Chereads / If You Get To Choose / Chapter 3 - From Scratch

Chapter 3 - From Scratch

ช่วงดึกของวันนั้น หลังจากที่เธอกลับบ้านมา เรเวนได้ไปค้นกล่องในห้องเก็บของใต้บันไดบ้านเพื่อหากล่องใส่อุปกรณ์เล่นวีอาร์ที่เธอเก็บเอาไว้ เธอยกกล่องที่คิดว่าใช่ออกมาเปิดดูให้แน่ใจแล้วยกมันขึ้นไปที่ห้องของเธอ ทันทีที่เปิดกล่องเอาเครื่องวีอาร์ออกมาถือไว้ในมือ ประหนึ่งว่าความกระตือรือร้นที่ผ่านมานั้นได้ระเหิดหายไปจากร่างกายจนหมด 'ตัดสินใจแบบนี้มันดีแล้วจริงๆใช่ไหม' ขณะที่ความคิดกำลังตีในหัวเธอ เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

'ไว้เจอกันข้างในนะ <3' เป็นแซคนี่เอง แล้วไออิโมจินี่มันหมายความว่ายังไงกันนะ

เห้อ

'เอาไงเอากัน' เรเวนยกเฮดเซ็ตที่ปัดฝุ่นออกแล้วเสียบปลั๊กที่รูปร่างเหมือนแว่นตาดำน้ำขึ้นพร้อมถุงมือและปลอกขาก่อนที่จะนอนลงบนเตียง เธอได้นำแผ่นเกมที่แซคให้มาใส่เข้าคอมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ที่เหลือที่ต้องทำก็แค่กดปุ่มเริ่มเกม

วึ่มมม

ทันใดที่เสียงเครื่องเปิดดังขึ้น เรเวนเริ่มตั้งสติพร้อมหายใจเข้าปอดลึกๆ นับถึงสี่ช้าๆ กลั้นหายใจ พ่นลมหายใจออกดึงเฮือก และกลั้นหายใจอีกรอบ ทำซ้ำแบบนั้นอยู่สี่รอบ เป็นสี่จังหวะทั้งหมด พร้อมกำสร้อยคอกรีนอะเวนเจอรีนที่สวมไว้ที่คออย่างแน่นไปด้วย ประหนึ่งเหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่เดียวของเธอ นี่เป็นเทคนิคการหายใจแบบ Box Breathing เพื่อคลายกังวลและดึงสมาธิของตัวเองกลับมา พร้อมกดปุ่มเริ่มเกม

[เชื่อมต่อผู้เล่นกับเกม]

[ทดสอบการได้ยิน สัมผัส การรับรส]

[ล็อกอินหรือลงทะเบียนผ่านอีเมล]

พลันหน้าจอที่มืดมิดก็มีตัวอักษรปรากฏขึ้นเมื่อกดเริ่มเกม ถุงมือและปลอกขาที่สวมนั้นไว้สำหรับการเคลื่อนไหวในเกม มันจะตรวจจับแรงสั่นของเส้นประสาทเวลาที่เรานึกอยากขยับหรืออยากทำอะไรเชื่อมต่อไปยังในเกม เช่น การล็อกอินเกม แค่คิดว่าจะกรอกรหัสอะไรเข้าไปมันก็จะกรอกให้ตามที่เราคิด ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องวีอาร์ใหญ่ยักษ์ที่คอยควบคุมรอบด้านให้เราได้ขยับตัวในชีวิตจริงแต่ราคาเป็นอันตรายกับกระเป๋าตัง เพียงแค่นอนลงบนเตียงและจินตนาการก็สามารถหลุดเข้าไปในโลกตามแผ่นเกมที่เราใส่เข้าคอมได้

[ล็อกอินเสร็จสมบูรณ์]

[ยินดีต้อนรับเข้าสู่ If You Get To Choose!]

