Bodleian Library คือหนึ่งในห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ประกอบด้วยอาคาร 5 หลัง เป็นที่รวบรวมทั้งหนังสือหายาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือต้นฉบับ เอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นต้นห้องสมุดนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ผู้คนมากมายทั้งที่เป็นนักศึกษาและไม่ใช่นักศึกษาต่างก็มาหาความรู้กันที่นี่ เจคเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ร่างสูงสะพายเป้ใบโปรดเข้ามาในห้องสมุด เจคเลือกมุมหนึ่งติดกับหน้าต่าง เพื่อนแสงที่พอดีกับการอ่าน
วันนี้เขาและเกรย์มีนัดกันหาข้อมูลเขียนรายงานส่งอาจารย์ เป็นตัวสุดท้ายก่อนจบการศึกษาไป มุมหนังสือที่หาคงไม่พ้นประวัติศาสตร์และศิลปะอย่างแน่นอน
"เจคคคค" เสียงกระซิบที่ดังพอสมควรจากเกรย์ที่เดินหน้าตั้งเข้ามา ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
"เจคนายหาได้รึยังเรื่องที่จะทำ ฉันคิดมาทั้งคืนก็ยังตัดสินใจไม่ได้"
"ไม่รู้สิ ฉันยังไม่ได้ไปหาดู"
"ฉันจะไปดูแถวโซนศิลปะเลย เจอกันเจค" ว่าแล้วเกรย์ก็หายลับไปทันที
หมอนี่มันอะไรกัน
ห้องสมุดโซนประวัติศาสตร์ ศาสนา ค่อนข้างจะเงียบ หนังสือเรียงรายจากพื้นล่างจรดเพดาน กลิ่นกระดาษอบอวลทั่วบริเวณ เจคเดินไล่ดูชื่อหนังสืออย่างสนใจ ก่อนสายตาจะถูกดึงไปที่ชั้นที่3ของชั้นหนังสือ หนังสือเล่มหนาถูกกวางกลับหัวดูไม่เข้าพวก แต่นั่นทำให้เจคกลับรู้สึกสนใจขึ้นมา ดูสีของกระดาษที่เห็นก็เหลืองหม่น ดูแล้วเก่าจนคิดว่าถ้าเขาเปิดอ่านมันคงหลุดออกมาแน่นอน
"ตัวอักษรนี่มันอะไร" เจคเห็นชื่อหนังสือก่อนจะงึมงำเบาๆ ตัวอักษรบนปกหนังสือดูแปลกตา มันมีแค่ขีดๆเป็นแง่งๆ หรือเขาต้องกลับหัวมันขึ้นมาดู
แขนยาวยืดขึ้นไปบนชั้น3 ทันทีที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับสันหนังสือ เจครับรู้ถึงกระแสความแสบร้อนไหลผ่านที่ปลายนิ้วเข้ามาสู่ร่างกาย ตัวอักษรที่คล้ายคลึงกับสันหนังสือค่อยๆปรากฏบนท่อนแขนด้านขวาตั้งแต่ข้อมือจนถึงข้อศอกภายใต้เสื้อแขนยาวที่เขาสวมอยู่ ความแสบร้อนวูบวาบรุนแรงไล่ไปขึ้นตามตัวอักษรทันที ดวงตาสีน้ำตาลธรรมชาติของเจคค่อยๆถูกสีม่วงแกมแดงกลืนกิน เพียงชั่วขณะหนึ่งก็กลับสู่สีเดิม เสียงวิ้งในหูทำให้เจคหูอื้อและเวียนหัวคลื่นไส้ ก่อนจะได้ยินเสียงแหบพร่าดังอยู่ข้างหู ราวกับมีคนมากระซิบอยู่ข้างๆ
"ในที่สุดก็ตื่นขึ้นแล้ว นายท่าน"
อัก.... หัวใจของเขาเต้นแรงจนปวดไปหมดแล้ว
"เฮ้ย! เจค!"
เฮือก!!
