ หลงซูเซียวเลยกระซิบกับหลงซูเหวินทายาทลำดับที่เจ็ดของบ้าน
"ได้ยินนะเจ้าเก้า"หลงซูเมิ่งยกมือฟาดป๊าบเข้าที่หน้าผากน้องชายเบาๆ ก่อนจะยื่นที่คีบให้หลงซูเหวินจัดการ
"มีอะไรให้พี่ช่วยไหม"หลงหนิงอ้ายมองน้องๆที่ซุกซนอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ในอ้อมกอดยังอุ้มหลงหลินหลินเอาไว้มืออีกข้างก็ประคองภรรยาคนงามให้นั่งลง
เป็นเวลาเดียวกับคนที่ชั้นสองของตัวบ้านเดินหลงมา หลงหนิงเหมยอมลมจนแก้มพองก่อนจะวิ่งเข้าหาน้องชายคนที่สิบแล้วหอมแก้มกลมนุ่มๆฟอดใหญ่ จนเจ้าตัวน้อยของบ้านส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
"มาๆให้คนสวยช่วยดีกว่า"หลงหนิงฮวาเดินไปหาน้องหกทันทีเพราะเป็นสตรีกันอยู่สองคน แถมคนในบ้านยังไม่รู้จักถนอมบุปผาเสียด้วย
"ดีเลยพี่สาม หนูจะไปฟัดพุงเจ้าเก้าก่อนเดี๋ยวมา"หลงซูเจียววางใจเมื่อการปิ้งย่างปลาหมึกอยู่ในมือพี่สามของบ้าน ก่อนจะวิ่งเข้าหาหลงซูเซียว เจ้าตัวที่ระแวดระวังเพราะสร้างศัตรูไว้ทั่วบ้านจึงมีการระวังภัยเป็นพิเศษ
ยามที่ปลายเท้าพี่หกออกตัว เจ้าเก้าก็วิ่งไปหาม๊ะม๊าคนงามเพื่อเอาชีวิตรอด ใครว่าสตรีอ่อนโยนกัน ทั้งบ้านมีแต่คนป่าเถื่อน ขนาดคนอย่างพี่ใหญ่กับพี่รองยังขายออก ดูตอนนี้สิ พี่สามยังขายไม่ออกเลย
หากหลงหนิงอ้ายกับหลงหนิงเหมยได้ยินความคิดละก็ ทั้งสองคนคงร่วมขบวนการฟัดพุงเจ้าเก้าเป็นแน่
หน็อย! คนอย่างพี่ใหญ่กับพี่รองมันเป็นยังไงห๊ะ
"ม๊าาาาา"หลงซูเซียวกอดเอวม๊าคนงามแน่น เงยหน้าออดอ้อนจนคนเป็นแม่อย่างเยว่ชิงได้แต่ยิ้มออกมาอย่างรู้เท่าทันว่าเจ้าตัวน้อยคนนี้ไม่แคล้วไปสร้างศัตรูแน่ๆ
อยู่ในบ้านยังพอได้แต่ถ้าออกนอกบ้านแล้วนิสัยแบบนี้เกรงว่าจะไม่ได้แก่ตาย
"มานี่เลย"หลงซูเจียวเดินเข้าใกล้อย่างช้าๆเจ้าเก้าทำได้เพียงดึงชายเสื้อของม๊าคนงามให้ช่วยเหลือ
"เราไปทำอะไรพี่เขาละ"เยว่ชิงเอ่ยถามแม้จะรู้ดีว่าคนที่เริ่มก่อนเป็นใครเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องยืนตรงกลางระหว่างลูกๆ
"ไปเคลียร์กันเอง เราก็โตแล้วเลิกกอดม๊าได้แล้ว คนนี้ของป๊า"ไม่ว่าเปล่า หลงจือหยางวางชุดจานชามช้อนบนเคาน์เตอร์ก่อนจะโอบเอวคนงามแล้วหอมแก้มไปหนึ่งที
"โห่ ป๊าอ่าาาา"สุดท้ายสองพี่น้องก็แยกย้ายหลังป๊ายืนอวดความรักหวานแหววไม่เกรงใจสายตาของพวกเขาเหมือนทุกที