และแล้ว… การผจญภัยครั้งใหม่ก็ได้เริ่มขึ้น

วิ้งงง

[ยินดีต้อนรับ! ขณะนี้คุณอยู่ที่ "ทาวเวอร์" จุดกึ่งกลางของโลกใบนี้]

หลังจากล็อกอินสำเร็จหน้าจอก็ส่องสว่างอีกครั้งก่อนที่ภาพข้างหน้าของเธอเริ่มมีสีขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นวิวสมจริงข้างหน้าเธอ เรเวนลองขยับมือขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ความรู้สึกตัวเบาที่เคยถวิลหา ความรู้สึกที่เหมือนได้กลับมาบ้านนี้ถูกตะโกนร้องออกมาจากหัวใจของเธอ ควบคู่มากับความรู้สึกหนักหน่วงที่ได้กลับมา กลับมายังที่ๆ มีปริศนาทางใจหลงเหลืออยู่

ทาวเวอร์จัดว่าเป็นเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเจอแต่ตึกสูงๆ เต็มไปหมด ธีมสีหลักๆ ของเมืองเป็นโทนสีม่วงอึมครึมหลากเฉด มองไปทางไหนๆ ก็จะเห็นตึกและถนนสีม่วง ทำให้เมืองทั้งเมืองเหมือนถูกต้องมนต์ให้หลับไหลในความมืดไปตลอดกาล มีเพียงไฟสีเหลืองเท่านั้น ที่ทำหน้าที่ให้แสงสว่างกับตัวเมือง แม้แต่จุดที่เธอสพอนมาเป็นใจกลางตลาดของเมืองยังเป็นสีม่วงเลย

'ก็ดูเหมือนเกมวีอาร์แฟนตาซีปกติทั่วไป' แอนโทนีมาทำอะไรในที่แบบนี้นะ แต่อย่างว่าแหละ ครั้งแรกที่เจอกันก็เป็นในเกมแฟนตาซีเหมือนกัน

ทันทีที่เธอทำท่าทางมือเหมือนกำลังเลื่อนหน้าจอบนอากาศด้วยนิ้วชี้และกลาง หน้าต่างตัวละครของเธอก็ปรากฎขึ้นมา

ชื่อ: เรเวน

เลเวล: ยังไม่มีเลเวล

ด้านขวาของข้อมูลตัวละครมีแทบที่ระบุไว้ว่า 'แผนที่' อยู่เธอจึงลองกดเข้าไปดู ปรากฏเป็นแผนที่ของโลกใบนี้ ถ้าอ้างอิงจากแผนที่แล้วโลกแฟนตาซีแห่งนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่สามพื้นที่เป็นหลัก ทาวเวอร์ หรือเมืองตั้งต้นตามที่ประกาศไปเมื่อครู่นั้นล้อมรอบไปด้วย เซโมลินา และ ลิลลิเอซ ซึ่งบนพื้นที่นั้นจะมีไอคอนรูปตัวล็อค ล็อคพื้นที่ไว้อยู่ เธอผู้ที่คุ้นชินกับเกมวีอาร์แฟนตาซีที่สามารถวาร์ปข้ามไปมาได้ หรืออย่างมากก็คือนั่งเรือไม่ก็ติดปีกบินข้ามมากกว่า จึงแอบคิดอยู่ในใจว่า เกมที่ไม่มีเอ็นพีซีมาคอยอธิบายอะไรให้ฟังแบบนี้ก็ลำบากเหมือนกันแหะ สิ่งที่สังเกตได้จากแผนที่ก็มีแค่ชื่อพื้นที่และสีเท่านั้น โดยเซโมลินาจะเป็นสีเหลืองทั้งหมด ในขณะที่ลิลลิเอซเป็นสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งสีน่าจะเป็นตัวบ่งบอกเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆ ด้วย

แซ่ด แซ่ด

ทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องเธอพร้อมเสียงกระซิบกระซาบดังมาเป็นหมู่คณะ ในบรรดาเสียงกระซิบทั้งหลายเธอเหมือนจะได้ยินแว่วมาว่า

'พวกเอวา…'