เสียงเกรย์แทรกผ่านเข้ามาพร้อมกับมือที่ละออกจากหนังสือเล่นนั้น ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติทันที ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแค่เจคที่หอบหายใจอย่างแรง และความรู้สึกร้อนที่แขนเล็กน้อย
"เพื่อน นายเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดวะ โอ๊ย!!" ทันทีเกรย์ถึงตัวเจค มือยื่นมาสัมผัสก็ต้องร้องขึ้นทันที
"ตัวนายร้อนอย่างกับไฟ เสื้อนายจะไหม้ป้ะเนี่ย"
"เกรย์.." เสียงแหบพร่าของเจคเรียกเกรย์เบาๆ ราวกับเขาไม่ได้ดื่มน้ำมานาน แต่สายตาเจคมองขึ้นไปที่หนังสือเล่มนั่น
"นายพูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วจู่ๆก็เหมือนจะล้ม ตกใจหมด"
"ฉันพูดอะไรงั้นเหรอ" เจคทำหน้าแปลกใจ เขาจำไม่ได้ว่าเขาพูดอะไร เขาได้ยินเพียงเสียงวิ้งในหู เหมือนหูจะอื้อไปชั่วขณะ
"ไม่กี่คำ แต่ไม่รู้โว้ยยย แล้วได้ยังหนังสือ"
"ยัง แต่ฉันเจอเรื่องแปลก เกรย์เมื่อกี้ฉันแตะมัน จู่ๆก็เป็นแบบที่เห็น"
"ล้อเล่นหรือไงเจค หนังสือเคลือบยาพิษรึไง"
"นายว่ามันจะเกี่ยวกับที่ฉันฝันมั้ยเกรย์"
"ไม่รู็สิเพื่อน หรือจะใช่วะ แต่มันก็แค่หนังสือ นายคิดเยอะไปรึเปล่า"
"ฉันแค่รู้สึก"
สองหนุ่มมองหน้ากัน มันน่าแปลก และเจคตัดสินใจยื่นมือขึ้นไปหยิบหนังสือเล่มนั้นลงมา แต่แปลกที่รอบนี้เขาไม่ได้รู้แบบเมื่อสักครู่ มีแต่ความรู้สึกตื่นเต้นนำพาเขาไป โดนที่เจคไม่ได้สังเกตุที่แขนของตนว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นใต้เสื้อแขนยาวที่สวมใส่ ทิ้งไว้แค่รอยแสบเล็กน้อยเท่านั้น
และแล้วหนังสือเล่มนั้นก็ได้มาอยู่ในมือเจค ปกหนังสือถูกหุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่สีดำบนปกมีลวยลายสวยงาม เส้นเหล็กสีเงินดันอย่างประณีต ประดับด้วยอัญมณีสีม่วงตรงกลาง เมื่อเปิดออกดูจึงพบกับตัวหนังสือตัวเขียนภาษาอังกฤษที่ดูโบราณ และยังมีตัวอักษรประหลาดเขียนไว้แทบทุกหน้า
"นายอ่านออกมั้ยเจค อย่างกับหนังสือหมอผี แม่มด"
"ภาษาอังกฤษพอได้ แต่ตัวอักษรพวกนั้น ฉันอ่านไม่ออกเลย"
"แป๊บๆ" เกรย์ยกมือขึ้นเบรคเพื่อน ก่อนจะกดเข้าเบราว์เซอร์ค้นหาจากรูปถ่าย รอไม่นานข้อมูลจึงปรากฏขึ้นบนหน้าจอสมาร์ทโฟน
'อักษรรูน'
"อักษรรูน มันเป็นภาษาโบราณ เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เป็นศาสตร์ของการทำนาย...." เจคไล่อ่านตามเนื้อหาที่ขึ้นในหน้าจอมือถืออย่างละเอียด
"น่าขนลุกอยู่นะเจค"
"ฉันจะเอาไปดูก่อน เผื่อมีข้อมูลที่มันเกี่ยวข้อง"
"บ้าบอ เมื่อกี้นายจับมันแล้วอย่างกับโดนผีเข้า แล้วจะเอามันกลับเนี่ยนะ"
"ฉันถึงบอกว่ามันแปลกไง ไม่ลองไม่รู้ ฉันเบื่อแล้วกับฝันอะไรซ้ำซาก อยากรู้ให้มันจบๆ"
"โอเคเพื่อน ฉันจะช่วยเอง" เกรย์พูดอย่างหนักแน่น
เจคและเกรย์จึงได้กลับมาที่โต๊ะ ก่อนจะเริ่มทำงานที่ได้มา เจคเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้ข้างตัว วันนี้เขาจะยืมมันกลับไปอ่านดู
หากแต่เจคไม่ได้สังเกตว่าบนปกหนังสือนั้นมีแสงวาบจากอัญมณีเม็ดเล็กบนปก ทอประกายชั่วครู่ก่อนจะเป็นดังเดิม
.
.
.
ในมุมมุมหนึ่งของห้องสมุดเก่าแก่ปรากฏชายรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีดำกำมะหยี่ ราวกับเส้นใหม สวมโค้ดยาวพอดีตัวสีน้ำตาล ดูกลมกลืนกับห้องสมุด ใบหน้าหน้างดงามเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆกำลังจดจ้องไปที่ชายหนุ่มที่อยู่อีกฝั่งของห้องสมุดกว้างนี้ไม่วางตา
วัลเดอเลียสรับรู้ถึงพลังที่ไหวกระเพื่อม นั่นทำให้เขาต้องมาอยู่ที่นี่เพื่อนดูว่ามันเกิดขึ้นแล้วใช่หรือไม่ เจเรมี่เองก็คงรู้สึกถึงได้วนเวียนอยู่รอบๆนี้ และคนอื่นๆก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน...
คนคนนั้นปลุกหนังสือเวทมนตร์นั่นให้ตื่นขึ้น คงไม่ใช่เพียงเพราะบังเอิญแล้วกระมัง