"อย่ารุ่มร่ามสิครับ"คุณม๊าลูกสิบเขินใบหน้าแดงก่ำยกมือตีสามีไปหนึ่งทีเบาๆ ต่อหน้าลูกทีไรเก็บเล็กผสมน้อยตลอด
"แต่วิธีแบบนี้ได้ผลเสมอนี่น่า"หลงจือหยางหัวเราะในลำคอ เวลาลูกๆหาคนกลางทีไร ไล่แบบปกติไม่ไป พออวดความรักนิดหน่อยก็แยกย้ายกันตลอดเป็นมาตั้งแต่พี่อ้ายกับน้องเหมยแล้วละ
"คนเจ้าเล่ห์ ฉวยโอกาสก็บอกมาเถอะ"เยว่ชิงถลึงตาใส่ ก่อนจะถือถาดที่ใส่บรรดาซอสจิ้มหลากหลายเอาไว้แล้วเดินไปรวมกับเด็กๆที่มุมสระว่ายน้ำลานกว้างที่เหมาะแก่การสังสรรค์
"เล็กๆน้อยๆ ไว้คืนนี้พี่จะฉวยโอกาสเยอะๆ"หลงจือหยางกล่าวก่อนจะถือจานชามช้อนตามไป
"ม๊าคนงามของพี่ นั่งเลยๆเดี๋ยวพี่ทำเอง"หลงหนิงหลงทายาทคนที่สี่แสนกะล่อนเพราะมักจะแทนตัวเองว่าพี่เสมอหลังรู้ความ ว่ามีฝาแฝดคนน้องที่คลานตามกันมา อะไรคือแฝด อะไรคือพี่น้อง
"ดีเลยป๊าจะได้นั่งด้วย"หลงจือหยางยึดตำแหน่งคนข้างๆของภรรยาอย่างง่ายดาย ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ที่มองมา
"อี้หนิงพ่อแม่ไม่มาเหรอ"เยว่ชิงเอ่ยถามบุตรเขยทายาทของเสวียนอวี้กับจิวอิงที่เติบโตมาสง่างามไม่แพ้หลงหนิงอ้ายเลยทีเดียว
"เดี๋ยวป๊ากับม๊าก็มาครับ ม๊าอิงคิดถึงม๊าชิงเอามากๆ"อี้หนิงตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะฉุดรั้งเกอคนงามให้นั่งตัก หลงจือหยางคิ้วกระตุกเล็กน้อยจนเยว่ชิงก็ยกมือปลอบประโลมคนพ่อ
ลูกโตแล้วแท้ๆไม่รู้จะหวงทำไมจริงจัง เพราะเด็กๆอยู่ในสายตาพวกเขาตลอดตั้งแต่เกิด เพราะสองบ้านไปมาหาสู่กันบ่อยๆ
ส่วนตระกูลโจวกับตระกูลจ้าวก็มีบ้างที่นัดกันแต่สองบ้านนั้นเร่งปั๊มทายาทแข่งบ้านหลงกับบ้านเสวียนอยู่ ก็นะ เล่นกอดคอพากันโสดไปหลายปี มาปั๊มตอนนี้จะทันได้ยังไง
พูดถึงไม่นานเสียงรถก็เคลื่อนตัวเข้ามาในบ้าน รอไม่นานสองคนที่คุ้นเคยก็ปรากฏในสายตา เยว่ชิงลุกขึ้นอ้าแขนกว้างรอจิวอิงเดินมาสวมกอด เพราะหลังจากคลอดบุตรคนล่าสุดพวกเขาแต่ละคนต้องใช้เวลากับลูกคนเล็กเป็นธรรมดา
"สวัสดีก่อนครับเด็กๆ"ด้านหลังยังเต็มไปด้วยเด็กบ้านเสวียนโดยที่คนล่าสุดน้ำลายเลอะปากอยู่ในอ้อมแขนของเสวียนอวี้ ทายาทคนที่สิบตระกูลเสวียน
"สวัสดีครับ/ค่ะ"เยว่ชิงหัวเราะคิกคักเมื่อมีเด็กๆมาเพิ่มทำให้บ้านครื้นเครงกว่าเดิม ไม่นานเก้าอี้เสริมหลายตัวก็ทยอยเอาออกมาใช้ ให้เด็กๆไปกองรวมกันมุมหนึ่ง พ่อแม่มุมหนึ่งและเด็กโตอีกมุมหนึ่ง