พวกเอวา? หมายถึงอะไรกันนะ เธอตั้งคำถามในหัว แต่ก็ดูจะไม่ใส่ใจมากนัก เพราะด้วยความคิดที่ว่า 'ถ้าเราไม่รู้สาเหตุที่เขาพูดนินทา ก็อย่าไปคิดกังวลให้เหนื่อยเปล่าเลยดีกว่า' ความคิดนี้มักใช้ได้ดีในโลกความเป็นจริง การที่ทำเป็นว่าไม่ได้ยินไม่ได้รับรู้อะไร อาจจะเป็นการเซฟตัวเองที่ดีที่สุดแล้ว ทั้งการที่ไม่ได้ยินแม่พูดเรื่องอยากให้เรียนหมอ หรือการที่ไม่ได้ยินคนอื่นในครอบครัวตำหนิถึงความที่หมกอยู่แต่ในห้องเล่นเกมจนเป็นเด็กที่เก็บตัวเกินไป บางที… นี่อาจจะเป็นการเซฟความสุขเล็กๆ เพียงสิ่งเดียวของเธอ ทันทีที่ปิดประตูจากโลกภายนอก ห้องของเธอก็จะเต็มไปด้วยมวลความสุข และเธอก็จะหายไปยังโลกในเกม ที่ซึ่งเป็นสารผลิตมวลความสุขเหล่านั้น

ไม่นานนัก เธอก็ได้รู้ว่าที่ทำการลงทะเบียนทัวร์นาเมนต์อยู่ที่ไหน เพราะป้ายโปรโมทโอฬารที่มีเห็นอยู่ทุกที่ล้วนบอกอย่างชัดเจนถึงทิศทางการไป ก็เหมือนในโลกจริงที่เราสามารถมองเห็นป้ายข้างทางขณะเดินทางว่า 'อีกห้าร้อยเมตรคุณจะถึงที่…' และเมื่อผ่านไปอีกห้าร้อยเมตรตามที่ป่ายบอก ก็จะมีป้ายบอกว่า 'อีกสามร้อยเมตร..' 'อีกสองร้อยเมตร…' 'อีกไม่นานก็จะถึง…' เป็นต้น แต่เอาจริงๆ ป้ายพวกนี้ก็อาจจะไม่จำเป็นก็ได้นะ เพราะมองดูแว๊บเดียวก็รู้เลยว่าตึกไหนคือตึกที่ทำการ …ก็มีอยู่ตึกเดียวที่ใหญ่และสูงเสียดฟ้าที่สุดน่ะ

เธอเหลือบไปมองร่างตัวเองในกระจกของร้านค้าหนึ่งขณะเดินผ่าน ปกติระบบเกมจะสามารถสร้างตัวละครได้แม้เป็นเกมวีอาร์ ก็เหมือนเกมทั่วไปนั่นแหละ หากแต่ว่าเกมนี้ไม่มีระบบสร้างตัวละครแล้วเป็นระบบสร้างตัวละครแบบออโต้ ซึ่งจะสร้างตัวละครที่หน้าตาเหมือนกับตัวเราในโลกจริงได้อย่างใกล้เคียงที่สุด

เรเวนมีผมดำเงาตรงประมาณไหล่ ใบหน้าสวยคม ถึงแม้ว่าเธอจะค่อนข้างทำสีหน้าไม่สนโลกอยู่ตลอดเวลา แต่ความเฟียร์สที่ปนเซ็กซี่หน่อยๆ ของเธอก็ไม่เคยโดนกลบมิดเลย แม้เสื้อที่เธอใส่อยู่จะเป็นแค่เดรสแจ็คเก็ตที่มีซิปธรรมดาๆ ก็ตาม

'หรือว่าหน้าตาของเราจะไปคล้ายคนที่ทุกคนเกลียดกันนะ?'

'ช่างเถอะ ยังไงเราต้องไปลงทะเบียนเพื่อการแข่งขันก่อน' เธอคิด พร้อมเริ่มก้าวเท้าออกเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว เพราะคิดว่าเดินไปก็คงถึงได้ไม่ยาก …ด้วยความไม่รู้ถึงโลกนี้โดยแท้เลยว่ามันมีรถม้าคอยรับส่งจากจุดเริ่มต้นไปยังตึกที่ทำการอยู่แถวๆ นั้นเอง…

'ขออภัย เลเวลคุณไม่เพียงพอที่จะลงแข่ง'

"อ่าว…?"

หลังจากที่เดินเท้ามายี่สิบนาที เธอมาเยือนที่ทำการลงทะเบียนเข้าแข่งขันทัวร์นาเมนต์แล้ว แต่ในขณะที่จะลงทะเบียนนั้นระบบก็ได้ทำการบอกว่าคุณสมบัติหรือเลเวลของเธอไม่พอที่จะเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นั่นเอง

'แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดีล่ะ ให้ไปฟาร์มเลเวลเอาตอนนี้ให้ครบแล้วกลับมาสมัครให้ทันคงไม่ทันแน่เพราะมันปิดลงทะเบียนวันนี้'

"สวัสดีผู้เล่นใหม่"

ขวับ

…กระต่าย? เมื่อหันไปดูตามเสียงเล็กๆ ที่ได้ยินจากข้างหลัง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือบันนี่เกิร์ลที่มีส่วนสูงไม่ถึงไหล่เธอ มัดผมแกละ พร้อมชุดที่ออกแนวชุดนักเรียนญี่ปุ่น และสวมหน้ากากกระต่ายมีหูไว้ เป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องคิดว่ามันช่างน่ารักและพิลึกในขณะเดียวกันจริงๆ

"สวัสดี" เรเวนตอบกลับไป เป็นเอ็นพีซีสินะ ทำไมพึ่งมาเอาป่านนี้

"ฉันชื่อบอนบอน เป็นไกด์ของที่นี่" บอนบอนกล่าวแนะนำตัวเอง

"คุณชื่ออะไร"

"เรเวน"

"สวัสดีเรเวน นั่นเป็นชื่อที่เพราะมาก หากคุณต้องการความช่วยเหลือใดๆ สามารถสอบถามบอนได้เลยค่ะ" เธอช่างมาได้ตรงเวลากับที่เธอมีคำถามเหลือเกิน

"เธอรู้ไหมว่าที่ๆ เราสามารถเก็บเลเวลได้เร็วที่สุดคือที่ไหน" เรเวนลองถามบอนบอนดู ถ้าจะให้ไปเริ่มใหม่แต่ต้นก็คงจะไม่ทันจริงๆ

"ลองไปที่ลานประลองอาวุธสิ" บอนบอนตอบ

"ลานประลองอาวุธ?"

"ลานประลองอาวุธ ผู้เล่นจะสามารถอาสาขึ้นไปแข่งหนึ่งต่อหนึ่งบนสังเวียน หากผู้เล่นใดผู้เล่นหนึ่งแพ้ ทรัพย์สินทุกอย่างของผู้เล่นนั้นจะตกไปอยู่ในมือของผู้ชนะ"

อาสาแข่ง? หมายถึงต้องไปล้มแชมป์ที่ชนะคนก่อนหน้ามาแล้วน่ะหรอ …ลองถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกละกัน

"เป็นการประลองอาวุธแบบไหน"

"ที่นี่แบ่งวิธีการโจมตีเป็นสองอย่างหลักๆ คือ ผู้ใช้เวทมนตร์ และ ผู้ใช้อาวุธ ทั้งหมดนี้สามารถใช้ได้ในการประลอง ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้เล่น"

บ้าจริง… เพราะเธอเพิ่งล็อกอินเข้ามาในเกมเอาป่านนี้ เลยไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท เราคงซื้ออาวุธในตลาดไม่ได้แน่ เพราะยังไงก็คงเรียนเวทมนตร์ของโลกนี้ไม่ทัน สู้ใช้อาวุธน่าจะดีกว่า

"หน่วยก้านคุณดูใช้ได้นะ ฉันมีของขวัญเล็กน้อยต้อนรับคุณ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่ได้เดินทางมาถึงที่นี่"

ราวกับว่าเอ็นพีซีตัวนี้อ่านใจเธอออกยังไงชอบกล แต่วิธีนี้ก็น่าสนใจมากทีเดียว เธอไม่มีทางเลือกมากนัก เธอยื่นมือออกไปกดรับของขวัญจากเอ็นพีซี

[คุณได้รับสองพันเหรียญ]

"..."

"เธอพอจะรู้ไหมว่า เซโมลินา กับ ลิลลิเอซ คืออะไร" เรเวนลองถามเอ็นพีซีข้างหน้าเธอถึงสิ่งที่สงสัยต่อ

"เซโมลินา และ ลิลลิเอซ เป็นพื้นที่ภายนอกที่ล้อมรอบทาวเวอร์อยู่ โดยมีเซโมลินาเป็นพื้นที่คั่นกลางระหว่าง ทาวเวอร์ และ ลิลลิเอซ"

โอเค… เราก็ยังคงไม่ได้รู้อะไรมาเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เรารู้อยู่แล้วเลย

"ทำไมโลกนี้จึงมีพื้นที่คั่นกลาง"