"ดีจังเลยนะครับ แบบนี้"ท่ามกลางเสียงหัวเราะเฮฮาของเด็กๆทำเอาคนที่หัวใจเคยเหน็บหนาวอุ่นวาบไปทั้งใจเอ่ยขึ้น เยว่ชิงค่อยๆเอนกายพิงสามี
"ครับ ครอบครัวเราตอนนี้ ดีมากจริงๆ"หลงจือหยางตอบรับคำของคนรักอย่างเห็นด้วย ในอีกไม่ช้าจากสถานะพ่อแม่จะกลายเป็นคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายกันแล้ว
เสวียนอวี้กับจิวอิงแม้ไม่มีคำพูดใดๆออกมาแต่พวกเขาก็รู้สึกแบบเดียวกับที่หลงจือหยางและเยว่ชิงรู้สึก
ระยะเวลาพัดผ่านไปอีกกว่าเก้าพันปีหลงจือหยาง เยว่ชิง เสวียนอวี้และจิวอิงใกล้จะหมดเวลาชีวิตบนโลก คนทั้งคู่เลยตัดสินใจให้ช่วงท้ายๆของชีวิตได้ออกท่องเที่ยวกันอีกสักครั้งก่อนจะกลับบ้านเพื่ออยู่กับลูกหลานในนาทีสุดท้าย
โชคดีที่บรรดาลูกๆของพวกเขาสามารถทะลวงระดับศักดิ์สิทธิ์กันมาได้ นอกจากพรสวรรค์และความสามารถ หอคอยชั้นบนๆมีหินพลังวิญญาณมากขึ้น ทำให้มีผู้ผ่านระดับศักดิ์สิทธิ์ได้มากขึ้นไปด้วย
เพราะการดำรงอยู่ของหลงจือหยางและเยว่ชิงจึงไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาประเภทแบบครอบครองหอคอยไว้แต่เพียงผู้เดียว ในปัจจุบันยังคงมีความเท่าเทียมกันอยู่และทุกคนบนโลกก็มีความสุขดี
หลงจือหยางกุมมือเยว่ชิงเดินเข้าบ้านก่อนจะพบว่าลูกๆของพวกเขาทั้งสิบคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พร้อมทายาทที่แทบจะจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร
จากตระกูลหลงที่เหลือเพียงคนเดียว ในปัจจุบันแทบจะครบหนึ่งพันคนเข้าไปแล้ว ถือว่ายังดีที่ลูกๆบางคนมีลูกๆแค่สองสามคนก็พอ แน่นอนว่าครอบครัวของหลงหนิงอ้ายมีเยอะที่สุด เพราะมีทายาทถึงสิบสองคน ตามด้วยหลงหนิงหลงที่มีลูกสิบเอ็ดคน
ยังไม่รวมหลานๆอีกเกือบร้อยที่สืบทอดจนมีเหลนไปอีกหลายสิบคน และนี่คือที่มาของคำว่า จำไม่ได้จริงๆแม้กระทั่งชื่อหลาน
ทั้งๆที่ไม่มีอาการหลงลืม แถมร่างกายยังคงสภาพตอนอายุยี่สิบกว่าๆไม่ได้เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา
"ป๊ากลับมาแล้วครับ"หลงจือหยางเอ่ยขึ้น
"ม๊ากลับมาแล้ว"ตามด้วยเยว่ชิง
"ยินดีต้องรับกลับบ้านครับป๊าม๊า"หนุ่มสาวทั้งสิบเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะตามด้วยหลานๆและเหลนอีกหลายคน
ชีวิตของพวกเขาบนโลกนี้ มีความสุขมากจริงๆ
____________END____________