"ความขัดแย้งระหว่างทาวเวอร์และลิลลิเอซมีมาช้านานจนก่อให้เกิดสงคราม สงครามนั้นดำเนินมานานเกินไป เสบียงทั้งสองฝ่ายเริ่มหมด บีบคั้นให้ทั้งสองต้องยุติสงคราม โดยที่ทั้งสองตกลงกันไว้ว่าจะไม่ไปยุ่งก้าวก่ายกันและกัน จึงเกิดเป็นเซโมลินาขึ้นมา"

เป็นสงครามระหว่างสองพื้นที่งั้นหรอ

"ฉันได้ยินผู้คนซุบซิบกันเมื่อเห็นฉันว่า เอวา มันคืออะไร แล้วทำไมฉันถึงเป็นเอวา"

"เผ่าเอวา เป็นเผ่าพื้นเมืองของลิลลิเอซ ที่ทุกๆ คนซุบซิบใส่คุณกันอาจเป็นเพราะสร้อยที่คุณสวมใส่อยู่ก็ได้"

"สร้อย?" ทันใดนั้นเอง เธอจึงเริ่มสังเกตถึงสร้อยคอที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้ สร้อยกรีนอะเวนเจอรีนที่เธอกำไว้ก่อนหน้านี้ ไม่นึกเลยว่าระบบสร้างตัวละครออโต้จะเอาเครื่องประดับที่เธอใส่ในโลกจริงเข้ามาในเกมด้วย

"ใช่แล้ว คนในทาวเวอร์จะไม่แต่งตัวแบบนั้น มีแค่เผ่าเอวาเท่านั้นที่นำหินมาเป็นเครื่องประดับ"

อย่างนี้นี่เอง… ถ้างั้นเราถอดออกไว้ก่อนน่าจะดีกว่าแหะ คิดได้ดังนั้นเรเวนก็ได้ทำการถอดสร้อยคอออกแล้วยัดมันใส่กระเป๋าเสื้อ

"ขอบคุณ" ในเมื่อไม่มีอะไรจะถามเอ็นพีซีแล้ว เธอก็ควรที่จะมุ่งหน้าไปยังลานประลอง

"ขอให้โชคดีนะ" เอ็นพีซีกระต่ายกล่าวเมื่อเห็นว่าเรเวนกำลังเดินไป

ลานประลองอาวุธอยู่ไม่ไกลจากตึกกลางมากนัก และครั้งนี้เป็นครั้งที่เธอสามารถเดินไปเองได้จริงๆ เมื่อมาถึง ลานประลองอาวุธที่พูดถึงจริงๆ แล้วมันก็คือสังเวียนมวยนั่นเอง เธอใช้เงินสองพันเหรียญนั้นซื้อมีดสั้นมาพกไว้เล่มหนึ่งในราคาพันห้าร้อยเหรียญที่ตลาดอาวุธก่อนไปถึง มันช่วยไม่ได้ล่ะนะ เหรียญที่มีอยู่มันซื้ออาวุธมาได้ประมาณนี้

ที่จริงแล้ว… ที่เธอสนใจการประลองอาวุธนี้ อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งของเธอนั้นชื่นชอบการแข่งขันยิ่งนัก นี่อาจเป็นคุณสมบัติที่เธอมีจนทำให้ไต่เต้าไปเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งก็เป็นได้

จ้อก แจ้ก

"เจ้ายักษ์บ้านั่นมันหลอกอีกแล้วแน่เลย"

"บ้าน่า ใครจะไปใช้มุกเดิมๆ ซ้ำกัน"

"ฉันรับประกัน ดูมากี่ทีๆ ก็หลอกท่าเดิมเลย!!"

"แล้วไหงนายยังแพ้อยู่แบบนี้วะ555"

"ก็ฝีมือมันไม่ถึงจริงๆ นี่หว่า ต่อให้หลบได้หมอนี่ก็มีท่าโจมตีต่อไปมาเป็นเซ็ตๆ เลย"

ข้างหน้านอกสังเวียนของเธอเป็นผู้ชายสองคนที่ยืนคุยกันเกี่ยวกับผู้เล่นในสนาม คู่ประลองบนสนามตอนนี้มีชายอยู่คู่หนึ่ง ในขณะที่อีกคนรูปร่างก็ไม่ได้ดูผอมแห้งเลย แต่ด้วยคู่แข่งของเขาที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าสิบเท่าก็ทำให้เขาดูตัวเล็กไปเลย ไม่นานนักการแข่ขันก็ได้เริ่มขึ้น

เสียงผู้ชมเชียร์ดังก้องไปทั้งสนาม ทั้งคู่เริ่มประลองพร้อมอาวุธติดมือพร้อม ผู้ชายร่างใหญ่ยักษ์เป็นค้อน และอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้ดาบ เรเวนได้สังเกตเห็นถึงฮิตบล็อกของแต่ละผู้เล่นที่ไม่เหมือนกันแล้วทำการวิเคราะห์ไปพลางว่า ผู้เล่นแต่ละคนมีฮิตบล็อกเป็นของตัวเอง ขึ้นอยู่กับรูปร่างและสกิลอาวุธที่ผู้เล่นใช้

"และแล้วก็ล้มไปแล้วครับทุกท่าน!!!" พิธีกรป่าวประกาศดังก้อง

"เรามานับพร้อมกันนะครับ!!!"

"สาม"

"สอง"

"หนึ่ง"

เฮ~!!!

"เห็นไหม! ฉันบอกแล้วว่ามันต้องหลอกแบบเดิมอีกแน่" เป็นผู้ชายเมื่อครู่อีกนั่นแหละ ที่เป็นคนพูดเรื่องการหลอกขึ้นมา

'หลอก' ที่หมายถึงคือ วิธีการแข่งของเจ้าของค้อนที่ใหญ่ตามขนาดตัวคนนั้น ก่อนที่เกมจะจบ เขาทำการใส่แรงเข้าไปตอนหวดค้อนที่ทรงพลังไปที่คู่ต่อสู้ ทันทีที่คู่ต่อสู้เปลี่ยนท่ามาตั้งรับแรงกระแทกนั้น เขาก็ได้เปลี่ยนท่าโจมตีเป็นอย่างอื่นทางที นี่เป็นการ 'หลอก' ว่าจะโจมตีเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหลัก ก็เป็นเจ้าร่างยักษ์นั่นแหละ ที่เป็นคนชนะในการประลองรอบนี้

'เอาล่ะ เรามาลองกันสักตั้งหน่อยดีกว่า' หลังจากที่ยืนดูผู้เล่นคนอื่นเล่นมาได้สักพัก เรเวนก็เดินไปตรงหน้าสังเวียนพร้อมกดหน้าจอลอยอากาศไปว่าจะเข้าร่วมการประลองเป็นคนต่อไป!

"อะ โอ้วววว ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจะมีผู้เล่นหญิงจะขึ้นมาร่วมประลองด้วยในวันนี้! ช่างเป็นภาพที่เห็นได้ยากอะไรเช่นนี้"

จู่ๆ สนามก็เร่าร้อนจนเหมือนลุกเป็นไฟ สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องให้ความสนใจมาที่เธอ ทุกๆ ย่างก้าว ทุกๆ การกระทำของเธอล้วนถูกจับตามองดูโดยทุกคนที่อยู่รอบ ณ สังเวียนแห่งนี้

"เห้อ นี่มันถึงวันที่ฉันต้องมาสู้กับผู้หญิงแล้วหรอเนี่ย" เจ้าร่างยักษ์ทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่ทันทีที่เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่จะขึ้นไปต่อสู้กับเขาต่อ

"..."

"เห้ย! ผู้หญิงที่ทั้งตัวเล็กกว่า แขนก็สั้น เนี่ยนะะะ"

"กลับไปเรียนเด็ดดอกไม้ผสมยาในห้องปรุงยานู่นไป!"

"ฮ่าๆๆ" ไม่ใช่แค่คู่ต่อสู้ตรงหน้าเท่านั้นที่ทำการดูหมิ่นเธอ แต่เป็นผู้ชมทั้งสนาม ที่ดูแล้วจะมีเพียงแต่ผู้ชาย

"..."

...ขอฝากด้วยนะเจ้าสองร้อยเหรียญ...

"สาม สอง หนึ่ง เริ่มประลองได้ครับ!!!"

เปรี้ยง-!!!

"อึกกก!!!"

"ทำไมล่ะ ไม่สู้กับผู้หญิงแล้วหรอ"